“ฉันจะไปกับคุณชาย” จิวเวลจับแขนของแดร์ริลด้วยท่าทางหนักแน่น “ยัยเด็กโง่...” ท่าทางของเธอทำให้แดร์ริลพูดไม่ออกทันที เมื่อเขาเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า มาร์คัสก็กัดฟัน “เอาล่ะ พาทั้งคู่ไป ในเมื่อพวกมันไม่กลัวความตาย!” ชายสองคนมัดมือจีเวล จากนั้นพวกเขาก็ถูกพาไปที่ห้องโถงเต้นรำ มีคำสำคัญถูกเขียนอยู่บนผนังของห้องโถงเต้นรำ ‘ความมั่งคั่ง’ ห้องโถงเต้นรำโภไคยเป็นห้องเต้นรำที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไห่ นักข่าวหลายคนกำลังรวมตัวกันอยู่ที่ประตู พวกเขาอยู่ในระหว่างการสัมภาษณ์หญิงผู้มีเสน่ห์และสง่างาม เธอคือ เชอริล มาร์ค ผู้หญิงที่แดร์ริลบังเอิญได้เห็นเธอกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า เศรษฐีหนุ่มมากมายต่างก็คลั่งไคล้ในตัวเธอ! แดร์ริลสังเกตเห็นว่ากล้องในมือของนักข่าวเป็นแบบรุ่นเก่าทั้งหมด มันมาพร้อมกับขาตั้งกล้องที่หนักอื้อและควันสีขาวก็คลุ้งออกมาหลังจากที่พวกเขาถ่ายภาพในแต่ละครั้ง แชะ แชะ... ด้วยเสียงแชะอย่างต่อเนื่อง นักข่าวเหล่านั้นต่างก็ตื่นเต้นและกระตือรือร้นในขณะที่พวกเขาสัมภาษณ์เชอรีล “คุณมาร์ค คุณจะมีข่าวดีกับคุณลอยด์เมื่อไหร่?” “มีรายงานว่าคุณจะเข้าร่วมงานการกุศล คุณช่วยเล่ารายละเอียดให้เราฟั
มาร์คัสจ้องไปที่แดร์ริล “ไอ้นี่มันสวมเสื้อผ้าแปลก ๆ หรือว่าแกมาจากวงการภาพยนตร์ บางทีแกอาจจะเป็นแค่ตัวประกอบ เราไม่จำเป็นต้องกังวลกับคนไร้ประโยชน์เช่นนั้น ผมคงจะปวดใจถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ" “เชอรีล แย่แล้ว!” ใครบางคนตะโกนขึ้นในขณะที่พวกเขาผลักประตูและเดินเข้ามาด้วยท่าทางที่ตื่นตระหนก “เชอรีล ฉันเพิ่งได้รับข่าวมาว่า มิสเตอร์เซย์นถูกฆ่าตาย” อะไรนะ? เชอรีลสั่นสะท้านเมื่อเธอได้ยินเช่นนั้น เธอมองไปที่ชายคนนั้นและถามว่า “มิสเตอร์โจเซฟ เซย์น ตายแล้วเหรอ?” "ใช่แล้ว..." เชอรีลรู้สึกเป็นกังวล เธอพูดอย่างประหม่าว่า "ฉันควรจะทำยังไง? ฉันไม่รู้ว่าเขาตายได้ยังไง แต่เขาได้ให้สัญญากับฉันว่าเขาจะเขียนเพลงใหม่ให้กับฉัน ในเมื่อตอนนี้เขาตายไปแล้ว แล้วใครจะเป็นคนเขียนเพลงใหม่ให้ฉัน" ทวีปตะวันออกอันยิ่งใหญ่มีสี่นิกายหลัก สำนักกระบี่ สำนักหยก สำนักโอสถและสำนักพราน โจเซฟ เซย์นเป็นสาวกของสำนักพราน แม้ว่าสำนักพรานจะเป็นสำนักของการบ่มเพาะ แต่สาวกของพวกเขาก็มีพรสวรรค์เป็นพิเศษ สาวกบางคนสามารถเขียนบทกวีได้ บางคนสามารถแต่งเพลงได้ ในขณะที่บางคนสามารถเล่นเครื่องดนตรีได้มากมายเช่นกัน โจเซฟเป็นห
