7
It’ s Bad! แย่แล้ว…เพื่อนสนิทฉันเป็นมาเฟีย
ที่ระบาย (NC)
หมับ!
“อ๊ะ! ริว…” ไม่ทันที่สติของเธอจะครบถ้วน ริวเซย์ก็ใช้ท่อนแขนช้อนอุ้มร่างบอบบางขึ้นมาในท่าเจ้าสาว มือเล็กเกาะคอเสื้อตัวแพงเอาไว้ อีกข้างสอดคล้องลำคอหนา
ริวเซย์ไม่ได้ตอบอะไร เขาอุ้มร่างขนมผิงเดินออกมาจากห้องแล้วเดินมาที่ชั้นล่างผ่านฝูงชนมากมายที่มองมา กระทั่งมาถึงรถอัลพาร์ดที่จอดอยู่หน้าร้าน คนขับรถยืนรออยู่แล้ว พอเห็นเจ้านายออกมาก็ขึ้นประจำที่คนขับ ส่วนนิกก็เดินขึ้นไปนั่งข้างคนขับ
“ไปโรงแรม” ริวเซย์เอ่ยสั่งกับคนขับรถ ไม่นานม่านกั้นก็ถูกเลื่อนมาสุดของอีกฝั่งจนมิด
ขนมผิงนั่งอยู่บนตักของทายาทมาเฟีย ริวเซย์ไม่รอช้าทันทีที่ม่านปิดสนิทเขาก็ดันใบหน้าหวานเข้ามาประกบจูบทันที ขนมผิงยอมเปิดปากและจูบตอบอย่างไร้เดียงสา
เสียงหอบหายใจของคนทั้งสองดังออกมาเป็นระยะให้ได้ยิน ริวเซย์จูบริมฝีปากบางหอมหวานด้วยความหลงใหล และต้องการเธอจนควบคุมตนเองไม่อยู่ ขนมผิงเองหัวใจเต้นแรง เธอเคลิบเคลิ้มไปกับจูบที่ริวเซย์มอบให้
สองสายตาสอดประสานมองกันด้วยห้วงอารมณ์แห่งความอยาก ริวเซย์ยังคงตักตวงความหอมหวานจากริมฝีปากนุ่มนิ่มอย่างไม่รู้จักพอ มือหนาอยู่ไม่นิ่งขยับมาบีบเคล้นหน้าอกตรงหน้าอย่างทนไม่ไหว
“ริว พะ…พอก่อน” ขนมผิงพยายามห้ามปรามคนตรงหน้าจนริวเซย์ยอมหยุดการกระทำของตนเอง
“หาที่จอด ตอนนี้”
“ไม่ทำบนรถ ได้มั้ย…” ใบหน้าหวานที่กำลังเห่อร้อนส่ายไปมาคล้ายกับห้ามให้ริวเซย์ทำบนรถ
“เรื่องแบบนี้มันทนได้ด้วยเหรอ” ริวเซย์กระซิบบอกเธอที่ข้างใบหูเบา ๆ พร้อมกับใช้ปากขบเม้มหยอกเย้าร่างเล็กบนตักที่กำลังหน้าแดงเป็นมะเขือเทศ
“อีกห้านาทีถึงครับ” เสียงของนิกเอ่ยรายงาน
ริวเซย์ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาจับร่างขนมผิงมานั่งอยู่บนพื้นพักเท้าหว่างขาตนเอง มือหนารูดซิปกางเกงจนสุดแล้วจับแก่นกายแท่งหนาที่กำลังแข็งได้ที่ออกมา ขนมผิงมองด้วยแววตาตกใจกับขนาด
“ทำให้หน่อย”
“…” เจ้าของใบหน้าเนียนใสพยักตอบ ก่อนจะใช้มือเนียนนุ่มจับเข้าที่ลำท่อนสีชมพูเข้ม ที่โอบล้อมไปด้วยเส้นเลือด แค่มือบางแตะลงเธอก็สัมผัสได้ว่ามันเต็มไม้เต็มมือขนาดไหน
