การเปลี่ยนแปลงของซูเนโอะใน 'โดราเอมอน' เป็นเรื่องที่ผมสนุกมากกับการสังเกต เพราะจากตัวละครที่มักถูกมองว่าเป็นเด็กเจ้าปัญหาและคอยเม้าท์เพื่อน เขาค่อย ๆ ถูกเติมมิติให้เห็นความไม่มั่นคงและความต้องการการยอมรับมากขึ้น ในหลายตอนแรก ๆ ซูเนโอะถูกวาดภาพด้วยท่าทีโอ้อวด พูดจาแซะโนบิตะ และชอบโชว์ของเล่นแพง ๆ ให้เพื่อนอิจฉา แต่เมื่อดูไปนานขึ้น ตัวละครนี้ก็ไม่ได้มีมิติแค่เด็กเลวที่ชอบถ่มน้ำลายใส่คนอื่น แต่กลับเผยด้านเปราะบางเบื้องหลังการโอ้อวดนั้น เช่นความกลัวว่าจะถูกทอดทิ้ง หรือความกดดันจากการอยากให้ครอบครัวดูสมบูรณ์แบบ ซึ่งทำให้การกระทำของเขามีเหตุผลและทำให้คนดูเข้าใจมากขึ้น
มุมหนึ่งที่ผมชอบก็คือการที่ซูเนโอะไม่ได้เปลี่ยนจากคนร้ายเป็นคนดีใน
ชั่วข้ามคืน แต่มีการพัฒนาเป็นขั้น ๆ ผ่านเหตุการณ์ที่ทำให้เขาต้องเผชิญหน้า ความอาย ความกลัว หรือต้องช่วยเหลือเพื่อนในยามคับขัน หลายตอนและภาพยนตร์แสดงให้เห็นว่าเมื่อสถานการณ์จริงจังขึ้น เช่นเกิดภัยพิบัติหรือการผจญภัยใหญ่ ๆ เขาก็พร้อมจะร่วมแรงร่วมใจและแสดงความกล้าหาญออกมา ถึงแม้ภาษากายหรือคำพูดของเขาจะยังมีร่องรอยของความหยิ่ง แต่การกระทำบ่อยครั้งกลับอบอุ่นและเสียสละ นอกจากนี้ยังมีฉากที่เขารู้สึกผิดและขอโทษ ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์กับโนบิตะและเพื่อน ๆ แน่นแฟ้นมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไปนี้ทำให้ซูเนโอะดูเป็นคนจริงมากกว่าแค่สเก็ตช์ตัวตลก
อีกแง่มุมที่ผมมองว่าน่าสนใจก็คือบทบาทของซูเนโอะในฐานะกระจกสะท้อนสังคมเด็ก ๆ ของเรื่อง ความอยากได้อยากมี ความอยากเป็นที่ยอมรับ และการแสดงออกในแบบที่เขาคิดว่าจะได้รับการยอมรับ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต เพราะเด็กหลายคนโตมากับความต้องการว่าต้องดูเก่ง ต้องมีของดี ใครได้เห็นก็จะชอบ แต่เมื่อเหตุการณ์ใหญ่ ๆ มาถึง ความสำคัญของการยอมรับในหมู่เพื่อนกลับถูกแทนที่ด้วยความไว้วางใจและความร่วมมือ ซึ่งซูเนโอะเรียนรู้จากการได้เห็นคุณค่าของมิตรภาพมากขึ้น ฉากเล็ก ๆ ที่เขาทำหน้าซื่อเมื่อถูกเพื่อนช่วย จะทำให้รู้สึกว่าตัวละครนี้มีพัฒนาการด้านอารมณ์ที่ละเอียดอ่อนกว่าที่คิด
ท้ายที่สุด ซูเนโอะเป็นตัวอย่างของตัวละครที่ไม่ได้ถูกทิ้งให้คงสถานะเดิมตลอดซีรีส์ การเติมมิติทั้งด้านความไม่มั่นคง ความสามารถที่จะกล้าหาญ และความสามารถที่จะเสียสละ ทำให้เขาดูน่าสนใจและสมจริงมากขึ้นกว่าเดิม นั่นทำให้ผมชอบติดตามว่าในแต่ละตอนเขาจะมีบทเรียนอะไรเพิ่มขึ้นเสมอ — เป็นการเติบโตที่ไม่หวือหวาแต่จับต้องได้ และมันทำให้ผมยิ้มได้ทุกครั้งที่เห็นซูเนโอะเริ่มเลือกสิ่งที่ดีกว่าให้กับเพื่อน ๆ