เมื่อมาถึงตอนนี้ ป้าซองก็เพิ่งสังเกตเห็น เซิน โมเฟยเช่นกัน เธอขมวดคิ้วและถามว่า “นี่ใคร?”“คุณป้า เขาเป็นแฟนของอันยี” เสี่ยวเซียวกระซิบข้างหูของป้าซองป้าซองตกตะลึงครู่หนึ่ง แล้วเธอก็อุทานออกมาว่า “แฟนงั้นเหรอ?”เธอมองไปที่ ซอง อันยีทันที และถามอย่างร้อนรนว่า "อันยี เขาเป็นแฟนของลูกหรือเปล่า?"ซอง อันยีพยักหน้า และพูดว่า "ใช่ค่ะ เขาเป็นแฟนของหนูเอง และชื่อของเขาคือ เซิน โมเฟยค่ะ"เธอชี้ไปที่แม่ของเธอ และพูดกับเซิน โมเฟย “โมเฟย นี่คือแม่ของฉัน”“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณป้า” เซิน โมเฟยทักทายเธออย่างสุภาพท่าทีของคุณป้าซองและลุงซอง แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เธอเดินไปหา เซิน โมเฟยอย่างรวดเร็วและมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าแม้ว่าเขาจะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่ เซิน โมเฟยก็ยังคงยิ้มอย่างสุภาพตามคำกล่าวที่ว่า ยิ่งแม่ภรรยามองลูกเขยนานเท่าไร เธอก็ยิ่งชอบเขามากเท่านั้น เช่นเดียวกันกับป้าซองเซิน โมเฟยเป็นคนที่โดดเด่นและหล่อเหลา รูปร่างสูงและโปร่ง และมีเสน่ห์เป็นพิเศษ พูดตามตรง ถ้าไม่ใช่เพราะอันยีบอกว่าเขาเป็นแฟนของเธอ ในฐานะแม่ของเธอ เธอจะเชื่อได้อย่างไรว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอเป็นแฟนของลูก
“ไม่มีความจริงใจเหรอ?” เซิน โมเฟยเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย “เธอกำลังบอกเป็นนัย ๆ ผมควรขอเธอแต่งงานด้วยตัวเองรึป่าวนะ”“โมเฟย นายเข้าใจที่อันยีพูดไหม?” ทัง โรลชูวดึงเก้าอี้ออกมาแล้วนั่งลง มองเขาด้วยรอยยิ้มจาง ๆเซิน โมเฟยเลิกคิ้ว “ผมสงสัยว่า ผมเข้าใจอะไร เธอผิดไปหรือเปล่า?”“ไม่นะ เธอก็หมายความอย่างที่พูดนั้นแหละ” หยิง เสี่ยวเซียวนั่งลงเช่นกัน และเธอก็พูดต่อ “เพราะว่าเธอหมายความแบบนั้นจริง ๆ นายก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม”เซิน โมเฟยได้แค่ยิ้ม และไม่พูดอะไรต่ออีกหยิง เสี่ยวเซียว และ ทัง โรลชูวจ้องตากัน และไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ต่อพวกเธอรู้ดีว่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอันยีกับโมเฟย มีบางอย่างที่ต้องแก้ไขให้มันถูกต้องซะก่อนนั่นคือ คู่หมั้นของโมเฟยหากไม่รีบแก้ไขมัน มันคงเป็นไปได้ยากที่พวกเขาจะแต่งงานกันได้!แม้ว่าในตอนแรก ลุงซองจะรับไม่ได้ว่าลูกสาวของเขามีแฟนอีกแล้ว หลังจากดื่มไวน์สองสามแก้วกับเซิน โมเฟย ที่โต๊ะอาหาร เขาก็ไม่ได้เกลียดชังลูกเขยในอนาคตมากนัก และพวกเขาคุยกันได้อย่างสบายใจ“ฮัน อี๋เฉิน นายนับวันนับทำตัวทุเรศขึ้นเรื่อย ๆ พวกเราดีกับเขามาก แต่เขาทำเรื่องหน้าด้าน ๆ แบบนี้
