มู่ชิงซานไม่ได้สวมเสื้อ ข้างล่างเป็นกางเกงตัวบาง เขายืนอยู่หลังตู้ไม้ดวงตาคมกริบคู่นั้นมองฟ่านรั่วเจี๋ย มองอย่างชื่นชม และไม่ส่อกิริยาหยาบคายหรือล่วงเกินอันใด แต่เป็นนางที่สับสน จึงรีบเอาผ้ามาคลุมใบหน้า ปกปิดตัวตนที่แท้จริงเอาไว้
“ท่าน งาม...” เสียงเขาทุ้ม ดวงตาทอประกายชื่นชม
“อย่าพูดจาเหลวไหล ข้าสั่งให้เจ้าดูแลเป็ดไม่ใช่หรือ เข้ามาในเรือนทำไม”
“ขะ...ข้ามาถามมารดาว่าอยากกินแตงโมหรือไม่” เขาว่าและชี้มือไปข้างนอก
“ข้าไม่หิว ถ้าเจ้าหิวก็กินเถอะ”
“ตะ...แต่ข้าอยากกินกับมารดา” เขาว่าและยิ้มกว้าง ไม่รู้เหตุใด รอยยิ้มเขาถึงได้ทำให้หัวใจฟ่านรั่วเจี๋ยสั่นไหวรุนแรงเหลือเกิน
หญิงสาวทำทีถอนหายใจแรงๆ อย่างเบื่อหน่าย พอนางลุกจากเก้าอี้ก็เป็นเวลาเดียวกับที่สายตาเริ่มซุกซนไล่สำรวจเรือนกายสูงใหญ่ จากหน้าอกแน่นๆ ก็เลื่อนลงมายังกล้ามหน้าท้องแกร่งที่เป็นลูกสวย ก่อนจะหยุดที่!
ฟ่านรั่วเจี๋ยรู้สึกร้อนผะผ่าวไปทั้งใบหน้า และลำคอก็แห้งผากราวกับผืนทรายที่ถูกแดดแผดเผาอย่างฉับพลัน
“เป็ดน้อย จะ...เจ้าปวดเบาใช่หรือไม่”
เขาส่ายหน้าแรงๆ และยิ้มเขินอาย
“มะ...ไม่ ข้าไม่ได้ปวด มันจั๊กจี้และคัน” ชายหนุ่มอธิบายสิ่งที่เกิด