เขาต้องการให้เธอคุกเข่าลงเพื่อยอมรับเขาให้เป็นอาจารย์ของเธออย่างนั้นหรือ?สีหน้าท่าทีของเชอรีลเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเมื่อเธอกรอกตามองไปที่แดร์ริล “อย่ามาทำอวดดี...”แดร์ริลยักไหล่ “ก็ดี ฉันคงไม่บังคับเธอ เธอก็โทรไปหาคู่หมั้นของเธอให้มามัดตัวฉันไว้อีกทีก็ได้ ต่อให้ฉันมีบทเพลง ฉันก็ไม่มีทางให้เธอ”เชอรีลกัดริมฝีปากขณะจ้องไปที่แดร์ริล เธอกัดฟันกรอดด้วยความเกลียดชัง เธอไม่ยินยอมที่จะเรียกเขาว่าอาจารย์!อย่างไรก็ตาม บทเพลงที่เขาได้ร้องออกมาเมื่อสักครู่ มันไพเราะเสนาะหูมากถ้าหากว่าเธอได้เอาบทเพลงนั้นไปร้องบนเวทีในวันถัดไป เธอคงจะโด่งดังมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน“ฉันจะให้เวลาเธอสามวิ” แดร์ริลกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าเธอไม่อยากจะยอมรับฉันเป็นอาจารย์ภายในสามวินาทีนี้ เธอก็คงไม่มีโอกาสอีกแล้ว”“สาม”“สอง”เชอรีลกัดริมฝีปากแทบจะเลือดไหล“หนึ่ง”ทันใดนั้นเชอรีลก็ตื่นตระหนกกระทื้บเท้าอย่างกระวนกระวาย “ฉันขอสัญญากับนาย”ตุ้บ...ขาอันเรียวงามของเชอรีลก็คุกเข่าลงอยู่เบื้องหน้าของแดร์ริล เธอเอยปากกล่าวอย่างนุ่มนวล “ฉันยินดีที่ได้เรียกนายว่าท่านอาจารย์”เชอรีลก้มโค้งคำนับแดร์ริล เหมือนกับว่าเขาเป็
แดร์ริลโบกมือและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฉันไม่ได้มาจากสำนักพราน ฉันอาศัยอยู่ในป่าบนภูเขามานานมากและเพิ่งจะได้ออกมาข้างนอก” ‘โอ้ เป็นเพราะแบบนี้เอง?’เชอรีลกล่าวอย่างเคารพนับถือ “ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันจะบอกให้พวกเขาเตรียมห้องไว้สำหรับท่านอาจารย์ ท่านสามารถอาศัยอยู่ในห้องโถงเต้นรำโภไคยได้สักพัก”เธอจำเป็นต้องขึ้นแสดงร้องเพลงในวันถัดไป เธอจึงต้องการจะฝึกร้องบทเพลงนี้ให้ทันท่วงที“แจ่มเลย”ในเมื่อเขาได้ออกมาข้างนอกแล้ว แดร์ริลจึงยินยอมตกลงด้วยข้อตกลงของเชอรีล แดร์ริลและจีเวลก็ได้พักในห้องพักสุดหรูหราโอ่อ่าบนชั้นสองทันใดที่เขามาถึงที่ห้อง จีเวลก็รีบเข้าไปหาแดร์ริลและกล่าวถาม “คุณชาย ทำไมคุณหนูมาร์คถึงเรียกคุณเรียกว่าท่านอาจารย์”จีเวลนั้นรู้สึกสับสนงุนงงแดร์ริลยิ้มอ่อน ๆ “ฉันสอนเธอร้องเพลง แน่นอนที่เธอจะต้องเรียกฉันว่าท่านอาจารย์สิ”“คุณชาย คุณรู้วิธีแต่งเพลงด้วยเหรอ?” จีเวลกล่าวถามเสียงทุ่มแดร์ริลฉีกยิ้มและลูบผมของเธอ เขาไม่ได้กล่าวอะไรต่อก่อนที่พวกเขาจะเข้านอน จีเวลก็ขนน้ำมาเพื่อจะล้างเท้าให้กับแดร์ริล เธอดูแลเขาทุกหนทางที่เธอจะทำได้แดร์ริลรู้สึกสะเทือนใจ มันทำให้เขานึกถึงตอนท
ออโรร่าทุบมือลงไปบนโต๊ะเมื่อเธอได้ยินว่าสาวกนิกายตำหนักอมตะมาอยู่ที่นี่ มันเป็นเพียงการทุบโต๊ะธรรมดา แต่โต๊ะตัวนั้นก็แหลกสลายไม่เหลือชิ้นดี!จากนั้นออโรร่าก็ลุกขึ้นยืนอย่างทรนงด้วยสีหน้าท่าทางที่เย็นยะเยือก “ออกไปดูกันสักหน่อย”ออโรร่าเดินออกมาอย่างทรนงถือตัว บรรดาผู้อาวุโสสำนักง้อไบ๊รวมถึงแม่ชีมอรีนก็ห้อยอาศัยติดตามมาด้วยอย่างรีบเร่งด้านนอกประตูมีสาวกนิกายตำหนักอมตะนับพันคนมองเห็นได้จากที่ไกล ๆ พวกเขายืนเรียงเป็นหน้ากระดาน พวกเขามีมากมายเหลือเกิน!บุรุษผู้สง่างามองอาจในชุดขาวยืนอยู่บนก้อนหินใกล้ ๆ มือของเขาถือพัดและหน้าตาก็ดูคมสันหล่อเหลาบุรุษผู้นั้นคือเชสเตอร์สายตาอันเย็นยะเยือกของเขาสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนกับตัวตนที่สุขุมนุ่มลึกของเขาเมื่อออโรร่าปรากฏตัว เชสเตอร์ก็กล่าวน้ำเสียงเย็นชา “ท่านเจ้าสำนักออโรร่า ฉันมาที่นี่ก็เพื่อสิ่งเดียวเท่านั้นและมันก็คือสาวกของเธอ เมแกน ส่งตัวเธอมาให้ฉัน”เชสเตอร์หวนนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่ภรรยาของเขาเสียชีวิต และมันทำให้เขาปวดร้าวหัวใจเมื่อตอนที่พวกเขากำลังทำสงครามกับกองทัพโลกใหม่ เชสเตอร์ต้องจำทนกล้ำกลืนกับความเคืองแค้นของเขาและไม่ได้ล
”นายอยากจะสู้กับฉันงั้นเหรอ? ฉันไม่คิดว่านายจะถึงขั้น” ออโรร่ากล่าวเย็นชาขณะเธอยกฝ่ามือขึ้นมาปะทะกับฝ่ามือของเชสเตอร์ตู้ม!เมื่อสองฝ่ามือประสานกัน คลื่นพลังอันเข้มข้นก็ระเบิดแตกกระจายออกมา!ถึงแม้ว่ากำลังภายในของเชสเตอร์จะบรรลุขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด แต่มันก็ยังห่างชั้นเมื่อเทียบกับออโรร่าการโจมตีจากฝ่ามือของออโรร่าส่งตัวเชสเตอร์ลอยปลิวถอยร่นไป! หลังจากเขาร่วงลงถึงพื้น เขาก็กระอักเลือดเต็มปาก!“ท่านประมุขนิกาย!”“ท่านประมุขนิกาย เราจะช่วยท่านเอง”บรรดาสาวกนิกายตำหนักอมตะเดือนดาลทันทีเมื่อพวกเขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดและพวกเขาก็ชักกระบี่ออกมา!อีกทางด้านหนึ่งออโรร่ายืนนิ่งอย่างหยิ่งทรนงราวกับเทพธิดา เธอแผ่รัศมีอันเข้มข้นออกมา เธอทำหน้าขึงขังขณะจ้องเขม็งไปที่บรรดาสาวกนิกายตำหนักอมตะที่อยู่เบื้องหน้าเธอ“ท่านประมุขนิกายวิลสัน ถ้าหากนายยืนยันที่จะจ้องจับผิดฉันในวันนี้ นายคงจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยแม้แต่น้อย” ออโรร่ากล่าวเตือนเขาอย่างเย็นชาสาวกสำนักง้อไบ๊หลายคนได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับกองทัพโลกใหม่แต่ส่วนใหญ่หายดีแล้ว ออโรร่าสามารถที่จะเรียกสาวกมารวมกัน 50,000 ถึง 60,000 คนได้อย่า
ขณะที่ฝ่ามือของแดร์ริลเข้ามาใกล้ มาร์คัสก็ตกใจ แต่เขารีบง้างมือขึ้นมาเพื่อต้านทานการโจมตีตู้ม!ฝ่ามือประสานกันกลางอากาศ สีหน้าของมาร์คัสเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเมื่อตัวเขาลอยปลิวถอยร่นไปมีเสียงร้องคร่ำครวญ มาร์คัสกระอักเลือดเต็มปาก ใบหน้าของเขาแดงฉาน! แล้วตัวเขาก็ค่อย ๆ ไถลลงกองกับพื้นมาร์คัสรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อขณะเขามองไปที่แดร์ริลอย่างว่างเปล่า เขานั้นพูดไม่ออกบอกไม่ถูก!แดร์ริลยิ้มขณะเดินมามองมาคัสอย่างเย็นชา “ฉันอาจจะเคยเห็นคู่หมั้นของนายตอนเปลี่ยนเสื้อ แต่ฉันก็ได้ขอโทษเธอและแต่งเพลงให้กับเธอแล้ว คู่หมั้นของนายก็ตัดสินใจเรียกฉันว่าอาจารย์ของเธอเอง แต่แล้วทำไมนายก็ยังตัดสินใจจะมาฆ่าฉัน เอาล่ะทีนี้บอกฉันที นายคิดว่านายควรจะต้องตายไหม”จิตสังหารก็ฉายวับในแววตาของแดร์ริลทันที!ขณะที่มาร์คัสสบสายตาแดร์ริล ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านไปทั้งทรวง เขานั้นหวาดผวาจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นมาคุกเข่าลงต่อหน้าแดร์ริล เขาวิงวอน “พี่ชาย... พี่ชายผู้ยิ่งใหญ่... ไม่สิ ท่านอาจารย์! ใช่แล้ว ท่านอาจารย์ ได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วย ฉันไม่กล้าทำอีกต่อไปแล้ว ผมแค่คิดว่าท่านรอดตัวออกไปได้ง่ายเกินไปเท่านั้นเอง ผมไม่
ทุกคนในห้องโถงต่างให้ความสนใจไปที่เชอรีล เธอนั้นตกเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจผู้ชายหลายคนจ้องมองมาที่เธอแดร์ริลเองก็ตกตะลึงเช่นกัน แต่เขาชื่นชมเธออย่างสุขุมเชอรีลสมควรที่จะโด่งดัง เพราะเธอนั้นมีเสน่ห์มากเธอสวมชุดกี่เพ้าสีดำและมันทำให้เห็นส่วนโค้งเว้าที่งดงามของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบใบหน้าอันไร้ที่ติของเธอมีการแต่งหน้าแบบบางเบาและเธอดูงดงามแชะ... แชะ...นักข่าวก็เข้ามารุมล้อมถ่ายรูปอย่างต่อเนื่อง“ขอบคุณที่มาร่วมกับเราในวันนี้ ขอบคุณ...”“ตอนนี้ ฉันจะขอร้องเพลงใหม่ให้ฟัง หวังว่าพวกคุณคงจะชอบกัน” เชอรีลกล่าวอย่างนุ่มนวลผู้ชมต่างตื่นเต้น สีหน้าของพวกเขาเปี่ยมไปด้วยความคาดหวังเมื่อทุกอย่างเริ่มสงบลง เพลงก็เริ่มบรรเลง เชอรีลโปรยยิ้มให้กับผู้ชมขณะเธอค่อย ๆ ร้องเพลงอย่างนิ่มนวล “แม่น้ำผึ้ง กลิ่นของเธอรัญจวนหอมหวาน มันเหมือนกับบุปผาเบ่งบานในสายลมฤดูใบไม้ผลิ...”เสียงที่นุ่มนวลราวกับสวรรค์ขับร้องขณะที่ท่วงทำนองอันงามไพเราะดังดึกก้องไปทั่วห้องโถงว้าว!มันไพเราะเสนาะหูจริง ๆทันใดนั้นบรรดาผู้ชมก็ส่งเสียงสรรเสริญ ทุกคนต่างประทับใจกับการร้องเพลงของเธอ!ท่วงทำนองที่ไพเราะจนติ