เธอพูดออกมาด้วยเสียงที่ฟังดูและน่าแปลกใจ ลู ชินจินก็หัวเราะ “ทำไมล่ะ คุณชอบแนวนี้ไหม?”"ใช่ ฉันชอบมาก" ทัง โรลชูวพยักหน้าให้กับเขา "ฉันชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับความลึกลับมาโดยตลอด ฉันคิดว่ามันน่าตื่นเต้นมาก"“แล้วคุณอยากเป็นคนแก้บทภาพยนตร์เรื่องนี้หรือไม่?”"ห๊า?" ทัง โรลชูวเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ และถามด้วยความไม่เชื่อเล็กน้อย “คุณหมายความว่า คุณต้องการให้ฉันรับผิดชอบในการแก้ไขสคริปต์ของเรื่องนี้เหรอ?”ลู ชินจินยิ้ม “ใช่ ในเมื่อคุณอ่านแนวนี้มาตั้งแต่เด็ก ผมแน่ใจว่าคุณจะมีความคิดเป็นของตัวเอง”“ฉันทำได้จริง ๆ เหรอ?” แม้ว่าเธอจะได้มีส่วนร่วมในการดัดแปลงภาพยนตร์ที่ไทม์ เอนเตอร์เทรนเมนต์ ร่วมมือกับ ธันเดอร์โบล เอนเตอร์เทรนเมนต์ กรุ๊ป แต่เธอก็ไม่รู้สึกว่าเธอมีความสามารถในการแก้ไขสคริปต์จริง ๆ รึป่าว“คุณทำได้ ผมเชื่อในตัวคุณ” เสียงของ ลู ชินจินฟังดูมั่นใจในตัวเธอมากทัง โรลชูวหันกลับมา และมองเข้าไปในดวงตาของเขา เธอถามอีกครั้ง ขณะที่เธอยังคงรู้สึกไม่มั่นใจ “ฉันทำได้จริงหรอคะ?”เธอยังคงไม่มีความมั่นใจ“ผมบอกว่าคุณทำได้ คุณก็ต้องทำได้สิครับ” ลู ชินจินบีบจมูกของเธอ และยิ้มอย่างมีเล
"เขา มองแล้วมองอีก!" ทัง โรลชูวหยิบเมาส์จากมือของเขาแล้วลากเคอร์เซอร์ไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ เมื่อเธอไปถึงจุดหนึ่ง เธอดึงมันกลับมาเล็กน้อยแล้วพูดว่า “นายไม่คิดว่า สองภาพนี้มันดูขัดขัดหรอ ทำไมมันถึงรู้สึกเหมือนถูกตัดต่อ และประกอบกลับเข้าด้วยกัน?”ลู เซียวเหยา มองไปที่มันอย่างจริงจังและพยักหน้า “จริงสิ ถ้าวิดีโอนี้ถูกตัดต่อและรวมเข้าด้วยกันอีกครั้ง มันจะพิสูจน์ได้ว่ามีคนทำบางอย่างกับมัน และส่วนที่สำคัญที่สุดของวิดีโอนั้นถูกลบไปแล้ว เราก็แค่มองไม่เห็น มันเท่านั้นเอง”ทัง โรลชูวมองไปที่ลุงจ้าว ในวิดีโออย่างตั้งใจ ขณะที่เขาเดินไปรอบ ๆ ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็สว่างขึ้น เธอชี้ไปที่ลุงจ้าวและอุทาน "นี่ไม่ใช่ลุงจ้าว!""นั่นไม่ใช่ลุงจ้าวงั้นเหรอ?" ลู เซียวเหยาตกใจมาก“ฉันแน่ใจมากว่าไม่ใช่เขา ลุงจ้าวได้รับบาดเจ็บที่ขาเมื่อตอนที่เขายังเด็ก ขาเขาจึงกะเผลกขาเล็กน้อยเมื่อเดิน แต่คนนี้ในวิดีโอเขาเดินได้ปกติดี ไม่เหมือนกับลุงจ้าว!”ลุงจ้าว เริ่มทำงานที่ครอบครัวทัง เมื่อ ทัง โรลชูวยังเป็นเด็ก ดังนั้นเธอจึงรู้ลักษณะของลุงจ้าวมากกว่าใคร ๆลู เซียวเหยาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า "พี่สะใภ้ พี่ย้อนกลั
