เฟิ่งจิ่วเหยียนมิทราบสาเหตุที่ตัวเองหมดสติ
เมื่อตื่นขึ้นมา พลันได้เห็นเซียวอวี้นั่งอยู่ข้างเตียง ด้วยสีหน้าบึ้งตึง และประกายตาคมกริบกว่าเดิม
“ตื่นแล้วรึ?” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เจือกลิ่นอายสังหาร
นางมองเลยออกไป จึงได้เห็นเหลียนซวงคุกเข่าอยู่บนพื้น
ยังมีเสียงกรีดร้องโหยหวนติดต่อกันอยู่นอกตำหนัก ลอยทะลุเข้ามาในโสตของนาง
หนึ่งในนั้นมีซุนหมัวมัวที่ถูกทรมานอย่างหนักด้วย
นางถูกโบยด้วยไม้ ปากก็ร้องตะโกนขอความเป็นธรรม
“ฝ่าบาท บ่าวมีความภักดีต่อฮองเฮาอย่างสุดซึ้ง! ฝ่าบาทเพคะ——บ่าวไม่มีเหตุผลที่จะทำร้ายพระโอรสเลย...”
เฟิ่งจิ่วเหยียนต้องการลุกขึ้น กลับได้ยินเซียวอวี้กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
“นอนลง!”
นางรู้สึกสับสน
ทว่ายังรู้สึกได้ชัดเจนถึงร่างกายที่อ่อนแรงมาก
ราวกับถูกถ่ายเลือดออกมา...
น้ำเสียงของเซียวอวี้มิต่างจากกรวดทราย ที่ประสานกับความหนาวเหน็บของเหมันตฤดู
“หากว่าเจ้ากำลังตั้งครรภ์บุตรอยู่จริง ๆ วันนี้คงรักษาชีวิตไว้มิได้”
เฟิ่งจิ่วเหยียนย่นคิ้วเบา ๆ
ร้ายแรงถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?
เหลียนซวงก็เงยหน้า