“ใช้ปาก”
“แต่ว่า…”
“ไม่ต้องคิดอะไร บอกให้ทำก็แค่ทำ” ดวงตากลมโตมองใบหน้าหล่อเหลาละห้อย ก่อนจะโน้มหน้าลงแล้วใช้ปากงับเข้าที่แก่นกายแท่งใหญ่ ขนมผิงงับเข้าที่หัวหยัก เพียงเท่านั้นมันก็เต็มปากของเธอแล้ว
ริวเซย์หลับตาลงพร้อมกับปล่อยลมหายใจกระสันออกมา เขาเอนหัวกับหลังเบาะพร้อมกับซึมซับความเสียวซ่านจากลิ้นบางที่กำลังแตะวนตรงหัวหยัก ประสบการณ์ไร้เดียงสาของขนมผิงทำให้ชายหนุ่มสัมผัสได้ว่าเธอไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครมาก่อน
“อึก…” เสียงกลืนนํ้าลายจากคนตรงหน้าดังขึ้นภายในรถที่เงียบสนิท ริวเซย์เปิดเปลือกตาขึ้นแล้วมองใบหน้าสวยตรงหน้าที่เงยหน้ามองเขา แววตาของเธอบ่งบอกออกมาอย่างชัดเจนว่าทรมาน เพราะความใหญ่ฉบับลูกครึ่ง
“ไม่เคยทำใช่ไหม”
“….” ขนมผิงไม่ได้ตอบอะไรกลับไปแค่ใช้สายตาบอกเขา และริวเซย์ก็เข้าใจสายตาที่เธอสื่อออกมา
“ริวจะสอน” ปากตอบมือหนาก็ขยับใบหน้าหวานออก ริวเซย์ใช้นิ้วแกร่งบีบคางมนให้อ้าขึ้นแล้วกดลงที่ลำท่อนของตนเอง ขนมผิงจิกเล็บลงบนหน้าขาแน่น ตอนนี้ความยาวถลำลึกเข้ามาเกือบครึ่งลำ ทำให้คับแน่นทั่วปากจนหายใจแทบไม่ออก
เสียงซูดปากดังออกมาจากริมฝีปากหยัก มือหนาจับใบหน้าหวานกดเข้าออกตามความต้องการของตนเองเป็นจังหวะเนิบนาบ ในขณะที่รถกำลังวิ่งอยู่
ภายในใจของขนมผิงตอนนี้ทั้งอาย ทั้งทรมาน แต่เธอก็พยายามอ้าปากให้กว้างเพื่อรับกับขนาดที่ใหญ่ แค่เข้าปากยังคับแน่นขนาดนี้ ไม่อยากคิดตอนเข้ามาในช่วงล่าง ตอนนั้นเธอจำไม่ได้ แต่รู้แค่ว่าหลังจากคืนนั้นมันเจ็บมากจนแทบก้าวขาไม่ออก
“อื้อ!” เสียงหวานร้องครางในลำคอเมื่อริวเซย์เร่งจังหวะถี่มากเกินไป
“ถึงแล้วครับ” ผ่านมาไม่นานมากนิกก็เอ่ยขึ้นมา ริวเซย์จึงยอมปล่อยให้ริมฝีปากบางเป็นอิสระ
ขนมผิงกวาดสายตามองออกไปผ่านกระจกก็พบว่า บริเวณรอบข้างเป็นทางค่อนข้างเปลี่ยว ไม่มีการสัญจรไปมา ไม่มีแสงไฟ และไม่มีรถเลยสักคัน สองข้างทางเป็นป่าและตึกร้าง
“ลงไป” ทายาทมาเฟียหนุ่มเอ่ยสั่งก่อนที่คนขับรถและมือขวาจะเดินลงไป สองคนนั้นเดินห่างออกไปจากรถที่สตาร์ทไว้เล็กน้อย เพื่อเฝ้าให้เจ้านายหนุ่มได้ทำกิจกรรมบนรถ