“ลูกว่าอะไรนะ ลุงจ้าวยังมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ?” เซา เสี่ยวหวัน ก็ลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าท่าทางที่ตกใจมากแม้ว่า กู โรลโรลไม่ต้องการที่จะเชื่อความจริงที่ว่านี้เท่าไหร่ แต่เธอก็ยังคงพยักหน้า “ใช่ และทัง โรลชูว ได้หาเขาเจอแล้ว”เธอรับไม่ได้กับข่าวพวกนี้ เซา เสี่ยวหวันทรุดตัวลงบนเก้าอี้ และพึมพำกับตัวเองว่า “จบแล้ว จบแล้ว จบแล้ว ชีวิตฉันจบแล้วแน่ ๆ”เมื่อเห็นแม่ของเธอเสียสติ กู โรลโรลก็รู้สึกทรมานใจมาก เธอรีบก้าวไปข้างหน้า และนั่งลงตรงหน้าเธอ เธอจับมือ เซา เสี่ยวหวันไว้แน่น “แม่ ไม่ต้องกลัว ลุงจ้าวยังคงหมดสติอยู่ ตอนนี้ ทัง โรลชูวจะยังคงไม่รู้ว่าเราทำอะไรลงไป”“หมดสติอยู่?” พระเจ้าให้โอกาสเขาหรือไม่?เซา เสี่ยวหวันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “พระเจ้าอยู่ฝ่ายฉันจริง ๆ!”หลังจากสงบสติอารมณ์แล้ว เธอพูดกับ กู โรลโรลว่า “โรลโรล ลูกบอกให้หลี่วูมาหาแม่ที แม่จะจัดการเรื่องนี้กับเขา” เซา เสี่ยวหวันพูดพร้อมกับสายตาที่เย็นชา ในวันนั้น เธอได้ขอให้หลี่วู 'จัดการ’ ลุงจ้าวด้วยการฆ่าเขา แต่เธอไม่คิดว่าหลี่วูจะสงสารเขา และส่งเขาไปรักษาที่โรงพยาบาลแทน นี่ไม่ใช่สิ่งที่นักเลงจะทำกัน“ตกลงค่ะแม่ หนูจะโทรหาเขาเด
หลี่วูพยักหน้า “เธอเป็นแม่ของคุณโรลโรล ใช่ไหมครับ?”"แล้วไง" เสวีย จือกังหัวเราะอย่างเย็นชา "ฉันเพียงต้องการปกป้องโรลโรลแค่นั้น ต่อให้ต้องเสียสละเท่าไหร่ฉันก็ทำเพื่อปกป้องโรลโรล"หลี่วูขมวดคิ้วเล็กน้อย “พี่ใหญ่ ผมต้องทำยังไงดีครับ?”“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ไปหา เซา เสี่ยวหวันก่อน” เสวีย จือกังเหลือบมองเขาและพูดต่อ “ถ้าเธอจะทำอะไรแก ก็บอกเธอว่าฉันสั่งให้แกทำแบบนั้นเอง ถ้าเธอต้องการจะจัดการเรื่องนี้ต่อ บอกเธอให้มาหาฉัน”หลี่วูพยักหน้า "เข้าใจแล้วครับ"...สถานการณ์ของลุงจ้าวค่อนข้างเป็นไปในทางที่ดี ขอแค่ให้เขาฟื้นมา ทัง โรลชูว และคนอื่น ๆ ก็จะได้รู้ว่าใครเป็นคนทำให้เขากลายเป็นแบบนี้ แม้ว่าพวกเขาจะมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว แต่มันก็เป็นเพียงการสันนิษฐานเท่านั้น พวกเขาไม่มีแม้แต่หลักฐานพิสูจน์ว่า เซา เสี่ยวหวันเป็นคนทำ พวกเขาต้องรอให้ลุงจ้าวฟื้นขึ้นมา และเป็นคนชี้ว่า เซา เสี่ยวหวันเป็นคนทำให้เขากลายเป็นแบบนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ลุงจ้าวตกเป็นเหยื่ออีกครั้ง ลู ชินจินจึงย้ายเขาไปที่โรงพยาบาลอื่น ในเวลาเดียวกัน เขายังจัดให้มีบอดี้การ์ดสองสามคนผลัดกันดูแลวอร์ดของเขาตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องก
