“มิเป็นอะไรหรอก เขาคงจะคิดได้เอง”
“วาสนาฟ้าลิขิต หากวาสนาหมดสิ้นย่อมไม่มีวันหน้า ให้ทุกสิ่งเป็นไปตามครรลองเถิด”
ซ่งเชียนฉู่พยักหน้า ในใจพลันผ่อนคลายลงมาก “ดี ข้าจะฟังท่าน”
“ได้ระบายความในใจกับท่าน ในที่สุดก็สบายใจขึ้นมาก”
ซ่งเชียนฉู่อารมณ์ดีขึ้นมาก
ลั่วชิงยวนเองก็ยินดีเช่นกัน การได้นั่งคุยกับสหายสนิทเช่นนี้ช่างหายากยิ่งนัก
น่าเสียดายที่เวลาผ่านไปรวดเร็ว มินานก่อนที่จะรู้ตัวฟ้าก็มืดแล้ว
ลั่วชิงยวนจำต้องกลับไป
“วันพรุ่งข้าจะมาใหม่ ข้าจะพักอยู่บนเขาแห่งนี้ครึ่งเดือน”
ซ่งเชียนฉู่ส่งนางขึ้นสะพานด้วยความอาลัยอาวรณ์
ลั่วชิงยวนจึงพาคนใบ้จากไป
บนสะพาน ลั่วชิงยวนถามคนใบ้ “อาถู่ เจ้ารู้สึกเบื่อหรือไม่?”
“หากเจ้าเบื่อ วันพรุ่งมิต้องมากับข้าก็ได้”
คนใบ้รีบส่ายหน้า
เขาจะเบื่อได้อย่างไร ทุกขณะที่ได้อยู่เคียงข้างนาง เขารู้สึกอิ่มเอมใจอย่างยิ่ง
ถึงแม้จะมิได้พูดจา เพียงแค่มองนางเงียบ ๆ มองนางหัวเราะกับสหาย มองท่าทีที่ผ่อนคลายสบายใจของนาง แค่นั้นหัวใจเขาก็เปี่ยมสุขแล้ว
เมื่อข้ามสะพานไปแล้วก็เข้าสู่ยามราตรีโดยสมบูรณ์
“ข้าจะกลับแล้ว เจ้าไปหาที่พักผ่อนเองเถิด”
คนใบ้พยักหน้า แต่ก็ยังคงติดตา