วันต่อมา..
@คฤหาสน์มาเฟีย (ประเทศญี่ปุ่น)
"..ดูๆแล้วจากสภาพร่างกายของคนไข้หลังฝื้นตัวต้องมีคนคอยเฝ้าอยู่ใกล้ชิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยนะครับ ห้ามปล่อยไว้คนเดียวเพราะเสี่ยงโรคซึมเศร้าสูง คนที่ใช้ยาค่อนข้างเยอะขนาดนี้ต้องมีความเครียดมากเลยทีเดียว" ทุกคนตั้งใจยืนฟังอาการของลูกและหลานสาวตัวเองอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย ภายในห้องนอนหรูของเนเน่ในช่วงสายหลังเพิ่งมาถึงได้ไม่นานจากปากนายแพทย์หนุ่มที่นุซึ่งเป็นปู่ของเธอได้เตรียมไว้ หลังจากตรวจเช็กอาการของเธออย่างถี่ถ้วนแล้วผลที่ออกมาเหมือนกันกับที่แพทย์ในไทยว่าแป๊ะๆ ต่างกันแค่ที่นี่จะเช็กครบกว่าและรู้มากกว่า เอาง่ายๆคือเก่งกว่าเยอะ
"มีทางรักษาลูกผมให้เป็นปกติไหม" เป็นโน่ที่ถามออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเป็นห่วงลูกสาวโดยข้างกายมีภรรยากับผู้เป็นแม่และพ่อที่ได้ยืนร่วมฟังอยู่ด้วย ไม่ใช่เขาที่เครียดคนเดียวคนอื่นก็ดูเครียดเป็นห่วงเนเน่ไม่ต่างกัน
"มีครับแต่การรักษาและบำบัดให้หายขาดมันต้องใช้เวลา"
"อีกนานไหมกว่าหลานผมจะกลับมาเป็นปกติ" นุถามบ้าง
"ขึ้นอยู่ที่สภาพจิตใจของคนไข้ว่าจะให้ความร่วมมือมากน้อยแค่ไหน ถ้าทำตามที่หมอบอกครบก็ใช้เวลาไม่นานหรอกครับ เร็วสุดแค