“โรลชูกับฉันต้องติดตามประธานในตอนบ่ายนี้ มีคนอื่น ๆ ตั้งเยอะแยะที่ว่างในเวลานั้นทำไมคุณไม่เลือกพวกเขาแทนละ?” เธอโกรธขึ้นมาทันทีและตาของซอง อันยีก็กระพริบด้วยความโกรธ “ฉันได้มอบหมายให้พวกเขาทำอย่างอื่นแล้ว ข่าวของพวกเธอเป็นที่สนับสนุนและครอบคลุมทุกอย่าง ฉันแค่ต้องการพวกคุณไม่คนใดก็คนหนึ่ง การหมั้นหมายของลูกชายของจีกรุ๊ปกับกู โรลโรลเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากในตอนนี้ และนี่จะเป็นข่าวที่ดึงดูดผู้ชมเข้ามาได้มาก เราต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น” ลู เส้าหลินกอดอกพร้อมกล่าว “ให้ฉันไปแทน!” ซอง อันยีเสนอตัว“ซอง อันยี หมายความว่ายังไง? เธอมีปัญหากับการตัดสินใจของฉันงั้นเหรอ?” ลู เส้าหลิน พูดอย่างดุเดือดใส่ซอง อันยีซอง อันยีไม่สู้ดีนักและเหมือนเธอกำลังจะระเบิดออกมา ทันใดนั้น ทัง โรลชูวคนที่นั่งเงียบ ๆ อยู่สักพักพูดขึ้นมาว่า “โอเค ฉันจะไป!”“โรลชูว!” ซอง อันยีจ้องไปที่เธออย่างไม่เชื่อสายตาก่อนที่จะพูดออกมา “แกบ้าไปแล้วเหรอ?”“ไม่เป็นไรอันยี แค่ไปสัมภาษณ์เองใช่ไหม? ฉันทำได้” ทัง โรลชูวพูดพร้อมยิ้ม แต่แววตาของเธอดูเย็นชาเล็กน้อยเมื่อมองไปที่ลู เส้าหลิน เธอรู้ว่าลู เส้าหลินเป็น
มีคนสังเกตเห็นทัง โรลชูวตั้งแต่งานเริ่มและเขาก็มองเธอมาสักพักแล้วในระยะที่เธอสังเกตุไม่เห็นเขาเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างหล่อเหลา เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและทักซิโด้สีดำ รูปร่างสูง หล่อและขาของเขาก็ดูเรียวยาวมากความสง่างามของเขาดูชัดเจนยิ่งขึ้นภายใต้แสงไฟสว่างจ้าที่สาดไปบนใบหน้าของเขา ดวงตาของเขามืดมิดราวกับเวลายามค่ำคืน เขามีเสน่ห์ที่น่าดึงดูดและลึกลับแขกที่มาร่วมงานรวมถึงคนชั้นสูงเหล่านั้นต่างก็พากันแตกตื่น เมื่อผู้ชายคนนี้ปรากฏตัว“ท่านประธานครับ คุณผู้หญิงอยู่ตรงนั้น เราควรจะเข้าไปหาเธอเลยไหมครับ?” มู่ หลิงพูดด้วยความเคารพ“ไม่ต้อง รอที่นี่ก่อน เราจะเข้าไปหาเธอก็ต่อเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น”แม้ว่าลู ชินจินจะมีเสน่ห์มาก แต่เขาก็ไม่ชอบเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวสักเท่าไหร่ เขาตั้งใจเลือกมุมนี้ของห้องโถงเพื่อหลีกเลี่ยงความสนใจจากคนอื่น“เราควรจะสังเกตการณ์ดูก่อนสินะ” มู่ หลิงพยักหน้าและรีบปิดปากลงทันที กู โรลโรลและจี ยินเฟงยืนอยู่บนเวทีเพื่อกล่าวขอบคุณ “เราขอแสดงความขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านและสื่อมวลชนที่มาร่วมงานหมั้นของพวกเรา…”แสงสว่างแวววับพุ่งออกมาจากกล้องหลาย ๆ ตัวขณะที่นักข่า
