หัวใจของคนเป็นแม่แทบสลายไปพร้อมกับเสียงคร่ำครวญระโหยไห้ปิ่มจะขาดใจของบุตรสาว กับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของชายผู้เป็นสามี ร่างกายที่ควรอวบอิ่มตามสภาวะตั้งครรภ์กลับดูผ่ายผอม ซูบซีด ใบหน้าที่เคยหวานซึ้งตอบลงจนเห็นได้ชัด ดวงตาซึ่งเคยกระจ่างใสก็หม่นหมอง เหลือเพียงร่องรอยแห่งความเศร้าระทมใจ ผู้เป็นแม่เอื้อมมือเหี่ยวย่นไปวางลงบนบ่าที่กำลังสั่นสะท้านตามแรงสะอื้นของบุตรสาว
“ตัดใจเสียบ้างเถอะแม่พุดซ้อน ลูกไม่ได้ตัวคนเดียวเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว จะอย่างไรก็คิดถึงหลานของแม่ที่อยู่ในท้องของลูกบ้างเถอะนะ”
ผู้เป็นแม่เอ่ยปลอบด้วยน้ำเสียงอาทร เต็มไปด้วยความห่วงใยอย่างปฏิเสธไม่ได้ว่าท่านคือต้นเหตุแห่งความทุกข์ที่เกิดกับบุตรสาว ทิฐิและความอคติของลูกถูกบ่มเพาะถ่ายทอดมาจากนิสัยของท่านทั้งสิ้น หรือเป็นเพราะบาปเวรที่ท่านเคยกระทำไว้กับหลายชีวิต สวัสดิ์ บุตรชายของท่านก็จากไปแล้วคนหนึ่งแล้วเวรกรรมยามตามตกมาที่บุตรสาวผู้เป็นดังดวงใจที่เหลือเพียงดวงเดียวของท่านอีก
คุณหญิงยี่สุ่น อรรถสุนทร ผู้เป็นมารดาของพุดซ้อนเป็นสตรีร่างเล็ก วงหน้ารูปไข่ งดงามสมวัย ดวงตาคมลึกเคยฉายแววความเข้มงวด ดุดัน และเจ้าระเบียบ บัดนี้กลับเต็มไปด้วยร่องรอยหม่นเศร้าทุกข์ทรมานใจ ริมฝีปากบางเฉียบส่อเค้าความถือตัวมิใช่น้อยเม้มเป็นเส้นตรง ราวกับหวังว่าจะช่วยบรรเทาอาการยอกแสลงในอกให้เบาบางลงไปได้บ้าง
คฤหาสน์อรรถสุนทรที่เคยแช่มชื่นไปด้วยความสดใสของบรรดาเหล่าลูกหลานพลันต้องระส่ำระสาย ลูกหลานกระจัดพลัดพรายไปคนละทิศละทาง เพราะความถือดียึดมั่นถือมั่นในตนเองมากจนเกินไป ความดื้อรั้นถืออำนาจของคุณหญิงยี่สุ่น โดยไม่ฟังเสียงใครทำให้เสียงหัวเราะและความสุขในบ้านหลังนี้หายไป ทั้งสวัสดิ์ พุดซ้อน แสงเทียน และเพทายต่างเป็นทุกข์เพราะความเอาแต่ใจตนเป็นที่ตั้งของตัวท่านเองเป็นเหตุทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ท่านผลักดันสวัสดิ์ บุตรชายคนโตจนต้องจบชีวิตไปคนหนึ่ง ยังมีความผิดซ้ำสองเรื่องแสงเทียนบุตรสาวถมทองผู้เป็นภรรยารอง และยังมีเรื่องที่ท่านทำผิดต่อเพทาย บุตรสาวคนสุดท้องจากสารภี ภรรยาที่สามนั่นก็อีก ป่านนี้จะเป็นตายร้ายดีกันอย่างไรก็ไม่รู้ได้ ส่วนพุดซ้อนที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะถูกท่านบังคับให้แต่งงานกับนายพันตรีหลวงสีหราชเดโช ความดื้อดึงของท่านถูกถ่ายทอดไปยังบุตรสาว ทำให้พุดซ้อนซึ่งมีลักษณะเหมือนจะเป็นคนหัวอ่อนซุกซ่อนอาการดื้อเงียบไว้ภายในได้อย่างน่าตกใจ หล่อนยินยอมแต่งงานกับคนที่ท่านเลือกให้ แต่ต่อต้านด้วยการสร้างกำแพงทิฐิปิดกั้นความรู้สึก จนเป็นเหตุให้ชีวิตรักต้องพบกับวิบัติอยู่เช่นนี้
คุณหญิงยี่สุ่นถอนหายใจแผ่วยาว ระบายความทุกข์ที่อัดแน่นอยู่ในอก อีกนานแค่ไหนกว่าความรู้สึกผิดบาปนี้จะจางไปจากใจดวงนี้...เสียงที่เอ่ยปลอบประโลมบุตรสาวจึงแผ่วสะท้อนออกมาจากความเจ็บปวดสุดซึ้งจากใจของผู้เป็นแม่
“หากวิญญาณมีจริง คุณหลวงคงจะกำลังทุกข์ใจที่ได้เห็นลูกตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ คงจะห่วงทั้งเมียและลูกที่อยู่ในท้องของหนูมากแน่ๆ เลิกร้องไห้ทรมานตัวแบบนี้เสียทีเถอะลูกเอ๊ย ไม่ห่วงตัวเองก็ห่วงลูกในท้องบ้าง”
ดูเหมือนเสียงปลอบโยนและสัมผัสแผ่วเบาของยี่สุ่นจะไม่สามารถทลายกำแพงความเจ็บปวดผ่านเข้าไปในความรู้สึกของพุดซ้อน ซึ่งกำลังสะอื้นปิ่มว่าจะขาดใจเลยแม้แต่น้อย โลกของหญิงสาวพร่ามัวเพราะหยดน้ำที่ขลังคลอนัยน์ตาไม่ขาดสาย หัวใจดวงเล็กที่แหลกสลายลอยคว้างอยู่ในห้วงภวังค์แห่งความทุกข์ จึงไม่รับรู้สรรพสำเนียงและความเจ็บปวดของผู้เป็นมารดา
“คุณหลวง...”
ริมฝีปากแห้งผากเรียกขานแบบนั้นซ้ำๆ แต่ไร้สรรพเสียงเล็ดลอดออกมา คงจะสะท้อนก้องอยู่ในความคำนึงพร้อมกับการเต้นอ่อนล้าของหัวใจที่เจ็บแปลบ ร้าวลึกทุกครั้งที่หวนหา ดวงตาตัดพ้อที่เคยทอดมองเธอนิ่งๆ คู่นั้นยังติดตรึงในดวงใจ ถ้อยคำฝากรักและสัมผัสเว้าวอนยังฝังแน่นประทับตรึงอยู่ในหัวใจเจ้าทิฐิดวงนี้ไม่เสื่อมคลาย
‘ไม่ว่าชาตินี้หัวใจของน้องจะเป็นของชายใด แต่น้องจงจำไว้เถิดว่าหัวใจรักของพี่นี้จะเป็นของน้องแต่เพียงผู้เดียวตราบจนวันตาย พี่รักเธอ รักเสมอ’
“กลับมาหาน้องอีกสักครั้งสิคะ กลับมาฟังคำสารภาพจากหัวใจของน้องก่อน อย่าทิ้งน้องไปแบบนี้สิคะคุณหลวง”
หัวใจโหยไห้พร่ำรำพันด้วยความปวดร้าว แม้วันสุดท้ายของชีวิต เธอก็ยังมิเคยได้สารภาพรักกับยอดดวงใจเลยสักคำ สามีของเธอจากไปทั้งที่ยังไม่เข้าใจกัน จากไปพร้อมกับความเข้าใจผิดคิดว่าความรักของเธอไม่ได้มีไว้เพื่อเขา ทั้งที่ในความเป็นจริงหัวใจเจ้าทิฐิดวงนี้เป็นของเขาเพียงผู้เดียวตลอดมา
“หากชาติหน้ามีจริง น้องจะขอตามรักคุณหลวงไปทุกชาติ ไม่ว่าหัวใจของคุณหลวงจะเป็นของใคร น้องจะตามไปขอทวงคืน” หัวใจอ่อนล้ากระซิบคำมั่นด้วยความรู้สึกหม่นหมองและเดียวดาย
ยี่สุ่นกอดร่างสะท้านของลูกไว้แนบอก หัวใจของคนเป็นแม่พลอยรับรู้ความเจ็บปวดที่เกิดกับลูกไปด้วย
45 ปีต่อมา ณ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ข่าวตำรวจตระเวนชายแดนปะทะกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ จนตำรวจชายแดนได้รับบาดเจ็บที่อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่านกำลังเป็นหัวข้อสนทนาของลุงละเอื้อนพี่ชายของบิดารอยสยามที่เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ญาติและลูกหลานที่มาเยี่ยมหาถึงบ้านที่หัวหินฟังถึงความประทับใจเมื่อครั้งอดีต
ครอบครัวราชโยธินเป็นครอบครัวใหญ่ มีญาติพี่น้องหลายสาย คุณปู่ของรอยสยามคือนายพันเอกหลวงเกษมศักดิ์ ราชโยธินซึ่งมีภรรยาถึงสี่คน ลุงละเอื้อนเป็นบุตรชายคนเดียวของภรรยาหลวง ส่วนพ่อของรอยสยามเป็นบุตรชายคนโตของคุณย่าเล็ก ภรรยาคนที่สี่ ราชโยธินจึงเสมือนต้นไม้ที่มีกิ่งก้านแตกแขนงหลายสาขา แต่บรรดาพี่ๆ น้องๆ ทุกคนล้วนรักใคร่กลมเกลียวกัน บิดาของรอยสยามมีพี่น้องหลายคนแต่เมื่อท่านแต่งงานกับคุณหญิงสีวิกา เนติธรกลับมีรอยสยามเป็นบุตรชายเพียงคนเดียว หากทว่ารอยสยามกลับไม่รู้สึกว่าตัวเองเหมือนลูกโทนคนเดียวเพราะบรรดาลูกพี่ลูกน้องไปมาหาสู่กันบ่อยทำให้สนิทสนมรักใคร่กันราวเกิดจากบิดามารดาเดียวกัน