นา รู โตะ ตอน ที่ 135 นักพากย์พากย์ฉากสำคัญเป็นใคร?

2025-10-22 15:16:53 208

5 คำตอบ

Laura
Laura
2025-10-23 06:09:36
ฉากในตอน 135 ของ 'Naruto' ที่หลายคนพูดถึงมากที่สุดเป็นซีนที่เน้นอารมณ์ของตัวละครหลักสองคน ซึ่งเสียงพากย์ที่ทำให้ซีนนี้หนักแน่นและสะเทือนใจคือเสียงของ Junko Takeuchi ในบทนารูโตะ และ Noriaki Sugiyama ในบทซาสึเกะ (เวอร์ชันญี่ปุ่น) ถ้ามองแบบแฟนอนิเมะรุ่นใหม่ ฉันรู้สึกว่าความเข้มข้นของฉากมาจากการบาลานซ์ระหว่างโทนเสียงของทั้งสองคน นักพากย์ทั้งคู่ถ่ายทอดความเจ็บปวดและแรงกระตุ้นได้ชัดเจนจนฉากเหมือนมีแรงดึงดูด

การฟังเวอร์ชันอังกฤษก็ให้บรรยากาศอีกแบบ Maile Flanagan (นารูโตะ) กับ Yuri Lowenthal (ซาสึเกะ) ใส่รายละเอียดที่แตกต่าง เช่น จังหวะการหายใจ น้ำเสียงที่เปลี่ยนในช่วงคำพูดสำคัญ ทำให้ฉากเดิมมีหลายมิติ ฉันมักกลับไปฟังสองเวอร์ชันนี้เพื่อเปรียบเทียบว่าเสียงแบบไหนทำให้ฉากนั้นกระแทกใจเรามากกว่า และสำหรับฉัน มันเป็นการยืนยันว่าการเลือกนักพากย์ที่เข้ากันเป็นหัวใจของซีนดราม่าแบบนี้
Gavin
Gavin
2025-10-23 11:53:54
เสียงพากย์ที่เด่นมากในฉากสำคัญของ 'Naruto' ตอนที่ 135 มาจาก Junko Takeuchi ซึ่งเป็นเสียงหลักของนารูโตะ และ Noriaki Sugiyama ที่พากย์ซาสึเกะ เวอร์ชันญี่ปุ่น ทั้งคู่มีคาแรกเตอร์เสียงที่ชัดเจนและลงตัวกันมาก ฉันมักเอาประสบการณ์นี้ไปเทียบกับฉากดราม่าในอนิเมะอื่นอย่าง 'Death Note' ที่เสียงพากย์เพิ่มความคมให้บทพูด การที่เสียงทั้งสองคนสามารถถ่ายทอดความขัดแย้งภายในของตัวละครได้ ทำให้ซีนนี้ยังคงถูกพูดถึง แม้เวลาจะผ่านไปนาน ผมมองว่านี่เป็นตัวอย่างของการคาสติ้งที่เวิร์กจริงๆ และยังทำให้แฟนหลายคนกลับไปดูซ้ำบ่อยๆ
Liam
Liam
2025-10-23 12:50:30
ฉากสำคัญในตอน 135 ของ 'Naruto' ได้รับความหนักแน่นจากเสียงพากย์ของ Junko Takeuchi (นารูโตะ) และ Noriaki Sugiyama (ซาสึเกะ) ฉันมีความรู้สึกว่าโทนเสียงทั้งสองคนช่วยเน้นมิติของความขัดแย้งระหว่างเพื่อนและศัตรู การได้ยินสายเสียงของพวกเขาในคำพูดสำคัญทำให้ฉากนั้นมีพลังมากขึ้น คล้ายกับช่วงที่เสียงของตัวละครหลักใน 'Your Name' ทำให้เรารู้ว่าอะไรสำคัญจริงๆ เสียงพากย์แบบนี้ทำให้ฉากไม่ใช่แค่ภาพ แต่กลายเป็นประสบการณ์ทางอารมณ์ด้วย
Natalie
Natalie
2025-10-24 03:19:19