ขนมผิงถูกอุ้มให้มานอนราบบนเบาะ ริวเซย์ถอดกางเกงตนเองออกแล้วหยิบถุงยางออกมาจากกระเป๋าตังค์ เขาใช้ปากฉีกแล้วสวมมันเอาไว้ต่อหน้าขนมผิง
ด้านคนตัวเล็กก็ถูกมือหนาดึงซับในออกให้ติดอยู่ที่ข้อเท้ามนแทน ริวเซย์จับชายกระโปรงสั้นสีดำเกยบนเอวคอดแล้วใช้แก่นกายถูไถกับร่องคับแคบตรงหน้า ร่างกายโน้มลงไปใกล้กับขนมผิงพร้อมกับจับชายเสื้อเปิดขึ้นให้เห็นหน้าอก ริวเซย์ใช้ปลายนิ้วเขี่ยหัวนมสีชมพูเข้ม พร้อมกับก้มหน้าใช้ปากดูดเม้มลำคอขาวไปด้วย
“อ๊ะ! ริว…” เสียงครางออกมาจากปากบาง คนตัวเล็กบิดเร้าร่างกายด้วยความกระสัน มือเล็กเกาะบ่าแกร่งเอาไว้
“อย่าร้องดัง เสียงครางของผิงริวอยากฟังคนเดียว” ริวเซย์เอ่ยบอกแล้วจับปลายหัวหยักจ่อเข้าที่ช่องทางรักที่ตอนนี้เริ่มมีนํ้าหวานไหลออกมาชโลมสองกลีบสวย ขนมผิงเกร็งร่างกายก่อนที่เธอจะเผลอกรีดร้องออกมา เมื่อลำท่อนแข็งขนาดใหญ่กระแทกลงมาจนเกือบครึ่งลำ
“จ เจ็บ…” ขนมผิงมองคนบนร่างตาละห้อยแล้วเอ่ยออกมาเบา ๆ
“ทนหน่อยคนดี ถึงโรงแรมได้ร้องสมใจอยากแน่นอน”
“อ…อึก!” ขนมผิงเม้มปากแน่นเมื่อร่างกายเริ่มขยับไปตามจังหวะที่ริวเซย์ควบคุม เขาไม่ได้เริ่มเป็นจังหวะเนิบนาบแต่กลับกระแทกใส่ไม่ยั้ง อย่างไม่ปรานี
ทำเอาร่างบอบบางกระเพื่อมตามจังหวะ ขนมผิงจิกเบาะรถหรูแน่น เธอเบ้หน้าและเม้มปากเป็นเส้นตรง สายตาก็คอยมองการเคลื่อนไหวของร่างหนาบนร่างที่เปลือยเพียงท่อนล่าง
ริวเซย์ใช้มือหนากดเอวเธอแน่น เขาจับกระแทกลงร่องรักบอบบางไม่ยั้ง จนเกิดเสียงลามกขึ้นภายในรถ ขนมผิงเบ้หน้าคล้ายกับจะร้องไห้ ทั้งจุก ทั้งชาไปทั่วร่างกาย ยิ่งริวเซย์กระแทก ความใหญ่โตก็แทรกเข้ามาในร่องรักลึกมากกว่าเดิม เธอพยายามอดกลั้นไม่ให้เสียงครางออกมาดังเกินไป แต่ความจุกก็ทำให้ขนมผิงแทบทนไม่ไหว
เธอกลั้นนํ้าตาเอาไว้สุดขีด จนมันเอ่อคลอเบ้าและไหลออกมาอาบพวงแก้มเนียนใส ขนมผิงแนบหน้ากับเบาะรถ นอนรับความเสียวซ่านจากคนบนร่างที่กระหน่ำแก่นกายแทงไม่หยุด
“ช่วยเบา…ช่วยเบาหน่อยได้ไหม…” เธอเอ่ยขอร้องออกมาเสียงกระเส้า ร่องรักคับแคบแทบฉีกขาด ลำท่อนหนาขยายอัดแน่นเต็มช่องท้องจนระบมไปทั้งร่อง
“จุกหรอ หืม?”
