ก่อนที่เขาจะได้พูดจบประโยค กลุ่มชายชุดดำก็วิ่งเข้ามาพร้อมมีดพร้าในมือโดยมีชายหัวโล้นนำพวกเขาเข้ามา ทันทีที่พวกเขามาถึง ชายหัวโล้นก็ตะโกนขึ้น “คุณหนูมาร์ค คุณเป็นอะไรไหม?” “ไอ้คนไร้ยางอายผู้นี้เข้ามาแอบดูฉันเปลี่ยนเสื้อผ้า” เชอรีลตอบด้วยความโกรธในขณะที่เธอชี้ไปที่แดร์ริล โอ้โห! พวกเขาโกรธแค้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายหัวโล้นมองแดร์ริลอย่างเยาะเย้ย "เฮ้ย ไอ้เด็กเวร! แกกล้ามากนะที่แอบเข้ามาในจอลลีส์ คลับและแอบดูคุณหนูมาร์ค แกรู้ไหมว่าเธอเป็นใคร? เธอเป็นคู่หมั้นของนายน้อยลอยด์ แกมาแอบดูคุณหนูเช่นนี้ แกคงมีความปรารถนาที่จะตายสินะ แกไม่เคยส่องกระจกดูสารรูปของแกบ้างเหรอ? วันนี้ฉันจะควักลูกตาของแกออกมาเอง!" แดร์ริลรู้ว่าเขากำลังเจอปัญหาเข้าแล้ว เขาโบกมือในขณะที่เขาพยายามจะอธิบายสถานการณ์ “มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ฉันคือ แดร์ริลและก็เป็นฉันที่สามารถปกป้องเมืองตงไห่จากกองทัพโลกใหม่เอาไว้ได้” ชื่อของเขาแพร่หลายไปทั่วจักรวาลโลก เขาจึงคิดว่าคนพวกนี้จะต้องเคยได้ยินชื่อของเขา ชายหัวโล้นงุนงง เขาแลกเปลี่ยนสายตากับเหล่าสหายของเขา “แดร์ริล?” “เมืองตงไห่?” “จัดการมัน!” พวกเขายกมีดพร้าขึ้
“ฉันชื่อจีเวล” ขอทานตัวน้อยตอบด้วยเสียงต่ำในขณะที่เธอมองไปที่แดร์ริล “คุณชาย ฉันขโมยซาลาเปามาแค่สองชิ้นและซาลาเปานั้นมีค่าแค่สองเพนนี แต่แหวนที่คุณให้เจ้าของร้านไป สามารถจ่ายค่าซาลาเปาได้เป็นพัน ๆ ชิ้น ได้โปรดเอาแหวนคืนมา!” ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นเพียงเด็กสาว แต่เธอก็ยังมีความรู้อยู่มาก แหวนของแดร์ริลเป็นแหวนที่ค่อนข้างประณีต มองครั้งแรกก็เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่แหวนธรรมดา เธอเป็นเพียงคนแปลกหน้า ดังนั้น เธอจึงสงสัยว่าทำไมเธอสมควรที่จะได้รับความช่วยเหลือจากเขาด้วยแหวนที่มีราคาเช่นนั้น “ไอ้เด็กขอทานเหม็น! หุบปาก!” เจ้าของร้านโกรธ เขาได้รับแหวนไปแล้ว จะให้เขาคืนมันง่าย ๆ ได้ยังไง? เจ้าของร้านจ้องไปที่จีเวลอย่างดุเดือด “ไอ้เด็กนิสัยไม่ดี! แกคิดว่าแกมีสิทธิที่จะพูดเหรอ? แกกล้าดียังไงมาขโมยซาลาเปาของฉัน! ฉันไม่ฆ่าแกก็บุญแล้ว” จีเวลไม่ได้หวาดกลัวเลย เธอจ้องเขม็งไปที่เขา “แกกล้าดียังไงจ้องหน้าฉันแบบนี้ แกอยากจะโดนตีอีกใช่ไหม...” เจ้าของร้านม้วนแขนเสื้อขึ้นในขณะที่เขาเดินเข้ามาหาเธอ แดร์ริลรีบเดินไปข้างหน้าและตบไหล่เจ้าของร้านทันที “นี่ เธอยังเด็กอยู่ พอได้แล้ว ฉันจะจ่ายค่าซาลาเปาสองชิ้นด้