ฉันจำความตึงเครียดในฉากตอน 135 ของ 'Naruto' ได้ชัดเจน เพราะ Junko Takeuchi (พากย์นารูโตะ) และ Noriaki Sugiyama (พากย์ซาสึเกะ) เล่นบทได้อย่างเข้มข้น เสียงของพวกเขาทำให้บทพูดสั้นๆ มีน้ำหนักจนฉากหยุดอยู่ในใจผู้ชมได้เหมือนในหลายๆ ผลงานเจ๋งๆ ที่เคยดูมา เช่น 'One Piece' ที่ฉากอำลาบางตอนก็ถูกยกระดับด้วยเสียงพากย์ ฉันชอบที่แม้บทจะไม่ยาว แต่การเลือกนักพากย์ที่ใช่ก็ทำให้มันติดตรึงและน่าจดจำจนอยากย้อนกลับไปฟังอีกครั้ง
Eva
Eva
2025-10-28 07:49:55
อยู่ในฐานะแฟนที่ติดตามทั้งเวอร์ชันพากย์ญี่ปุ่นและอังกฤษ ฉันจะบอกว่าเสียงที่พาอารมณ์ขึ้นสูดสุดในตอน 135 ของ 'Naruto' คือ Junko Takeuchi สำหรับนารูโตะ และ Noriaki Sugiyama สำหรับซาสึเกะ เวอร์ชันอังกฤษที่ต้องพูดถึงคือ Maile Flanagan และ Yuri Lowenthal เพราะทั้งสี่คนเติมน้ำหนักให้บทด้วยวิธีต่างกัน เสียงญี่ปุ่นเน้นอารมณ์ตื้นลึกแบบดั้งเดิม ขณะที่เวอร์ชันอังกฤษมีจังหวะการเน้นวลีที่ต่างออกไป ฉันยังนึกถึงฉากใน 'Cowboy Bebop' ที่การเลือกนักพากย์เปลี่ยนอารมณ์ของฉากได้ทั้งฉาก ทำให้ยืนยันว่าในตอน 135 นั้นการพากย์คือกุญแจสำคัญที่ทำให้ช็อตสุดท้ายยากจะลืม
ดูคำตอบทั้งหมด
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก
ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน แม่ทัพไร้รัก
เมื่อคุณหมอจากยุคปัจจุบัน ได้เกิดใหม่ต่างมิติ พร้อมความทรงจำของชีวิตเดิม เธอจึงเลือกเดินในเส้นทางคล้ายชีวิตเก่า ทว่าเรื่องหัวใจนั้นนางไม่ปิดตาย แต่ก็ไม่ชายตามองบุรุษใดเช่นกัน เขาคือสมรสพระราชทานของแม่ทัพหญิงผู้เย็นชา และเขาจะสามารถทำให้นางรับรักได้หรือไม่
คะแนนไม่เพียงพอ
29 บท
ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน โฉมงามไร้ใจ
ข้าคือบุตรสาวสตรีหม้าย ตอน โฉมงามไร้ใจ
เมื่อเกิดใหม่อีกครั้งได้เป็นบุตรสาวสตรีหม้าย ที่ผู้คนล้วนตราหน้าว่ามันคือคำสาป และเขาคู่หมั้นที่เลื่อนการแต่งงานมานับสิบปี ซึ่งตอกย้ำว่านางคือคนที่ไม่มีใครต้องการ แล้วอย่างไรผู้ใดสนใจเรื่องไร้สาระนี่เล่า! นางมิได้เติบโตด้วยบุรุษ แต่ด้วยน้ำนมมารดา ไยต้องใส่ใจให้สิ้นเปลืองเวลาชีวิต
10
30 บท
ทะลุมิติมาเป็นสาวชาวนา
ทะลุมิติมาเป็นสาวชาวนา
ซูหวั่นได้ทุ่มเทกับงานวิจัยอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่คาดไม่ถึงเลยว่าทันทีที่เธอได้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เธอก็ได้กลายเป็นเด็กสาวชาวไร่ที่ยากจนในหมู่บ้านซีสุ่ยไปเสียแล้วแต่ก็ยังดีที่ว่า-นอกจากคุณย่าที่จะแปลกคนไปบ้าง แต่พ่อแม่และน้องชายของเธอนั้นก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี!ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังเต็มไปด้วยความสุขมากมายนับตั้งแต่การเดินทางข้ามเวลามา ไม่ว่าจะเป็นไก่ที่ยอมบินมาตายเอง ปลาที่ยอมกระโดดลงเข่งอย่างว่าง่าย หรือแม้แต่พี่ชายที่ลือกันว่าตายแล้วก็ยังฟื้นกลับมาได้!
9.6
478 บท
พิษรักมาเฟีย
พิษรักมาเฟีย
"ฉันไม่มีค่าให้คุณสนใจใช่ไหมคะ ฉันไม่มีประโยชน์ที่จะเชิดหน้าชูตาทางสังคมให้คุณได้ คุณเลยไม่ให้ความสำคัญกับฉันนอกจากเรื่องบนเตียง ฉันเข้าใจถูกหรือเปล่า"
คะแนนไม่เพียงพอ
155 บท
ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น
ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น
เป็นบุตรสาวที่บิดาไม่รักเอ็นดู มารดาต้องยอมโขกศีรษะก่อนตายให้บิดาเพื่อให้เลี้ยงนางไว้ แม่เลี้ยงรังเกียจ น้องสาวรังแก กระทั่งวันนึงชีวิตต้องพลิกผันเพราะถูกวางยาปลุกกำหนัดตอนออกจวนครั้งแรก...
9.6
60 บท
ถ้าจะร้าย สุดท้ายก็อย่ามารัก
ถ้าจะร้าย สุดท้ายก็อย่ามารัก
เพราะถูกคนรักหักหลังด้วยการไปแต่งงานกับคนอื่นเพราะเงิน ทำให้อเล็กซ์ มาเฟียหนุ่มหล่อกลายเป็นคนเย็นชา ไร้หัวใจ และร้ายกาจ เขาตราหน้าผู้หญิงทุกคนว่าล้วนซื้อได้ด้วยเงิน จนกระทั่งเขาได้มาพบกับเธอ ใบเฟิร์น นักศึกษาสาวที่ถูกลากตัวมาให้ผู้ชายประมูลในผับวันนั้น เพราะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผู้หญิงขายตัว เธอเลยถูกเขาซื้อมาเพื่อเป็นของเล่นบนเตียง แต่เขาดันติดใจ เมื่อมารู้ภายหลังว่าได้สาวบริสุทธิ์มาเชยชม เลยยอมจ่ายเงินเพิ่มเพื่อสนุกกับเรือนร่างของเธอต่อ แม้หญิงสาวจะพยายามอธิบายยังไงเขาก็ไม่ฟัง ยังไม่ทันที่เขาจะใช้เธอให้คุ้มกับเงินที่เสียไป หญิงสาวก็ชิงหนีหายไปเสียก่อน โดยเขาไม่รู้เลยว่าได้เผลอฝากบางสิ่งติดท้องเธอไปโดยไม่ตั้งใจ “อย่ามาทำเป็นเล่นตัว ในเมื่อเลือกที่จะขายตัวก็สนองให้คุ้มกับเงินที่ฉันจ่ายไปหน่อย” เขาไม่ได้สนใจคำขอร้องนั้น แต่กลับจับขาสองข้างของเธอแยกออกจากกัน “ผู้หญิงมันก็เหมือนกันหมด แค่เห็นเงินก็พร้อมยอมพลีกายแล้ว” “ฉะ...ฉันเจ็บ” เธอเอามือดันอกเขาไว้ ส่งสายตาอ้อนวอนให้เขาอ่อนโยนกับเธอหน่อย แต่แววตาที่มองกลับมามีแต่ความเย็นชา “ขอร้องล่ะปล่อยฉันไปเถอะ” เธอพยายามอ้อนวอนเขา
10
352 บท

