ศิษย์ในสำนักต่างเห็นด้วยกับคำพูดของคนเหล่านี้ เว้นก็แต่หลี่เจิ้นหัวและน้องชายสุดรักของนาง ฉินซือหยวนจากที่หลบหลังหมอเทวดาอยู่ก็ออกมายืนข้าง ๆ ให้เห็นหน้าได้ชัด ตอนนี้เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อใครไปทั่ว
เสียงประท้วงดังได้อยู่ไม่นานท่านเจ้าสำนักก็ยกมือขึ้นให้พวกเขาหยุด
“เรื่องที่สตรีผู้นี้ไม่ใช่คนใน ก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปาก เพราะนางเป็นลูกศิษย์ของผู้อาวุโสท่านหนึ่งซึ่งก็เคยร่ำเรียนที่สำนักของเรา ส่วนเรื่องฝีมือของนาง แม้ข้าจะกล่าวไปก็ไม่อาจทำให้พวกเจ้าเชื่อได้นอกจากเห็นด้วยตา ผู้ที่รู้แจ้งคงมีไม่กี่หยิบมือ เช่นนั้นก็ให้โอกาสนางได้แสดงฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์เถิด”
คำแถลงไขของท่านเจ้าสำนักเว่ย แม้ไม่ได้เปลี่ยนการตัดสินใจ แต่ก็ทำให้พวกเขายอมรับได้มากขึ้น พวกเขาจึงได้สงบปากสงบคำลงดังเดิม แต่สถานการณ์ก็ยังไม่สงบลงเสียทีเดียว
“เช่นนั้นท่านเจ้าสำนักโปรดช่วยแถลงไขความข้องใจให้ข้าที แท้จริงแล้วนางผู้นั้นเป็นใครกันแน่”
นางจำได้ว่า คนผู้นั้นคือหว่านเล่อ ยอดฝีมือคนหนึ่งของสำนักเซียนกระบี่ที่กำลังเอ่ยถึงกัน ดูเหมือนเขาเองก็รู้สึกแคลงใจในเรื่องนี้
จากที่หลี่เจิ้นหัวเล่าเรื่องของที่