ตอนที่ 4
คืนแรกในหน้าที่ภรรยา
“คุณจะให้ฉันนอนตรงไหนก็บอก”
ภูริดลหันไปมองหน้าคนถามด้วยความแปลกใจในเมื่อเขาจ้างเธอเข้ามาทำงานในตำแหน่งเมียรับจ้างแล้วเรื่องอะไรหญิงสาวมาถามหาที่นอนที่อื่น
“คุณลืมอะไรไปหรือเปล่าผมจ้างคุณมาเป็นภรรยาของผมคุณก็ต้องนอนบนเตียงแล้วก็ทำหน้าที่ภรรยาอย่างสมจริง”
พิรฎาพยักหน้าแต่เธอก็แอบหลบสายตาด้วยความอาย เอาเข้าจริง ๆ เมื่อถึงเวลานี้เธอกลับเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังคิดผิดไปหรือเปล่า การที่เธอจะต้องร่วมหลับนอนกับผู้ชายที่เธอไม่ได้รัก มันคงนำความทุกข์มาสู่เธอแต่ในเมื่อตัดสินใจแล้วเธอก็คงต้องยอมรับมันอย่างน้อยเธอก็มีที่พักอาศัยมีเงินให้ใช้โดยที่ไม่ต้องกลับไปพึ่งพาบิดา
ได้เวลาของอาหารมื้อเย็นเจ้าของบ้านทำหน้าที่เดินนำสมาชิกใหม่ไปยังโต๊ะอาหารที่อยู่บริเวณกลางสนามเพราะวันนี้บารมีตั้งใจจะจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ เพื่อต้อนรับลูกสะใภ้ของเขา
“พิมพ์ไม่รู้ว่าจะมีงานเลี้ยงแบบนี้เลยไม่ได้ลงมาช่วยต้อง
ขอโทษด้วยนะคะ”
สาวน้อยรีบเดินเข้าไปช่วยนารีที่กำลังเดินยกของจากครัวมายังโต๊ะอาหารเพราะแม่บ้านที่นี่มีจำนวนไม่มากนักถ้าเทียบกับงานที่ต้องดูแลบ้านหลังใหญ่ นารีจึงทำหน้าที่เป็นหัวหน้าแม่บ้านที่คอยทำงานด้วยตัวเองหลาย ๆ อย่าง
“หนูพิมพ์ไปนั่งเถอะลูกเรื่องนี้เดี๋ยวน้าจัดการเอง”
หญิงสาวทำท่าจะไม่ยอมทำตามแต่เมื่อหันไปเห็นสายตาของเจ้านาย เธอจึงรู้ว่าเขาคงไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่เธอทำท่ามาสนิทสนมกับแม่เลี้ยงเขาแบบนี้
อาหารส่วน ใหญ่ในงานนี้เป็นฝีมือของนารีที่มีรสชาติไม่เป็นรองใครแม้แต่ภูริดลถึงแม้จะทำท่าไม่อยากจะแตะต้องอาหารแต่สุดท้ายก็เผลอกินอย่างลืมตัวจนคนเป็นพ่อแอบมองด้วยรอยยิ้มในหัวใจ
“หนูพิมพ์เข้ามาอยู่บ้านนี้แล้วทำงานที่ไหนอยากทำงานที่บริษัทเดียวกับดลไหมหรือว่าเรามีงานของเราแล้ว”
บารมีถามลูกสะใภ้เพราะเขาเองยังไม่มีข้อมูลของเธอในเรื่องนี้รู้เพียงแค่ว่าเพิ่งจบจากมหาวิทยาลัยและยังได้เกียรตินิยมอันดับ 1
“ ไม่ล่ะครับคุณพ่อผมจะให้พิมพ์อยู่บ้านอีกหน่อยเธอก็ต้องมีลูกจะได้ทำหน้าที่แม่บ้านเต็มตัว”
