คัมภีร์ วิถี เซียน ภาค 4 เนื้อเรื่องต่อจากภาคไหน?

สั้น ๆ ก็คือ 'คัมภีร์ วิถี เซียน' ภาค 4 ต่อจากภาค 3 โดยตรงและเริ่มเล่าเหตุการณ์ที่ตามมาหลังจากจุดจบของภาคก่อนหน้า

มุมของผมในครั้งนี้ต่างออกไปหน่อย: ภาค 4 ไม่ได้เริ่มพล็อตใหม่ แต่ขยายความลึกให้กับผลกระทบ—ทั้งเรื่องอำนาจ ความเชื่อ และความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร หลายฉากที่ดูเป็นฉากถ่ายทอดข้อมูลในภาค 3 จะถูกนำมาขยายในภาค 4 ให้มีน้ำหนักขึ้น นั่นทำให้ภาคนี้เหมาะกับคนที่อยากเห็นการเติบโตของโลกเรื่องและผลจากการตัดสินใจครั้งก่อน มากกว่าการข้ามไปสู่บทใหม่ทันที

นี่คือคำตอบแบบละเอียดที่แฟนๆ ได้คุยกันบ่อยที่สุดเกี่ยวกับ 'คัมภีร์ วิถี เซียน' ภาค 4: ภาคนี้เดินเรื่องต่อจากปลายของภาค 3 โดยตรง และไม่ได้เริ่มต้นสายพล็อตใหม่แบบแยกขาด

ผมมองว่าการต่อเนื่องเป็นแบบสานผลของเหตุการณ์หลักในภาค 3 — เหตุการณ์ไคลแม็กซ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้จบเพียงแค่วิญญาณหรือชัยชนะชั่วคราว แต่ทิ้งเงื่อนปมกับความเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายและความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายต่างๆ ซึ่งภาค 4 จับประเด็นพวกนั้นมาขยายเรื่อง สิ่งที่เห็นได้ชัดคือการย้ายโฟกัสจากการไต่กำลังของตัวเอกเป็นการจัดการผลที่ตามมาของการตัดสินใจครั้งใหญ่

ในมุมการเล่าเรื่อง ภาค 4 จะให้พื้นที่ตัวละครรองและแผนการทางการเมืองมากขึ้น แทนที่จะเป็นการฝึกฝนหรือการดวลเพียงอย่างเดียว ทำให้โทนเรื่องมีความเป็นผู้ใหญ่กว่าเดิมและมีแง่มุมทางจิตวิทยาเพิ่มขึ้น ถ้าคาดหวังแอ็กชันล้วน ๆ อาจรู้สึกแตกต่าง แต่ถ้ามองในเชิงพัฒนาการของตัวละคร ภาคนี้คือการเก็บงานปมให้ลงตัวและปูทางไปสู่บทต่อไปของโลกเรื่องราว

สรุปสั้นแบบไม่ใช้คำที่ห้าม: ภาค 4 ต่อจากภาค 3 โดยตรง และเน้นการคลายปม ผลกระทบต่อสังคมและความสัมพันธ์มากกว่าการเริ่มต้นพล็อตใหม่ นี่แหละที่ทำให้มันรู้สึกเป็นภาคต่อที่มีน้ำหนักและควรค่าแก่การติดตาม

หลายคนอาจอยากรู้แบบตรงๆ ว่า 'คัมภีร์ วิถี เซียน' ภาค 4 ต่อหลังจากตรงไหนของซีรีส์ ตอบสั้น ๆ ว่าเนื้อเรื่องต่อเนื่องจากตอนท้ายของภาค 3 โดยไม่ได้กระโดดข้ามไทม์ไลน์หรือรีเมคตอนเก่า สิ่งที่เปลี่ยนไปคือโฟกัสการเล่า: ภาค 3 วางรากฐานและจบด้วยเหตุการณ์เปลี่ยนเกม ส่วนภาค 4 เข้ามาจัดการผลลัพธ์ของเหตุการณ์นั้น ๆ

ผมชอบว่าส่วนต่อไปจะไม่เร่งรีบ เรื่องมักหายใจช้าลงเพื่อให้เห็นรายละเอียดของการฟื้นฟู การหักหลัง และการตั้งพันธกิจใหม่ ๆ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการที่ปมความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มต่าง ๆ ถูกขยายจนกลายเป็นปัญหาทางการเมือง ซึ่งทำให้ตัวเอกต้องรับมือกับข้อจำกัดแบบใหม่ แทนที่จะวิ่งไปสู่การต่อสู้ครั้งใหม่ทันที

ถาต้องเทียบกับงานอื่น ๆ ที่มีการต่อเนื่องสไตล์เดียวกัน ภาค 4 ของเรื่องนี้ทำหน้าที่เหมือนช่วงกลางของมหากาพย์ คือเก็บกวาดปมและเตรียมพื้นที่สำหรับการปะทะครั้งใหญ่ในอนาคต นั่นแปลว่าคอเนื้อเรื่องเชิงตัวละครจะได้รับความพึงพอใจมากกว่าคนชอบแอ็กชันล้วน ๆ