“ข้าจักทำพันธะสัญญากับเจ้า เพียงคลอดบุตรเท่านั้นใช่หรือไม่ เพียงคลอดไอ้ก้อนเนื้อนั้นออกมาแม้จักฝืนใจข้าเต็มทีเท่านั้นใช่หรือไม่” เจ้าจันทร์ที่ถูกร่ายมนตร์ให้กลับไปนั่งอยู่ประจำบนพระแท่นหนานุ่มนั้นถามขึ้นมาราวกับต้องการตอกย้ำตนเอง น้ำคร่ำที่เปรอะเปื้อนบนฟูกนอนถูกทำความสะอาดด้วยมนต์ของอัปสร กรรณิกานั่งคุกเข่าอยู่ใต้หัวเข่ามนสวยของนาง คลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ถูกที่สุดแล้วเพคะองค์มเหสี เมื่อถึงวันคลอด ดวงตา ความทรงจำของท่านจักกลายเป็นของเรา”
“... ข้ามิสนดอกว่าเจ้าจักเข้ามาหาข้าเพียงเพราะกระไร แต่ถ้าข้าได้กลับบ้านแม้จักต้องแลกด้วยสิ่งสำคัญ ข้ายอมได้ ข้ารังเกียจเดียดฉันท์ยักษาตนนั้นเหลือเกิน”
นางพูดพลางลูบหน้าท้องที่พองโตด้วยสีหน้าเหยเกราวกับรังเกียจสิ่งที่เต้นตุบๆ อยู่ในรังครรภ์อย่างมากล้น ส่วนอัปสรนั้นได้แต่มองท้องของนางอย่างโหยหา อยากพบเจอลูกที่นางเคยอุ้มท้องมาเหลือเกิน
ลูกนั้นจักมีหน้าตาเป็นอย่างไร จักเหมือนเจ้าจันทร์ หรือเหมือนกับพระสุวรรณราพณ์กัน?
แต่เผลอจ้องมองเท่าไหร่หากแต่เลือดเนื้อนั้นมาจากร่างกายของเด็กสาวที่เธอเคยสิงสู่ กรรณิกาแย้มยิ้มหมองเศร้า เธอหยัดกายลุกขึ้นท่ามกลางสายตาอมทุกข