Search
Library
Home / โรแมนติก / So Hot หลอมไฟร้ายละลายหัวใจ / EP : 1
So Hot หลอมไฟร้ายละลายหัวใจ
Author: Phat_sara

EP : 1

Author: Phat_sara
2025-06-23 15:10:04

"คุณแม็ค! มาถึงเมื่อไหร่คะ"

"มาถึงเมื่อไหร่? ถามแปลก ๆ นะป้าสุ ไม่มาถึงวันนี้แล้วจะให้ผมมาถึงวันที่เผาศพคุณแม่เรียบร้อยแล้วรึไง!"

"เอ่อ...ป้าขอโทษที่ถามค่ะคุณแม็ค ป้าแค่ถามเพราะไม่เห็นไข่นุ้ยมันไปรับคุณแม็คค่ะ"

"...ช่างมันเถอะ บอกไอ้นุ้ยเตรียมรถให้ผมด้วย"

"ค่ะคุณแม็ค"

"อ้อ! ผมจะไปแค่คนเดียว ส่วนคนอื่น...ให้หาปัญญาไปเอง"

"เอ่อ แต่..."

"ทำไม? มีปัญหาอะไรกับคำสั่งของผม"

"ไม่...ไม่มีค่ะคุณแม็ค"

ก๊อก ๆๆ

"เข้ามาเลยค่ะประตูไม่ได้ล็อก"

"คุณข้าวคะ"

"อ้าวป้าสุเองเหรอคะ ข้าวนึกว่าพี่ขวัญใจ"

"ค่ะคุณข้าว" ฉันหันไปมองคนที่เข้ามาใหม่ ป้าสุเป็นแม่บ้านที่เป็นคนเก่าคนแก่ของบ้านหลังนี้เอง

"มีอะไรรึเปล่าคะ" ฉันถามป้าสุเพราะสีหน้าของป้าแกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อันที่จริงช่วงนี้ก็ไม่มีใครสดใสหรอกค่ะ คนในบ้านกำลังทุกข์เพราะเสาหลักของบ้านท่านได้จากไป แต่สีหน้าป้าสุดูกังวลจนฉันสัมผัสได้ว่ามันมีเรื่องอื่น

"คือว่า..."

"เขามาแล้วใช่ไหมคะ" คงไม่ต้องเดาให้ยากเพราะงานนี้ถ้าเขาไม่มามันก็คงเกินไปหน่อย

"ค่ะ ดูอารมณ์ไม่ดีเลยค่ะคุณข้าว"

"ค่ะ ขอบคุณนะคะป้าสุที่มาบอกข้าว ป้าสุไปเตรียมตัวเถอะนะคะเราจะได้ไปวัดกัน"

"คือคุณแม็คเธอ...บอกว่าจะไปคนเดียวค่ะ ส่วนคนอื่น..." หึ! นิสัยเดิม ๆ

"ก็ให้เขาไปคนเดียวอย่างที่เขาต้องการนั่นล่ะค่ะ ป้าสุไม่ต้องกลัวข้าวจะรู้สึกแย่หรอก" เพราะฉันก็ไม่ได้อยากจะนั่งรถไปกับคนแบบนั้นเหมือนกัน แค่มองหน้ายังยังรู้สึกลำบากใจ

"ค่ะคุณข้าว ถ้างั้นเดี๋ยวป้าให้ไข่นุ้ยมันรีบกลับมารับคุณข้าวนะคะ อย่าไปกับเด็กในบ้านเลยรถมันคับแคบคุณข้าวจะอึดอัด"

"ไม่เป็นไรค่ะป้าสุ เดี๋ยวข้าวไปกับพี่เชนก็ได้ค่ะ ยังไงพี่เชนก็ไปวัดอยู่เเล้ว"

"จะดีเหรอคะ เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดีนะคะคุณข้าว" พอบอกจะไปกับพี่เชน พี่ชายข้างบ้านป้าสุก็ทำหน้าลำบากใจขึ้นมาทันที

"ใครจะมองไม่ดีคะ มีแค่คนนั้นคนเดียวไม่ใช่รึไง เขาก็ไม่เคยมองข้าวดีอยู่แล้ว ช่างเขาเถอะค่ะ"

"ก็ได้ค่ะคุณข้าว แต่ถ้าเปลี่ยนใจบอกป้านะคะป้าจะได้สั่งไข่นุ้ยมันเลย ป้าไม่อยากให้คุณทะเลาะกันตั้งแต่วันแรกที่เจอ ยังไงก็..."