เธอมีความรู้มากมายเกี่ยวกับทวีปตะวันออกอันยิ่งใหญ่ แต่เธอไม่รู้ว่ายังมีทวีปอื่นอีกบนโลกใบนี้ จีเวลยังคงรู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้และเธอก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงอันเศร้าสร้อย “ฉันรู้สึกแย่มาก คุณชาย ฉันขโมยซาลาเปามาเพียงแค่สองชิ้น แต่มันกลับทำให้คุณต้องมอบแหวนอันมีค่าของคุณให้เจ้าของร้านอาหารไป แหวนวงนั้นดูมีราคาและมันยังสามารถซื้อหลายซาลาเปาได้เป็นพัน ๆ ชิ้น แต่คุณใช้มันจ่ายเพื่อซาลาเปาเพียงแค่สองชิ้น...” จีเวลขมวดคิ้วในขณะที่เธอพูด เธอดูหดหู่ แดร์ริลรู้สึกขบขันกับความดื้อรั้นของเธอและพูดว่า "แหวนวงนั้นยังอยู่กับฉัน ฉันยังไม่ได้ให้เขาไป" แดร์ริลเอื้อมมือออกมาแล้วพลิกไปรอบ ๆ เพื่อแสดงแหวนที่ยังอยู่ในมือให้เธอดู แดร์ริลสังเกตว่าเจ้าของร้านอาหารผู้นั้นดูก้าวร้าวและหยาบคายเกินไป ดังนั้นเขาจึงใช้วิชาเงา เพื่อขโมยแหวนนั้นกลับคืนมา ไม่เพียงแค่นั้น เขายังเอาเงินของเจ้าของร้านอาหารมาอีกด้วย เมื่อเห็นแหวนในมือของแดร์ริล จีเวลก็อ้าปากค้าง เธอจ้องไปที่แดร์ริลอย่างว่างเปล่า เธอตะลึงงันจนพูดไม่ออก เกิดอะไรขึ้น? เธอเห็นแดร์ริลมอบแหวนให้เจ้าของร้านอาหาร 'แล้วทำไมตอนนี้แหวน
“คุณชาย ฉันยินดีที่จะติดตามคุณไปทุกที่และเป็นทาสรับใช้ของคุณไปตลอด” จีเวลกล่าวด้วยรอยยิ้มกว้าง การเดินทางของแดร์สนุกสนานมากขึ้นเมื่อเขาอยู่กับเธอ จีเวลเป็นเหมือนมัคคุเทศก์ตัวน้อยที่คอยแนะนำแดร์ริลเกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ ที่พวกเขาเดินผ่านมา แดร์ริลพาจีเวลไปซื้อเสื้อผ้าใหม่เพราะว่าเธอสกปรกและมอมแมมเกินไป หลังจากที่พวกเขาซื้อเสื้อผ้าเสร็จแล้ว เขาก็พาเธอไปหาที่พัก ห้องว่างในโรงแรมหลายแห่งที่พวกเขาเดินผ่านมาเต็มทุกที่ จนกระทั่งเขาเดินมาพบร้านอาหารระดับไฮเอนด์ที่ยังคงมีห้องว่างเหลืออยู่หนึ่งห้อง แดร์ริลถอนหายใจอย่างโล่งอก เหลือห้องพักเพียงห้องเดียวเท่านั้น เขาครุ่นคิดว่า มันคงจะน่าอึดอัดใจสำหรับเขาและจีเวลที่จะต้องพักอยู่ในห้องเดียวกัน ในขณะที่เขาลังเล จีเวลก็เดินเข้ามาและดึงแขนเสื้อของเขา “เราพักห้องนี้กันเถอะคุณชาย...” ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะสามารถตามหาโรงแรมอื่นได้และพวกเขาก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะสามารถได้รับห้องพักหรือไม่ถ้าหากว่าพวกเขายังคงเดินตามหาต่อไป แดร์ริลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องพักที่นี่ ดูเหมือนว่าเขาจะต้องนอนบนพื้นในคืนนี้ ห้องพักอยู่บนช
