เป็นคำพูดที่น่าขำเช่นนี้อีกแล้ว
เฉียวหว่านนึกอยากหัวเราะ แต่ในใจกลับขมขื่นมากกว่า สุดท้ายจึงหัวเราะไม่ออก
ฮูหยินหลินกุมมือของนางไว้ ท่าทีอ่อนโยนยิ่ง “จริงอยู่ ฐานะจวนโหวเราทุกวันนี้ไม่อาจเทียบเท่าในอดีต แต่ภาษิตว่าเรืออับปางก็ยังมีเศษตะปูอีกสามพัน วันหน้าหากหมิงอ๋องคิดกลับมาเมืองหลวงอีก ก็ต้องพึ่งพาจวนโหวของเรา”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฮูหยินหลินยังคงถอนหายใจอีกเฮือกหนึ่ง “จริงอยู่ การทำเช่นนี้แม่เองก็เห็นแก่ตัว เซียวเหิงเป็นเด็กหนุ่มที่เก่งกล้า สร้างผลงานสู้รบไว้ไม่น้อย ปัจจุบันตระกูลเซียวยิ่งเรืองอำนาจอยู่ในราชสำนัก และเจ้าก็รู้ว่าฝ่าบาทไม่สู้พอพระทัยต่อจวนโหวนัก เพราะฉะนั้น หากต้องการให้ยวนเอ๋อร์ได้แต่งเข้าตระกูลเซียวอย่างราบรื่น เจ้าก็ไม่อาจหาคู่ครองที่มีอิทธิพลเทียบเท่าได้ และหมิงอ๋อง...ก็นับว่าเหมาะสมที่สุดแล้ว”
เฉียวเนี่ยนเข้าใจในที่สุด
ว่าไปแล้ว การแต่งงานของนางขึ้นอยู่กับการประเมินผลประโยชน์ที่ลงตัวของหลายฝ่าย
จวนโหวต้องพึ่งพาตระกูลเซียว หมิงอ๋องต้องอาศัยอิทธิพลของจวนโหว เช่นนั้นการเลือกคู่ของนางจึงไม่มีความสำคัญใดๆ อีก
“เช่นนี้นี่เอง” นางเอ่ยปากเบาๆ คล้ายกับรู้สึกโล่งอก
ห