สวีจิ้งเทียนที่ถูกหนิงเจียวปลุกให้ตื่น เขาลืมตาขึ้นมาด้วยลมหายใจที่เหนื่อยหอบ หัวใจสั่นระรัว ก่อนจะหันไปพบกับหนิงเจียวที่นั่งมองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า
"เหตุใดเจ้าจึงใส่เสื้อผ้าเร็วยิ่งนัก?"
หนิงเจียวขมวดคิ้วมองสวีจิ้งเทียนด้วยความหวาดกลัวในจิตใจ โรคจิตกำเริบหรืออย่างไร อยู่ดีดีมาถามว่าทำไมนางถึงใส่เสื้อผ้าเร็ว นางก็ใส่อยู่ไม่ได้ถอดมันออกเสียหน่อย!!!
"ข้าก็ใส่มันอยู่ตลอด เหตุใดท่านจึงถามเช่นนี้เล่าเจ้าคะ!?"
สวีจิ้งเทียนรีบตั้งสติ เขาปัดมือของหนิงเจียวที่จับไหล่ของเขาเอาไว้ออกด้วยความรังเกียจ ก่อนจะมองสำรวจร่างกายตนเองอย่างถี่ถ้วน
ให้ตายสิ!!! ฝันหรอกหรือ ช่างฝันอุบาทว์เสียจริง!!!
"สวีจิ้งเทียน ท่านจะรับสำรับเช้าเลยหรือไม่เจ้าคะ?"
หนิงเจียวยื่นหน้ามาถามสวีจิ้งเทียน เขาที่กำลังตื่นนอนยังอยู่ในอาการงัวเงียจึงหันมามองนางก่อนจะพบกับ เนินอกอวบอิ่มที่ล้นทะลักใหญ่มหึมานั้นอีกครั้ง
"ข้าอยากรับนม"
"นม? นมอะไรเจ้าคะ?"
"นมจากเต้า?!!! หุบปากเดี๋ยวนี้นะ ไสหัวไปสตรีไร้มารยาท!!!"
สวีจิ้งเทียนที่รู้ตัวว่าตนเองพูดสิ่งใดออกไปนั้น ก็รู้สึกกระดากอายเป็นอย่างยิ่ง เขาจึงตะคอกใส่หนิงเจียวเพื่อระบายอารมณ์เก้อเขิน
หนิงเจียวนึกเบ้ปากอยู่ในใจ โรคประสาทกำเริบอีกแล้วสินะ หึ!!! อยากกินอะไรก็หากินเอาเองเถิด นางไม่สนใจแล้ว!!!
หนิงเจียวเดินเข้าไปในครัว เพื่อนำชาจู๋เยี่ยชิง (ชาไผ่ใบเขียว) ที่แม่ใหญ่ให้คนนำมาให้นางเมื่อวาน นำมาต้มชงดื่ม กลิ่นหอมอ่อน ๆ เหมือนกำลังยืนอยู่ท่ามกลางป่าไม้ที่มีสายลมพลิ้วไหว ช่างเพลิดเพลินใจเสียจริง
สวีจิ้งเทียนที่จัดการตนเองเรียบร้อยแล้ว เขาเดินออกมานั่งที่โต๊ะอาหาร มองดูอาหารตรงหน้าก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น
"เหตุใดวันนี้อาหารจึงมากเช่นนี้?"
สวีจิ้งเทียนหันไปเอ่ยถามไป๋เฉียนที่กำลังยกน้ำแกงสร่างเมาส่งมาให้เขา ไป๋เฉียนจึงเงยหน้าตอบสวีจิ้งเทียนด้วยรอยยิ้มสดใส
"ฮูหยินน้อยเป็นคนทำเองทั้งหมดเจ้าค่ะ"
สวีจิ้งเทียนรู้สึกแปลกใจไม่น้อย เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่านางจะสามารถทำอาหารได้น่าทานเช่นนี้
หนิงเจียวเดินออกมาพร้อมกับชาจู๋เยี่ยชิง ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกับสวีจิ้งเทียน คีบอาหารใส่ปากอย่างไม่สนใจเขา
"สตรีที่แต่งงานแล้วควรต้องดูแลสามีตนเอง เหตุใดเจ้าจึงกินก่อนข้าเช่นนี้?"
หนิงเจียวหันไปมองสวีจิ้งเทียน ก่อนจะคีบเนื้อปลาราดพริกใส่ถ้วยให้เขา อย่างไม่ใส่ใจ
สวีจิ้งเทียนรู้สึกหงุดหงิดที่นางทำเมินเฉยต่อเขา ทั้งที่เมื่อคืนนางยังร้อนแรง...
เอ่อ...ไม่ใช่สิ นั่นมันแค่ความฝัน
"เจ้าทำอาหารมากมายเช่นนี้ สิ้นเปลืองเงินของข้าไม่น้อย หาเงินเองไม่เป็นยังพึ่งพาสามี กลับใช้เงินมือเติบ ไร้การอบรมสั่งสอนเสียจริง อีกอย่างข้าไม่กินเผ็ด จำใส่สมองอันน้อยนิดของเจ้าเอาไว้ด้วย!!!"
หนิงเจียววางตะเกียบลงก่อนจะหันไปมองไป๋เฉียน
"ไป๋เฉียน ยกอาหารที่ข้าทำไปไว้ที่โต๊ะไม้ริมสระให้หมด ข้าจะไปกินที่นั่น"
"เจ้าค่ะ ฮูหยินน้อย"
สวีจิ้งเทียนขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะหันไปมองหนิงเจียวตาขวาง
"เจ้ากล้า!!!"
"กล้าเจ้าค่ะ นี่คือวัตถุดิบที่แม่ใหญ่ให้คนนำมาจากตระกูลหนิง ในเมื่อท่านบ่นด่า ว่าข้าใช้ของสิ้นเปลือง เช่นนั้นท่านก็กินข้าวเปล่าไปเถิดเจ้าค่ะ ประหยัดดีและไม่เผ็ดด้วย ข้าเองก็จะกินของที่แม่ใหญ่นำมาให้ข้าเจ้าค่ะ จะได้ไม่สิ้นเปลืองเงินท่านให้ท่านต้องรำคาญใจ"
หนิงเจียวกำลังจะเดินออกไป แต่ทว่าสวีจิ้งเทียนกลับรั้งเอวบางระหงของนางให้เข้าไปซุกอยู่ในแผงอกของเขา หน้าอกอวบอิ่มบดเบียดเสียดสีกับแผงอกของสวีจิ้งเทียนจนใจเขาสั่นระรัว
"ปล่อยเจ้าค่ะ!!!"
หนิงเจียวพยายามสลัดตัวให้หลุดออกจากการเกาะกุมของเขา แต่คนร่างใหญ่ตรงหน้ากลับกอดรัดนางเอาไว้แน่น
หมับ!!!
หนิงเจียวมองหน้าสวีจิ้งเทียนด้วยสายตาว่างเปล่า แต่ภายในใจของนางแทบจะบ้าคลั่งอยู่แล้ว
เขาใช้มือหนาใหญ่ขยำขยี้บั้นท้ายที่แสนงอนงามของนาง ด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์ นางเป็นสตรีที่มีบั้นท้ายงดงามไม่น้อย ชวนให้มองและน่าสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง
น่าเกลียดที่สุด!!! คนผีทะเล
"สวีจิ้งเทียน!!!"
"ทำไมหรือ?"
"เอามือออกจากก้นของข้าเดี๋ยวนี้!!!"
"เจ้าคงชอบสินะ ดูก็รู้ แต่เจ้าทำเป็นเสแสร้งไร้เดียงสา เพื่อหลอกให้ข้าตายใจ ข้าเองก็เป็นสามีของเจ้า จะจับจะคลึงเจ้าตรงไหนคงไม่ต้องขออนุญาตกระมัง?"