คนเป็นพ่อหันมองสบตาลูกชายด้วยความรู้สึกมีความสุขเพราะเขารอคอยการเป็นคุณปู่มานานแสนนานภายใต้การรอหลานนั่นคือการรอเห็นครอบครัวที่อบอุ่นของลูกชายเพราะตลอดเวลาบารมีรู้ว่าเขาเองก็อายุมากขึ้นนับวันถอยหลังที่จะจากโลกนี้ไปจึงอยากให้ลูกชายได้มีครอบครัวจะได้มีเพื่อนอยู่ในวันที่เขาไม่อยู่แล้ว
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย พ่อเองก็อยากอุ้มหลานอยู่เหมือนกันแต่ถ้าหนูพิมพ์เบื่อก็ลงมาช่วยน้านารีเขาทำงานก็ได้นะลูก”
การกินข้าวมื้อเย็นถึงแม้จะดูพร้อมหน้าพร้อมตากันแต่ก็ยังขาดนารีเพราะหญิงวัยกลางคนรู้ว่าถ้าขืนเธอมานั่งร่วมโต๊ะอาหารด้วยก็คงจะทำให้ภูริดลไม่สบายใจและตัวเธอเองก็คงไม่มีความสุขเหมือนกันที่ต้องทนนั่งหลบสายตาของลูกเลี้ยงเธอจึงเลือกที่จะทำหน้าที่คอยเติมอาหารบริการทุกคนเหมือนเป็นส่วนหนึ่งในโต๊ะอาหารแค่ไม่ได้ร่วมนั่งกินด้วย
“คุณน้าทำอาหารอร่อยมากสงสัยพิมพ์ต้องศึกษาบ้างแล้วจะได้มีฝีมือจะเอาไว้เอาใจคุณสามีเพราะเดี๋ยวจะเผลอไปกินอาหารนอกบ้านและอร่อยกว่าและจะลืมภรรยาคนนี้”
พิรฎาเล่นบทเจ้าแง่แสนงอนใส่สามีแต่ภูริดลเล่นสมบทบาทกว่าเขาดึงมือสาวน้อยขึ้นมาหอมก่อนจะโน้มตัวใช้ปากหนาลงไปสัมผัสกับแก้มนุ่มจนเสียงดัง ทุกคนบนโต๊ะจึงพากันหัวเราะด้วยความชอบใจยกเว้นพิรฎาที่ตอนนี้เขินจนหน้าแดงทำอะไรไม่ถูก
เวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับหญิงสาวที่เกิดมาแทบจะไม่มีโอกาสสัมผัสกับชายใดเพราะถูกบิดาเลี้ยงดูมาเหมือนไข่ในหินแทบจะไม่ยอมให้เธอคลาดสายตาไปไหนแต่วันนี้ผู้ชายคนแรกที่มีโอกาสใกล้ชิดกับเธอคำคืนนี้เขาคงจะทำตามที่ได้ตกลงกันไว้คือการให้เธอเป็นภรรยา สำหรับพิรฎาแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น น่ากลัวแล้วน่าอายที่สุด
“ปิดไฟได้แล้ว”
คนหล่อร่างใหญ่กึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียงมองหยิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาเจ้าชู้จนคนถูกมองถึงกับอายต้องหลบสายตาทันที
“คุณง่วงก็นอนไปก่อนเลยฉันยังไม่ง่วงว่าจะนั่งทำอะไรเพลินๆ”
หญิงสาวพยายามหาเรื่องมาถ่วงเวลาเพราะเธอรู้ว่าหลังจากที่ไฟในห้องถูกปิดลงทุกดวงอะไรจะเกิดขึ้นและถึงเวลานั้นเธอก็คงทำได้แค่เพียงยอมเขาเท่านั้น
“ปล่อยค่ะคุณดล พิมพ์ว่าเราอย่าเพิ่ง...”
หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจเมื่อถูกอีกฝ่ายลุกขึ้นจากเตียงนอนมาอุ้มร่างของเธอและโยนลงบนที่นอนก่อนที่เขาจะเอาตัวเองมาค่อมร่างเล็กของเธอไว้พร้อมกับขึงมือทั้งสองข้างของเธอไว้เหนือศีรษะ
“ทำเป็นเล่นตัวเพราะอายหรือความจริงแล้วคุณไม่บริสุทธิ์ก็เลยกลัวผมจะรู้”
ชายหนุ่มเปลี่ยนแววตาจากโหดหื่นกลายเป็นโมโหทันทีเมื่อเขาเริ่มไม่แน่ใจว่าหญิงสาวที่นอนอยู่ภายใต้ร่างใหญ่ของเขานั้นกำลังกลัวหรือเธอมีอะไรปกปิดไว้กันแน่
“คุณจ้างฉันมาขนาดนี้ก็ยังมาดูถูกกัน กล้าไหมล่ะถ้าฉันยังบริสุทธิ์อยู่ คุณพร้อมจะจ่ายเพิ่มให้ไหม รับรองว่าคุณจะได้เป็นผู้ชายคนแรกของฉันแน่นอน”
ชายหนุ่มไม่มีคำตอบเขากลับใช้ปากหนาทาบทับลงบน ปากบางสีชมพูบดขยี้อย่างน้ำใจเหมือนเสือที่กำลังหิวตายมาหลายวันเมื่อเจอเหยื่อนอนอยู่ตรงหน้าก็รีบตะครุบกัดกินอย่างหนำใจ
“อื่อ….ป..ปล่อย”
พิรฎารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหายใจไม่ออกเมื่อร่างหนา ทาบทับลงบนตัวเธอแถมปากของเขายังสาละวนอยู่กับปากสีชมพูของเธอเหมือนกับว่าในนั้นมันช่างหอมหวานเสียเหลือเกิน
หญิงสาวพยายามขัดขืนเพราะเธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่มันควรจะไปต่อไหมแต่ยิ่งดิ้นเท่าไหร่มันเหมือนกับยิ่งทำให้อีกฝ่ายรู้สึกพอใจมากขึ้นไม่นานสาวน้อยผู้อ่อนต่อโลกก็เริ่มหมดแรงลงเมื่อถูกสัมผัสอัรเร่าร้อนของอีกฝ่ายที่กระตุ้นอารมณ์ได้ตรงจุดเหลือเกิน
“อ่า...อื่ิอ..”
ใบหน้าหล่อเข้มซุกไซ้ซอกคอยาวขาวเลื่อนต่ำลงมาถึงเนินอกอวบอิ่มลิ้นสากสาละวนดูดเลียช่อชูตั้ง สาวน้อยบิดตัวไปมาด้วยความรู้สึกเสียวซ่านที่เธอเองไม่เคยได้รู้สึกแบบนี้มาก่อน
สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มหลับตาพริ้มสีหน้าเฉเกเมื่อถูกอีกฝ่ายลูบไล้ลงมาจนถึงส่วนสงวนสองขาเรียวงามถูกแยกออกจากการ หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้ว่าเธอกำลังถูกอีกฝ่ายใช้ปากบรรจง พรมจูบไปใกล้กับสวนสงวน
พิรฎาพยายามจะหนีบขาทั้งสองข้างเพื่อปกป้องไม่ให้สิ่งที่ชายหนุ่มต้องการทำสำเร็จแต่มันกลับไร้ประโยชน์เมื่อสองมือของเขาลูบไล้น้องสาวของเธอร่างกายของเธอก็หมดแรงและพร้อมยอมทำตามในสิ่งที่เขาต้องการ
ภูริดลชายหนุ่มผู้ห่างจากสัมพันธ์สวาทแบบนี้มานาน เขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอารมณ์ที่เขามีอยู่ตอนนี้มันเป็นเพียงแค่อารมณ์ใคร่ของชายกับหญิงหรือตัวเขาเองกำลังรู้สึกพึงพอใจกับ สาวน้อยที่นอนนิ่งพร้อมให้เขามอบความสุขให้แก่เธอ เขารู้แค่เพียงว่าร่างกายของเขาตอนนี้มันต้องการหาทางออกเพื่อปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดที่อัดอั้นอยู่ในหัวใจ
“จะ..พิมพ์เจ็บ..”
แก่นกายความเป็นชายที่มีขนาดไม่ต่างจากลำตัวของเจ้าของค่อย ๆ ตั้งชันบุกรุกเข้าไปแสดงความเป็นเจ้าของในถ้ำสวาทสีชมพูของสาวน้อยที่สะดุ้งสุดตัวเมื่อเธอรู้สึกเจ็บปวดเหมือนกำลังมีบางอย่างขาดลงสองมือเล็กจิกลงไปที่แผ่นหลังเพื่อผ่อนคลายความเจ็บปวดก่อนที่ความเสียวซ่านจะเข้ามาสลับอารมณ์
จังหวะรักค่อย ๆ ถี่หยิบขึ้นทุกทีอารมณ์สวาทโหมแรงขึ้นอีกจนในที่สุดร่างกายทั้งสองรวมกันเป็นหนึ่งประตูสวรรค์เปิดทาง รอรับชายหญิงทั้งคู่ให้ปีนไปสู่ความสุขด้วยกัน
ร่างกายที่หมดแรงของภูริดลค่อย ๆ ปล่อยตัวเองให้ล้มลงนอนแนบสนิทบนอกอวบอิ่มของหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยารับจ้างของเขาโดยสมบูรณ์