แดร์ริลรู้สึกขบขัน “ใครบอกว่าเธอเป็นทาสรับใช้” “ฉันเป็นทาสรับใช้ของคุณชาย” จีเวลพูดอย่างหนักแน่น “ฉันยินดีที่จะรับใช้คุณไปตลอดชีวิต” "ก็ได้ ๆ" แดร์ริลยิ้มในขณะที่เขาหยิบเกี๊ยวขึ้นมาแล้วยัดมันเข้าไปในปากของเธอ “กินซะ นี่คือคำสั่ง” "แน่นอน!" จีเวลพยักหน้า เธอก็กินเกี๊ยวเข้าไป จากนั้นเธอก็ร้องไห้ออกมา เธอเป็นเด็กเร่ร่อนมาตั้งแต่เด็ก ในทุกครั้งที่เธอเดินผ่านร้านนี้ เธออยากจะลองกินเกี๊ยวดูบ้าง แต่เธอไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเธอจะได้มีโอกาสกินมัน มันเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันแห่งโชคชะตาของเธอ แดร์ริลมองดูเธอและมอบรอยยิ้มที่อบอุ่นให้เธอหลังจากที่เขากินไปสองสามคำ เขาพูดเบา ๆ ว่า “ไม่เอาน่า ทำไมเธอถึงประทับใจเกี๊ยวน้ำมากเช่นนี้ ฉันจะซื้อให้เธอกินทุกวันเลย” คำ ๆ นั้นทำให้จีเวลร้องไห้หนักมากขึ้นกว่าเดิมและเธอก็ร้องไห้ตลอดระยะเวลาของมื้ออาหาร หลังจากที่พวกเขากินเสร็จ พวกเขาก็ออกจากร้านอาหารไป จีเวลถามด้วยความสงสัยหลังจากที่พวกเขาเดินออกมา “เราจะไปไหนกันคุณชาย?” แดร์ริลมองไปที่ถนนข้างหน้าและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “กลับไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ จีเวล เธอพอจะรู้จักใครที่จะสามารถช่วยให้
“ฉันจะไปกับคุณชาย” จิวเวลจับแขนของแดร์ริลด้วยท่าทางหนักแน่น “ยัยเด็กโง่...” ท่าทางของเธอทำให้แดร์ริลพูดไม่ออกทันที เมื่อเขาเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า มาร์คัสก็กัดฟัน “เอาล่ะ พาทั้งคู่ไป ในเมื่อพวกมันไม่กลัวความตาย!” ชายสองคนมัดมือจีเวล จากนั้นพวกเขาก็ถูกพาไปที่ห้องโถงเต้นรำ มีคำสำคัญถูกเขียนอยู่บนผนังของห้องโถงเต้นรำ ‘ความมั่งคั่ง’ ห้องโถงเต้นรำโภไคยเป็นห้องเต้นรำที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไห่ นักข่าวหลายคนกำลังรวมตัวกันอยู่ที่ประตู พวกเขาอยู่ในระหว่างการสัมภาษณ์หญิงผู้มีเสน่ห์และสง่างาม เธอคือ เชอริล มาร์ค ผู้หญิงที่แดร์ริลบังเอิญได้เห็นเธอกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า เศรษฐีหนุ่มมากมายต่างก็คลั่งไคล้ในตัวเธอ! แดร์ริลสังเกตเห็นว่ากล้องในมือของนักข่าวเป็นแบบรุ่นเก่าทั้งหมด มันมาพร้อมกับขาตั้งกล้องที่หนักอื้อและควันสีขาวก็คลุ้งออกมาหลังจากที่พวกเขาถ่ายภาพในแต่ละครั้ง แชะ แชะ... ด้วยเสียงแชะอย่างต่อเนื่อง นักข่าวเหล่านั้นต่างก็ตื่นเต้นและกระตือรือร้นในขณะที่พวกเขาสัมภาษณ์เชอรีล “คุณมาร์ค คุณจะมีข่าวดีกับคุณลอยด์เมื่อไหร่?” “มีรายงานว่าคุณจะเข้าร่วมงานการกุศล คุณช่วยเล่ารายละเอียดให้เราฟั