ไม่หลงตัวเองสักวันจะตายหรืออย่างไร!!
โอ๊ะ!!! นี่มัน
หนิงเจียวรับรู้ได้ถึงความแข็งดุนดันที่สัมผัสกับท้องน้อยของนางอย่างชัดเจน ให้ตายเถอะ!!! นี่มันเวลาอาหารเช้า เขานี่มัน...!!! ชี้โด่เด่ไม่เป็นเวล่ำเวลาเสียจริงเชียว
หนิงเจียวพยายามสะกดข่มอารมณ์ไม่ให้ยื่นมือไปจับแท่งหยกมังกรผงาดของเขา ทั้งที่ในใจของนางก็อยากจะลองจับมันแบบเต็ม ๆ มือสักครั้ง
ให้ตายสิ!!! นี่นางเป็นคนเช่นนี้ไปตั้งแต่เมื่อใดกัน เพราะเขาคนเดียว เพราะเขาที่พานางติดนิสัยหื่นกามไปด้วย หึ!!! หากนางยั้งอารมณ์ไม่อยู่เข้าสักวัน คอยดูเถิด เขาจะต้องร้องครวญครางจนแทบกราบขอชีวิต!!!
สวีจิ้งเทียนอุ้มหนิงเจียวเข้าไปในห้อง ก่อนจะลงกลอนอย่างแน่นหนา เขาจับนางโยนลงบนเตียง ก่อนจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนเองลงไปกองที่พื้น หนิงเจียวเมื่อได้เห็นมังกรผงาดของสวีจิ้งเทียนอีกครั้ง สติก็เริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
ใจคอจะไม่ให้มองอย่างอื่นบ้างหรือไร!!!
"คุณชายใหญ่/ฮูหยินน้อยเจ้าคะ ฮูหยินผู้เฒ่าให้ไปพบที่เรือนใหญ่เจ้าค่ะ"
สวีจิ้งเทียนรู้สึกเหมือนโดนไม้ตีแสกหน้า อารมณ์ของเขากำลังขึ้นจนถึงขีดสุด แต่ทว่ากลับถูกขัดจังหวะเช่นนี้!!!
สวีจิ้งเทียนกับหนิงเจียว รีบจัดแจงเสื้อผ้าอาภรณ์ให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกัน
เมื่อไปถึงที่เรือนใหญ่ เขาก็พบว่าท่านย่าและท่านแม่กำลังนั่งรออยู่ และยังมีหญิงสาวผู้หนึ่งนั่งอยู่ด้านข้างท่านแม่ด้วยท่าทีเรียบร้อย
"จิ้งเอ๋อร์ หนิงเจียว มานี่เร็วเข้า"
สวีจิ้งเทียนและหนิงเจียวนั่งลงข้างกัน ก่อนจะหันไปมองท่านย่า
"นี่คือคุณหนูรอง เฉียวฟาง เป็นบุตรสาวของท่านเสนาบดีกรมพระคลัง แล้วนั่นก็คือฮูหยินรองตระกูลเฉียว"
สวีจิ้งเทียนและหนิงเจียว ทำความเคารพฮูหยินรองตระกูลเฉียว
เฉียวฟางลอบส่งสายตายั่วยวนให้สวีจิ้งเทียน เขาเพียงมองนางผ่าน ๆ อย่างไม่ใส่ใจเท่าใดนัก
"หนิงเจียว ย่ามีเรื่องจะบอกเจ้า"
"เจ้าค่ะ ท่านย่า"
"ย่าจะให้จิ้งเอ๋อร์ แต่งเฉียวฟางเข้ามาเป็นภรรยารอง หวังว่าเจ้าจะไม่ขัดข้อง"
ไม่ขัดเลยจ้า ไม่ขัดเลยจ้า!!!
"หลานไม่ขัดข้องเจ้าค่ะท่านย่า"
ฮูหยินผู้เฒ่าพยักหน้าด้วยสายตาพึงพอใจ แต่สวีจิ้งเทียนกลับขมวดคิ้วมุ่น เขาลอบยื่นมือไปบีบบั้นท้ายงอนงามของนางด้วยสายตาถมึงทึง
สตรีผู้นี้!!! ไหนบอกว่าชอบเขานักหนา เหตุใดจึงไม่รู้สึกหึงหวงบ้างเล่า!!!
หนิงเจียวนั่งนิ่งเฉย ไม่สนใจสวีจิ้งเทียนเท่าใดนัก
"ท่านย่า หลานเพิ่งจะแต่งงานนะขอรับ?"
"ไม่เห็นจะเป็นอะไร ความจริงย่าคิดจะให้แต่งพร้อมกันเสียด้วยซ้ำ บุรุษมีภรรยามาก ยิ่งเสริมสร้างบารมี ลูกหลานจะได้มากมายเต็มจวน"
"หลานจะให้นางเป็นได้เพียงอนุเท่านั้น หลานจะไม่แต่งตั้งสตรีใดขึ้นเป็นภรรยารองให้เทียบเท่าภรรยาเอก หากไม่ตกลงตามนี้ หลานก็ขออภัยด้วยที่จะไม่ยินยอมแต่งนางเข้ามา"
"จิ้งเอ๋อร์"
"ท่านย่าก็รู้ ว่าหลานพูดคำไหนคำนั้น!!!"
สวีจิ้งเทียนเอ่ยด้วยสายตาเย็นชา เขามีปมกับเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก ท่านพ่อรักภรรยารอง ให้ภรรยารองมาข่มเหงท่านแม่ของเขา ถึงเขาจะรังเกียจหนิงเจียวเพียงใด แต่ก็ไม่ได้ใจดำอำมหิตให้นางต้องถูกภรรยารองที่แต่งเข้ามารังแกจนตกตาย หากนางจะต้องตาย ก็ต้องตายด้วยน้ำมือของเขาเพียงเท่านั้น!!!
ฮูหยินรองเฉียว และคุณหนูรองเฉียวฟางมีใบหน้าที่ซีดเผือด นางวางแผนเอาไว้ หากได้แต่งเข้ามาเป็นภรรยารอง อย่างไรสักวันก็มีสิทธิ์เทียบเท่ากับภรรยาเอก นางจะต้องทำให้หนิงเจียวหลุดจากตำแหน่งภรรยาเอกให้ได้
แต่ทว่า!!! เหตุใดสวีจิ้งเทียนจึงเป็นบุรุษที่หลอกได้ยากนักเช่นนี้เล่า!!!
ช่างเถิด!!! ถึงจะเป็นอนุ ก็สามารถเป็นที่รักใคร่ของสวีจิ้งเทียนได้ นางยอมทุกอย่าง!!! นางเชื่อว่านางจะเป็นที่รักของสวีจิ้งเทียนได้อย่างแน่นอน
"ท่านแม่ ลูกยอมแต่งเข้ามาเป็นอนุเจ้าค่ะ"
"เฉียวฟาง!!!"
"ลูกรักท่านพี่สวีจิ้งเทียนเจ้าค่ะ"
เฉียวฟางพูดด้วยใบหน้าที่เขินอายจนพวงแก้มเป็นสีแดงระเรื่อ ช่างงดงามชวนมองไม่น้อย
"เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้เถิด อีกสองวันก็ให้เฉียวฟางแต่งเข้ามาเป็นอนุที่จวนตระกูลสวี พวกเราจะต้อนรับและดูแลนางอย่างสมเกียรติ"
หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย สวีจิ้งเทียนก็เดินออกมาพร้อมกับหนิงเจียว เขาสังเกตเห็นว่านางเงียบมาตลอดทางไม่ต่อล้อต่อเถียงกับเขาเหมือนเช่นทุกวัน
"หนิงเจียว"
"เจ้าคะ"
"เจ้าคงกำลังคิดสินะ ว่าหากข้าแต่งอนุเข้ามาแล้ว เจ้าจะไม่เป็นที่โปรดปรานของข้า"
หนิงเจียวรู้สึกเบื่อหน่ายกับโรคหลงตัวเองของสวีจิ้งเทียนเหลือจะทน ที่นางเงียบเพราะนางหิวต่างหากเล่า ข้าวเช้ายังไม่ได้กิน นางต้องห้ามพูด ไม่อย่างนั้นพลังในร่างกายจะลดน้อยถอยลง
"หึงหวงข้าสินะ สตรีขี้อิจฉา!!!"
"ท่านใช้หัวนิ้วโป้งเท้าข้างไหนคิดหรือเจ้าคะ ข้าหิวเจ้าค่ะ ข้าจึงไม่พูด!!! หลบไปเจ้าค่ะ ข้าจะไปกินข้าวแล้ว โอ๊ะ!!!"
"วาจาเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก!!! ดี!!! จงจำเอาไว้ ข้าจะไปหาแต่เฉียวฟาง ไม่มาหาเจ้าอีก!!!"
"เชิญเจ้าค่ะ"
"หนิงเจียว เจ้าจะต้องอยู่อย่างเดียวดายไปชั่วชีวิต!!!"
พูดจบเขาก็เดินจากไปไม่รอนางแม้แต่น้อย หนิงเจียวลอบส่ายหน้าไปมาอย่างระอาใจ นางตามอารมณ์ของเขาไม่ทันเสียเลย เขาโมโหร้ายเช่นนี้มาตั้งแต่เกิดหรืออย่างไร?
นางพอจะรู้มาบ้าง ว่าที่เขาตั้งท่ารังเกียจนาง เป็นเพราะหนิงเซียนนอกใจเขาไปปันใจให้ชายอื่น แล้วยังลอบได้เสียกับชายอื่นจนตั้งครรภ์ ที่แย่ไปกว่านั้น คือหนิงเซียนยังวางยาเขากับนางจัดฉากว่าได้มีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยากันแล้ว เขาจึงรังเกียจนางมากมายเช่นนี้
อยากเกลียดก็เกลียดไปเสียสิ นางก็ไม่ชอบเขาเหมือนกัน!!!
สองวันถัดมา เฉียวฟางก็ได้เข้ามาเป็นอนุ ในจวนตระกูลสวี หนิงเจียวจัดให้นางอยู่ที่ห้องนอนปีกซ้าย ไม่ไกลจากห้องของนางกับสวีจิ้งเทียนเท่าใดนัก
อาการอัมพาตที่ใบหน้าของนางก็เริ่มดีขึ้นบ้างแล้ว รู้สึกไม่ปวดตึงเท่าใดนัก
"ฮูหยินน้อยเจ้าคะ เกิดเรื่องแล้วเจ้าค่ะ!!!"
หนิงเจียวมองไป๋เฉียนที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาด้วยความสงสัย
"มีอะไร? วิ่งหน้าตาตื่นมาเชียว"
หนิงเจียววางผ้าเช็ดหน้าที่กำลังเย็บปักในมือลง นางชอบเย็บปักมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว โชคดีที่หนิงเจียวผู้นี้มีฝีมือเย็บปักดีเยี่ยม จึงรู้สึกว่าการเย็บปักของนางไหลลื่นดีไม่น้อย
"อนุเฉียว อนุเฉียว ตบตีกับสาวใช้ทงฝังนางหนึ่งเจ้าค่ะ!!!"
"อะไรนะ!?"
บ้าจริงเชียว!!! เพิ่งจะเข้าจวนมาวันแรกก็ก่อเรื่องน่าปวดหัวเสียแล้ว หนิงเจียวเดินไปถึงที่ห้องนอนปีกซ้าย ก่อนจะพบกับสตรีสองคน กำลังผลัดกันดึงทึ้งผมของอีกฝ่ายอย่างสุดกำลัง
"หยุดเดี๋ยวนี้!!!"
เสียงของหนิงเจียวทำให้อนุเฉียวและสาวใช้ทงฝังหยุดการกระทำตบตีลงมือต่อกันทันที
"เจ้าไม่อายบ้างหรือ มาตบตีกันต่อหน้าบ่าวไพร่เช่นนี้!!!"
"ฮูหยินน้อยเจ้าขา ฮึก!!! อนุเฉียวลงมือกับเหลียนเหลียนก่อนนะเจ้าคะ"
สาวใช้ทงฝังนามว่าเหลียนเหลียน คุกเข่าลงร้องไห้อ้อนวอนต่อหน้าหนิงเจียว หนิงเจียวหันไปมองอนุเฉียวที่ยืนลอยหน้าลอยตาไม่เคารพนางก่อนจะถอนหายใจออกมา
นางเกลียดที่สุดคือการเห็นใครมาทะเลาะตบตีกันเช่นนี้เพราะผู้ชายเพียงคนเดียว นางรู้ดีว่าที่สองคนนี้ลงมือต่อกันเพราะต้องการแย่งชิงความรักจากสวีจิ้งเทียน
"เจ้าตีกันเพราะต้องการแย่งซื่อจื่อ ข้าพูดถูกหรือไม่?"
เหลียนเหลียนสาวใช้ทงฝังรีบก้มหน้างุดไม่กล้าเอ่ยวาจา เป็นอนุเฉียวที่หันมามองหนิงเจียวด้วยสายตาดูแคลน
"พี่หญิงก็เคยทำไม่ใช่หรือ? วางยาปลุกกำหนัดพี่สวีจิ้งเทียนจนได้เขามาเป็นสามี แล้วจะเอาอะไรมาสั่งสอนข้ากันเจ้าคะ?"
"นางเป็นฮูหยินเอก มีสถานะเป็นภรรยาที่ถูกต้อง เหตุใดจะสั่งสอนอนุเช่นเจ้าไม่ได้!!!"
สวีจิ้งเทียนที่ยืนมองดูอยู่นาน เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเย็นชา เขาจ้องมองอนุเฉียวด้วยสายตาคาดโทษไม่น้อย
"พี่สวีจิ้งเทียนเจ้าคะ"
"ข้าไม่มีน้องสาว ไม่ต้องมานับข้าเป็นพี่!!!"
อนุเฉียวเม้มริมฝีปาก ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยหยดน้ำตา ช่างดูแล้วน่าสงสาร แต่ไม่ใช่สำหรับสวีจิ้งเทียน
เขาเกลียดน้ำตาของสตรีเป็นที่สุด!!!
"หากเจ้ายังไม่หยุดร้อง ข้าจะควักลูกตาเจ้ามาดองเหล้าเสียเดี๋ยวนี้!!!"
หนิงเจียวยกมือขึ้นทาบอกด้วยความตกใจ แต่ใบหน้ายังคงไร้ความรู้สึก
โอ๊ะ!!! โหดร้ายจริง ๆ นี่ถึงขนาดจะเอาดวงตาเมียน้อยมาดองเหล้าเชียวหรือ?
"ข้าจะสั่งกักบริเวณเจ้าสามวันให้สำนึกผิด อย่าได้คิดมาพูดจาล่วงเกินฮูหยินน้อยอีก ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าอำมหิต"
สวีจิ้งเทียนดึงแขนของหนิงเจียวให้เดินตามเขาไป ก่อนจะสะบัดมือไล่สาวใช้ออกไปจนหมด
"มองข้าทำไมเจ้าคะ?"
"ข้าเคยคิดว่าเจ้าฉลาดน้อย แต่ดูแล้ว เจ้าช่างโง่งมยิ่งนัก เหตุใดจึงให้นางมายืนด่าเจ้าได้ เสียระบบการปกครองของข้าหมด!!!"
หนิงเจียวรู้สึกรำคาญเป็นอย่างยิ่ง ด่าอีกแล้ว ด่า ๆ ๆ ๆ วัน ๆ มีแต่ด่า ๆ ๆ ๆ
"ข้าไม่ชอบสู้รบตบตีกับผู้ใดเจ้าค่ะ"
"จริงหรือ? ข้าเห็นเจ้าด่าทอหนิงเซียน ทั้งยังจะลงมือกับนางอีกด้วย เพื่อคิดจะแย่งข้า"
"ขออภัยเจ้าค่ะ ตอนนั้นข้าคงตาบอดไป"
"หนิงเจียว!!!"
"เรียกข้าบ่อย ๆ ไม่เบื่อหรือเจ้าคะ?"
"อย่ายั่วโมโหข้า!!!"
"ก็ท่านด่าข้าก่อนนี่เจ้าคะ ข้ามีปากจึงเถียง ข้าผิดหรือเจ้าคะ อุ๊บส์!!!"
สวีจิ้งเทียนกระชากตัวหนิงเจียวให้เข้าหาเขา ก่อนจะประกบจูบริมฝีปากงามอย่างดุดันหนักหน่วง หนิงเจียวพยายามผลักเขาออก แต่เขากลับจู่โจมนางรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
มือใหญ่ช้อนเอวบางของนางเอาไว้ ส่วนอีกข้างก็ขยำขยี้บั้นท้ายของนางอย่างหนักหน่วงด้วยความเอาแต่ใจ
หนิงเจียวเริ่มควบคุมสติตนเองไม่ได้ อารมณ์แห่งความปรารถนาเริ่มจู่โจมนางอย่างหยุดยั้งเอาไว้ไม่อยู่ มือขาวราวหยกงามค่อย ๆ ยื่นไปสัมผัสกับแผงอกที่แน่นบึกบึนของคนร่างใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนจะค่อย ๆ ลูบไล้จนต่ำลง ต่ำลง อุ๊ย!!! อุ๊ย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ มันช่าง? มันช่าง ใหญ่เสียเหลือเกิน ใหญ่เสียจนมือน้อย ๆ ของนางยังกำได้ไม่รอบสวีจิ้งเทียนหรี่ตามองมือขาวเนียนของหนิงเจียวที่กำลังลูบ ๆ คลำ ๆ อยู่ที่หว่างขาของเขาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาผละออกจากริมฝีปากของหนิงเจียว ก่อนจะผลักนางให้ล้มลงไปนอนบนเตียงสวีจิ้งเทียนปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเขาออกจนหมด ก่อนจะเดินตรงมาที่หนิงเจียว แท่งมังกรผงาดที่ถูกปลุกขึ้นมา กำลังชี้โด่เด่มาที่ใบหน้าของหนิงเจียวเอื๊อก!!!หนิงเจียวลอบกลืนน้ำลาย แต่ยังคงไม่ไว้วางใจ นี่เขากำลังคิดจะหลอกให้นางเกิดความต้องการ แล้วก็หันไปช่วยตนเองที่หน้ากระจกต่อใช่หรือไม่?สวีจิ้งเทียนมองหนิงเจียวด้วยแววตาราวกับหมาป่าเจ้าเล่ห์ที่จ้องมองแกะน้อยผู้ตกเป็นเหยื่อ"วันนี้เจ้าค่อนข้างควบคุมอารมณ์ต่อหน้าบ่าวไพร่ได้ดี คืนนี้ข้าจะให้รางวัลเจ้า ให้เจ้าเล่นกับมันได้ทั้งคืน"หนิงเจียวยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย แต่
“คุณชายใหญ่สวี ข้าอยากกินอันนั้นเจ้าค่ะ"หนิงเจียวยื่นมือชี้ไปที่เกาลัดคั่วน้ำตาล ก่อนจะวิ่งไปด้วยท่าทางตื่นเต้น"เถ้าแก่ เอาถุงหนึ่ง""ได้ขอรับ"สวีจิ้งเทียนคอยเดินตามหลังจ่ายเงินให้นาง เขามองนางด้วยสายตาที่อ่อนโยนลงบ้างเล็กน้อยคล้ายมีบางอย่างในตัวนางที่เปลี่ยนไป แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันมีอะไรที่เปลี่ยนไปกันแน่?"ใจคอเจ้าจะแวะร้านของกินทุกร้านเลยหรือไร?""อีกร้านเดียวเจ้าค่ะ ข้าจะไปกินบะหมี่ตรงนั้น โอ๊ะ!!!"หนิงเจียวเดินนำสวีจิ้งเทียนไปที่ร้านบะหมี่ แต่นางกลับวิ่งไปชนกับใครคนหนึ่งเข้า"โอ๊ะ!!! แม่นาง เจ้าเป็นอะไรหรือไม่?""ไม่เจ้าค่ะ""คุณชายเหยากวง""อ้าว คุณชายสวี ท่านมาเดินตลาดหรือ?"สวีจิ้งเทียนมองหนิงเจียวที่ถูกเหยากวงประคองเอาไว้ด้วยสายตาไม่พอใจ เมื่อได้เห็นเนินอกที่ล้นทะลักของนาง ยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดมากขึ้นไปอีกเสื้อผ้าดีดีไม่มีใส่หรือไร!!! ใส่เสื้อผ้าตัวเล็ก ๆ จะโชว์ให้ใครดูกัน!!!"ข้าพาภรรยามาซื้อของ"ไม่พูดเปล่า สวีจิ้งเทียนดึงแขนหนิงเจียวให้เข้ามาหาเขา ก่อนจะสอดมือเข้าไปโอบกอดที่เอวบางระหงของนาง เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ"อ้อ ที่แท้ก็ฮูหยินน้อยของท่านนี่เอง ช่างงามเหลือเก
หนิงเจียวเดินกลับมาที่เรือนด้วยความเหนื่อยล้า นางทิ้งตัวลงนอนบนเตียงไม่สนใจสิ่งใดแม้แต่น้อย สวีจิ้งเทียนที่เดินตามเข้ามา เขาคิดจะถามนางเรื่องการทำคลอดเมื่อครู่ ก็ต้องหยุดความคิดเอาไว้ เมื่อได้เห็นนาง กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงนอนเขาเดินเข้าไปทิ้งกายนั่งลงที่ข้างเตียง มองดูนางกำลังนอนหลับตาพริ้มด้วยสายตาที่ล้ำลึกใบหน้าขาวนวลเนียน กำลังหลับใหลอย่างไม่รับรู้สิ่งใด สวีจิ้งเทียนค่อย ๆ โน้มใบหน้าลงไป แต่สตรีตรงหน้ากลับพลิกตัวหันหลังให้เขาเสียก่อนสองวันต่อมา เป็นวันที่สวีจิ้งเทียนและหนิงเจียวจะต้องกลับไปเยี่ยมจวนตระกูลหนิงหลังจากแต่งงานกันแล้ว และเตรียมของขวัญไปมอบให้แก่ผู้อาวุโสที่จวนด้วย"เจ้าไปเรียนรู้วิธีทำคลอดสตรีมาจากที่ใดกัน?"สวีจิ้งเทียนเอ่ยถามหนิงเจียว ในขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งอยู่บนรถม้า เพื่อเดินทางไปจวนตระกูลหนิง"ข้าเคยอ่านเจอในตำราน่ะเจ้าค่ะ จึงลองทำดู ปรากฏว่าได้ผลจริง ๆ"หนิงเจียวเอ่ยตอบไปด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยเช่นเดิม นางเป็นถึงหมอสูตินรีเวช ทำคลอดให้หญิงสาวมาตั้งมากมาย เหตุใดนางจะทำคลอดให้ท่านแม่ของสวีอวี้ไม่ได้กันเล่าแต่เรื่องนี้คงไม่สามารถอธิบายให้คนสมองกลวงอย่างเขาเ
สวีจิ้งเทียนยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ เมื่อได้ยินหนิงเจียวเอ่ยร้องขอเขาด้วยสายตาที่ปรารถนา น้ำเสียงที่หวานหยาดเยิ้ม ทำให้เขาราวกับตกอยู่ในไฟสวาทที่แผดเผาเขาโน้มใบหน้าลงไปบดบี้กับริมฝีปากสีแดงสดของนางอีกครั้งอย่างดูดดื่ม ก่อนจะใช้มือแยกขาเรียวงามของนางออกจากกัน แล้วค่อย ๆ สอดใส่ท่อนเอ็นร้อนแทรกเข้าไปในร่องสวาทของนาง"อื้อ!!! เจ็บเจ้าค่ะ!!!"ความรู้สึกเจ็บเจียนขาดใจแต่ปนความเสียวซ่านนี้ ทำให้หนิงเจียวลืมสังเกตไปว่าใบหน้าของนางได้กลับคืนสู่ความปกติดังเดิมแล้วใบหน้าของนางบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด สวีจิ้งเทียนมองกลีบดอกไม้สีชมพูฉ่ำแฉะที่ค่อย ๆ ผลิดอกจนบานสะพรั่งด้วยสายตาที่เร่าร้อน"โอว!!! ซี้ดส์!!! ช่างแน่นเหลือเกิน!!!"อ่าห์!!! อะ อะ ๆ!!!"สวีจิ้งเทียนค่อย ๆ ขยับแก่นกายเข้าออกอย่างช้า ๆ เนิบนาบ ก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นมาเรื่อย ๆ จนหนิงเจียวร่างกายขยับขึ้นลงตามแรงกระแทกกระทั้นของเขา"เรียกชื่อข้า โอว์!!! เรียกชื่อของข้า!!!""อื้ออ!!! จิ้ง!!! อ๊าห์!!! เทียน!!!"ตับตับตับเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเป็นจังหวะตามแรงกระแทกของสวีจิ้งเทียน แก่นกายขยับเข้าออกพร้อมกับมือหนาใหญ่ที่บีบขยำเคล้นคลึ
หนิงเจียวเป็นไข้ นางตัวร้อนทั้งคืน สวีจิ้งเทียนเป็นคนเช็ดตัวและคอยป้อนยาให้กับนาง เช้านี้เขามีงานในวังหลวงจึงให้ไป๋เฉียนอยู่ดูแลนางแทนเขาไปก่อน"ฮูหยินน้อย ดีขึ้นรึไม่เจ้าคะ?"ไป๋เฉียนที่คอยเช็ดตัวให้หนิงเจียวเช้านี้ เอ่ยถามนางด้วยความห่วงใย หนิงเจียวพยักหน้า ไข้ของนางลดลงแล้ว แต่ยังคงรู้สึกปวดเมื่อยตามเนื้อตัวไม่น้อย"คุณชายใหญ่เฝ้าไข้ฮูหยินน้อยทั้งคืนเลยนะเจ้าคะ แล้วก็ฝากบ่าวให้นำยามาทา เอ่อ...""ยาอะไรรึ?"หนิงเจียวมองไป๋เฉียนที่ใบหน้าแดงก่ำด้วยสายตาสงสัย ไป๋เฉียนกำยาในมือบิดไปมาด้วยความเขินอาย"ยาทาที่ตรงนั้น...เอ่อ คิกคิก บรรเทาอาการบวมแดงเจ้าค่ะ"หนิงเจียวที่ได้ยินเช่นนั้นก็ใบหน้าแดงระเรื่อด้วยความอับอาย บ้าจริง!!!ทำไมเขาไม่เอามามอบให้นางด้วยตนเองกันนะ"เอาวางไว้ตรงนั้นละ เดี๋ยวข้าจัดการเอง""ให้ข้าทาให้เถิดเจ้าค่ะ""ไม่ต้อง!!! ข้าทำเองได้"ให้ตายสิ!!! อยู่ดีดีจะให้นางนอนแหวกขาให้สาวใช้มาใส่ยาให้มันใช่เรื่องไหมเล่า นางเคยเป็นหมอตรวจให้ผู้อื่นมามาก แต่จะให้ใครมาเห็นของนางเช่นนี้ นางก็ทำหน้าไม่ถูก"เจ้าออกไปเถิด ฮูหยินคงอยากให้ข้าที่เป็นสามีช่วยทายาให้มากกว่า""เจ้าค่ะ"หนิงเจียวห
หลังจากสวีหลงเยียนและหลิวหวานหว่านกลับเรือนไปแล้ว สวีจิ้งเทียนก็ออกไปนอกจวนอย่างเร่งรีบ เพียงไม่นานก็กลับเข้ามาสวีจิ้งเทียนกลับมาพร้อมหนังสือสราญรมย์สิบเล่ม เขาห่อมันใส่ผ้าอย่างดี ก่อนจะสั่งให้ มู่จินนำไปซ่อนเอาไว้ที่ห้องหนังสือ ส่วนสองเล่มที่เหลือเขาแอบเอาไปซ่อนไว้ที่หีบใส่ของใต้เตียงนอนหนิงเจียวที่เดินเข้ามาในเรือนนอน หรี่ตามองสวีจิ้งเทียนด้วยสายตาสงสัย มีลับลมคมในอะไรที่ใต้เตียงกันนะ?"ท่านหายไปไหนมาเจ้าคะ?"สวีจิ้งเทียนสะดุ้งเล็กน้อย เขายืนขึ้นก่อนจะหันไปมองหนิงเจียวด้วยสีหน้าราบเรียบ"ข้าไปนำตำราเกี่ยวกับการทำศึกมาจากสหายน่ะ""อ้อ""อย่ายุ่งกับหีบนี่ ไม่เช่นนั้นข้าจะตัดมือเจ้าทิ้งเสีย""ใครอยากยุ่งกันเจ้าคะ""ก็ดี!!!"สวีจิ้งเทียนตีหน้าเคร่งขรึม ก่อนจะสะบัดชายเสื้อเดินออกไปจากเรือนนอนหนิงเจียวรีบเดินไปที่ประตู ก่อนจะเหลียวซ้ายแลขวา เมื่อแน่ใจว่าสวีจิ้งเทียนเดินออกไปไกลแล้ว นางจึงรีบเดินไปเปิดหีบใบนั้นออกมาดูทันทีร่วมรักอย่างเผ็ดร้อนเข้าสุด เข้าลึก วิธีทำบุตรให้ล้นจวนหนิงเจียวส่งเสียงเฮอะในลำคอ ก่อนจะเปิดหนังสือเหล่านั้นออกดูท่วงท่าไม่ต่างจากปัจจุบันเท่าใดนัก แต่ก็ถือว่ายั
"เจียวเอ๋อร์ ช่วยพี่ด้วย เจียวเอ๋อร์!!!""ท่านพี่!!!"หนิงเจียวสะดุ้งตื่นขึ้นมาในเช้าของอีกวัน นางรู้สึกเหนื่อยหอบ และปวดเมื่อยสะโพกเหลือเกินหนิงเซียน นางฝันถึงหนิงเซียนหรือ?เหตุใดนางจึงรู้สึกว่าร่างนี้มีสิ่งใดที่หลงลืมไป แต่ก็คิดไม่ออกว่าคือเรื่องใด วันนั้นนางกับหนิงเซียนต้องพบกับเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้น แต่นางจำไม่ได้เป็นแน่!!!หนิงเจียวสะบัดศีรษะไปมา ก่อนจะรู้สึกว่าร่างกายดูเย็น ๆ โล่ง ๆ นางจึงก้มลงไปมอง และพบว่าตนเองไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ผ้าปูที่นอนก็ยับย่น หรือว่า นางกับเขาเมื่อคืน?นางจำได้ว่าเป็ดตุ๋นติดคอ จนนางเผลอยกเหล้าของเขาขึ้นมาดื่ม จากนั้นสติของนางก็เลอะเลือนนางคงไม่ได้บังคับขืนใจเขาใช่หรือไม่?"ตื่นสายเสียจริง ไร้การอบรมสั่งสอน ช่างเป็นสตรีที่ใช้ไม่ได้!!!"หนิงเจียวหันไปมองก่อนจะพบกับสวีจิ้งเทียน ที่เดินเข้ามา เขาสวมเพียงเสื้อนอกสีดำตัวเดียว เผยให้เห็นแผงอกล่ำสันที่นางชื่นชอบจนอดมองดูอย่างละสายตาไม่ได้"วันนี้ท่านไม่เข้าวังหลวงหรือเจ้าคะ?""ข้าส่งจดหมายไปลางานกับท่านพ่อแล้ว บอกว่าไม่ค่อยสบาย""เป็นอะไรหรือเจ้าคะ?""โดนสตรีหน้าไม่อายนางหนึ่ง ขึ้นขย่มกระแทกกระทั้นค่อนค
หนิงเจียวมองผ้าเช็ดหน้าที่ปักลายนกเกาะบนกิ่งดอกเหมยด้วยความพึงพอใจ นางใช้เวลาหลายวันในการปักมัน และแก้จุดต่าง ๆ จนมันสวยงามถูกใจนาง ด้ายที่นางใช้เป็นประจำ หมดไปหลายสีเสียแล้ว วันนี้นางจึงจะออกไปตลาดด้านนอกเพื่อไปซื้อด้ายที่ร้านตัดเย็บเสื้อผ้า"ฝีมือการปักเย็บของสะใภ้ใหญ่ช่างงดงามยิ่งนัก""คารวะฮูหยินรองเจ้าค่ะ""เรียกข้าว่าแม่เล็กเถิด ว่าแต่เรือนของเจ้านี่ ไม่คิดจะยกชาชั้นดีมาปรนนิบัติข้าสักหน่อยหรือ"ฮูหยินรองวางท่าทางราวกับตนเองเป็นเจ้าของเรือน หนิงเจียวเองก็คร้านจะใส่ใจ นางหันไปพยักหน้าให้ไป๋เฉียนเล็กน้อย"แม่เล็กมาที่นี่ มีเรื่องสำคัญหรือเจ้าคะ?""ก็ไม่สำคัญมาก เพียงแต่จะมาบอกเจ้าก่อน ว่าหลานสาวของข้า จะเข้ามาเป็นภรรยาอีกคนของสวีจิ้งเทียน"หนิงเจียวขมวดคิ้วมุ่น นางมองฮูหยินรองด้วยสายตาที่ล้ำลึก ฮูหยินรองเองก็ลอบสังเกตสีหน้าของนางเช่นกัน เมื่อเห็นว่าหนิงเจียวมีท่าทีร้อนรนก็นึกยิ้มเยาะในใจ"หลานสาวของข้าผู้นี้มีนามว่า เมิ่งหลิน เป็นบุตรของพี่สาวร่วมมารดาเดียวกันกับข้า นางเป็นคุณหนูของภรรยาเอก มิใช่คุณหนูที่มีชาติกำเนิดมาจากภรรยารอง แล้วใช้เต้าไต่ขึ้นมาเป็นภรรยาเอก""เต้าไต่? ข้าเพิ
วันคืนล่วงเลยผ่านมานานเป็นเวลาสิบกว่าปี จนกระทั่งลูก ๆ ของทั้งคู่เริ่มโตขึ้นมาในวัยหนุ่มสาวกันหมดแล้วอาเหยาเจริญรอยตามผู้เป็นบิดา เขาเป็นถึงท่านรองแม่ทัพผู้สง่างามและเก่งกาจ และเขายังมีงานอดิเรกที่สวีจิ้งเทียนและหนิงเจียวเพิ่งจะค้นพบ นั่นก็คืออาเหยาชอบช่วยตนเองหน้ากระจก!!!หนิงเจียวส่ายหน้าไปมาอย่างช้า ๆ ก่อนจะคิดในใจช่างเหมือนกับสวีจิ้งเทียนไม่มีผิด นางจำคืนเข้าหอครั้งแรกได้ขึ้นใจให้ดูแต่ไม่ให้จับ โอว์ ซี้ดดด!!!สวีฟง เป็นบัณฑิตหนุ่มรูปงาม เขาชอบศึกษาตำราและท่องเที่ยวไปในสถานที่ต่าง ๆ งานอดิเรกของเขาคือการชวนสวีหลานน้องชายคนเล็กไปดูเนินนมของสาวคณิกาที่หอนางโลมส่วนบุตรสาวทั้งสองของนางนั้น สวีชิงชิง เป็นสตรีที่เรียบร้อย ใบหน้างดงามคล้ายหนิงเจียวเป็นอย่างมาก เป็นสตรีที่บุรุษต่างหมายปอง นางมีฝีมือเย็บปักถักร้อยงดงามเช่นเดียวกับหนิงเจียวและบุตรสาวคนที่สอง สวีหมิงลี่สวีหมิงลี่นั้น นับวันยิ่งโตขึ้น ใบหน้าก็ยิ่งละม้ายคล้ายกับหนิงเซียนไม่มีผิดเพี้ยน อีกทั้งยังมีความสามารถที่เก่งกาจในทุก ๆ ด้าน เป็นสตรีอันดับหนึ่งของเมืองหลวง เป็นที่หมายตาของบุรุษทั้งหลายหนิงเจียวยิ้มปริ่มในใจ นางเชื่อ
ท้องที่สามของหนิงเจียวนั้นนางได้บุตรสาว สร้างความยินดีต่อคนในจวนตระกูลสวีอีกครั้ง นี่เป็นบุตรคนที่สี่ของพวกเขา ชื่อว่า สวีหมิงลี่หนิงเจียวเองก็ได้พักรักษาตัวจนหายดีหลังจากคลอดบุตรแล้ว คงเพราะว่าให้กำเนิดบุตรติดต่อกันถี่เกินไป ร่างกายนางจึงอ่อนล้าไม่น้อย"เจียวจ๋า ได้เวลาดื่มยาบำรุงแล้วจ้ะ"หนิงเจียวหันไปมองสวีจิ้งเทียนที่กำลังถือถ้วยยาบำรุงตรงเข้ามาหานางด้วยท่าทีกระตือรือร้น"ขอบคุณเจ้าค่ะ""เจ้ารีบรักษาตัวให้หายดีเถิด ข้าอยากจะได้บุตรชายอีกสักคนพรวดดดหนิงเจียวพ่นยาที่กำลังกินในปากใส่ใบหน้าของสวีจิ้งเทียนเต็ม ๆ ใบหน้าของสวีจิ้งเทียนตอนนี้จึงมียาเปื้อนเลอะเต็มใบหน้า"หนิงเจียว เหตุใดเจ้าจึงทำเช่นนี้?""ข้าจะมีแค่สี่คนก็พอเจ้าค่ะ ข้าเหนื่อยแล้ว""แต่ข้าอยากได้อีกคนนี่นา!!!"หนิงเจียวปรายตามองสวีจิ้งเทียนด้วยสายตาอำมหิต จนสวีจิ้งเทียนต้องก้มหน้างุด ก่อนจะยื่นมือไปบีบนวดตามลำตัวให้ภรรยาที่รัก"ท่านต้องดื่มน้ำแกงคุมกำเนิด ห้ามหยุดกินหากไม่ได้รับคำสั่งจากข้า!!!""โธ่!!! เจียวจ๋า""ท่านเป็นพวกหื่นกาม ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่อยู่ ท่านจะผลิตลูกมาสร้างทีมเตะลูกหนังหรือเจ้าคะ?""ก็ได้ ก็ได้ ข้าพอ
หนิงเจียวรู้สึกปวดเมื่อยตามเนื้อตัวไปหมด สวีจิ้งเทียนพักนี้ชอบนัวเนียอยู่กับนางตลอดเวลา จนนางรู้สึกราวกับมีวิญญาณมาสิงสู่ ตามติดจนบางครั้งนางเองก็รู้สึกเบื่อหน่ายเขาไม่น้อยจึก จึก!!!หนิงเจียวหันไปมองสวีจิ้งเทียนที่ยื่นนิ้วชี้หนาใหญ่ของเขามาจิ้มที่ท่อนแขนเรียวงามของนางด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ หนิงเจียวลอบสบถด่าทอสวีจิ้งเทียนในใจอีกครั้ง"เจียวจ๋าาา!!!""ท่านไม่ปวดเอวบ้างหรือเจ้าคะ นี่รอบที่สามแล้วนะเจ้าคะ ข้าปวดร้าวที่เอวไปหมดแล้ว""ครั้งนี้ข้าจะค่อย ๆ กระแทก""ท่านไปทำงานเถิดเจ้าค่ะ เห็นว่าฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งให้กลับเข้าวังหลวงแล้วไม่ใช่หรือ?""เจ้าไล่ข้าหรือ?"สวีจิ้งเทียนทำหน้างอง้ำ ก่อนจะหันหลังให้นางด้วยความโกรธเคือง เขาอุตส่าห์ตามใจนาง นางอยากได้สิ่งใดเขาก็หามาให้ แต่นางกลับผลักไสให้เขาไปที่อื่น"จิ้งเทียน""......""จะหันมาดีดีหรือจะให้ข้าถีบท่านตกเตียงเจ้าคะ?"สวีจิ้งเทียนหันกลับมามองหนิงเจียวด้วยสายตาที่หวานเยิ้ม ก่อนจะซุกใบหน้าลงไปที่ซอกอกอวบอิ่มของนางด้วยความรักใคร่สามวันก่อน ฮ่องเต้ทรงมีพระราชโองการให้เขากลับเข้าไปรับราชการในวังหลวง แต่เขายังคงครุ่นคิดอยู่ไม่น้อย ช่วงเวลาที่เขา
เถ้ากระดูกของหนิงเซียนถูกขุดย้ายกลับเข้ามาฝังในศาลบรรพชน เพราะนางไม่ได้ทำเรื่องน่าอับอายที่ผิดต่อตระกูลหนิงอีกแล้ว หนิงเจียวเองยืนจับมือแม่ใหญ่ที่ร้องไห้จนหมดเรี่ยวแรงด้วยความสงสารจับใจ"ท่านพี่ไร้มลทินแล้วนะเจ้าคะแม่ใหญ่""แม่ใหญ่ขอบใจเจ้ามากนะ ก่อนจะกลับเจ้าแวะไปเยี่ยมท่านแม่ของเจ้าด้วยเล่า นางกำลังตั้งครรภ์ คงอยากจะพบหน้าเจ้า"หนิงเจียวพยักหน้า มารดาของนางตั้งครรภ์ได้สามเดือนกว่า ๆ แล้ว สร้างความดีใจแก่คนในจวนตระกูลหนิงไม่น้อยหนิงเจียวแวะมาเยี่ยมมารดาของตนเอง เอ่ยถามสารทุกข์สุกดิบกับนางอยู่ครึ่งค่อนวัน ก่อนจะกลับจวนตระกูลสวีตั้งแต่เกิดเรื่องในวันนั้นอาเหยาก็ติดนางเป็นอย่างมาก เขาหวาดกลัวกับการที่ต้องอยู่ห่างจากนาง เพราะกลัวว่าจะนางจะหายไปจากเขา หนิงเจียวต้องปลอบบุตรชายอยู่นานกว่าเขาจะหายงอแงท้องของนางเริ่มโตขึ้นจนเดินเหินไม่สะดวก สวีจิ้งเทียนเองก็ถูกปลดออกจากตำแหน่งท่านรองแม่ทัพเพราะละเลยจากหน้าที่เฝ้าระวังชายแดน แต่เขากลับไม่สนใจไยดีสิ่งใด นอกจากวัน ๆ เอาแต่ขลุกอยู่กับนาง"โอ๊ว์!!! ซี้ดดดด หนิงเจียวครางให้ข้าฟังเร็วเข้า!!! ข้าจวนจะถึงยอดเขาแล้ว อ่าส์!!!"ตั้งแต่สวีจิ้งเทียนออกจ
เหยากวงและหนิงเจียว ถูกองค์หญิงหย่งชิงและองค์รัชทายาทมู่ฉีล้อมตัวเอาไว้จนหมดหนทางที่จะหนีรอด ทั้งสองหันหลังชนกัน คอยระแวดระวังความปลอดภัยให้แก่กันหย่งชิงปรายตามองหน้าท้องที่นูนใหญ่ของหนิงเจียวด้วยสายตาเกลียดชัง สตรีที่ควรมีสิทธิ์ให้กำเนิดบุตรของสวีจิ้งเทียน ควรจะมีเพียงแค่นางเท่านั้น"หนิงเจียว ข้าจำได้ว่า สถานที่แห่งนี้อยู่ใกล้กับหลุมฝังศพของพี่สาวเจ้า เช่นนั้น ให้ข้าส่งเจ้ากับลูกในท้อง ไปนอนเล่นกับพี่สาวของเจ้าดีหรือไม่?"หนิงเจียวส่งเสียงเฮอะในลำคอ นางจ้องมองหย่งชิงด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม หย่งชิงเองก็จ้องมองนางอย่างไม่ละสายตาเช่นกัน"เหตุใดจึงไม่ตอบเล่า? กลัวตายขึ้นมาแล้วหรือ? ไม่ต้องกลัวไป ข้าจะทำให้เจ้าตายเร็วที่สุด หลังจากนั้นข้าก็จะผ่าท้องของเจ้า ควักลูกของเจ้าออกมาโยนทิ้งเล่น ๆ ฮ่าาา ๆ ๆ ๆ""จิตใจของพระองค์ช่างต่ำตมจริง ๆ เพคะ"เพียะ!!!"กล้าดีอย่างไรมาพูดจาดูถูกข้า? ข้าคือองค์หญิงมีสถานะสูงส่งกว่าเจ้าหลายเท่านัก"หย่งชิงฟาดฝ่ามือลงไปที่ใบหน้าขาวนวลเนียนของหนิงเจียวจนเกิดรอยแดงขึ้นมาห้านิ้ว เพียะ!!!"นี่เจ้า!!!"หนิงเจียวเองก็ฟาดฝ่ามือไปที่ใบหน้าของหย่งชิงเช่นกัน นางอดทนได้
เป็นเวลาร่วมเดือนแล้วที่สวีจิ้งเทียนจากไปไกลถึงชายแดน เขาไม่ได้ส่งจดหมายมาหานางเลยแม้แต่ฉบับเดียว นางเองก็เข้าใจดี ด้วยหนทางที่ค่อนข้างลำบากและห่างไกล เขาคงจะไม่สะดวกเท่าใดนัก นางเองเชื่อใจสวีจิ้งเทียนอย่างที่สุด"ท่านแม่ วันนี้ท่านจะพาข้าไปซื้อของเล่นที่นอกจวนหรือไม่ขอรับ"หนิงเจียวมองอาเหยาที่พูดจาออดอ้อนนางอย่างรักใคร่เอ็นดู อาเหยาอยากออกไปเที่ยวเล่นด้านนอกจวน นางเองก็ต้องการจะออกไปหาซื้อผ้าอย่างดีเอามาไว้ทำเสื้อผ้าให้ลูก ๆ ได้สวมใส่ยามนี้นางท้องหกเดือนแล้ว ท้องนี้ค่อนข้างใหญ่โตไม่น้อย แต่หนิงเจียวเองก็ยังคงเดินไปเดินมาอยู่บ่อยครั้ง การเดินออกกำลังกายบ้างจะช่วยให้นางคลอดง่ายยิ่งขึ้น"ให้บ่าวไพร่ไปก็ได้ ไยเจ้าจะต้องไปเองเล่า ยิ่งท้องโตมิใช่น้อย"ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยเตือนหนิงเจียวด้วยความห่วงใย"ไปเพียงครู่เดียวเจ้าค่ะท่านย่า ให้บ่าวไพร่ไปเลือกเองก็กลัวจะไม่ถูกใจเจ้าค่ะ""เอาเถิด พาคนไปคอยรับใช้หลาย ๆ คนเถิด มู่จิน เจ้าไปคอยดูแลฮูหยินน้อยกับคุณชายน้อยให้ดี""ขอรับฮูหยินผู้เฒ่า"อาเหยาค่อนข้างอารมณ์ดีและเบิกบานไม่น้อยที่จะได้ออกไปเที่ยวนอกจวน เขาชอบท่องเที่ยวและเรียนรู้เหมือนกับนางเป็นอ
เพล้ง!!!"ไสหัวออกไปให้หมด!!!"องค์หญิงหย่งชิงอาละวาดด่าทอทุบตีนางกำนัลด้วยโทสะที่เดือดดาล นางเฝ้าวาดหวังว่าสวีจิ้งเทียนจะต้องตกเป็นสามีของนางเป็นแน่ แต่ทว่าเขากลับไปหาหนิงเจียว แล้วยังแต่งนางเข้าจวนอย่างใหญ่โต นางเกลียดชังสตรีหน้าหนาผู้นี้ยิ่งนัก เหตุใดมันจึงไม่ตกตายไปเสีย!!!"เจ้าอาละวาดไปก็ไม่ได้สิ่งใดขึ้นมา หักใจแล้วเตรียมตัวอภิเษกกับองค์ชายต่างแคว้นสักพระองค์เถิด"หย่งชิงปรายตามองมู่ฉี พี่ชายของตนเองด้วยสายตาขุ่นเคือง"ข้าไม่แต่ง ข้าจะแต่งกับสวีจิ้งเทียนเพียงผู้เดียว""แต่เขากลับไปใช้ชีวิตอยู่กับหนิงเจียวแล้ว""ท่านพี่ ท่านช่วยข้าอีกสักครั้งเถิด!!!""เพ่ยเพ่ย ข้าได้ยินมาว่าคู่หมั้นของท่านบัณฑิตเฟิ่ง ตกตายอย่างกะทันหัน เป็นฝีมือของเจ้าใช่หรือไม่?"หย่งชิงไม่เอ่ยสิ่งใด นางเพียงยกถ้วยชาร้อนขึ้นมาจิบอย่างอารมณ์ดี"เมื่อคืน ท่านบัณฑิตเฟิ่งช่างร้อนแรงมากเจ้าค่ะ""เพ่ยเพ่ย!!!""รู้แล้วจะถามทำไม!!! รู้แล้วจะจับข้าส่งทางการหรือ? ข้าเป็นถึงองค์หญิงนะเพคะ""เจ้ามันไม่ใช่คน!!!""แล้วท่านพี่เล่าเพคะ ดีนักหรือ? หลงรักคู่หมั้นของผู้อื่น""เพ่ยเพ่ย!!!""ท่านพี่ต้องช่วยข้า!!!"มู่ฉีไม่เอ่ยสิ่งใด
สวีจิ้งเทียนจ้องมองใบหน้าเรียวงามของหนิงเจียวด้วยสายตาที่ร้อนแรง หนิงเจียวเองก็รู้ใจเขาเป็นอย่างยิ่ง นางจึงค่อย ๆ ปลดเปลื้องอาภรณ์บนร่างกายออกจนหมดด้วยท่าทีเย้ายวนพร้อมกับส่งสายตามองไปที่เขาอย่างเชิญชวนสวีจิ้งเทียนโอบกอดร่างบางระหงให้ล้มลงนอนไปบนเตียง แล้วจึงส่งลิ้นอุ่นร้อนบดเบียดแทรกซึมเข้าไปในริมฝีปากบางของนาง เกี่ยวกระหวัดลิ้นพัวพันกันไปมา ช่วงชิงความหวานจากริมฝีปากของกันและกันอย่างดูดดื่มเขาใช้ลิ้นโลมเลียไปตามใบหูขาวเนียนของนาง ก่อนจะจุมพิตเรื่อยลงมาที่ซอกคอ ขบเม้มจนคอบางระหงเกิดเป็นรอยแดงจ๊วบ จ๊วบ"อูยยยย ซี้ดดดดด!!!"สวีจิ้งเทียนใช้ลิ้นม้วนดูดเลียยอดจุกบัวสีชมพูที่บานชูช่อเต่งตึง ทำให้หนิงเจียวต้องแอ่นอกตอบรับด้วยความเสียวซ่าน สองมือหนาใหญ่เข้าไปกอบกุมบีบขยำเคล้นคลึงช่อดอกบัวงามอย่างเอาแต่ใจเหมือนจะใหญ่ขึ้นใช่หรือไม่!!!จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ เคลื่อนใบหน้าลงมาบริเวณเนินสวาทที่มีเส้นไหมสีดำปกคลุม ก่อนจะใช้มือแยกเรียวขางามให้อ้าออกจนกว้าง เผยให้เห็นกลีบดอกไม้สีชมพูที่ผลิบานเล็กน้อย กำลังรอให้เขาเข้ามาสัมผัสนิ้วร้อนค่อย ๆ แหวกกลีบดอกไม้งามให้แยกบานออก แล้วจึงครอบริมฝีปากดูดดึงขบเม
สวีจิ้งเทียนกลับมาเก็บของที่เรือนของเขาทันที เขานำไปเพียงเสื้อผ้าสิ่งของที่จำเป็น และตั๋วเงินหลายหีบที่เขาหามาได้ด้วยตนเอง เขาจะไปใช้ชีวิตอยู่กับหนิงเจียวและลูกของเขา และจะไม่ยอมสูญเสียนางไปอีก"จิ้งเอ๋อร์""ท่านพ่อ"เสนาบดีสวีมองบุตรชายของตนเองด้วยสายตารักใคร่ แต่ไหนแต่ไรมา สวีจิ้งเทียนคือความหวังทั้งหมดของเขา เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวที่จะสามารถสานต่อเจตนารมณ์ของเขาได้"เจ้าใจเย็น ๆ ก่อนเถิด พ่อเองได้ตักเตือนท่านย่ากับท่านแม่ของเจ้าไปแล้ว เรื่องนี้เป็นจวนตระกูลสวีที่ทำผิดต่อจวนตระกูลหนิง พ่อเองก็ไม่อาจนิ่งเฉยได้""ลูกจะแต่งงานกับหนิงเจียวเพียงผู้เดียวเท่านั้น ลูกจะไม่รับสตรีอื่นอีกแม้แต่คนเดียว หากท่านพ่อยังอยากเห็นหน้าลูก ยังอยากให้ลูกเจริญรอยตามสิ่งที่ท่านพ่อวาดหวังเอาไว้ ได้โปรดเข้าใจลูกด้วย""เอาเถิด พ่อจะยกจวนหลังใหญ่ฝั่งนั้นให้แก่เจ้า เจ้าจะได้สบายใจ ส่วนเรื่องแต่งงาน พ่อจะไปเจรจาสู่ขอหนิงเจียวอีกครั้ง เราจะสู่ขอนางอย่างยิ่งใหญ่และสมเกียรติ""ขอบพระคุณท่านพ่อขอรับ"สวีจิ้งเทียนหันไปมองจวนหลังใหญ่ฝั่งตรงข้ามที่เชื่อมต่อกับจวนตระกูลสวี เป็นสมบัติเก่าแก่ตกทอดมาหลายชั่วอายุคน เดิมที