ยานธีออส – ผู้เฒ่า ขณะนี้เพทรีได้ง่วนอยู่กับระบบการสื่อสารรองมาหลายชั่วโมงแล้ว “ เป็นยังไงบ้างเพื่อน” แอซากิสถามโดยพูดใส่เครื่องสื่อสารพกพาโดยตรง แอซากิสทราบว่าถ้ามีใครที่สามารถทำงานนี้ได้ในเวลาสั้น คนนั้นก็คือเพทรี “ นอกเหนือจากความจริงว่าฉันหนาวจนจะแข็ง มือขวาของฉันไม่รู้สึกอีกแล้วและฉันน่าจะได้นอนหลับเต็มอิ่มแล้ว นอกนั้นก็ดีนะ” แอซากิสยิ้ม ทั้งที่บ่นเช่นนี้ แต่เพทรียังคงสามารถคิดบวกและมีประสิทธิภาพเป็นบ้า “ ฉันแค่ต้องเดินสายไฟใหม่สักสองวงจร” เพทรีกล่าวเพิ่มเติม “แล้วนายจะเห็นเพื่อนเดินดินตัวเป็นๆ ได้” “ เห็นหรือ” แอซากิสนึกว่าการสามารถได้ยินจะเป็นความสำเร็จอย่างยิ่ง แต่การเห็นได้ด้วยดูเหมือนน่าอัศจรรย์ยิ่งกว่า “นายคิดว่าเราจะจับสัญญาณบางอย่างได้จริงๆ หรือ” “ ในขณะที่ฉันอยู่ตรงนี้ ฉันตัดสินใจทำการดัดแปรระบบสองสามอย่าง ถ้าพวกเขาส่ง ผ่านสัญญาณภาพด้วย เราจะดูบนจอในห้องควบคุมได้โดยตรง ” ฉันจะพูดอะไรได้ เขาเป็นอัจฉริยะ แอซากิสคิดพร้อมกับเดินไปยังมอดูลโอนย้ายภายในที่ใกล้ที่สุด “นายทำงานดีมากเสมอ เพื่อ
แนสซิริย์ยา – การตื่นขึ้นมาใหม่ เสียงดังๆ เหมือนที่เกิดจากระเบิด กำลังกึกก้องไปทั่วศีรษะของ เอลิซา เอลิซาตระหนักว่าตนยังคงหลับอยู่และพยายามตะเกียกตะกายออกจากหลุมลึกสุดหยั่งถึงที่เชื่อว่าตนได้ตกลงไป เธอพยายามสั่นตัวปลุกตนเอง แต่ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เอลิซารู้สึกว่าตนเองกลายเป็นส่วนหนึ่งของความมืดที่กดล้อม แล้วก็มีเสียงดังๆ อีก เอลิซาจัดการลืมตาข้างหนึ่งขึ้นได้ด้วยความพยายามเหนือมนุษย์ แสงสว่างแสบตาก่อให้เกิดความปวดขึ้นในสมอง ประหนึ่งว่าใครบางคนได้แทงเข็มแหลมตรงเข้าไปในลูกตา เสียงหนึ่งดูเหมือนกำลังเรียกเอลิซาจากที่ไกลออกไป “ ด็อกเตอร์ฮันเทอร์ ได้ยินผมไหม อาจารย์เป็นอะไรไหมครับ” ฮีแชมซึ่งเป็นผู้ช่วยของเอลิซากำลังเคาะประตูและตะโกนเรียกสุดเสียง “ คะ” เอลิซาส่งเสียงฮืดเบาๆ “ใครคะ เกิดอะไรขึ้น” เอลิซาวางมือบนเตียงและพยายามดันตนเองขึ้น แต่แล้วก็ล้มเลิกทันที เอลิซารู้สึกประหนึ่งว่าภูเขาทั้งลูกได้ตกลงมาทับตน “ ด็อกเตอร์ฮันเทอร์ ฮีแชมครับ ผมเรียกอาจารย์อยู่นานแล้ว อาจารย์เป็นอะไรหรือเปล่า” “ เดี๋ยวฉันจะบอกนะ” เสียงที่ออกมาจากเ