มาร์คัสจ้องไปที่แดร์ริล “ไอ้นี่มันสวมเสื้อผ้าแปลก ๆ หรือว่าแกมาจากวงการภาพยนตร์ บางทีแกอาจจะเป็นแค่ตัวประกอบ เราไม่จำเป็นต้องกังวลกับคนไร้ประโยชน์เช่นนั้น ผมคงจะปวดใจถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ" “เชอรีล แย่แล้ว!” ใครบางคนตะโกนขึ้นในขณะที่พวกเขาผลักประตูและเดินเข้ามาด้วยท่าทางที่ตื่นตระหนก “เชอรีล ฉันเพิ่งได้รับข่าวมาว่า มิสเตอร์เซย์นถูกฆ่าตาย” อะไรนะ? เชอรีลสั่นสะท้านเมื่อเธอได้ยินเช่นนั้น เธอมองไปที่ชายคนนั้นและถามว่า “มิสเตอร์โจเซฟ เซย์น ตายแล้วเหรอ?” "ใช่แล้ว..." เชอรีลรู้สึกเป็นกังวล เธอพูดอย่างประหม่าว่า "ฉันควรจะทำยังไง? ฉันไม่รู้ว่าเขาตายได้ยังไง แต่เขาได้ให้สัญญากับฉันว่าเขาจะเขียนเพลงใหม่ให้กับฉัน ในเมื่อตอนนี้เขาตายไปแล้ว แล้วใครจะเป็นคนเขียนเพลงใหม่ให้ฉัน" ทวีปตะวันออกอันยิ่งใหญ่มีสี่นิกายหลัก สำนักกระบี่ สำนักหยก สำนักโอสถและสำนักพราน โจเซฟ เซย์นเป็นสาวกของสำนักพราน แม้ว่าสำนักพรานจะเป็นสำนักของการบ่มเพาะ แต่สาวกของพวกเขาก็มีพรสวรรค์เป็นพิเศษ สาวกบางคนสามารถเขียนบทกวีได้ บางคนสามารถแต่งเพลงได้ ในขณะที่บางคนสามารถเล่นเครื่องดนตรีได้มากมายเช่นกัน โจเซฟเป็นห
เขาต้องการให้เธอคุกเข่าลงเพื่อยอมรับเขาให้เป็นอาจารย์ของเธออย่างนั้นหรือ?สีหน้าท่าทีของเชอรีลเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเมื่อเธอกรอกตามองไปที่แดร์ริล “อย่ามาทำอวดดี...”แดร์ริลยักไหล่ “ก็ดี ฉันคงไม่บังคับเธอ เธอก็โทรไปหาคู่หมั้นของเธอให้มามัดตัวฉันไว้อีกทีก็ได้ ต่อให้ฉันมีบทเพลง ฉันก็ไม่มีทางให้เธอ”เชอรีลกัดริมฝีปากขณะจ้องไปที่แดร์ริล เธอกัดฟันกรอดด้วยความเกลียดชัง เธอไม่ยินยอมที่จะเรียกเขาว่าอาจารย์!อย่างไรก็ตาม บทเพลงที่เขาได้ร้องออกมาเมื่อสักครู่ มันไพเราะเสนาะหูมากถ้าหากว่าเธอได้เอาบทเพลงนั้นไปร้องบนเวทีในวันถัดไป เธอคงจะโด่งดังมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน“ฉันจะให้เวลาเธอสามวิ” แดร์ริลกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าเธอไม่อยากจะยอมรับฉันเป็นอาจารย์ภายในสามวินาทีนี้ เธอก็คงไม่มีโอกาสอีกแล้ว”“สาม”“สอง”เชอรีลกัดริมฝีปากแทบจะเลือดไหล“หนึ่ง”ทันใดนั้นเชอรีลก็ตื่นตระหนกกระทื้บเท้าอย่างกระวนกระวาย “ฉันขอสัญญากับนาย”ตุ้บ...ขาอันเรียวงามของเชอรีลก็คุกเข่าลงอยู่เบื้องหน้าของแดร์ริล เธอเอยปากกล่าวอย่างนุ่มนวล “ฉันยินดีที่ได้เรียกนายว่าท่านอาจารย์”เชอรีลก้มโค้งคำนับแดร์ริล เหมือนกับว่าเขาเป็