หญิงสาวในชุดนักศึกษา สวมกระโปรงพลีทยาวคลุมเข่าเดินเข้ามาในรั้วคฤหาสในตอนค่ำ เพราะวันนี้ที่มหาวิทยาลัยมีกิจกรรมเตรียมค่ายจิตอาสา เธอจึงต้องอยู่เตรียมการเพื่อจัดกิจกรรม รสมรุ่นในการไปทำจิตอาสาในพื้นที่ห่างไกล ด้วยเพราะรักการสอนทำให้เธอตัดสินใจเรียนครู ซึ่งเป็นอาชีพที่เธอใฝ่ฝัน การได้สอนเด็กยากไร้ในถิ่นธุรกันดารคือปณิธานที่เธอเคยวาดไว้ หญิงสาวเดินเลาะสนามหญ้าซึ่งปลูกไม้ดอกส่งกลิ่นหอมฟุ้งด้วยจิตใจที่เหม่อลอย จนไม่ทันได้เห็นว่ามีสายตาแหลมคมราวกับเหนี่ยวจ้องจับเหยื่อจ้องมองเธอมาจากโต๊ะม้าหินที่วางอยู่ในซุ้มกุหลาบอีกฝั่งหนึ่ง สายตาเฉี่ยวคมของชายหนุ่มรูปงาม มองสำรวจสาวน้อยในชุดนักศึกษาสีขาวกระโปรงพลีทสีดำ ใบหน้ารูปไข่ที่ก้มหน้าน้อยๆ นัยตากลมโตที่ดูมีความกังวนไม่สดใส แน่สิเขารู้ได้ทันทีว่านี่คือยัยเด็กกาฝากคนนั้น ปากอิ่มสีชมพูระเรื่อ เม้มเข้าหากัน หน้าอกครัดเคร่งในชุดนักศึกษาตัวบาง เมื่อโดนแสงไฟสะท้อนก็แทบจะทะลุจนเห็นเนื้อหนังข้างในหมดแล้ว หึ ยังไม่ทันจบมหาลัยเธอก็แต่งชุดยั่วคนไปทั่วแล้วสินะ ชายหนุ่มคิดอย่างอคติ ผู้หญิงอย่างเธอ ก็คงไม่ต่างจากแม่ที่จ้องจะจับผู้ชายรวย จะได้เกาะกินสบายไปทั้งชาติ ความคิดที่ว่าจะมองสองแม่ลูกในแง่ดีมลายหายไป มีแต่ความรู้สึกดูถูกเข้ามาแทนที่ ก่อนที่หญิงสาวจะเดินพ้นสนามไปทางบ้านพักของแม่บ้านซึ่งท่านเจ้าสัวยอมให้เธอกับแม่พักคนละห้อง ทั้งที่เจ้าสัวเคยขอให้แม่กับเธอขึ้นไปอยู่บนตึกด้วยกัน แต่ด้วยความเกรงใจของเธอกับแม่ จึงขออาศัยอยู่ร่วมกับแม่บ้านคนอื่นๆที่อยู่บ้านพักด้านหลังคฤหาสแทน
"นี่กะจะมาเดินอ่อยคนสวนแถวนี้รึไง ดึกดื่นป่านนี้เพิ่งกลับถึงบ้าน" เสียงห้วนที่ดังขึ้นด้านหลัง ส่งผลให้หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว
"คุณวาทิตย์..." เธอได้แค่เอ่ยออกมาเพียงแค่นั้นเมื่อหันหน้ามาปะทะกับใบหน้าหล่อเหลา ความสูงของเธอเท่าหน้าอกของเขาเท่านั้น ทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูง
"เจอกันอีกจนได้สินะ ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่มั้ยว่าไม่อยากเจอเธออีก ยัยเด็กกาฝาก พวกเธอนี่หน้าด้าน หน้าทนจริงๆเลยนะ"
ถึงแม้ว่านับดาวจะเตรียมใจกับการพบกันอีกครั้ง แต่เธอไม่คิดว่าชายหนุ่มจะยังคงใจร้าย และดูเหมือนจะใจร้ายมากขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัว ด้วยสายตาแหลมคมที่จ้องมองทำให้หญิงสาวรู้สึกสั่นสะท้านในอก ทำไมเธอถึงยังคงคิดถึงผู้ชายใจร้ายคนนี้ได้นะ ทั้งๆที่เขาใจร้ายกับเธอตั้งมากมาย แต่พอกลับมาเจอกันอีกครั้ง หัวใจของเธอก็กลับมาเต้นระรัว หัวใจไม่รักดี!!!
"ถึงกับใบ้รับประทานเลยรึไง เป็นนักศึกษานี่คงขายตัวได้ราคาดีสินะ ถึงแต่งชุดยั่วได้ขนาดนี้ "
ชายหนุ่มยังไม่หยุดดูถูกดูแคลนหญิงสาว เธอไม่เข้าใจว่าการแต่งกายชุดนักศึกษาของเธอมันดูยั่วตรงไหน กระโปรงก็ไม่ได้สั้น แต่ก็นะ คนมันมีอคติยังไงเขาก็คงไม่คิดจะมองเธอในแง่ดีอยู่แล้ว
"คุณวาทิตย์สนใจมั้ยละคะ คนกันเองดาวคิดราคาไม่แพงหรอกค่ะ" ด้วยความน้อยใจหญิงสาวจึงตอบโต้ด้วยการยั่วโมโหเขากลับ คนใจร้าย
"ยัยเด็กใจแตก"
วาทิตย์ไม่คิดว่าเด็กสาวที่ดูใสซื่อ จริงๆแล้วจะทำตัวเหลวแหลกแบบนี้ คงผ่านมือชายมานับไม่ถ้วนแล้วสินะ
"เก่งจังเลยค่ะคุณวาทิตย์ แค่เจอกันแปบเดียวก็รู้แล้วว่าดาวเป็นแบบไหน เอาไว้ถ้าสนใจก็เรียกใช้ได้นะคะ " หญิงสาวพูดประชดอีกครั้งก่อนจะเดินหนีเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะคารม จากนี้ไปเธอคงต้องหลบให้พ้นจากวาทิตย์เพราะรู้แล้วว่า เวลาหลายปีที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้ความเกลียดชังของเขาลดน้อยลงเลย
ชายหนุ่มยังคงจ้องมองตามหลังร่างอรชรที่เดินลิ่วๆไปทางบ้านพักแม่บ้าน ใครจะไปคิดว่ายัยเด็กปุ๊กลุ๊กในวันนั้น จะกลายเป็นหญิงสาวรูปร่างอรชรอ้อนแอ้น เอวบางที่ถ้าถูกเขาโอบรัดก็กลัวจะหักคามือ แถมยังมีหน้าอกหน้าใจที่มองจากนอกร่มผ้าก็รู้ว่าคงเต็มไม้เต็มมือ แถมปากอวบอิ่มนั่นอีก เขาอยากบดขยี้แรงๆให้สมกับคำพูดของเจ้าตัวเมื่อครู่ นี่เขาเป็นอะไรไปชายหนุ่มไม่เข้าใจตัวเอง แทนที่เขาจะรังเกียจเเผ็ดสาวใจแตก แต่เขากลับอยากทำตรงกันข้าม ชายหนุ่มคิดอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง