ฮั่วซีเจ๋อที่อยู่อีกด้านสงสัยว่าตัวเองจะหูฝาด สุด...สุดหล่อ?
ใครกัน?
พี่รองของเขางั้นเหรอ?
ลู่หานถิงกวาดตามองเช็คเงินสดแผ่นนั้นด้วยดวงตาลุ่มลึกของเขาแล้วจึงหยุดมองที่ใบหน้าอันงดงามของเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพร้อมกับถามอย่างคนไม่ได้เก็บซ่อนอารมณ์แต่ฟังแล้วดูเย็นชาห่างเหินว่า “หมายความว่าอะไร?”
วันนั้นที่ร้านเค้กเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเคยได้พบกับผู้ชายคนนี้แล้ว เมื่อเธอได้เจอเขาอีกครั้งก็ยังคงรู้สึกหัวใจเต้นแรง ใบหน้าที่แดงก่ำของเธอนั้นแอบซ่อนการชื่นชมความสมบูรณ์แบบอันไร้ที่ติบนใบหน้าของชายคนนี้ไว้ แล้วพยายามแสดงความเย่อหยิ่งในศักดิ์ศรีใส่ชายหนุ่มหน้าหล่อคนนี้ว่า “เช็คเงินสดใบนี้ฉันให้นาย คราวหน้าก็ไม่ต้องไปยุ่งกับเซี่ยซีหว่านอีกแล้ว ฉันจะเลี้ยงนายเอง”
ฮั่วซีเจ๋อที่เห็นการกระทำดังกล่าวก็รู้สึกพูดอะไรไม่ออกขึ้นมาทันที.......
นี่เขาดูอะไรอยู่เนี่ย เกิดมาตั้งหลายปีไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนเอาเช็คเงินสดหนึ่งใบมาให้เพื่อเลี้ยงดูพี่รองของเขา โลกนี้ช่างเข้าใจยากจริง ๆ โลกบวมขึ้นหรืออย่างไร?
ลู่หานถิงเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้าง แล้วยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยันและเย็นชา
เขาไม่ได้พูดปฏิเสธหรือว่าพูดให้เธอรู้สึกอาย แต่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยกลับหน้าแดงก่ำด้วยรอยยิ้มหยัน
เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร เธอเป็นถึงคุณหนูผู้สูงศักดิ์แห่งตระกูลเซี่ย เขามันก็แค่หนุ่มรูปหล่อคนหนึ่ง แค่โดนเขามองด้วยหางตาก็รู้สึกราวกับถูกควบคุมเอาไว้อย่างง่ายดาย ซึ่งการทำเช่นนี้กลับทำให้เธอรู้สึกอับอาย
“นาย....นายยิ้มอะไร?”
ลู่หานถิงขมวดคิ้วได้รูปแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร คุณมีความมั่นใจมันก็ดีนะ แต่คุณควรกลับไปส่อง
กระจกบ่อย ๆ จะดีกว่า”
เมื่อลู่หานถิงพูดจบก็เดินเลี่ยงออกไป
ความกระตือรือร้นอย่างมั่นใจทั้งหมดของเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยถูกกลบทับด้วยน้ำเย็นหนึ่งกะละมังจนดับมอดลงทันที เธอถูกหนุ่มหน้าหล่อคนนั้นปฏิเสธ?
จนถึงตอนนี้หนุ่มหน้าหล่อคนนี้ยังจะอวดดีได้ถึงขนาดนี้เชียว?
ลู่หานถิงเดินไปได้เพียงก้าวเดียวก็หยุดเดินทันที เพราะเขาเห็นรูปร่างที่งดงามปรากฎขึ้นตรงหน้าของเขา เซี่ยซีหว่านมาแล้ว
เซี่ยซีหว่านไม่รู้ว่าเธอมาถึงที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ดวงตาคู่งามนั้นกำลังจ้องมองไปตรงที่เขา
ฮั่วซีเจ๋อพูดว่า “เอาล่ะเว้ย วันนี้มันวันอะไรกัน พี่รองโดนพี่สะใภ้รองจับได้คาหนังคาเขาซะแล้ว”
ลู่หานถิงมองไปยังเซี่ยซีหว่าน แล้วรีบยกมืออันแข็งแกร่งออกมาจากกระเป๋ากางเกงพร้อมกับพูดขึ้นว่า “พวกเราไม่ได้มีอะไรกัน คุณก็เห็น เธอมาล่อลวงผมเอง!”
เมื่อไม่กี่นาทีก่อนเขายังเป็นผู้ชายที่แสนเย็นชาอย่างไม่มีใครต้านทานได้อยู่เลย แต่ตอนนี้เขากลับตกลงมาจากแท่นบูชาแล้วซะงั้น แถมยังใช้น้ำเสียงเหมือนคนบริสุทธิ์ไร้ความผิดร้องเรียนกับเซี่ยซีหว่าน ฉากนี้เกือบจะทำให้ฮั่วซีเจ๋อรู้สึกตกตะลึงแล้ว แต่ภายในใจของเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยนั้นถูกทำร้ายจนเจ็บช้ำเหมือนโดนน้ำเย็นจัดสาดใส่
“เซี่ยซีหว่าน เป็นแกอีกแล้ว!” เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยกัดฟันกรอดแล้วกำหมัดแน่นอย่างเคียดแค้น
เซี่ยซีหว่านเดินเข้ามาและใช้รูปร่างที่เพรียวบางยืนขวางอยู่ด้านหน้าของลู่หานถิง “เซี่ยเสี่ยวเตี๋ย ฉันคิดมาตลอดว่าเธอก็คงไม่ต่างจากคุณป้า คุณป้าควรจะรู้สึกปลาบปลื้มนะ เพราะว่าเธอได้สืบทอดทุกอย่างมาจากคุณป้า อย่างเรื่องชอบแย่งสามีของคนอื่นเนี่ย!”
“แก....”
เซี่ยซีหว่านไม่รอฟังเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดจบก็หยิบเช็คเงินสดใบนั้นจากมือเธอมา “ห้าแสนหยวน? เดี๋ยวก่อนนะเซี่ยเสี่ยวเตี๋ย เธอก็มีเงินเยอะน่าดูเลยนี่ คราวนี้เธอคงจะใช้เงินจนเกินตัวมากทีเดียว เธอชอบหนุ่มหน้าหล่อของฉัน.....คนนี้มากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เงินห้าแสนก้อนนี้คือเงินเก็บทั้งหมดของเซี่ยเสี่ยวเตี๋ย แล้วยังมีเงินบางส่วนที่เธอขอยืมมาจากเพื่อน ๆ ของเธอ ตอนนี้เธอคงจะหลงใหลลู่หานถิงจนหัวปักหัวปำถึงยอมทุ่มสุดตัวขนาดนี้
ทันใดนั้นเซี่ยซีหว่านก็อุทานออกมาอย่างเสียดายว่า “แต่ช่างน่าเสียดายนะที่ผู้ชายไม่ได้ใจตรงกับเธอ ต่อให้เธอจะเพิ่มเงินให้เขาอีกสักเท่าไหร่ก็เปล่าประโยชน์ พ่อรูปหล่อของฉันก็ไม่ชายตาแลเธอหรอก”
เมื่อเซี่ยซีหว่านพูดจบก็หันกลับมามองที่ใบหน้าหล่อเหลาของลู่หานถิงแล้วเอ่ยถามว่า “บอกเธอไปสิว่า คุณเป็นผู้ชายของใคร!”
ลู่หานถิงจ้องมองไปยังแววตาที่เต็มเปี่ยมด้วยความเอาจริงเอาจังของหญิงสาวตรงหน้า เขาจึงพูดอย่างคนเอาอกเอาใจออกมาสามคำว่า “ผมเป็นของหว่านหว่าน”
เป็นของหว่านหว่าน.......
เซี่ยซีหว่านหัวใจเต้นแรง เดิมทีเธอก็อยู่ในกำมือเขาอยู่แล้ว แต่พอเขาเอ่ยปากขึ้นมาหัวใจกลับเต้นแรงระรัวทันที
เขาใช้น้ำเสียงที่ไพเราะและน่าดึงดูดพูดคำว่า “ของหว่านหว่าน”ออกมานั้นทำให้หัวใจเธอเต้นผิดจังหวะได้อย่างชัดเจน
เซี่ยซีหว่านรีบถอนสายตากลับมามองไปยังเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยอีกครั้งแล้วพูดเตือนว่า “เซี่ยเสี่ยวเตี๋ย วันนี้พอแค่นี้เถอะ ถ้าคราวหน้าฉันยังเห็นว่าเธอมาหลอกล่อผู้ชายของฉันอีก ก็อย่าโทษว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน!”
เซี่ยซีหว่านคว้ามือใหญ่อันแข็งแกร่งของลู่หานถิงแล้วพูดขึ้นว่า “ไปกันเถอะค่ะ”
ทางด้านของฮั่วซีเจ๋อนั้นก็รู้สึกว่าพี่สะใภ้รองคนนี้เจ๋งสุด ๆไปเลย!
เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยแค้นจนแทบจะกระอักเลือดออกมาหนึ่งกอง เธอรู้ว่าเซี่ยซีหว่านนั้นมีไหวพริบดีด้านการสื่อสาร แต่ไม่นึกเลยว่าฝีปากของเธอจะเคลือบไว้ด้วยยาพิษเช่นนี้
......
ลู่หานถิงถูกเซี่ยซีหว่านจูงมือออกมาไกลมากแล้ว มือของเธอทั้งเล็กและนุ่มนิ่ม ลู่หานถิงขยับมือไปมาและพยายามที่จะกุมนิ้วมือเล็ก ๆ ของเธอไว้
แต่ทว่าเซี่ยซีหว่านกลับสะบัดมือเขาออกแล้วพูดขึ้นพร้อมกับพ่นลมหายใจแรงออกมาว่า “คุณลู่คะ เดิมทีฉันก็เป็นแค่ผู้ชมละครคนหนึ่ง แต่คุณดันอยากให้ฉันเข้าร่วมด้วย เมื่อกี้ฉันแสดงละครฉากใหญ่สองสาวแย่งผู้ชายให้คุณดูแล้ว คุณพอใจไหมคะ?”
ลู่หานถิงยิ้มมุมปากแล้วพูดว่า “ทำไมผมถึงได้กลิ่นเปรี้ยว ๆ นะ?”
กลิ่นเปรี้ยว ๆ อย่างนั้นเหรอ?
เซี่ยซีหว่านดมหากลิ่นเปรี้ยวนั้นแต่ก็ไม่ได้กลิ่นเลย
ผ่านไปครู่หนึ่งเธอก็เข้าใจทันที เขากำลังจะบอกว่าเธอขี้หึง
เซี่ยซีหว่านเหลือบมองเขาแวบหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “คุณลู่คะ ฉันเพิ่งจะช่วยคุณไว้แท้ ๆ คุณยังไม่รู้ถูกรู้ผิดอีกนะ”
ลู่หานถิงเอื้อมมือไปกดไหล่ขาวเนียนดั่งกลีบกุหลาบของเธอเข้ากับกำแพงจนเกิดเสียงดัง “ปุบ” แล้วใช้มือข้างเดียวดันกำแพงเพื่อกักตัวเธอเอาไว้ “กล้าพูดว่าผมเป็นหนุ่มรูปหล่อของคุณแบบนี้ ไม่ใจกล้าไปหน่อยเหรอครับ?”
ทันใดนั้นเซี่ยซีหว่านก็ถูกกักขังอยู่ในอ้อมแขนอันแข็งแกร่งของเขา ชายคนนี้พูดไล่ต้อนเธอให้จนมุมแล้วยังใช้อำนาจบาตรใหญ่ยัดเยียดความผิดอีก เธอจะกล้าให้เขาเป็นหนุ่มหล่อของเธอได้อย่างไรกัน?
เซี่ยซีหว่านตอบกลับอย่างแผ่วเบาว่า “ฉันไม่ได้พูดนะคะ”
“คุณยังจะปฏิเสธอีกเหรอ? แล้วที่คุณบอกว่าช่วยผมเมื่อกี้นี้คืออะไร คุณนายลู่ จริง ๆ แล้วคุณยังมีจิตสำนึกของการเป็นภรรยาอยู่ไหมครับ การขับไล่พวกวัชพืชที่รายล้อมอยู่รอบตัวสามีของคุณไม่ได้อยู่ในหน้าที่รับผิดชอบของภรรยาเหรอครับ?”
“......”
เซี่ยซีหว่านไม่มีข้อโต้แย้งแใด ๆ และรู้สึกว่าที่เขาพูดนั้นก็มีเหตุผล “แต่ว่า ฉันจะไปรู้ได้ยังไงกันว่าคนอื่นสำคัญกับคุณหรือเปล่า พูดถึงคนที่ได้แต่งงานกับคุณอาจจะเป็นเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยก็ได้ ฉันก็เป็นแค่คนที่ต้องมาแต่งงานแทนเฉย ๆ”
ลู่หานถิงขมวดคิ้วคมได้รูปแล้วขยับหน้าเข้ามาใกล้ ๆ “คุณยังจะพูดว่าไม่ได้หึงอีกเหรอ?”
“ฉันก็ไม่ได้......”
“เคยได้ยินมาว่าผู้หญิงงอนแล้วต้องง้อ ผมต้องง้อคุณหรือเปล่า?”
“อื้ม?”
ลู่หานถิงก้มหน้าลงแล้วจูบริมฝีปากสีแดงสดผ่านผ้าคลุมหน้าอย่างแผ่วเบา
เซี่ยซีหว่านกระพริบตาปริบ ๆ ทำไมเขาถึง......
ลู่หานถิงขยับลำคอไปมาแล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มลึกว่า “คุณยังหึงอยู่หรือเปล่า?”
เซี่ยซีหว่านรู้สึกตกใจจนส่ายหัวไปมาอย่างระรัว
ลู่หานถิงหัวเราะเสียงต่ำออกมาแล้วพูดว่า “ผมรู้แล้ว ยัยคนขี้หึง”
เซี่ยซีหว่านพึ่งจะรู้ตัวว่าตกหลุมพรางซะแล้ว เธอยอมรับกลาย ๆแล้วว่าตัวเองหึงหวง เดิมทีเธอไม่เคยแพ้การประชันฝีปากมาก่อน คาดไม่ถึงว่าเธอจะถูกเขาน็อคเอาท์เข้าให้แล้ว
เซี่ยซีหว่านเม้มริมฝีปากสีแดงสดเบา ๆ แล้วก้มลงมุดตัวออกจากอ้อมแขนของเขาอย่างรวดเร็วราวกับสายลม
ลู่หานถิงยิ้มมุมปากขึ้นแล้วเดินล้วงกระเป๋ากางเกงตามเธอไป