คอของเขาพลันเจ็บแปลบอย่างรุนแรงแล้วจู่ ๆ ก็รู้สึกชาไปทั้งตัว จากนั้นก็ล้มไปกับพื้น
“พระชายา นี่ท่าน…”
เสิ่นหรูโจวทิ้งปิ่นปักผมเปื้อนเลือดของตนเองขณะที่เขาอยู่ในอาการตกใจ นางมองเขาด้วยแววตาอันเย็นชา “หากยังตามข้ามาข้าจะไม่เกรงใจเจ้าอีก!”
ชาติที่แล้ว ตอนที่เซียวเฉินเหยี่ยนเข้าร่วมสงครามแย่งชิงบัลลังก์ เขาอยู่ในสถานการณ์อันตรายง่ายต่อการบาดเจ็บ นางอดเป็นห่วงไม่ไหวทุกครั้ง เพื่อรักษาบาดแผลให้กับเขา นางจึงเรียนรู้วิชาการรักษาจนเชี่ยวชาญและยังเรียนรู้ใช้ทักษะทางการแพทย์ป้องกันศัตรูอีกด้วย
เมื่อชาติก่อน นางช่วยเหลือจุนเจือเขา พอกลับชาติมาเกิด นางกลับได้ใช้มันกับคนของเขาแทน ช่างน่าขำสิ้นดี!
เสิ่นหรูโจวกล่าวเยาะเย้ยตนเองแล้วหันหลังเดินจากไป
จวินอู่ยังอยู่ในอาการตกใจนอนอยู่กับพื้น เขารู้สึกชาและเจ็บไปทั้งตัวและขยับตัวไม่ได้
เสิ่นหรูโจวถึงกับใช้ปิ่นปักผมแทงเขา เมื่อก่อนนางมีแต่ทำดีกับเขา วันนี้นางกินยาอะไรผิดกันแน่ถึงกล้าทำกับเขาเช่นนี้และแทงได้เจ็บมาก!
ที่สำคัญ ตำแหน่งและแรงที่ปิ่นแท่งนั้นแทงลงมาล้วนคุมได้อย่างแม่นยำ คนที่สามารถลงมือเช่นนี้ได้ ไม่ใช่ผู้มีวิชาศิลปะการต่อสู้ที่เก่งกาจก็เป็นหมอที่เชี่ยวชาญวิชาการแพทย์ฉีหวง!
เสิ่นหรูโจวไม่มีวิชาศิลปะการต่อสู้และไม่รู้วิชาการแพทย์เลยนี่!
จวินอู่พลันรู้สึกเหมือนไม่เคยรู้จักเสิ่นหรูโจวมาก่อน ราวกับว่าตั้งแต่วันนี้นางเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน!
เวลาผ่านไปราวหนึ่งถ้วยชา อาการตัวชาของจวินอู่เริ่มหายไปช้า ๆ เขาทนความเจ็บปวดและลุกขึ้นอย่างเร่งรีบ มือถือหนังสือหย่าและตรงไปหาเซียวเฉินเหยี่ยนทันที…
แต่ฤทธิ์ยาที่อยู่ข้างในร่างกายของเสิ่นหรูโจวออกฤทธิ์แรงขึ้นเรื่อย ๆ นางเจ็บที่คอมาก
แม้ว่านางกับเซียวเฉินเหยี่ยนไม่มีความสัมพันธ์นั้นเกิดขึ้นกันจริง ๆ แต่เขาไม่ได้ต่างจากสุนัขเท่าไหร่ เขากัดที่คอของนางแรงมาก นางทนความเจ็บปวดเอาไว้จนกลับมาถึงเรือนของตนเอง
นางเห็นสาวใช้ทันทีที่เดินผ่านประตูเข้ามา…เมี่ยวตงรออยู่ตรงสวน
“คุณหนู!” เมี่ยวตงเห็นเสิ่นหรูโจวกลับมาถึงก็เดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว นางแสดงสีหน้าเป็นห่วงเมื่อเห็นคราบเลือดขนาดใหญ่ที่คอและบาดแผลยาวที่มือของเสิ่นหรูโจว จากนั้นดวงตาก็แดงระเรื่อในทันใด
ต้องค้างคืนกับท่านอ๋องไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงมีบาดแผลเต็มตัวเช่นนี้!
