และด้านข้างของเขา มีชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ยักษ์หลายคน แต่ละคนล้วนหน้านิ่วคิ้วขมวดแววตาเย็นชาใบหน้าเต็มด้วยหนังกร้าวกร้าน มองปราดเดียวก็รู้ทันทีว่าไม่ควรไปข้องเกี่ยวด้วย
ซุ่นจื่อตะโกนด้วยความร้อนรน “คุณหนูใหญ่รีบเข้าไปด้านในก่อนขอรับ คนพวกนี้เป็นพวกอันธพาลท้องถิ่น กล่าวหาว่าในกลุ่มของพวกข้ามีใครบางคนไปขโมยครั่นคร้ามพวกมัน…”
ยังพูดไม่ทันจบประโยค ชายฉกรรจ์คนหนึ่งก็ยกเท้าขึ้นหมายจะถีบซุ่นจื่ออย่างรุนแรง
ชีหยวนขมวดคิ้วขึ้น ทันใดนั้นก็คว้าแจกันดอกไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะด้านข้างขึ้นมา และเขวี้ยงใส่ชายฉกรรจ์คนนั้นอย่างไม่รอช้า
แจกันบุปผาร่วงหล่นกระแทกพื้น เสียงแตกดังสนั่น เศษกระเบื้องพลันกระจายว่อน
ซุ่นจื่อกลิ้งไปด้านข้างด้วยความร้อนรน หลบจากฝ่าเท้าของบุรุษฉกรรจ์คนนั้นได้เฉียดฉิว
ชีหยวนขมวดคิ้วพลางมองเสี่ยวเอ้อร์ที่กล้าเพียงแค่ชะโงกศีรษะออกมาจากช่องบันได “ไปแจ้งทางการให้พวกข้าที บอกว่าที่แห่งนี้มีคนเจตนาชั่วช้ากำลังทำร้ายคน จงใจหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผล ก่อความไม่สงบสร้างความวุ่นวาย!”
เสี่ยวเอ้อร์เสียขวัญเพราะคนกลุ่มนี้อยู่ไม่น้อย ครั้นได้ยินชีหยวนพูดจบ คนเหล่านั้นก็หันมองมายังตนเองทันที ไม่