เขาอุ้มนางขึ้นเตียงพลางเอ่ยขึ้น “ท่านจงพักเสียแต่เนิ่น ๆ”
เมื่อเอ่ยจบเขาก็จะเดินออกไป แต่ซือเจ๋อเยว่กลับรั้งข้อมือเขาไว้อย่างกะทันหันพลางเอ่ยขึ้น “คืนนี้เจ้าไม่ไปได้หรือไม่?”
เยียนเซียวหราน “…”
หากสตรีคนอื่นกล่าวกับเขาเช่นนี้ เขาคงตีความว่าเป็นการส่งสัญญาณบางอย่าง
แต่เมื่อนางกล่าวเช่นนั้นกับเขา เขาก็รู้ดีว่าแท้จริงแล้วนางเพียงอยากให้เขาต่ออายุขัยให้เท่านั้น
ในใจเขาอดไม่ได้ที่จะขุ่นมัวหดหู่เล็กน้อย หันกลับมามองนาง
แววตาฉายความไม่อ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย พอซือเจ๋อเยว่ถูกสายตาเช่นนี้ของเขาจับจ้อง ก็อดรู้สึกผิดขึ้นมาไม่ได้ นางจึงค่อย ๆ ดึงมือกลับไป
นางเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา “ข้าไม่ได้คิดจะหมายถึงเรื่องอื่น…”
นางwไม่ได้อธิบายก็ดีแล้ว แต่ยิ่งอธิบายกลับยิ่งทำให้บรรยากาศดูประหลาดขึ้นไปอีก
จึงรีบเอ่ยเสริม “ข้าก็แค่อยากลองดู ว่าพอจะทำลายคาถาของไป๋จื้อเซียนได้หรือไม่”
“ไม่เช่นนั้น หากเขาบุกมาอีกหน ข้าไม่อาจเคลื่อนไหวได้ก็เสียเปรียบมากนัก”
เยียนเซียวหรานไม่ได้เอ่ยอันใด แต่เดินไปอุ้มสาวใช้ที่สลบในห้องออกไป แล้วจึงลงกลอนประตู
เมื่อเขากลับมานั่งลงข้างเตียงของซือเจ๋อเยว่ ถามขึ้น “แล้