หลังหมิงอ๋องกลับเข้าวังไปแล้ว ฟ่านรั่วเจี๋ยก็กลัดกลุ้มใจเป็นอย่างมาก กระนั้นสุราของฮ่องเต้น้อยช่วยให้นางอารมณ์ดีขึ้น“มารดา ท่าน…หัวเราะสิ่งใด” มู่ชิงซานถามนาง เห็นว่ายามนี้ดวงหน้าหญิงสาวแต้มสีแดงระเรื่อ ดวงตาสวยคู่นั้นดูหวานเยิ้มกว่าปกติจนเขาใจสั่นช่างแปลกประหลาดเหลือเกิน ความรู้สึกเช่นนี้เหตุใดถึงเกิดขึ้น!!“ใครว่าข้าหัวเราะ ข้ากำลังโกรธ!”นางกัดฟันเสียงดังกรอดๆ และตบโต๊ะหินอย่างแรงซึ่งควรทำให้เจ็บมือ แต่ยามนี้นางกลับไร้ความรู้สึก ร่างกายชา มองเห็นพื้นลอยไปมา ส่วนมู่ชิงซานก็หล่อเหลากว่าเดิมหลายเท่า“โกรธผู้ใดรึ” เขาถาม สีหน้าดูไร้พิษสงใดๆ“หึๆ ย่อมเป็นเจ้า ลูกเป็ดน้อย มาให้ข้าตีก้นเสียดีๆ” นางว่าเสียงขึงขังแต่ดวงตาเจ้าชู้จนมู่ชิงซานสับสน“มารดา ทะ...ท่านจะตีข้า”ฟ่านรั่วเจี๋ยหัวเราะ ย่อมเป็นเช่นนั้น นางอยากตีเขา อยากจับโยนลงไปในบ่อน้ำพุแล้วกดศีรษะให้จมน้ำตายไปเลยยิ่งดี“ใช่ ข้าจะตีทั้งเจ้าและอาเมี่ยว” นางว่าจบจึงลุกขึ้นยืน แต่สองขาพันกันไปมา มู่ชิงซานเห็นว่าหญิงสาวตั้งใจจะตีตนเลยรู้สึกทั้งจั๊กจี้และกลัว“เจ้าเป็ดเหลือขอ จะ...เจ้าจะหนีไปไหน” นางส่งเสียงดังและพยายามไล่จับชายหนุ่ม“หยุ
สมุนไพรคลายกำหนัด!หมิงอ๋องได้องครักษ์ประจำตัวเข้ามาประคองให้ลุกนั่ง ฮ่องเต้น้อยมึนงงอยู่เกือบอึดใจ ภาพเมื่อครู่รวดเร็วเหลือเกิน นอกจากนั้นแรงปะทะที่พุ่งใส่ร่างเขาก็รุนแรงราวกับการซัดอาวุธลับของจอมยุทธ์“ผู้ใดบังอาจลอบทำร้ายฮ่องเต้!” เสียงองครักษ์เสื้อแพรนามว่าจ้าวหานเอ่ยขึ้น พร้อมกระโดดลอยตัวมาจากที่ซ่อน แต่เขาตวาดได้เพียงครึ่งคำโดยยังไม่ทันได้ลงมือจัดการมู่ชิงซาน เสียงของฟ่านรั่วเจี๋ยก็ร้องลั่นด้วยความเสียขวัญยามนั้นนางตกใจจนแทบทรุดลงไปนั่งบนพื้น เมื่อฝ่าเท้าใหญ่ยาวของมู่ชิงซานยันหน้าอีกฝ่าย ก่อนที่นางจะเห็นภาพต่อมาว่า ศอกของเขาฟันเข้าตรงลำคอจ้าวหาน จนทำให้องครักษ์หนุ่มมีสีหน้าเหยเก ทั้งเจ็บทั้งมึนงงองครักษ์ผู้นั้นแม้ยังอายุน้อย แต่มีฝีมือดี ทว่าวิทยายุทธ์ล้ำลึกที่จู่โจมเขาทำให้ยากรับมือ จ้าวหานสูดลมหายใจลึก เตรียมกวัดแกว่งดาบของตนฟันลงไปที่มู่ชิงซาน แต่ฟ่านรั่วเจี๋ยร้องห้ามเสียก่อน“ยั้งมือไว้ก่อนจ้าวหาน นะ...นั่น...คนของข้าเอง”ฟ่านรั่วเจี๋ยเอ่ยอย่างอ้อมแอ้ม ตอนนั้นทั้งจ้าวหานและหมิงอ๋องต่างไม่อยากเชื่อสายตาว่า สตรีอัปลักษณ์จะเก็บซ่อนบุรุษที่มีฝีมือสูงส่งเอาไว้ในตำหนักเย็น“ดะ..
ฟ่านรั่วเจี๋ยกำลังวิ่งไล่จับตือเมี่ยวเพื่ออาบน้ำให้มัน เจ้าหมูแคระซุกซนมาก ด้วยได้เพื่อนเล่นอย่างมู่ชิงซาน หมู่นี้นางสังเกตว่าเขากับตือเมี่ยวเป็นคู่หูที่สนิทกันจนแทบแยกไม่ออกหลังจากนางสั่งให้มู่ชิงซานจัดการตัวเองให้สะอาดและกินอาหารให้เรียบร้อย เขาก็ไปนั่งเล่นเงียบๆ ในมุมของตน ซึ่งหากไม่ใช่การดูจิ้งหรีดกัดกัน ก็ออกไปขุดไส้เดือนให้เป็ดกินหญิงสาวยืนมองเขาได้สักพักจึงหมุนตัวไปทำภาระต่างๆ ที่ล้นมือตอนนี้คือการไล่คว้าตือเมี่ยวไปอาบน้ำ นางวิ่งไปจนถึงฝั่งที่เป็นแปลงผัก และเกือบชนเข้ากับร่างที่โผล่มาอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง“หมิงอ๋อง!”หญิงสาวแทบสิ้นสติตรงนั้น ก่อนหน้านี้อีกฝ่ายมักแวะเวียนมาหาบ่อยๆ อีกทั้งนัดพบนางให้ไปที่ตำหนักของเขา ทว่าการได้เห็นฮ่องเต้แคว้นหมิงที่นี่ยามนี้ ช่างเป็นเรื่องชวนให้หัวหลุดจากบ่า เพราะตำหนักซอมซ่อของนางมีบุรุษแห่งต้าหลางแอบซ่อนอยู่“หมิงอ๋องมาได้อย่างไร” ฟ่านรั่วเจี๋ยเอ่ย นางกวาดตามองหามู่ชิงซานพอไม่เห็นเงาเขาก็โล่งใจ“ทำไมข้าจะมาหาพี่สาวสุดที่รักไม่ได้” เด็กหนุ่มวัยสิบสี่ย่างสิบห้าปีผู้ซึ่งนั่งบัลลังก์มังกรของแคว้นหมิงเอ่ยกับพี่สาวที่เขาสนิทมากกว่าฟ่านเยี่ยฉีด้ว
ฟ่านเยี่ยฉีร้อนใจและรู้สึกว่าตนต้องทำบางสิ่งอย่างเด็ดขาด แต่แรกนั้นตั้งใจเปิดศึกกับแคว้นต้าหลางด้วยการขอกำลังจากชาวสิบสองเผ่าคนเถื่อน แต่มันเป็นความคิดที่โง่เขลาไปสักหน่อย ด้วยครั้งนี้คนที่นำทัพคือมู่ชิงซาน เขาเป็นเสมือนเทพสงครามกระหายเลือด กระนั้นเขาก็ไม่ใช่ชายมากตัณหาที่หวังข่มเหงน้ำใจฟ่านเยี่ยฉีอย่างที่นางครั่นคร้ามใจ แต่กลับคิดตัดกำลังไม่ให้นางสามารถขอกำลังสนับสนุนจากผู้ใดเพื่อรับมือเขาเกือบสองเดือนที่ผ่านมา อีกฝ่ายเพียงแค่ตั้งกำลังรอบๆ ประตูเมืองเพื่อบีบบังคับให้หมิงอ๋อง น้องชายนางซึ่งเป็นฮ่องเต้ของแคว้นหมิงผูกมิตรเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า และเกื้อหนุนเสบียงให้ต้าหลางในยามที่ยกทัพไปปราบพวกคนเถื่อนทว่าแคว้นหมิงเป็นอิสระมานาน ด้วยข้อตกลงที่เกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อนกับแคว้นทั้งเจ็ด ทว่าพอมีการเปลี่ยนแปลงภายในแคว้นหมิง แต่งตั้งหมิงอ๋องขึ้นเป็นฮ่องเต้องค์น้อย แคว้นต่างๆ ก็ต้องการแผ่นดินเล็กๆ อันอุดมสมบูรณ์นี้ไปเป็นส่วนหนึ่งของตน ทว่าด้วยไมตรีที่ดีกับแคว้นต้าหลางมานานแคว้นหมิงจึงได้การคุ้มครองจากต้าหลาง กระนั้นก็เป็นการคุ้มครองที่ต้องการผลประโยชน์แอบแฝงหลังบิดาสิ้นใจ ฟ่านเยี่ยฉี
มู่ชิงซานโผเข้าไปหานางผู้นั้น สัมผัสได้ถึงไอเย็นซึ่งส่งมาถึงเรือนกายเขา ตัวนางเย็นราวกับเลือดหยุดไหลเวียน เขาคำรามออกมาทีหนึ่ง ความคิดต่างๆ หมุนวนไปมา ชายหนุ่มพยายามปลุกนางให้ตื่น แต่ร่างกายหญิงสาวไม่ตอบสนองเขาเขย่าร่างนางแรงๆ ก่อนเอาหูแนบฟังการเคลื่อนไหวของหัวใจ และรับรู้ว่ามันเต้นช้ากว่าปกติ ยามนี้เขาไม่รู้จะแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไรบางคราเหมือนคิดออก แต่จู่ๆ ความคิดที่มีพลันหายไป ทั้งหมดเป็นเพราะเขาถูกยาพิษจากคนร้ายที่ลอบวางยานั่นเอง“มารดา...” เขาว่าและเรียกนางให้ฟื้น ยามนั้นน้ำตาฟ่านรั่วเจี๋ยเอ่อล้นคลอเบ้า ริมฝีปากอิ่มสวยเป็นสีม่วงคล้ำ นางขยับปากช้าๆ ตั้งใจเอ่ยบางอย่าง แต่ด้วยมีผ้าปิดใบหน้าครึ่งล่างเอาไว้เขาจึงได้ยินไม่ถนัด พอเขาเอื้อมมือหมายดึงมันออก ดวงตาคู่สวยค่อยๆ ลืมขึ้นแสดงอาการต่อต้าน“มะ...ไม่ บัดซบ...จะ...เจ้าเป็ดเหลือขอ ห้ามกระทำเช่นนั้น” ฟ่านรั่วเจี๋ยปฏิเสธ แต่มู่ชิงซานคำรามขู่ ท่าทางเขาดูเหมือนหมาป่าตัวโตดุร้าย“ถะ...ถอยไป” นางเอ่ยห้ามเสียงขาดเป็นห้วงๆแต่ทว่ามือใหญ่ไม่สนใจ เขากระชากมันสุดแรง ผ้าผืนดังกล่าวพลันหลุดออกจากใบหน้าฟ่านรั่วเจี๋ยอึดใจต่อมา สิ่งที่ทำให้ม
ร่างสูงใหญ่สละม้ามนุษย์ที่ถูกฟันจนเป็นแผลเหวอะหวะ เขาถีบตัวลอยเหนือพื้นก่อนมุ่งตรงไปยังรถม้าคันใหญ่ ยามนั้นองครักษ์ที่บังคับรถต่างตื่นตระหนก ด้วยผู้ที่ทะยานตัวมามีกระบวนท่าแปลกประหลาด ทว่ามู่ชิงซานยังไม่ทันบ่ายหน้าเข้าไปถึงรถม้า ลูกธนูราวห่าฝนก็เล็งใส่ร่างของเขามู่ชิงซานหมุนตัว ก่อนชิงเอาดาบจากมือใครคนหนึ่งและฟันเข้าใส่สององครักษ์ที่ควบคุมรถม้า เสียงร้องโหยหวนดังขึ้น ก่อนร่างดังกล่าวจะถูกเขาถีบลงจากรถม้า อึดใจต่อมามู่ชิงซานก็พยายามเข้าไปยลโฉมผู้ที่นั่งอยู่ด้านในเสียงนางกำนัลหวีดร้องและใช้ร่างตนปกป้องผู้เป็นนายของมัน ในขณะเดียวกันด้านหลังของมู่ชิงซานมีคมดาบทะยานเข้ามา แต่เขาใช้เท้าข้างหนึ่งวาดออกไปอย่างแรง ก่อนเตะศีรษะขององครักษ์ที่หมายปลิดชีวิตเขาเต็มฝ่าเท้า ถึงจะรับมือและหลบหลีกได้อย่างว่องไว กระนั้นมู่ชิงซานยังได้บาดแผลเล็กๆ ตามขาและหัวไหล่ แต่เมื่อตั้งใจที่จะพบหน้าสตรีนางนั้นให้ได้เขาจึงไม่ยอมวางมือง่ายๆ กระทั่งเขาใช้ดาบฟันเข้าที่หลังคารถม้าสำเร็จ จึงกระชากแผ่นหลังคาและฝาไม้ทิ้งอย่างไม่ไยดีอึดใจต่อมา ดวงหน้าของสตรีโฉมงามจึงประจักษ์อยู่ตรงหน้านางผู้นี้ดูละม้ายผู้หญิงที่เขาตามหา