“อ๊ะ!…ผิงจุก”
“ครางดังเกินไปแล้ว…” ริวเซย์เอ่ยพร้อมกับใช้นิ้วโป้งสอดเข้าไปในปากเขาใช้ปลายนิ้วบดขยี้ลิ้นบางไม่ให้ปล่อยเสียงครางเล็ดลอดออกมา ขนมผิงแทบขาดใจกับการกระทำของเขา เธอส่ายหน้าพัลวันแต่ริวเซย์ก็ยังคงไม่ยอมปล่อยให้ริมฝีปากบางเป็นอิสระ
ปึก! ปึก! ปึก!
ด้านนอกรถอัลพาร์ดตอนนี้รถทั้งคันเริ่มโยกเป็นจังหวะเล็กน้อย บ่งบอกว่ามีคนสองคนทำกิจกรรมบนรถ ทั้งนิกและคนขับรถยืนหันหลังให้และทำเป็นไม่ได้ยิน ถึงแม้เสียงครางของขนมผิงจะเล็ดลอดออกมาบ้างก็ตาม
“อ๊ะ! อื้อ…!” เสียงหวานครวญครางออกมาเป็นระยะ จนริวเซย์ยอมปล่อยให้กลีบปากบางเป็นอิสระ ขนมผิงกัดปากตนเองแน่น วินาทีต่อมาริวเซย์ก็จับเรียวขาเล็กขยับเข้ามาแนบชิดร่างกายตนเองมากขึ้น ชายหนุ่มเจ้าของร่างกายกำยำกระแทกเป็นจังหวะถี่เร้าไม่หยุด
จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบสิบห้านาทีก็ดูเหมือนว่าร่างกายริวเซย์จะต้องการปลดปล่อยออกมาแล้ว เอวสอบใส่จังหวะสุดท้ายสุดแรง พร้อมกับเสียงกรีดร้องจากกลีบปากบาง
“อื้อ! อ๊าา!!” ท่อนเอ็นหนากระตุกในตัวของเธอพร้อมกับของเหลวที่พุ่งออกมาใส่เครื่องป้องกัน
ขนมผิงนอนเหนื่อยหอบพร้อมกับหยาดเหงื่อที่ผุดตามกรอบหน้า หน้าท้องแบนราบหายใจกระเพื่อม ริวเซย์ขยับแก่นกายออกมาจากร่องรักคับแคบตรงหน้าแล้วดึงถุงยางออก เขาหยิบทิชชูมาเก็บมันเรียบร้อยแล้วโยนออกนอกหน้าต่าง
ขนมผิงขยับร่างกายตนเองลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับใช้ทิชชูทำความสะอาดเธอโยนมันทิ้งอีกฝั่ง แล้วรีบจัดการตนเองให้เรียบร้อย
“ริวจะไปส่งผิงที่ห้องได้แล้วใช่ไหม” เธอเอ่ยถามเสียงแผ่วด้วยความเหนื่อยล้า
“ยัง” ริวเซย์ตอบแล้วลดกระจกลงจนสุด เขาแต่งตัวเรียบร้อยก็คว้าบุหรี่จากกระเป๋ากางเกงมาจุดสูบ พร้อมกับหันมองออกไปทางด้านนอกกระจกรถ
“หมายความว่า…ยังกลับไม่ได้เหรอ”
“คืนนี้อยู่กับริวก่อน”
“ทำไมล่ะ หรือริวมีเรื่องอะไรคิดมาก”
“วันนี้วันครบรอบของริวกับไดอา แต่ไดอาไม่ตอบข้อความริว ไม่อ่านด้วย ไม่รู้ว่าของขวัญที่ส่งไป เธอได้รับรึเปล่า”
ที่แท้ก็เพราะไดอาน่า เขาถึงต้องการให้เธออยู่ด้วย ขนมผิงรู้ว่าตอนนี้เธอเสี่ยงชอบริวเซย์เข้าแล้ว ทั้งที่รู้ว่าเป็นได้แค่เงาแต่ก็ ‘หวั่นไหวทุกครั้งที่อยู่ใกล้‘
นี้นะคะ คือสองคนที่บอกว่าจะไม่เอาเพื่อน