ยานธีออส – ภาพของโลก “ เรียบร้อยแล้วแซ็ก” เสียงของเพทรีที่ออกมาจากเครื่องสื่อสารพกพานำแอซากิสกลับสู่ความเป็นจริง แอซากิสได้รับบทเรียนประวัติศาสตร์อันมีคุณค่าแล้ว ตอนนี้แอซากิสทราบว่าบรรพบุรุษของตนได้วิวัฒนาการอย่างไรและใช้เส้นทางใดพาตนเองมาสู่ความรู้และเทคโนโลยีในระดับปัจจุบัน “ ฉันกำลังมา” แอซากิสตอบใส่เครื่องสื่อสาร เขาอยากเห็นว่าเพื่อนได้จัดการกระตุ้นการทำงานของระบบแล้วจริงหรือไม่ ทั้งสองอาจจะรับการส่งสัญญาณของมนุษย์โลกได้ ความคิดนี้ทำให้แอซากิสตื่นเต้นมาก แอซากิสถอนตนเองออกจาก เอ็น ^ คอม และเคลื่อนตัวไปยังมอดูลโอนย้ายที่ใกล้ที่สุด หลังจากนั้นไม่นาน ประตูของมอดูลก็เปิดเข้าสู่ห้องควบคุม เพทรีรออยู่ที่นั่นแล้ว “ ตามสบาย ไม่ต้องเป็นห่วงผู้ชายที่น่าสงสารที่ใช้เวลาสองสามชั่วโมงที่แล้วทำงานตัวเป็นเกลียว ไม่เหมือนบางคนที่นั่งนอนสบายและงีบ” เพทรีตั้งข้อสังเกตด้วยอารมณ์ขันตามปรกติ “ งีบเหรอ เปล่า เปล่า ฉันหลับเต็มอิ่มเลย” แอซากิสตอบเพื่อตอบสนองต่อการยั่วยุเล็กๆ น้อยๆ “มีข่าวอะไรบ้างไหม” “ ฉันรอนายมาเริ่มสแกนความถี่นี่ล่ะ แบบ
เทลล์เอลมูคาย์ยาร์ – การ ขุดค้น ทีมของเอลิซาพร้อมมาพักหนึ่งแล้ว พวกเขากำลังรอให้เอลิซามาเริ่มต้นงานวันนี้ แคมป์ฐานประกอบขึ้นด้วยกระโจมประมาณโหลหนึ่งซึ่งคนงานใช้เป็นที่พักอาศัยและนอนหลับในเวลากลางคืน กระโจมสีอ่อนกว่าที่อยู่ตรงรอบนอกของการตั้งแคมป์ทำหน้าที่เป็นโรงอาหาร คนสองคนยุ่งอยู่กับการเตรียมและแจกจ่ายอาหาร กระโจมตรงกลางที่สุดซึ่งใหญ่ที่สุดใช้เป็นห้องปฏิบัติการ สถานีงานของด็อกเตอร์ฮันเทอร์ซึ่งเรียกว่าสปาร์ทานอยู่ข้างในนั้น ประกอบขึ้นด้วยโต๊ะแคมป์ขนาดเล็กที่ทำหน้าที่เป็นโต๊ะทำงาน ที่นั่งผ้าใบสีทรายซึ่งใช้เป็นเก้าอี้เท้าแขน และเก้าอี้พับสองตัวสำหรับอาคันตุกะ บนโต๊ะทำงานมีโคมไฟตั้งโต๊ะสีแดงขนาดจิ๋ว ที่เสียบปากกาเป็นถ้วยสีน้ำตาล และเครื่องรางนำโชคของเอลิซา: ตุ๊กตาไม้แกะสลัก เอลิซาพบตุ๊กตานี้ในระหว่างการขุดค้นครั้งแรกและปกป้องหวงแหนมานับแต่นั้น ทางซ้ายของโต๊ะทำงานเป็นตู้วอลนัตใบเล็กที่เอลิซาเก็บวัสดุเอกสารอ้างอิงที่มีค่าที่สุดไว้ ในกองที่ค่อนข้างไม่เป็นระเบียบตรงด้านตรงกันข้ามกับทางเข้าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางรายการที่ใช้เพื่อการวิจัย สายเ
ยานธีออส - การค้นพบอัน น่ากลัว เพทรียังคงพยายามกระตุ้นการทำงานของสมองใหญ่อีกครั้งตอนที่มอดูลโอนย้ายได้นำส่งตนมาถึงห้องควบคุม “ เฮ้ยอะไรวะ ฉันเพิ่งผล็อยหลับเอง!” เพทรีกล่าวแก่เพื่อน “ต้องน่าสนใจนะ ไม่งั้นฉันจะหักคอนาย” “ น่าสนใจเหรอ นายตัดสินเองเถอะ” แอซากิสจัดแจงให้ระบบบันทึกเล่นสัญญาณล่าสุดที่จับได้อีกครั้ง เครื่องบินสีเทาเงินลำยาวปรากฏบนจอยักษ์ในห้องควบคุมอีกครั้ง มีแผ่นท้องฟ้าครามระหว่างเมฆสีเทาอยู่ในฉากหลัง “ ดูเหมือนเครื่องบินประเภทหนึ่ง” เพทรีกล่าวโดยสังเกตวัตถุอย่างระมัดระวัง “ ใช่ แต่ดูมันตอนนี้สิ” แล้วกรอบภาพลดต่ำลงเสมือนกำลังถ่ายจากเครื่องบินเอง ขณะนี้ภาพกำลังกะพริบ และเป็นการยากที่จะดูออกว่าพื้นดินอยู่ตรงไหนโดยแทบมองไม่เห็นผ่านเมฆที่อยู่ข้างบน โดยปราศจากการเตือน แสงจ้าชนิดที่ทำให้ตาพร่าจากการระเบิดรุนแรงก็ปรากฏขึ้นจากจุดขนาดจิ๋วห่างจากพื้นดินสองสามร้อยเมตร ควันสีเทาหนาแน่นเป็นลำใหญ่พวยพุ่งขึ้นหาเมฆที่ลอยอยู่อย่างรวดเร็วในขณะที่ลูกบอลสีขาวขยายตัวออกทุกทิศทุกทางด
เทลล์เอลมูคาย์ยาร์ – โลงหิน พันเอกฮัดสันเพิ่งจบการสนทนากับนายพลแคมป์เบลล์ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาชั้นต้นของตนที่เอลแซดซึ่งได้ยืนยันในที่สุดว่าใบอนุญาตสำหรับการขุดค้นจะขยายเวลาออกไปอีกสิบห้าวัน เขาดำเนินการตัดสายเข้ารหัสที่ใช้เพื่อการสื่อสารในเชิงกลแล้วล้มตัวไปด้านหลังโดยทิ้งน้ำหนักทั้งตัวใส่พนักเก้าอี้หนังที่กำลังนั่งอยู่ เก้าอี้ที่น่าสงสารส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดเบาๆ แต่เคราะห์ดีที่เก้าอี้ยังไม่พร้อมสำหรับกระบวนการรีไซเคิลนักและเงียบไป แจ็กยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเสื้อและโทรหาหมายเลขของด็อกเตอร์ฮันเทอร์ เขารอชั่วครู่แล้วเสียงพูดว่า “สวัสดีค่ะที่รัก” อันอ่อนหวานและเพี้ยนเล็กน้อยก็ดังออกมาจากหูฟังที่ยังวางตำแหน่งไม่ถูกต้องในหูข้างขวา แจ็กปรับเสียใหม่โดยไม่หุบรอยยิ้มพอใจ ตอบด้วยน้ำเสียงหวานพอกันว่า “สวัสดีครับที่รัก” “ เรามีอารมณ์อ่อนไหวมากเกินไปใช่ไหมเนี่ย ฉันคาดว่าคราวนี้ไม่มีใครอยู่ใกล้คุณใช่ไหม” แล้วกล่าวเพิ่มเติมโดยแกล้งทำเป็นโกรธว่า “คุณใจร้ายกับฉันมากคราวที่แล้ว น่าเกลียดจัง” แจ็กรักเอลิซาเวลาทำเช่นนี้
ยานธีออส – แถบดาวเคราะห์น้อย นกหลากสีกำลังร้องจิ๊บๆ อย่างร่าเริงในขณะที่กิ่งไม้ที่กำลังเกาะพักอยู่นั้นสั่นไหวอย่างนุ่มนวลในสายลมอ่อน แอซากิสกำลังเฝ้ามองภาพนี้อย่างหลงเสน่ห์ ดูเหมือนเกือบเป็นไปไม่ได้ที่เสียงเพลงอ่อนหวานและไพเราะเหลือเกินจะออกมาจากสิ่งมีชีวิตตัวเล็กเช่นนั้นได้ อย่างไรก็ตาม เสียงร้องเพลงอ่อนโยนเริ่มกลายเป็นมืดมนและไม่ไพเราะ ท่วงทำนองเปลี่ยนไปเป็นจังหวะเร็วซึ่งดังขึ้นและน่าคลั่งมากกว่าที่เคย “ คำเตือน จะถึงขอบนอกของแถบดาวเคราะห์น้อยในสิบนาที ” สัญญาณเตือนเมื่อเข้าใกล้ได้รับการกระตุ้นให้ทำงานแล้ว และเสียงผู้หญิงอันอบอุ่นของระบบกลางกำลังแจ้งลูกเรือให้ทราบตำแหน่งของยาน แอซากิสลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ แต่สิ่งที่สามารถเห็นได้มีเพียงแผงควบคุมที่ห่างจากใบหน้าสองสามเซนติเมตร ปุ่มสีต่างๆ จัดเรียงเป็นแถวอย่างมีระเบียบ แอซากิสได้ผล็อยหลับไป เขาพยายามทำให้ตนเองมีชีวิตชีวาอีกครั้งโดยใช้มือที่ชาอยู่ลูบหน้า ความปวดหลังช่วยให้ตื่นตัวเต็มที่ ภาพของโลกยังคงเลื่อนอยู่บนจอยักษ์ตรงหน้า แอซากิสต้องหลับพ
เทลล์เอลมูคาย์ยาร์ – การโจมตียามวิกาล สมาชิกสี่คนของทีมเอื้อมเข้าไปในช่องว่างตรงมุมทั้งสี่ของลูกบาศก์เพื่อพยายามยกทรงกลมลึกลับออกมาอย่างนุ่มนวล พวกเขาต้องทึ่งที่ลูกกลมสีดำสูงขึ้นหลายเซนติเมตรโดยเกือบไม่ต้องพยายาม งานดูเหมือนง่ายกว่าที่ได้ทำนายไว้มาก “ เบาจัง!” คนอายุน้อยที่สุดในสี่คนอุทาน “พนันว่าหนักสิบกิโลเป็นอย่างมาก” “ ระวังหน่อยนะคะ” เอลิซากล่าวอย่างวิตกกังวล “เราต้องไม่บังเอิญไปขูดขีดมัน ทีนี้พยายามยกออกมาพร้อมกัน” ทั้งสี่ทำงานร่วมกันโดยประสานการเคลื่อนไหวของตน และในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ลูกกลมก็ออกมาจากภาชนะหนักเรียบร้อย “ วางลงตรงนี้” เอลิซากล่าวโดยชี้ไปที่ชั้นไม้ที่บุด้วยผ้าห่มอ่อนนุ่มสีสันต่างๆ “ขอเสนอแนะให้เบาๆ มือนะ” คนหนุ่มสาวก้มตัวปฏิบัติตามคำสั่งของด็อกเตอร์อย่างขยันขันแข็งและวางลูกกลมไว้บนเตียงชั่วคราวด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด คนที่เหลือของกลุ่มยืนรอบวัตถุลึกลับโดยรออย่างเงียบๆ ไม่มีใครกล้าหายใจโดยกลัวว่าแม้แต่การสั่นสะเทือนเล็กน้อยที่สุดอาจทำให้สิ่งประดิษฐ์อันมีค่านั้นป่นปี้