คำถามที่เกี่ยวข้อง

นา รู โตะ ตอน ที่ 135 เพลงประกอบของตอนนี้ชื่อว่าอะไร?

4 คำตอบ2025-10-22 00:11:10
เพลงประกอบที่ได้ยินเด่นชัดในตอน 135 ของ 'Naruto' คือ 'Sadness and Sorrow' จาก OST แรก ซึ่งท่อนเปียโนและสตริงเรียงตัวกันอย่างเรียบง่ายแต่หนักแน่นมาก ฉันมักจะนั่งคิดถึงว่าทำนองนี้ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมอารมณ์ระหว่างภาพกับผู้ชมได้ดีแค่ไหน — มันไม่ต้องการคำอธิบายเยอะ แค่โน้ตเดียวก็พอจะบอกความเศร้าได้ทั้งฉาก ตอนที่ฟังครั้งแรกรู้สึกเหมือนเห็นแสงเย็นๆ ของแสงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตก และภาพในหัวก็ชัดทุกช็อต เปรียบเทียบกันแล้ว ฉันยังชอบวิธีที่เพลงจาก 'Your Name' ใช้เพื่อดันอารมณ์ขึ้นเหมือนกัน แต่สไตล์ของ 'Sadness and Sorrow' โฟกัสที่ความเรียบง่ายและการเว้นวรรค ทำให้ฉากในตอน 135 ของ 'Naruto' มีพื้นที่ให้คนดูหายใจและคิดตาม เป็นเพลงที่ยังคงอยู่ในหัวแม้หลังจากดูจบไปนานแล้ว

นา รู โตะ ตอน ที่ 135 สรุปเนื้อหาและจุดเด่นคืออะไร?

7 คำตอบ2025-10-22 21:23:29
ฉากปะทะสุดคลาสสิกของคู่หูสองคนถูกถ่ายทอดด้วยความเข้มข้นที่ทำให้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ฉากเปิดของตอนนี้เน้นไปที่การปะทะอย่างหนักระหว่างความตั้งใจและความแค้น — สองเทคนิคที่เป็นสัญลักษณ์กลายเป็นภาพตรงกลางของเรื่องราว และฉันเห็นความหมายของมิตรภาพที่ถูกทดสอบอย่างแรง เมื่อทั้งสองแลกจังหวะกัน เพลงประกอบและการตัดต่อช่วยดันอารมณ์ขึ้นจนทุกท่าโจมตีมีน้ำหนัก ไม่ใช่แค่ฟอร์มต่อสู้แต่เป็นการสื่อสารระหว่างตัวละคร พอย้อนมองแล้วฉันชอบวิธีที่บทให้เวลากับฉากนิ่ง ๆ ไว้บ้าง เพื่อให้เราได้ซึมซับความขัดแย้งภายในของตัวละครมากกว่าการใส่ฉากบู๊ต่อเนื่อง มันเป็นตอนที่ทั้งสายตาและจิตใจต้องติดตามไปพร้อม ๆ กัน และฉันยังประทับใจกับการใช้แสงเงาเป็นตัวบอกสถานการณ์จิตใจของคนสองคนที่เลือกเส้นทางต่างกัน

เนื้อหาใน นา รู โตะ ตอนที่ 135 เล่าเกี่ยวกับอะไร?