"ข้าวสะดวกแบบนี้ค่ะ ป้าสุไปเถอะนะคะเดี๋ยวข้าวจะรีบแต่งตัวแล้ว วันนี้แขกท่าทางจะเยอะข้าวอยากไปดูแลความเรียบร้อยก่อน"

"ได้ค่ะ" ป้าสุรับคำแล้วก็เดินออกไป ส่วนฉันก็รีบแต่งตัว วันนี้นอกจากจะต้องรับแขกในงานศพของคุณป้า ฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องรับมือกับอะไรอีก อาจจะพายุทอร์นาโดเลยก็ได้

-สามชั่วโมงต่อมา-

"ทำไมคุณข้าวไม่ไปนั่งฟังสวดข้างหน้าล่ะคะ"

"นั่งตรงนี้นี่แหละพี่ขวัญใจ ข้าวไม่อยากเข้าไปกลัวเจอพายุ" ฉันกระซิบบอกพี่ขวัญใจแม่บ้านอีกคนอย่างรู้กัน เพราะวันนี้เจ้าภาพของงานตัวจริงมาแล้ว ฉันที่เป็นแค่คนอาศัยไม่กล้าไปนั่งตรงนั้นหรอกค่ะ ขืนไปก็ได้โดนด่าว่าเสนอหน้าพอดี

อ้อ! ไม่ใช่แค่ไม่ไปนั่งตรงนั้นนะ แต่ฉันไม่โผล่หน้าไปให้เขาเห็นเลยต่างหาก ตั้งแต่มาถึงงานก็หลบอยู่ข้างหลังศาลาคอยดูแลความเรียบร้อยต่าง ๆ พอถึงเวลาสวดพระอภิธรรมฉันถึงได้แอบมานั่งตรงที่นั่งแถวหลังสุดกับคนในบ้าน

"เดี๋ยวคุณแม็คก็ได้หาเรื่องว่าคุณข้าวไม่ช่วยงานนะคะ"

"ไม่หาเรื่องหรอกค่ะ เขาจะสบายใจมากกว่าที่ไม่เจอหน้าข้าว"

"เฮ้อ! ไม่อยากนึกถึงเหตุการณ์วันต่อ ๆ ไปเลยค่ะคุณข้าว ไม่มีคุณท่านอยู่แล้วใครจะปกป้องคุณข้าว จะให้พี่ ป้าสุ ไอ้นุ้ยเหรอ เฮ้อ! จะเอาปัญญาที่ไหนไปสู้รบกับคุณแม็คกัน" พี่ขวัญใจบ่นออกมาเบา ๆ ส่วนฉันก็ได้แต่ยิ้มอ่อน

"ฟังพระสวดดีกว่าค่ะ เดี๋ยวคุณป้ารู้เข้าจะไม่สบายใจเอานะคะ" เพราะเราสองคนกำลังพูดถึงเรื่องที่คุณป้ากังวลที่สุดในงานศพของท่านเอง เดี๋ยวคนที่จากไปท่านจะไม่สบายใจเอา

ฉันหันกลับไปสนใจแค่สิ่งที่อยู่ข้างหน้า สนใจแค่ผู้มีพระคุณที่ท่านนอนหลับอยู่ในโลงสี่เหลี่ยม ท่านจากไปแล้ว จากไปโดยที่ฉันยังไม่ได้ตอบแทนพระคุณของท่านเลย

หลังจากพระสวดพระอภิธรรมเสร็จฉันก็เลี่ยงไปจัดการสั่งงานสำหรับวันพรุ่งนี้ กว่าจะเสร็จแขกในงานก็กลับกันหมดแล้ว เหลือแค่ฉันกับพี่เชนที่อยู่ช่วยงาน พอจัดการอะไรต่าง ๆ เสร็จถึงได้กลับบ้าน

"ขอบคุณพี่เชนมากเลยนะคะที่อยู่เป็นเพื่อน ข้าวทำให้พี่เชนต้องกลับดึกเลย"

"ไม่เห็นต้องขอบคุณเลยจ้ะ พี่ยินดีบริการน้องสาวคนนี้เต็มที่ข้าวก็รู้"

"ยังไงก็ต้องขอบคุณค่ะ เกรงใจจะแย่เพราะที่จริงข้าวกลับแท็กซี่เองก็ได้"

"ใครจะปล่อยให้คนสวยกลับแท็กซี่ได้ลงคอ กลับบ้านกันดีกว่าข้าวจะได้พักผ่อนด้วย"

"ค่ะ"

ฉันเดินไปขึ้นรถกลับบ้านกับพี่เชน พี่เชนเป็นพี่ชายข้างบ้านเรารู้จักกันตั้งแต่เด็กแล้ว ไปไหนไปกันคบกันแบบพี่ชายน้องสาวที่บริสุทธิ์ใจต่อกันจริง ๆ เวลาลำบากก็มีพี่เชนนี่แหละที่คอยอยู่ข้าง ๆ โดยเฉพาะช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่คุณป้าทรุดหนักฉันก็เหมือนโดนปล่อยให้เคว้งคว้างจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไม่รู้จะร้องไห้กับใครหรือปรึกษาใคร ก็มีพี่เชนนี่ล่ะค่ะที่อยู่ข้าง ๆ คอยปลอบใจทุกครั้ง

พี่เชนมาส่งฉันที่บ้าน พอพี่เขากลับออกไปฉันก็เดินเข้าบ้าน บรรยากาศเงียบเหมือนทุกวันแต่ในความเงียบมันเหมือนมีรังสีชั่วร้ายอะไรบางอย่างแผ่ออกมา

"คุณข้าวคะ"

"อ้าวพี่ขวัญใจ ยังไม่อาบน้ำพักผ่อนอีกเหรอคะ" นี่มันจะสี่ทุ่มแล้วนี่แต่พี่ขวัญใจยังอยู่ชุดเดิมอยู่เลย

"คือ...คุณข้าวไปที่ห้องรับแขกดีกว่าค่ะ" เฮ้อ! เห็นหน้าพี่ขวัญใจฉันก็รู้แล้วว่าจะเจออะไร

พอมาถึงห้องรับแขกคนที่ฉันพยายามหลีกเลี่ยงให้ไม่ต้องเจอหน้ามากที่สุดก็นั่งทำหน้าทะมึงอยู่กลางโซฟาสีทองสุดหรูขนาดใหญ่ ท่านั่งประจำตัวของเขาคือการนั่งไขว้ห้างกอดอกนิด ๆ วางท่าเหมือนนายแบบที่คีพลุคเป็นเจ้าชาย แต่เชื่อเถอะท่านี้สรรค์สร้างเองไม่มีปั้นแต่งหรอก เห็นนั่งแบบนี้มาตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว ท่านั่งน่าหมั่นไส้เกินมนุษย์

"เห็นพี่ขวัญใจบอกว่าคุณมีเรื่องจะคุยด้วย" พอมาถึงฉันก็ส่งสายตาให้พี่ขวัญใจออกไปแล้วก็เอ่ยปากถามเขาทั้งที่ยังยืนอยู่

"ทักทายกันแบบนี้? นี่เหรอที่คุณแม่ฉันบอกว่าสอนมาดี สอนเองกับมือ แต่ทำไมพอคุณแม่ไม่อยู่ถึงได้..." เขาหยุดพูดแล้วก็มองฉันหัวจรดเท้า จากนั้นก็ไล่จากเท้าขึ้นมาบนหัวก่อนที่จะเหยียดยิ้มมุมปาก

"สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรจะคุยกับดิฉันคะ" อยากให้ไหว้ก็ไหว้ แต่ช่วยมีสมองคิดด้วยว่าคนที่อายุน้อยกว่าเขาเจอหน้าแล้วไม่ไหว้ตัวเองมันเพราะอะไร ทำตัวไม่น่าเคารพเองรึเปล่า

"เสแสร้ง" เขามองฉันไหว้แล้วก็เบ้ปากใส่ เออแล้วไงก็เสแสร้งจริงๆ ไม่ได้อยากไหว้เลยสักนิด แต่ที่ต้องไหว้เพราะเจ้าที่มันแรง ไม่ทำตามแล้วมันจะอาละวาดฟาดงวงฟาดงาน่ารำคาญ

"ตามที่จะสะดวกคิดค่ะ มีอะไรคะไม่มีจะได้ไปนอน ง่วง"

"ปากดี"

"ค่ะ ธุระล่ะคะ จะพูดไหม?"

"ข้าวแกง!" หึ! โกรธล่ะสิที่ฉันกล้าต่อปากต่อคำ เมื่อก่อนพูดอะไรฉันเคยเถียงที่ไหน ขนาดด่าว่าฉันเป็นขยะฉันยังไม่เคยต่อปากต่อคำหรือส่งสายตาไม่พอใจใส่เขาเลยสักครั้ง

"คะ?"

"อย่ามาปากเก่งกับฉัน" หึ! คนเกรี้ยวกราดอย่างเขาต่อให้ตอนนี้นั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้าก็โมโหให้กับมารยาทไทยของฉันได้อยู่ดีนั่นแหละ

"ธุระล่ะคะ หรือว่าที่จริงไม่มีอะไรจะคุย อยากเห็นหน้าฉันเหรอคะ"

"หึ! ไปขนข้าวของ ๆ เธอกลับไปอยู่ที่เดิมซะยัยก้นครัว!" อ้อเรียกมาบอกเรื่องนี้นี่เอง ฉันได้แต่กรอกตามองบนเพราะรำคาญเขา

"ไม่เก็บค่ะ ไม่ย้ายห้องด้วย"

"เธอไม่มีสิทธิ์นอนที่ตึกใหญ่ อย่าเก่งให้มันมากข้าวแกง เพราะเธอไม่มีคุณแม่คุ้มกะลาหัวแล้วจำใส่สมองไว้"

"จำได้ค่ะ เพราะฉะนั้นฉันเลยต้องใช้สิทธิ์ของฉันคุ้มกะลาหัวตัวเอง"

"หึ! สิทธิ์อะไร? อ้อสิทธิ์เมียของฉันใช่ไหม เกือบลืมไปเลยว่ะว่าฉันมีเมียอยู่ทั้งคน เมียที่ไต่เต้าจากขยะมาเป็นเพชรด้วยการเอาของสกปรกให้ฉันกินเพื่อจับทำผัว!"

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP