ความหวามหวานแสนเสียวที่เขาปรนเปรอให้จนสุดปลายทางเมื่อครู่ทำให้พรีมอ่อนเปลี้ย แต่พอเขาลุกขึ้นยืนแล้วอุ้มเธอขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์ พรีมก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หญิงสาวรอคอยในขณะที่เขาดึงกางเกงนอนลงไปกองที่เท้าแล้วสะบัดออก ลำกายอวบยาวเด้งออกมาโชว์ต่อหน้าต่อตาทำให้เธอกลืนน้ำลายอึกใหญ่ พอเขาขยับเข้ามาใกล้ พรีมก็ใช้สองขารัดเอวสอบ และโอบกอดลำคอแกร่งไว้
“พรีม...มันคิดถึงคุณมากแค่ไหน คุณเห็นหรือเปล่า” ชิณณ์กระซิบเสียงสั่นพร่า เขาสบตาเธออย่างเชิญชวน พอเขาหลุบตามองตรงกลางระหว่างเขากับเธอ พรีมก็ก้มมองตาม
ชิณณ์จับส่วนหัวมนทู่ลากไล้ขึ้นลงช้า ๆ เสียงเนื้อน้ำเสียดสีกันดังหยาบโลน มันกระตุ้นอารมณ์ร้อนรักของหนุ่มสาวให้พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งได้เห็นด้วยตา ได้ยินเสียง และสัมผัสมันด้วยสัดส่วนที่ไวต่อความรู้สึก หัวอกหัวใจก็หวามไหว กระสันอยากอย่างแรงกล้า
พรีมเฝ้ามองสิ่งที่เขากระทำต่อเธอด้วยใจเต้นระรัวแรง พอเขาจับส่วนหัวกดเข้าสู่ร่องรักชุ่มฉ่ำ พรีมก็กรีดเล็บลงบนลำคอแกร่งเพื่อระบายความเสียวซ่าน เธอแอ่นเนินเนื้อรองรับเขาด้วยความเต็มใจ
เมื่อส่งส่วนหัวเข้าสู่ปากทางร่องรักแล้ว ชิณณ์
ตอนที่ชิณณ์ลงมาจากห้อง ทุกคนในบ้านเตรียมตัวพร้อมสำหรับการเดินทางแล้ว พอเห็นปะป๊าเดินมาใกล้ เจ้าตัวเล็กที่นั่งอยู่บนตักคุณปู่ก็ยื่นสองมือออกไปหาปะป๊าทันที แถมยังส่งเสียงเรียกน่าเอ็นดู“ปะปะ ปะปะ”“ห่างนิดห่างหน่อยไม่ได้ เจ้าตัวขี้อ้อน !” คุณย่าพุดซ้อนว่าพลางยิ้มเอ็นดูหลานสาว“ไป ๆ ไปหาปะป๊านะลูก”คุณปู่โชครีบส่งเจ้าตัวน้อยให้ปะป๊ารับไปโอบอุ้มเต็มอ้อมแขน พอได้อยู่กับอกปะป๊า เด็กหญิงตัวเล็กก็กอดคอปะป๊าไว้แน่น แล้วซบหน้าอิงแก้มยุ้ยกับบ่าอบอุ่นอย่างคุ้นเคย“ไปกันเถอะครับ” ชิณณ์เอ่ยปากชวนทุกคนพอคุณพ่อโชคประคองคุณแม่พุดซ้อนเดินออกไปก่อน เขาก็อุ้มลูกสาวไว้ด้วยวงแขนข้างหนึ่ง แล้วยื่นมืออีกข้างไปตรงหน้าภรรยาพรีมมองสบตาเขาแล้วยิ้มอ่อนหวาน เธอวางมือนุ่มลงบนฝ่ามือของเขา ชิณณ์กระชับมือเธอไว้ในมืออบอุ่น ก่อนจะพาเดินตามคุณพ่อคุณแม่ไปยังรถตู้ที่จอดรออยู่หน้าบ้านตลอดการเดินทาง ชีต้าเกาะติดปะป๊าตลอด กระทั่งผล็อยหลับไปสองแขนก็ยังโอบกอดลำคอปะป๊าเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ชิณณ์โอบกอดลูกสาวไว้ด้วยวงแขนข้างหนึ่งอย่างมั่นคง
มือป้อม ๆ ที่ตีแปะ ๆ อยู่บนใบหน้าทำให้คนที่กำลังหลับอยู่บนเตียงงัวเงียลืมตาตื่น พอเห็นว่าเป็นใคร ริมฝีปากหยักก็คลี่ยิ้มกว้าง ร่างสูงพลิกตัวกดเจ้าตัวจ้ำม่ำนอนหงาย แล้วก้มฟัดพุงอวบ ๆ อย่างมันเขี้ยวเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊าก และอาการตีแขนขาอย่างพออกพอใจของลูกสาววัยเก้าเดือน ทำให้คุณแม่ที่ยืนมองอยู่ข้างเตียงอมยิ้ม เธอเป็นคนปล่อยคุณลูกขึ้นไปปลุกปะป๊าเอง“ลุกไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ” เสียงดุ ๆ ของคุณภรรยาทำให้ชิณณ์หันไปยิ้มให้เธอ ก่อนจะหันกลับมาจูบและหอมลูกสาวสุดรักสุดดวงใจไปทั้งตัว ไม่เว้นแม้กระทั่งฝ่าเท้าน้อย ๆ สองข้าง“ปะป๊ากำลังจะทำให้เราสองคนผิดนัดกับคุณปู่คุณย่านะคะ” พรีมกอดอกจิกตามองคนที่มัวโอ้เอ้เล่นกับลูกโดยไม่สนใจที่เธอบอกชิณณ์ปรายตามองภรรยา ขณะที่ปากของเขาประทับอยู่บนฝ่าเท้าของลูก เขาพูดอู้อี้กับฝ่าเท้าป้อม ๆ นุ่ม ๆ ว่า“ดุยังกับแม่เสือ”“คุณชิณณ์” พรีมใช้โทรเสียงราบเรียบเพราะเธอกลัวลูกสาวตกใจ ทว่าสายที่มองสามีนั้นดุยังกับแม่เสืออย่างที่เขาว่า“เฮ้อ ! ชีต้าครับ ปะป๊าขอเวลานอกไปอาบน้ำก่อนนะครับ มีคนดุ ปะป๊ากลัวโดนดูดหัว เอ
ความหวามหวานแสนเสียวที่เขาปรนเปรอให้จนสุดปลายทางเมื่อครู่ทำให้พรีมอ่อนเปลี้ย แต่พอเขาลุกขึ้นยืนแล้วอุ้มเธอขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์ พรีมก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หญิงสาวรอคอยในขณะที่เขาดึงกางเกงนอนลงไปกองที่เท้าแล้วสะบัดออก ลำกายอวบยาวเด้งออกมาโชว์ต่อหน้าต่อตาทำให้เธอกลืนน้ำลายอึกใหญ่ พอเขาขยับเข้ามาใกล้ พรีมก็ใช้สองขารัดเอวสอบ และโอบกอดลำคอแกร่งไว้“พรีม...มันคิดถึงคุณมากแค่ไหน คุณเห็นหรือเปล่า” ชิณณ์กระซิบเสียงสั่นพร่า เขาสบตาเธออย่างเชิญชวน พอเขาหลุบตามองตรงกลางระหว่างเขากับเธอ พรีมก็ก้มมองตามชิณณ์จับส่วนหัวมนทู่ลากไล้ขึ้นลงช้า ๆ เสียงเนื้อน้ำเสียดสีกันดังหยาบโลน มันกระตุ้นอารมณ์ร้อนรักของหนุ่มสาวให้พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งได้เห็นด้วยตา ได้ยินเสียง และสัมผัสมันด้วยสัดส่วนที่ไวต่อความรู้สึก หัวอกหัวใจก็หวามไหว กระสันอยากอย่างแรงกล้าพรีมเฝ้ามองสิ่งที่เขากระทำต่อเธอด้วยใจเต้นระรัวแรง พอเขาจับส่วนหัวกดเข้าสู่ร่องรักชุ่มฉ่ำ พรีมก็กรีดเล็บลงบนลำคอแกร่งเพื่อระบายความเสียวซ่าน เธอแอ่นเนินเนื้อรองรับเขาด้วยความเต็มใจเมื่อส่งส่วนหัวเข้าสู่ปากทางร่องรักแล้ว ชิณณ์
พรีมปิดก๊อกน้ำ และเช็ดมือกับผ้าที่แขวนที่อยู่ใกล้ ๆ เธอแตะมือลงบนลำแขนที่รัดเอวเธออยู่“หิวหรือยังคะ พรีมทำกับข้าวมาให้ตั้งหลายอย่าง ของโปรดคุณทั้งนั้นเลย”ชิณณ์ถอนหายใจแรงแนบเนื้อนุ่มตรงซอกคอสาว เขาเงยหน้าขึ้นมาแล้วจับเธอหมุนมาหา ตาคมจ้องมองดวงหน้านวลเป็นประกาย“หิวแล้ว” ชิณณ์ตอบยิ้ม ๆ และรอยยิ้มของเขาไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย“กินข้าวก่อนนะคะ”พรีมรู้ว่าเขาหมายถึงหิวอะไร แต่เธอก็หาทางหลบเลี่ยงชิณณ์หัวเราะในลำคอ เขาถอนหายใจแรง ก่อนจะก้มหอมแก้มนุ่มฟอดใหญ่“คิดถึง”ชิณณ์แตะมือบนแก้มสาว เขาใช้นิ้วโป้งไล้แก้มเธอเบา ๆ ตาคมหลุบมองปากอิ่มที่เขารู้ว่าหวานเย้ายวนขนาดไหน พรีมมองตามสายตาเขา เธอเม้มปากแล้วแลบลิ้นเลียปากโดยไม่รู้ตัว คนที่มองอยู่จึงไม่อาจหักห้ามใจได้ ชิณณ์กอดรัดเธอมาแนบชิดด้วยวงแขนข้างหนึ่ง เขาประคองท้ายทอยเธอไว้ในฝ่ามืออีกข้าง แล้วแนบปากลงบดจูบด้วยความโหยหาพรีมทอดถอนใจบางเบา เธอยกแขนขึ้นโอบลำคอแกร่ง เผยอปากรับจูบจากเขาด้วยความเต็มใจ ปากอิ่มถูกจูบเรียกร้อง ลิ้นเล็กถูกดูดดึงหยอกล้อ เขาจ้วงลิ้นควานทั่วโพรงปากนุ่มอุ่น ปรน
พอไม่ได้เห็นหน้าคนที่เธอเคยเห็นทุกวันก่อนหน้านี้ พรีมก็เป็นฝ่ายกระวนกระวายใจเสียเอง เขาไปนอนที่คอนโด หรือนอนที่ผับ แล้วถ้านอนที่ผับ เขานอนกับใคร จะนอนคนเดียวอย่างที่แม่พุดซ้อนบอกเธอหรือเปล่า คนหื่นอย่างเขา จะอดเรื่องแบบนั้นได้เหรอ“หนูพรีม เป็นอะไรลูก นั่งเหม่อเชียว” แม่พุดซ้อนทักเมื่อเห็นหญิงสาวเอาแต่นั่งเหม่อ ใบตองในมือนั้นก็ถือค้างนานแล้ว แต่เธอไม่ยอมหยิบก้อนแป้งขนมเทียนไปใส่สักที“เอ่อ...เปล่าค่ะคุณแม่”พรีมยิ้มเจื่อน หญิงสาวหยิบแป้งก้อนกลมมีไส้ข้างในมาใส่ในใบตองแล้วห่ออย่างรวดเร็วแม่พุดซ้อนมองอาการว่าที่ลูกสะใภ้แล้วยิ้มเอ็นดู ที่ยังเรียกว่าว่าที่ลูกสะใภ้ เพราะลูกชายของท่านยังไม่ปัญญาจีบเมียตัวเองติด ทั้งสองยังคงนอนคนละที่ ยังไม่ได้พูดคุยตกลงอะไรกันด้วยซ้ำหลังจากห่อขนมเทียนเสร็จ แม่พุดซ้อนจึงสั่งให้เด็กรับใช้มาเอาไปนึ่ง แล้วหันไปชวนพรีมไปคุยกันในห้องนั่งเล่น สองสัปดาห์ยังไม่นานเท่าไรก็จริง แต่ดูท่าทางแล้ว หากไม่มีใครเชื่อมช่องว่างระหว่างสองคนนี้ เห็นทีลูกชายของท่านอาจจะต้องรอนานจนใจขาดเลยก็ได้“มานั่งตรงนี้จ้ะ” แม่พุดซ้อนนั่งลงที่โซฟาต
ทุกคนปล่อยให้พรีมร้องไห้จนพอใจ พอเธอคลายสะอื้น แต้มรักจึงดันบ่าเธอออกเบา ๆ“ไม่ร้องแล้วนะแก เดี๋ยวหลานฉันจะกลายเป็นเด็กขี้แยเหมือนแม่” แต้มรักเช็ดน้ำตาให้เพื่อนเบา ๆพรีมพยักหน้า หญิงสาวสูดน้ำมูกแล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้เพื่อน“แกต้องคุยกับคุณชิณณ์”“ฉันไม่คุยกับคนเอาแต่ใจ” พรีมว่าพลางสะอื้น เธอมองค้อนเขาด้วยความน้อยใจ เขามันคนเอาแต่ใจ พอเธอไม่ยอมรับข้อเสนอของเขา เขาก็ขึ้นเสียงกับเธอ“ไม่อยากคุยกับใครก็ไม่ต้องคุยนะจ๊ะหนูพรีม มาคุยกับแม่ดีกว่า”พรีมหันไปมองแม่พุดซ้อน เมื่อกี้เธอร้องไห้อยู่กับอกท่านทั้งที่ยังไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร แต่อ้อมกอดและน้ำเสียงของท่านทำให้เธออบอุ่นใจและวางใจอย่างที่ไม่เคยได้รับมานานแล้ว“คุณแม่พุดเป็นแม่ของคุณชิณณ์ แล้วก็คุณพ่อโชคเป็นพ่อของคุณชิณณ์” แต้มรักบอกเพื่อนให้ทราบว่าผู้สูงวัยสองท่านเป็นใครพรีมรีบยกมือไหว้ผู้สูงวัยทั้งสองท่านอย่างนอบน้อม ทั้งสองรับไหว้และยิ้มเอ็นดูเธอ แม่พุดซ้อนยื่นมือมาลูบศีรษะเธอ และมองเธอด้วยความสงสารและเห็นใจ เพราะจากการที่สามีให้คนไปสืบประวัติของพรีม ทำให้ท่านทราบว่าพรีมน่าสงสา
พรีมจ้องมองเขาผ่านม่านน้ำตา ดวงตาคู่สวยแดงก่ำ ปากอิ่มสั่นระริก เขาจะมาเข้าใจอะไร เธอไม่ได้กังวลแต่เรื่องยอดหนี้สักหน่อย เธอกลัวหัวใจตัวเอง กลัวว่ามันจะรู้สึกกับเขาไปมากกว่านี้ แค่นี้เธอก็สับสนไปหมดแล้ว เธออยากอยู่ห่างเขา หากการอยากได้ที่ดินคืนจะทำให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเองแบบนี้ เธอก็ไม่อยากได้อะไรแล้ว“พรีมไม่เอา พรีมไม่อยากได้ พอแล้ว…ฮึก ๆ” พรีมสะอื้นไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้น น้ำตาพรั่งพรูอาบสองแก้มเนียน“ชิณณ์ ! ลูกทำอะไรหนูพรีม”ชิณณ์กำลังจะดึงเธอมากอดปลอบด้วยความสำนึกผิดที่ขึ้นเสียงกับเธอ แต่เขาก็ต้องชะงัก เพราะประตูเปิดออกพร้อมกับเสียงดุของมารดา เขาหันไปมองมารดาแล้วส่ายหน้า เขาไม่ได้ทำอะไรเธอ เขาแค่เสียงดังนิดเดียวเอง และพอเธอร้องไห้ เขาก็รู้สึกสำนึกผิดแล้วแม่พุดซ้อนเดินนำเข้ามาก่อน คุณโชคเดินตามมาติด ๆ แต้มรักกับพุฒที่เพิ่งออกไปได้ครู่เดียวก็เดินตามเข้ามาด้วย ทุกคนมองชิณณ์ด้วยสายตาตำหนิไม่พอใจชิณณ์อยากจะอธิบายว่าเขายังไม่ได้ทำอะไรเธอ เขากำลังตกลงกับเธอดี ๆ แม้เขาจะเสียงดังไปนิด แต่เขาก็ไม่ได้ทำร้ายเธอ แต่เขายังไม่ทันได้พูดอะไร คุณแม่ของเขาก็เ
ชิณณ์ไม่เคยรู้สึกผิดและจำยอมให้ใครถึงขนาดนี้เลย แต่เพราะคำต่อว่าของแต้มรักที่ว่าเขาเป็นต้นเหตุให้พรีมต้องตกอยู่ในอันตรายยังดังก้องอยู่เต็มสองหู เขาจึงได้แต่ยอมทำตามที่แต้มรักต้องการแต้มรักประคองพรีมลุกขึ้นนั่ง และยกแก้วน้ำจรดริมฝีปากพรีม เมื่อพรีมดื่มน้ำเสร็จ แต้มรักก็หันกลับมายื่นแก้วให้ชิณณ์เอาไปเก็บ ส่วนเธอหันไปกดปุ่มปรับหัวเตียงให้ยกขึ้น แล้วนำหมอนใบโตไปวางพิงหัวเตียงไว้ ให้พรีมเอนหลังนั่งอย่างสบายตัวพรีมสูดลมหายใจลึก เธอมองไปรอบตัวด้วยความมึนงง ที่นี่คือโรงพยาบาล แต่เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ความทรงจำครั้งสุดท้ายของเธอคือ เธอยืนรอแท็กซี่อยู่หน้าคอนโดของชิณณ์ มีรถเก๋งสีดำมาจอดตรงหน้า มีผู้ชายสองคนลงมาจับตัวเธอ แล้วหลังจากนั้น เธอก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย“แกปวดหัวไหมพรีม หิวข้าวไหม หรืออยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า”“ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้ เกิดอะไรขึ้นหรือแต้ม” พรีมยื่นมือไปจับมือเพื่อนมาบีบเบา ๆ เธอเห็นแล้วแหละว่า ใครบางคนที่เธอพยายามหนีอยู่ในห้องนี้ด้วย แต่เธอไม่อยากคุยกับเขา ไม่อยากมองหน้าเขา เธอถือว่าพันธสัญญาของเธอกับเขาสิ้นสุดลงแล้ว และเธอก็คืนโฉน
“เอวาเป็นคนให้คนของพี่อานนท์ไปจับตัวพรีมก็จริง แต่พวกนั้นทำงานไม่สำเร็จ มีคนมาแย่งตัวพรีมไประหว่างทาง พรีมไม่ได้อยู่ที่นี่ค่ะ”“ใคร !” ชิณณ์ตะคอกถามเสียงดังลั่นห้อง ใบหน้าของเขาตอนนี้ดุดันโกรธขึ้งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ดวงตาคู่คมวาววับกรุ่นโกรธ“เอ่อ...คนของคุณโชคค่ะ”ชิณณ์สูดลมหายใจลึก เขาขบกรามแน่น“ฟังนะเอวา...จบคือจบ อย่ามายุ่งกับผม อย่ามายุ่งกับคนของผมอีก” ชิณณ์จ้องหน้าหญิงสาวด้วยสายตาโกรธแค้น“ระ...รู้แล้วค่ะ” เอวากอดแขนพี่ชายไว้แน่น เธอไม่นึกว่าชิณณ์จะโมโหร้ายขนาดนี้ เธอคิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่ของเล่นของเขา หากเธอจับตัวมันมา แล้วเขาก็จะลืมมันเอง แบบนั้นจะทำให้เธอมีโอกาสเข้าใกล้เขาได้อีก แต่มันไม่เป็นไปอย่างที่เธอคิด ลำพังชิณณ์ตามมาเอาเรื่องที่นี่ยังไม่เท่าไร แต่เพราะคุณโชคเตือนเธอไว้ว่า ห้ามยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นอีก ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเธอจะเดือดร้อน เอวาจึงไม่คิดจะยุ่งกับชิณณ์และผู้หญิงของเขาอีกแล้ว“ดูแลน้องมึงให้ดี ๆ กูไม่ทำร้ายผู้หญิงก็จริง แต่กูสั่งให้คนอื่นทำแทนได้”ชิณณ์ขู่ทิ้งท้ายก่อนจะหันหลังให้สองพี่น้อง เขาเปิดป