ในที่สุดเยี่ยเป่ยเฉิงก็หยิบตะเกียบขึ้นคีบอาหาร หลินซวงเอ๋อร์คิดว่าเมื่อเขาเริ่มกิน มันก็จะถึงเวลาที่นางจะใช้ตะเกียบได้แล้ว
ใครมันจะไปคิดว่าอาหารที่เยี่ยเป่ยเฉิงคีบมันจะไปอยู่ในชามของนางโดยตรง
หลินซวงเอ๋อร์มองเขาด้วยความประหลาดใจ ท่าทางของนางก็ดูตกตะลึงเล็กน้อย
“ยังอยากกินอะไรอีกหรือไม่?” เยี่ยเป่ยเฉิงถามนาง
เมื่อครู่เขาเห็นนางเอาแต่จ้องมองรากบัวสามรสโดยไม่วางตา เยี่ยเป่ยเฉิงรู้ได้ทันทีว่านางคงอยากกินมันมาก เขาจึงคีบขึ้นมาสองสามชิ้นใส่ชามของอีกฝ่าย
หลินซวงเอ๋อร์หยิบตะเกียบของตนขึ้นมา คีบรากบัวสามรสในชามเพื่อลิ้มลองรสชาติของมัน
เมื่อเข้าไปในปากก็สัมผัสได้ถึงรสเปรี้ยวหวาน นุ่มเหนียวถูกปาก หลินซวงเอ๋อร์หรี่ตาลงด้วยสีหน้าที่พึงพอใจ
ไม่นานรากบัวในชามก็ถูกจัดการไปจนหมด นางเงยหน้าขึ้นอาหารจานอื่นบนโต๊ะ จู่ๆ นางก็อยากจะกินหมูสับปรุงรสต้มน้ำแดงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม แต่มันอยู่ไกลเกินไปจนนางคีบไม่ถึง
ความผิดหวังปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง หลินซวงเอ๋อร์ได้แต่มองแล้วกลืนน้ำลายของตนลงคอไป
ใครจะไปคิดว่าวินาทีต่อมา ราวกับว่าเยี่ยเป่ยเฉิงจะสามารถอ่านความคิดของนางได้ เขาคีบหมูสับปรุงรสต้มน้ำแดงใส่ชามให้