3 คำตอบ2025-10-22 23:59:05
หลังจากดูตอนที่ 135 ของ 'Naruto' จบ ความรู้สึกหนักแน่นของการจากลายังติดตาอยู่เสมอ ฉันเล่าได้ว่าเนื้อหาหลักของตอนนี้เป็นการเน้นผลลัพธ์หลังการตัดสินใจครั้งใหญ่ของซาสึเกะ มากกว่าจะเป็นการต่อสู้อีกครั้ง—มันเป็นตอนที่แสดงให้เห็นว่าการเลือกของคนหนึ่งคนส่งผลกระทบต่อทั้งกลุ่มอย่างไร ฉากส่วนใหญ่หมุนรอบความเงียบงันและการประมวลผลความสูญเสีย ทีมที่เหลือทั้งโครินะยและซากุระต้องรับมือกับความรู้สึกผิดและความสิ้นหวัง ขณะเดียวกันนารูโตะก็ยังคงยืนยันคำมั่นที่จะพาเพื่อนกลับมา แม้จะเป็นช่วงเวลาแห่งความพ่ายแพ้ แต่ผู้กำกับใช้มุมกล้อง รายละเอียดใบหน้า และซาวด์แทร็กทำให้ความเศร้านั้นหนักแน่นขึ้นโดยไม่ต้องพูดมาก ฉันชอบที่ตอนนี้ไม่พยายามรีบปิดปม แต่ใช้เวลาทำให้ใจของตัวละครไหลออกมาเป็นภาพ เล่าถึงความเดินหน้าของเรื่องที่เปลี่ยนจากภารกิจไปสู่การตั้งเป้าหมายระยะยาว นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ผลักดันให้เกิดโค้งการเติบโตของตัวละครต่อไป และทำให้ฉากต่อ ๆ มาในอนาคตมีน้ำหนักกว่าเดิม

นา รู โตะ ตอน ที่ 135 แฟนอาร์ตหรือฟิคชั่นที่ได้รับความนิยมมีอะไร?

5 คำตอบ2025-10-22 18:14:20
ภาพแฟนอาร์ตจากฉากนั้นมักจะดึงดูดด้วยโทนสีที่หรี่ลงและแสงเงาเข้ม ฉันชอบงานที่เล่นกับเศษแสงหลังการปะทะ—ภาพพวกนี้มักจะโฟกัสที่ความเหงาและการจากลา มากกว่าจะเป็นแอ็กชันเต็มรูปแบบ ในฐานะแฟนที่ติดตามฟิคมาเป็นปีๆ งานฟิคยอดนิยมที่เกี่ยวกับ 'นารูโตะ' ตอนที่ 135 มักจะแบ่งเป็นสองสายหลัก สายแรกคือฟิคแบบ fix-it ที่เขียนให้เหตุการณ์จบลงด้วยการประนีประนอมหรือการกลับมาของคนที่จากไป เพื่อเติมช่องว่างทางอารมณ์ที่ต้นฉบับทิ้งไว้ สายที่สองเป็นฟิคแนวผลกระทบหลังเหตุการณ์ (aftermath) ซึ่งลงลึกถึงแผลทางใจและการเยียวยา สิ่งที่ทำให้ผลงานพวกนี้ติดใจฉันคือรายละเอียดเล็กๆ—การเขียนบทสนทนาสั้นๆ ระหว่างตัวละครที่ไม่เคยมีในมังงะ หรือภาพแฟนอาร์ตที่จับมุมมองเดียวกันแต่เปลี่ยนอารมณ์ด้วยโทนสีเพียงนิดเดียว งานแบบนั้นทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวละครยังมีชีวิตอยู่หลังจากจบฉากจริงๆ

นา รู โตะ ตอน ที่ 135 แตกต่างจากมังงะในส่วนไหนบ้าง?

4 คำตอบ2025-10-22 04:03:01
ใครที่ดูซ้ำจะรู้สึกได้เลยว่าตอนนี้อนิเมะเติมรายละเอียดอารมณ์บางอย่างที่มังงะเขียนแบบกระชับกว่า ฉันชอบมุมมองตรงนี้เพราะมันทำให้ฉากเผชิญหน้าของซึนาเดะมีน้ำหนักขึ้นในจอ — มีฟลายแบ็กสั้น ๆ เพิ่มเข้ามา แผงบทพูดถูกยืดเพื่อให้เห็นการลังเลและความรู้สึกผิดของเธอชัดกว่าในมังงะ ซึ่งในเล่มมักจะข้ามฉากเล็ก ๆ เหล่านี้ไปเพื่อประหยัดพื้นที่ การใส่ภาพนิ่งเพิ่มเติมกับซาวด์แทร็กที่ทำงานคู่กันช่วยผลักดันจังหวะให้คนดูเข้าใจว่าการตัดสินใจของซึนาเดะไม่ใช่เรื่องง่าย ผลคือฉากเดียวกันในมังงะให้ความรู้สึกกระชับและตรงไปตรงมา ส่วนเวอร์ชันอนิเมะเพิ่มเวลาให้ตัวละครได้หายใจและคนดูได้ซึมซับความเศร้า ฉันรู้สึกว่าบางช่วงมันยืดออกมาจนชัดเจนว่าเป็นการเติมหนังสือภาพให้ดูเป็นภาพเคลื่อนไหวมากขึ้น แต่ก็ทำให้ฉากนั้นมีความเป็นมนุษย์เพิ่มขึ้นด้วย

ทฤษฎีแฟนๆ เกี่ยวกับ นา รู โตะ ตอนที่ 135 มีอะไรน่าสนใจ?

3 คำตอบ2025-10-22 19:12:08
มีทฤษฎีหนึ่งที่แฟนๆ มักหยิบยกมาเมื่อพูดถึง 'Naruto' ตอนที่ 135 ซึ่งสำหรับฉันเป็นทฤษฎีที่ทำให้ฉากธรรมดาดูลึกขึ้นทันที ฉันมองว่าองค์ประกอบภาพและโทนสีในตอนนั้นไม่ได้เป็นแค่การตัดสินใจด้านอนิเมชั่นชั่วคราว แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านภายในตัวละคร ทฤษฎีนี้พูดถึงการใช้แสงเงาที่เน้นใบหน้าเป็นการสื่อว่าอนาคตของความสัมพันธ์บางคู่กำลังเปลี่ยนไป—ไม่ใช่แค่ความขัดแย้งที่ชัดเจน แต่เป็นความไม่แน่นอนที่ค่อยๆ เติบโตขึ้น ผมชอบที่แฟนๆ ชี้ให้เห็นว่าดนตรีประกอบในซีนสั้นๆ นั้นถูกใช้เป็น 'ตัวบ่งชี้อารมณ์' แบบเดียวกับที่เห็นในงานอื่นๆ เช่น 'Death Note' ที่ใช้มอทีฟดนตรีเล็กๆ เพื่อเชื่อมโยงเหตุการณ์ที่ดูไม่เกี่ยวกัน อีกแง่มุมหนึ่งที่ฉันยึดตามคือทฤษฎีเกี่ยวกับบทสนทนาที่ดูเหมือนไม่สำคัญ แต่มันซ่อนความหมายเชิงสัญลักษณ์เกี่ยวกับภาระและคำสัญญา แฟนหลายคนอ่านบทพูดสั้นๆ แล้วตีความว่ามันเป็นการวางรากฐานให้กับการตัดสินใจในภายหลังของตัวละคร ถ้าดูในมุมนี้ ตอนที่ 135 จึงเป็นจุดเล็กๆ ที่วางเมล็ดพันธุ์ของความเปลี่ยนแปลงไว้ ก่อนจะโตเป็นเหตุการณ์สำคัญของเรื่องต่อมา—มันไม่น่าเชื่อว่าองค์ประกอบเล็กๆ จะทำงานแทนบทใหญ่ได้ขนาดนี้

อีเวนต์สำคัญใน นา รู โตะ ตอนที่ 135 มีผลต่อพล็อตอย่างไร?

