อินชิงเสวียนตกตะลึง ดวงตาของนางเบิกกว้าง
เย่จิ่งอวี้เบนสายตาไปที่สวีจือย่วนแล้วพูดเบาๆ “เด็กๆ ไปส่งนายหญิงสวีกลับตำหนัก”
“ฝ่าบาท!”
สวีจือย่วนรู้ว่าตัวตนของอินชิงเสวียนไม่อาจถูกเปิดเผยได้ ดังนั้นนางจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล
น้ำเสียงของเย่จิ่งอวี้ลึกล้ำ
“กลับไปซะ วันหลังข้าค่อยไปหาเจ้า”
หลี่เต๋อฝูเดินเข้ามาจากด้านนอกทันที
“เชิญนายหญิงสวี”
สวีจือย่วนไม่กล้าขัดขืนคำสัง จำใจต้องจากไป ก่อนจากไปนางเหลือบมองอินชิงเสวียนแวบหนึ่ง แล้วกัดริมฝีปากของตัวเองอย่างแรง
หวังว่านางจะสามารถพลิกเหตุร้ายให้กลายเป็นดีได้
ห้องโถงตกอยู่ในความเงียบครู่หนึ่ง เหลือเพียงสองคน บรรยากาศหยุดนิ่งชั่วขณะหนึ่ง
อินชิงเสวียนหัวเราะแห้งๆ แล้วพูดว่า “ฝ่าบาท พระองค์สับสนหรือเปล่า กระหม่อมเป็นชาย จะนอนกับพระองค์ได้อย่างไร”
เย่จิ่งอวี้ใช้ดวงตาหงส์จ้องมองตรงไปยังใบหน้าของนางนิ่งๆ
การจ้องมองด้วยสายตากดดัน ทำให้อินชิงเสวียนตื่นตระหนกและหายใจไม่ออก
พูดอย่างจำใจ “ฝ่าบาท พระองค์จะไม่มีความคิดแปลกๆ เพราะคำพูดของไทเฮาหรอกกระมัง”
เย่จิ่งอวี้ยังคงนิ่งเงียบ ความเงียบแปลกๆ นี้บีบบังคับให้คนอึดอัดจนแทบระเบิด
อินชิงเสวียนก