ชุดของกู โรลโรล ดูสวยจนน่าทึ่งแต่มันเหมือนกับชุดสีดำที่เธอเคยใส่มาก่อน แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนสนใจ ทุกคนต่างสนใจสร้อยคอบนไหปลาร้าของเธอเป็นอัญมณีสีน้ำเงินเข้มล้อมรอบด้วยเพชรขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วน การออกแบบมีเอกลักษณ์มากและงานฝีมือที่พิถีพิถัน ทำให้เห็นได้ชัดว่าสร้อยคอเส้นนี้มีราคาแพงมากไม่มีใครคุ้นเคยกับสร้อยคอนี้ไปมากกว่าทัง โรลชูว สร้อยคอเส้นนี้เคยเป็นของแม่ของเธอ คนที่ได้ทำสร้อยเส้นนี้ขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อเป็นสินสอดของเธอในอนาคตเธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่ากู โรลโรลจะกล้าใส่สร้อยเส้นนี้!ความโกรธครอบงำทำให้เธอสูญเสียการควบคุมตัวเองไปโดยสิ้นเชิง เธอเดินผ่านฝูงชนด้วยความโกรธและเดินไปยัง กู โรลโรล เธอมองไปที่ กู โรลโรลอย่างโกรธเกรี้ยวก่อนที่เธอจะพูดอย่างเย็นชา “ใครให้สิทธิ์เธอแตะสร้อยคอนี่? คืนมาให้ฉันเดี๋ยวนี้! มันเป็นของแม่ของฉัน!”“แม่ของเธอไม่อยู่แล้วตอนนี้ แม่ของฉันเป็นคุณนายใหญ่ที่แท้จริงของครอบครัวทัง สร้อยเส้นนี้เคยจะเป็นของเธอมาก่อนโดยชอบธรรม แต่ตอนนี้มันเป็นสินสอดของฉันแล้ว!” กู โรลโรลพูดด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา เห็นได้ชัดว่าเธอไม่มีเจตนาที่จะคืนสร้อยคอใบหน้าของทัง โรลช
“ท่านประธาน?” มู่ หลิงพูดขณะที่เขามองไปที่ ทัง โรลชูว ที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน เขาเหงื่อแตกและยังรู้สึกหนาวสั่นถึงกระดูกสันหลังท่าทีของลู ชินจินนั้นน่ากลัว ใบหน้าของเขามืดมิดเหมือนมีพายุ และดวงตาที่เย็นชาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธเขาพยายามที่จะซ่อนมันใว้“ส่งชายคนนั้นขึ้นไป พร้อมกับนักข่าวจากสำนักข่าวอย่างน้อยสิบที่! ฉันไม่ต้องการเห็นอะไรในแง่ลบเกี่ยวกับภรรยาของฉันในข่าวพรุ่งนี้” เขากล่าวอย่างเคร่งขรึม “ครับ ท่าน!” มู่ หลิงพูดและจากไปอย่างรีบร้อนลู ชินจินยืนอยู่ในจุดที่เขาเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง อย่างไรก็ตาม ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความอ่อนโยนขณะที่เขามองไปที่ร่างที่สวยงามที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนเขาจะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรภรรยาเขาได้!ผู้คนที่อยู่ในห้องบอลรูมต่างก็พูดไปทางเดียวกัน และพวกเขาก็ดูหมิ่นและเหยียดหยามทัง โรลชูวทัง โรลชูวยืนด้วยความเกร็ง ได้แต่อดทนกับความเจ็บปวดกู โรลโรลถูก จี ยินเฟงปกป้องใว้ได้ทัน เธอจ้องมองไปที่ทัง โรลชูว และดวงตาของเธอก็แสดงถึงผู้ชนะเป็นเวลาสั้น ๆ ก่อนที่เธอจะแสร้งทำเป็นว่าเป็นพี่สาวที่แสนดีขณะที่เธอพูด “โรลชูว ฉันไม่โทษเธอหรอกนะ แต่ฉันปล่อยให้เธอค
“คุณบอกว่าผมใส่ร้ายคุณงั้นเหรอ?” จ้าว ฟานพูดขณะที่เขาเย้ยหยันอย่างเย็นชา “คุณกู คุณต้องการให้ผมแสดงหลักฐานเพื่อบอกว่าเรื่องทั้งหมดนี่ไม่ใช่เรื่องที่แต่งขึ้นมาไหม?”“ยังไง…” กู โรลโรลพูดด้วยความกลัวและเธอก็ดิ้นทันที นี่เป็นสัญญาณของความผิดที่ชัดเจน!ผู้คนสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของเธอทันทีและสายตาของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วกู โรลโรลอธิบายอย่างเร่งรีบ “เดี๋ยวก่อน...ฉันไม่ได้! ยินเฟง คุณรู้ว่าฉันรักคุณมากแค่ไหนผู้ชายคนนี้เป็นคนโกหก คุณควรให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไล่เขาออกจากห้องบอลรูมทันที”“คุณกู ผมเดาว่าคุณจะไม่ยอมรับจนกว่าผมจะแสดงหลักฐานสินะ!” จ้าว ฟานพูดพร้อมยิ้มเยาะก่อนที่เขาจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าหยิบรูปถ่ายจำนวนหนึ่งออกมาและยื่นให้จ้าว ฟานและกู โรลโรลถ่ายรูปร่วมกัน ในรูปถ่ายเหล่านั้น และรูปเหล่านั้น เห็นได้ชัดที่พวกเขากอดและจูบกัน แสดงว่าพวกเขาเป็นคู่รักที่รักกันอย่างชัดเจนฝูงชนมีเสียงด้วยความตื่นเต้นอีกครั้ง“คุณเซาว์สามารถยืนยันได้ว่ารูปทั้งหมดไม่ได้มีการตัดต่อ”“นั่นหมายความว่าเรากล่าวหาคุณทังผิดไปใช่ไหม?”“แย่มาก พวกเขาไปยุ่งกับผู้หญิงคนนี้ได้อย่างไร?
ทัง โรลชูวไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของกู โรลโรลแม้ว่าเธอจะรู้ แต่เธอก็ไม่ได้กังวลมากนักเพราะเธอเกลียดกู โรลโรลมากกว่าที่กู โรลโรลเกลียดเธอเธอไม่รออะไรหลังจากก้าวออกจากห้องบอลรูมและออกไปข้างนอกทันทีเพื่อเรียกแท็กซี่เพื่อกลับคฤหาสน์ของลู ชินจินคนแรกที่เธอนึกถึงหลังจากที่เธอถูกเยาะเย้ยและดูถูกในคืนนั้นคือลู ชินจินผู้ชายคนนั้นดูห่างเหินและไม่สามารถเข้าถึงได้ แต่เขาก็สามารถช่วยให้เธอลืมความผิดหวังและความทุกข์ใจได้เสมอ เขาทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยตลอดเวลาเธอมัวแต่คิดถึงกับการกลับบ้านเขาโดยที่เธอไม่ได้สังเกตุคนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ เธอ“ที่รัก” ชายคนหนึ่งร้องออกมาเบา ๆ และเสียงของเขาก็เหมือนกับอากาศที่สดชื่นในคืนที่มืดมิดทัง โรลชูวอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหาเสียงของเขาเธอเห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่ใต้โคมไฟถนน ไม่ไกลจากจุดที่เธออยู่ เขาสวมสูทสีดำอย่างเป็นทางการและให้ความสง่างามที่ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นในเวลากลางคืน โคมไฟสลัวส่องแสงอ่อน ๆ เหนือตัวเขาซึ่งเพิ่มเสน่ห์ที่ชวนให้หลงใหล“ชินจิน?” เธออุทานด้วยความประหลาดใจเมื่อรู้ว่าเป็นเขา เธอรู้สึกประหลาดใจมากที่ได้พบเขาที่นี่เขามาในเ
“นั่นหมายความว่าการที่จ้าว ฟานมาที่งานหมั้นได้เป็นฝีมือของคุณใช่ไหม?” เธอพูดตรงประเด็นอย่างรวดเร็ว“นั่นเป็นบทเรียนที่ผมมอบให้พวกเขา” ลู ชินจินพูดและไม่มีการปฏิเสธ“ขอบคุณนะคะ!” ทัง โรลชูวพูดโดยสัมผัสไปที่แขนของเขาด้วยงานหมั้นนั้นเหมือนงานที่จัดมาเพื่อทรมานเธอ เมื่อเธอต้องทนกับเรื่องต่าง ๆ ที่พยายามทำลายชื่อเสียงของเธอโดยเจตนาของกู โรลโรล และอดทนต่อสายตาและคำพูดที่ดูถูกของแขก เธอพยายามที่จะแบกรับมันทั้งหมดสถานการณ์อาจเลวร้ายลงมากหากจ้าว ฟานมาไม่ทันเวลาแม้ว่าเธอจะได้รับชัยชนะแต่เธอก็รู้สึกเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ เธอรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้เห็นลู ชินจิน“ผมบอกคุณก่อนหน้านี้ จะไม่มีใครมารังแกคุณได้หากอยู่กับผม” เขาพูดขณะที่เขาผลักอ้อมกอดของพวกเขาเบา ๆ และเอื้อมมือไปลูบแก้ม “กี่ครั้งแล้ว ที่เสียเวลาที่มีค่าของคุณให้กับคนอย่างกู โรลโรล แม้จะได้รับชัยชนะแต่คุณก็ยังเสียใจอยู่ดี คราวหน้าให้ผมจัดการเรื่องนี้แทนนะ"“คุณจะทำอะไร?” เธอถามอย่างสงสัยขณะที่กระพริบตาไปที่เขา“ผมจะทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่สามารถกลับมารังแกคุณได้อีก!” เขาพูด ดวงตาของเขามั่นคงราวกับมีด และการแสดงออกของเขาจริง
ในเวลานี้ ทัง โรลชูลรู้แล้วว่าเขาหมายถึงอะไรแก้มของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ ร่างกายของเธอรู้สึกแข็งทื่อมาก เธอไม่กล้าขยับกล้ามเนื้อแม้แต่นิดเดียว“ใคร...ใครจะทำแบบนั้นกัน!”เธอกัดริมฝีปากล่างด้วยความเขิน แก้มทั้งสองข้างของเธอเป็นสีชมพูที่น่าดึงดูดทำให้คนอยากจะกัด“ถ้าภรรยาของฉันไม่เต็มใจ ฉันก็จะไม่บังคับ” ลู ชินจินพูดเบา ๆ แสดงความเต็มใจที่จะเคารพการตัดสินใจของเธอ อย่างไรก็ตาม การจ้องมองของเขายังคงแฝงไปด้วยความคาดหวัง...เขาจ้องมองไปที่ทัง โรลชูวอย่างจริงจังจนเธอไม่รู้จะซ่อนความรู้สึกตื่นเต้นนี้ยังไง เขาชี้ไปที่หน้าผากของเธอแล้วพูดว่า “โอ...โอเค"หลังจากได้รับอนุญาต ลู ชินจินก็ยิ้มกว้าง เขาไม่เสียเวลา เขาเหยียดแขนยาวออกไป เขาโอบเธอไว้ในอ้อมแขน และริมฝีปากที่อบอุ่นของเขาก็ประกบไปที่ปากเธอทันทีทัง โรลชูวรู้สึกเกร็งเล็กน้อยในตอนแรก แต่เมื่อจูบของชายคนนั้นลึกซึ้งขึ้น เธอก็จูบตอบโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าการกระทำของเธอจะดูเงอะงะเล็กน้อย แต่ก็ทำให้ลู ชินจินมีความสุขมันเป็นการจูบครั้งที่สองของพวกเขา และสติของทัง โรลชูวก็หลุดลอยไปอีกครั้งวันรุ่งขึ้น ข่าวของกู โรลโรลและจี ยินเฟงได้กร