3 คำตอบ2025-10-22 22:20:53
ฉากการจากไปของซาสึเกะที่เห็นได้ชัดในตอนที่ 135 ของ 'Naruto' เป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนของเรื่องที่ทำให้ทุกอย่างสั่นสะเทือนไปพร้อมกัน ภาพสองคนที่เคยเป็นเพื่อนร่วมทีมต่อสู้กันจนสุดใจ แล้วแยกทางในหุบเขา เสียงระเบิด ความเจ็บปวด และคำพูดสั้น ๆ ระหว่างนารูโตะกับซาสึเกะไม่ได้เป็นแค่ฉากแอ็กชันเท่านั้น มันสื่อสารว่าความผูกพันบางอย่างถูกทดสอบด้วยความทะเยอทะยานและความแค้น การจากไปของซาสึเกะไม่เพียงแต่ทำให้กลุ่มของตัวเอกแตกเป็นเสี่ยง ๆ เท่านั้น แต่มันยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ชัดเจนสำหรับเรื่องราวที่ใหญ่ขึ้น: การไล่ตาม การแก้แค้น และการเติบโตส่วนบุคคลของนารูโตะ หลังฉากนั้นทิศทางของพล็อตเปลี่ยนจากการผจญภัยของทีมน้อย ๆ ไปสู่การเดินทางแบบเดี่ยวที่มีเป้าหมายชัดเจน นารูโตะกลายเป็นผู้ที่มีแรงจูงใจใหม่ คือคำมั่นสัญญาว่าจะนำซาสึเกะกลับมา นอกจากผลกระทบเชิงอารมณ์แล้ว การจากไปของซาสึเกะยังเป็นสะพานที่พาเนื้อเรื่องไปสู่ตัวละครฝ่ายร้ายที่มีอิทธิพลมากขึ้นและการเปิดเผยอดีตที่ซับซ้อนกว่าเดิม ฉากนี้ทำให้ผมมองเห็นชัดว่าเรื่องราวไม่ได้จบที่การต่อสู้ครั้งนั้น แต่มันเพาะเมล็ดของเหตุการณ์ใหญ่ ทั้งความแค้น ความเสียใจ และความหวัง ที่จะผลิบานเป็นพล็อตย่อยและบททดสอบให้ตัวละครทุกคนในภายหลัง

สื่อหรือผลงานใดอ้างอิงถึง นา รู โตะ ตอนที่ 135 บ้าง?

3 คำตอบ2025-10-22 01:33:35
ไม่มีทางที่จะมองข้ามอิทธิพลของฉากในตอนที่ 135 ได้เลย — สำหรับฉันฉากนี้กลายเป็นภาพจำที่ถูกหยิบไปใช้อย่างหลากหลายในสื่อทางการของจักรวาลนารูโตะเองและการแสดงสดต่าง ๆ บางครั้งงานทางการอย่าง 'Boruto: Naruto Next Generations' ก็เอาฉากจากตอนเก่า ๆ มาเป็นแฟลชแบ็กเพื่ออธิบายความสัมพันธ์ของนารูโตะกับซาสึเกะ การกลับมาของภาพหุบเขาที่ทั้งสองต่อสู้กันมักถูกใช้เป็นฉากอ้างอิงเมื่อต้องเน้นความขัดแย้งหรือการเติบโตของตัวละคร นอกจากนี้สื่อการแสดงสดอย่างที่เรียกว่า 'Naruto Live Spectacle' และ OVA/สเปเชียลบางชิ้นยังคงหยิบภาพลักษณ์ของหุบเขามาทำเวอร์ชันเวทีหรือการเล่าใหม่ ส่วนรายการสปินออฟตลกอย่าง 'Naruto SD: Rock Lee no Seishun Full-Power Ninden' เคยพาร์โอดีฉากเด่นนั้นด้วยน้ำเสียงที่เบาและตลก ทำให้ฉากดุดันในต้นฉบับกลายเป็นมุกได้ ซึ่งผมยังคงชอบการตีความที่แตกต่างแบบนี้อยู่เป็นการส่วนตัว
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status