“ท่านอ๋องโหดร้ายเกินไปแล้ว! ทำไมถึงทำกับคุณหนูเช่นนี้ได้ แขนของคุณหนู และคอ…”
“เมี่ยวตง” เสิ่นหรูโจวมองเมี่ยวตงนิ่ง คว้านางเข้ามากอดแล้วดวงตาก็แดงก่ำในทันใด
เมี่ยวตงเป็นสาวใช้สินเดิมของนาง เติบโตมาด้วยกันในจวนแม่ทัพ สนิทสนมกันเหมือนพี่น้อง
ชาติที่แล้วที่นางคอยติดตามตน เมี่ยวตงต้องทนรับสายตาดูถูกจากคนอื่นไม่น้อย สุดท้ายยังเสียชีวิตเพื่อปกป้องนางอีก…
“คุณหนู อย่าร้องไห้…” เมี่ยวตงสัมผัสได้ถึงความชุ่มบริเวณคอ นางคิดว่าเมื่อคืนเสิ่นหรูโจวคงประสบความลำบากมาไม่น้อย จึงอดไม่ได้ที่จะตาแดงและกอดเสิ่นหรูโจวให้แน่นขึ้น
“คุณหนู ท่านอ๋องรังแกท่านหรือเจ้าคะ ให้ข้าน้อยไปหาท่านแม่ทัพหรือแม่ทัพน้อยหรือไม่ พวกเขาจะต้องหนุนหลังท่านอย่างแน่นอน!”
หากกล่าวถึงท่านพ่อกับท่านพี่แล้ว มันเป็นหนามทิ่มใจของเสิ่นหรูโจวยิ่งกว่า สีหน้าของนางซีดเซียวดุจกระดาษขาว ถ้านางเกิดใหม่เร็วขึ้นอีกสักนิด นางก็ไม่ต้องแต่งงานกับเซียวเฉินเหยี่ยนแล้ว
แต่เมื่อเป็นช่วงเวลานี้และไม้ได้กลายเป็นเรือไปแล้ว ก็เท่ากับว่านี่เป็นช่วงเวลาที่นางได้แตกแยกกับท่านพ่อและท่านพี่โดยไม่นึกเสียดายเพื่อให้ได้แต่งงานกับเซียวเฉินเหยี่ยนแล้ว
เวลานี้พวกเขาคงโกรธมาก! แต่ต่อให้เวลานี้พวกเขาโกรธนางเพียงใด หากรู้ว่าวันนี้เซียวเฉินเหยี่ยนรังแกนางเช่นนี้ พวกเขาย่อมมาจัดการเขาถึงที่อย่างแน่นอน!
“ข้าไม่เป็นไร รอให้กลับเรือนแล้วค่อยเข้าพบท่านพ่อกับท่านพี่เถอะ เจ้าอย่าได้ไปรบกวนพวกเขาล่ะ” เสิ่นหรูโจวพูดเสร็จก็มองหน้าเมี่ยวตง “ข้าหิวแล้ว เจ้าไปหาอะไรมาให้ข้ากินหน่อย”
เมี่ยวตงเช็ดน้ำตา “เจ้าค่ะ คุณหนูรอข้าน้อยสักครู่นะเจ้าคะ”
เมี่ยวตงเดินออกไปอย่างเร่งรีบ เสิ่นหรูโจวเข้ามาข้างในแล้วนั่งลงตรงหน้ากระจก นางมองรอยกัดที่มีเลือดไหลตรงคอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจและความเกลียดชัง