อีวานหน้าซีดด้วยความตื่นตระหนก เรเชลเองก็กระวนกระวาย เป็นเพราะว่าทั้งสองคนได้คิดแผนการปลอมตัวเป็นประมุขสำนักประตูสุราลัย ตระกูลคาร์เตอร์ไม่ได้รับคำตอบใด ๆ จากดาร์บี้ผู้ไร้พ่าย ถึงแม้ว่าพวกเขาได้ส่งคำเชิญไปครั้งแล้วครั้งเล่า เรเชลรู้ว่าวีรบุรุษจะไม่มีทางมางานเลี้ยงอย่างแน่นอน และนั่นก็คือตอนที่เธอมีความคิดที่จะให้อีวานปลอมตัวเป็นประมุขสำนักประตูสุราลัย เธอไม่เพียงแต่สามารถเติมเต็มความปรารถนาของน้องสาวคนเล็กของเธอได้เท่านั้น แต่พวกเขายังสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อขอความยินยอมจากพ่อของเธอในการแต่งงานและจะนำมาซึ่งชัยชนะแก่ทุกคน เรเชลเองก็ไม่คาดคิดว่าเหล่าทัพแห่งสำนักประตูสุราลัยจะมาปรากฏตัว ในเวลานั้น เหล่าผู้คนนับพันคนมองไปที่แดร์ริลและคำนับเขา “บราเธอร์แดร์ริล” เสียงของพวกเขาดังก้องราวกับฟ้าร้อง เมื่อตอนที่แดร์ริลส่งข้อความถึงเซปไฟร์เพื่อขอให้เขาเตรียมของขวัญวันเกิดเอาไว้ให้ เขาได้สั่งไม่ให้เปิดเผยตัวตนของเขาในงานเลี้ยงครั้งนี้ และนั่นคือเหตุผลที่พวกเขาเรียกแดร์ริลว่าบราเธอร์แดร์ริล ทุกคนต่างก็ตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนั้น เหล่าวีรบุรุษแห่งสำนักประตูสุราลัยเรียกเขาว่าบราเธอร์แด
แดร์ริลมองเรเชลในขณะที่เขาจิบเครื่องดื่มในมือ “ทำไมฉันต้องช่วยมันด้วย?” 'อีวานเป็นคนที่โยนฉันเข้าไปในป่าลูกท้อเบ่งบาน เขายังโกหกทุกคนและปลอมตัวเป็นฉัน ทำไมฉันต้องช่วยเขา? ไม่เพียงแค่นั้น เธอยังดูถูกฉันมาตลอดและตอนนี้เธอกลับต้องการความช่วยเหลือจากฉันเหรอ?' แดร์ริลคิด ราเชลกังวล เธอกัดริมฝีปากจนเลือดออก เธอคว้าที่แขนของแดร์ริลและขอร้อง “ฉันขอร้อง ฉันจะเรียกนายว่าพี่ชายถ้านายต้องการ พี่แดร์ริล ได้โปรดบอกพวกเขาให้ปล่อยอีวานไป ได้โปรดช่วยเขาด้วย ฉันขอร้อง…” แดร์ริลยิ้มอย่างเย็นชาแต่เขาไม่ได้พูดอะไร มันสายเกินไปแล้วที่จะเรียกเขาว่าพี่ชาย “ฉันคงช่วยอะไรไม่ได้” แดร์ริลพูดด้วยท่าทางเฉยเมยในขณะที่วางแก้วลง เรเชลแทบทรุดลงกับพื้น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเสียใจ เธอไม่ควรขอให้อีวานปลอมตัวเป็นดาร์บี้ผู้ไร้พ่ายแต่มันก็สายเกินไปแล้ว "แดร์ริล" เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น เธอลุกขึ้นยืนและเรียกแดร์ริล เธอคือ โอฟีเลีย เลน โอฟีเลียยืนขึ้นพร้อมกับความเซ็กซี่ของเธอ เธอสวมกระโปรงสีไวน์แดงรูปทรงเย้ายวนที่เผยให้เห็นรูปร่างของเธอ เธอสวมรองเท้าส้นสูงและมีผมที่ลอนยาว ทั้งหมดนี้ทำให้เธอดูเซ็กซี
เซปไฟร์ยิ้มและกล่าว “ในเมื่อเรามาที่นี่เพื่อฉลองวันเกิด ดังนั้น เราจึงไม่ได้มาเพียงมือเปล่าเท่านั้น แต่เรายังมีของขวัญมามอบให้ ท่านคาร์เตอร์” นิมบัสเดินไปข้างหน้าพร้อมกับกล่องของขวัญที่งดงาม ว้าว! ทุกคนต่างก็สงสัยว่ามีอะไรอยู่ในกล่องของขวัญ จากนั้น นิมบัสก็เปิดกล่องออกและหยิบสิ่งที่เป็นประกายสีทองออกมา มันคือหน้ากากทองคำ! หน้ากากทองคำซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของดาร์บี้ผู้ไร้พ่าย หน้ากากถูกสร้างขึ้นมาอย่างปราณีต โดยมีมังกรหลายตัวถูกสลักไว้ราวกับว่าพวกมันกำลังลอยอยู่ หน้ากากที่อีวานสวมนั้นเป็นเพียงแค่ของปลอม "สวยงามอะไรเช่นนี้…" ซาร่าตื่นเต้นมากเมื่อเธอได้รับหน้ากากทองคำนั้น เธอตกตะลึงจนพูดไม่ออก นิมบัสหัวเราะ “คุณซาร่า ท่านประมุขของเราสั่งทำให้คุณโดยเฉพาะ และมันก็ยังเหมือนกับของเขาอีกด้วย เขาบอกว่าคุณสวยและใจดี คุณสมควรจะได้รับหน้ากากทองคำที่เหมือนกับของเขา” นิมบัสมองไปรอบ ๆ ก่อนจะพูดต่อ "หน้ากากทองคำเป็นสัญลักษณ์ของท่านประมุขสำนักประตูสุราลัย ถ้าหากว่าคุณตกอยู่ในอันตราย คุณสามารถนำมันไปที่สำนักประตูสุราลัย ด้วยหน้ากากที่คล้ายคลึงกับของท่านประมุขของเรา สมาชิกของเราจะรับใ
เมื่องานเลี้ยงสิ้นสุดลงก็เป็นเวลาค่ำแล้ว ดวงจันทร์สาดแสงอยู่เหนือท้องฟ้า แขกแต่ละคนอยู่ในห้องรับรองเพื่อการพักผ่อนในค่ำคืนนี้ แดร์ริลกำลังเดินผ่านสวนไปยังห้องรับรองของเขา เขาได้ยินเสียงเรียกดังมาจากด้านหลังที่มาพร้อมกับเสียงกระทบของรองเท้าส้นสูง เขาหันกลับมาและได้เห็นซูซาน ซูซานดูสวยงามในคำคืนนี้ในฐานะที่เธอเป็นแม่งานของงานเลี้ยง เธอจึงดื่มเครื่องดื่มไปหลายแก้วและใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีดอกกุหลาบ “น้าซูซาน มีอะไรเหรอ?” แดร์ริลถามในขณะที่เขาหันกลับมามองเธอ ซูซานกัดริมฝีปากของเธอและพูดเบา ๆ “แดร์ริล ฉันอยากจะขออะไรบางอย่าง นายช่วยให้ฉันได้พบกับดาร์บี้ผู้ไร้พ่ายได้ไหม?” ซาร่าไม่ใช่คนเดียวที่ประทับใจดาร์บี้ผู้ไร้พ่าย ซูซานเองก็ถูกสะกดเช่นกัน เธอต้องการทำความรู้จักกับดาร์บี้ผู้ไร้พ่าย แดร์ริลเกือบจะหลุดหัวเราะ นี่เขามีแฟนคลับกี่คน? น้าซูซานเองก็เป็นแฟนคลับด้วยสินะ? ดูเหมือนว่าไซปไฟร์จะทำหน้าที่ในสำนักประตูสุราลัยได้ดี แดร์ริลดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น เขายิ้มและพูดว่า “แน่นอน ผมจะโทรหาเขาและขอให้เขามาพบคุณ” "วิเศษมาก" ซูซานยิ้ม “ฉันประทับใจจริง ๆ ขอบคุณนะแดร์ริล” จากนั้นเธ
ซูซานอยากจะบอกว่าเธอชื่นชมเขา แต่เธอเป็นเพียงผู้ต้อนรับ ดังนั้นเธอจึงต้องสงบเสงี่ยม เธอกัดริมฝีปากของเธอและพูดเบา ๆ “ท่านประมุขดาร์บี้ คุณมีความรู้รอบด้านในวิชาค่ายกลจริง ๆ คุณช่วยรับฉันเป็นศิษย์ของคุณได้ไหม?” ซูซานสนใจในเรื่องของวิชาค่ายกลเสมอมาและเธอก็ชื่นชมดาร์บี้ผู้ไร้พ่ายมาโดยตลอด เนื่องจากเขาสามารถแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับค่ายกลลิลี่หิมะได้อย่างง่ายดาย เธอจึงอยากจะเป็นศิษย์ของเขา ดาร์บี้ผู้ไร้พ่ายแห่งสำนักปรุตูสุราลัย แน่นอนว่าเธออยากจะเป็นศิษย์ของเขา อะไรนะ?! 'น้าซูซานอยากจะเป็นศิษย์ของฉันเหรอ' แดร์ริลครุ่นคิด แดร์ริลไม่รู้จะตอบว่ายังไง “คุณคงล้อผมเล่น ท่านหญิง คุณเป็นผู้เฉลียวฉลาด ผมไม่คู่ควรที่จะเป็นอาจารย์ของคุณ” ช่างน่าตลก! ถ้าเขายอมรับซูซานเป็นศิษย์ของเขา ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะต้องซับซ้อนมากแน่ ๆ “คุณถ่อมตัวเกินไป! ฉันอยากเป็นศิษย์ของคุณจริง ๆ และฉันหวังว่าคุณจะยอมรับฉัน” ซูซานคุกเข่าลงและคำนับแดร์ริล เธอไม่ต้องการเสียโอกาสนี้ไป “ท่านหญิงคาร์เตอร์” แดร์ริลพยายามจะพยุงตัวเธอขึ้นมา ซูซานกัดริมฝีปากของเธอและจับที่ขาของแดร์ริล “ท่านประมุขดาร์บี้ ได้โปรดรับฉ
แดร์ริลถอนหายใจยาว เขากำหมัดแน่นเมื่อเมแกนปิดประตู 'เยี่ยมมาก เมื่อแกทั้งคู่อยู่ที่นี่แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็มาจัดการเรื่องนี้กันเลย' แดร์ริลคิด แม่ชีแห่งโชคชะตาขมวดคิ้วในขณะที่จ้องไปที่แดร์ริล เธอถือดาบด้วยความสั่นเทา “ฉันจะกำจัดแกไอ้คนประโยชน์ ฉันจะช่วยตระกูลดาร์บี้สั่งสอนแกเอง!” แม่ชีแห่งโชคชะตาตะโกนก่อนที่จะพุ่งเข้าหาแดร์ริล แม่ชีแห่งโชคชะตาใช้กำลังทั้งหมดของเธอด้วยพลังลมปราณที่หมุนเวียนรอบ ๆ ดาบของเธอ ในเวลาเดียวกัน เมแกนก็พยายามต่อยแดร์ริล แดร์ริลยิ้มอย่างเยือกเย็นในขณะที่เขายืนนิ่งอยู่กับที่ “มาดูกันว่าใครจะเป็นคนสอนบทเรียนใคร!” แดร์ริลเอ่ย เขาเริ่มรวบรวมพลังงานภายในของเขา จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปหาเมแกน เขายกมือขึ้นเบา ๆ จากนั้นคลื่นพลังก็ส่งดาบของเมแกนหลุดออกจากมือของเธอ! เมแกนยังคงอ่อนแอเกินไปเมื่อเทียบกับแดร์ริล ดาบของเธอตกลงบนพื้นก่อนที่เธอจะมองเห็นการเคลื่อนไหวใด ๆ ของเขา แดร์ริลรีบยกมือขึ้นและสะกดจุดบนร่างกายของเธอจนทำให้เธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ แดร์ริลจัดการกับเมแกนเสร็จและหัวเราะเยาะ เขาหยิบดาบกลืนโลหิตออกมาและเริ่มต่อสู้กับแม่ชีแห่งโชคชะตา เกิดเสียงอ
แดร์ริลยิ้มเยาะด้วยดวงตาที่แดงกล่ำ เขาเดินเข้าไปหาเมแกนและตบหน้าเธอ! เพียะ! รอยมือสีแดงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเมแกน “นี่สำหรับการที่เธอไม่รู้ว่าจะแยกแยะความดีและความชั่วยังไง” แดร์ริลกล่าวในขณะที่เขามองดูเมแกนด้วยสายตาเย็นชา แดร์ริลกำหมัดแน่น เขาเคยช่วยเหลือเธอและปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขายังได้มอบเม็ดยาเทวะมากมายให้แก่เธอ แม้แต่คู่หมั้นของเธอ เคนท์ ก็ยังได้รับเม็ดยาเทวะของเขา! แต่เขาได้อะไรตอบแทน? เธอยังกล้าเรียกเขาว่าไอ้คนไร้ประโยชน์… คนทรยศ! เมแกนตะโกนขึ้น "แกกล้าดียังไงตบหน้าฉัน กล้าดียังไงบอกว่าฉันแยกแยะความดีและความชั่วไม่ได้ แกมันไร้ประโยชน์เพราะว่าแกเข้าร่วมนิกายตำหนักอมตะ!" เพียะ! แดร์ริลตบเธออีกครั้ง! “นี่สำหรับความเนรคุณของเธอ! ฉันใจดีกับเธอเสมอ แต่ดูสิว่าเธอตอบแทนฉันยังไง?” แดร์ริลไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของเขาได้อีกต่อไป เพียะ! และตบอีกครั้ง! เมแกนล้มลงกับพื้นทันที แดร์ริลตะคอกใส่เธอด้วยความโกรธ “นี่สำหรับอาดิน่า! เธอก็รู้ว่าอาดิน่าเป็นคนใจดี! แต่เธอก็ยังกล้าที่จะฆ่าอาดิน่า!” แดร์ริลตะคอกสุดเสียง เขายังคงจำได้ดีว่าเชสเตอร์เสียใจแค่ไหนตอนที่อ
"หยุดนะ!" แม่ชีแห่งโชคชะตาสั่นเทาด้วยความโกรธและอับอายยิ่งนัก เธอสวมใส่เกราะไหมสวรรค์อยู่บนตัวของเธอ แล้วเธอจะปล่อยให้แดร์ริลถอดมันออกไปได้ยังไง! มันเป็นการล่วงละเมิดเธออย่างโจ่งแจ้ง! ถ้าแดร์ริลแตะต้องเธอเพื่อถอดเกราะออก ชื่อเสียงของเธอจะมัวหมองทันทีถ้าหากว่าข่าวนี้แพร่กระจายออกไป แดร์ริลเพิกเฉยต่อเธอและยังคงพยายามที่จะถอดชุดยาวของเธอออก ในขณะที่เขากำลังจะถอดเกราะออกนั้น “ฉันจะฆ่าแก!” แม่ชีแห่งโชคชะตาตะโกนสุดเสียง แดร์ริลเองก็โกรธ เขาเดินไปข้างหลังเธอและกระแทกเธอให้คุกเข่าลงบนพื้น แม่ชีแห่งโชคชะตาทรุดตัวลงกับพื้นทันที “แกไม่สมควรยืนพูดกับฉัน” แดร์ริลมองเธอด้วยสายตาเยือกเย็นจากนั้นเขาก็ทำกับเมแกนเช่นเดียวกัน เมแกนทรุดลงกับพื้นทันที แดร์ริลลากเก้าอี้ออกมานั่งอยู่ข้างหน้าของทั้งสองคน แม่ชีแห่งโชคชะตาโกรธแค้นมาก เธอไม่เคยคุกเข่าต่อหน้าใครเช่นนี้มาก่อน มันน่าละอายแค่ไหนที่เธอจะต้องคุกเข่าลงตรงหน้าแดร์ริลผู้ไร้ประโยชน์ แดร์ริลมองเห็นความโกรธของแม่ชีแห่งโชคชะตา เขาเกือบตายเมื่อตอนที่เธอโจมตีเขา ดังนั้นเขาจึงพอใจที่ได้เห็นเช่นนี้! แดร์ริลยิ้มเยาะและเอื้อมมือไปลูบหัว