“ใช่ ผมแค่สั่งสอนเขาน่ะ”ทัง โรลชูวบอก ลู ชินจินว่า เธอได้เจอกับ ลู เฉินซีที่โรงพยาบาล และพูดติดตลกว่า ที่ ลู เฉินซีได้รับบาดเจ็บแบบนั้นเพราะเขาเป็นคนทำใช่ไหม เธอก็แปลกใจที่เขายอมรับมันอย่างใจเย็นทัง โรลชูวตกตะลึงครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็ส่ายหัวและพูด "คุณโหดร้ายเกินไปไหม!"“โหดร้ายงั้นเหรอ?” คิ้วที่เหมือนดาบของลู ชินจิน กระตุกเล็กน้อย และเขามองที่เธอด้วยรอยยิ้มที่คลุมเครือ“โหดร้าย! โหดร้ายมาก!” ทัง โรลชูวพยักหน้ายืนยัน "แต่..."เธอหยุดแล้วยิ้มอย่างสดใส "ฉันชอบมันนะ"ลู เฉินซีเป็นคนไร้ค่าซึ่งอาศัยแต่อิทธิพลของครอบครัว และจีบสาวสวยทุกคนที่เขาเห็น ในความเห็นของเธอ การลงโทษนี้มันยังน้อยเกินไป!ลู ชินจินยิ้มและล้อเล่นกับเธอ "ดูเหมือนว่าผู้หญิงของผม จะเป็นคนโหดร้ายไปแล้วนะเนี่ย"เขาล้อเธอ เพราะสิ่งที่เธอเพิ่งพูดออกไปทัง โรลชูวเม้มริมฝีปากของเธอ "ฉันโหดร้ายกับคนที่รังแกฉัน หรือคนที่ฉันห่วงใยเท่านั้น"ลู ชินจินพยักหน้าเพราะเห็นด้วย "ก็จริง"ทัง โรลชูวหัวเราะ เธอก็มีคำถามหนึ่งพูดขึ้นมาในหัวของเธอ เธอมองที่เขาและถามว่า "ชินจิน พ่อของคุณจะโกรธไหม เมื่อเห็น ลู เฉินซีกลับบ้านพร้อมกับอ
ลู เฉินซีรู้อยู่แก่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเขากลับไปถึงบ้าน เขามองดูผู้หญิงคนนั้นอย่างน่าสงสาร และเริ่มบ่นว่า “แม่ครับ พ่อครับ! เขาให้ตำรวจ จับผมเข้าคุก และยังมีคนอยู่กับผมหลายคนในห้องขังเดียวกัน คนเหล่านั้นล้วนแต่เป็นพวกอันธพาลและ พวกเขารุมทำร้ายผมเมื่อพวกเขาอารมณ์ไม่ดี ผมไม่สามารถจัดการพวกเขาทั้งหมดได้ด้วยตัวผมเพียงลำพัง อย่างที่พ่อแม่เห็น... มันก็เลยกลายเป็นแบบนี้"ผู้หญิงคนนั้นคือ ลิน ซัวซี ภรรยาคนที่สองของลู ติงแบงเธอเลิกคิ้วด้วยความตกใจ “พี่ใหญ่ของลูกน่ะเหรอ”ลู เฉินซีพยักหน้าอย่างหนักแน่น "ใช่ ใช่! เป็นพี่ใหญ่เอง!"ลู ชินจิน! สายตาที่อาฆาตพยาบาลอยู่ในเปลือกตาของ ลิน ซัวซี เธอหันไปมอง ลู ติงแบงที่ยังโกรธอยู่ เธอปลอบโยนเขาอย่างอ่อนโยน "ติงแบง อย่าโกรธไปเลย เฉินซี เขาก็ไม่ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรอก"แต่ว่ามันทำให้ ลู ติงแบงโกรธมากขึ้น เขายกมือขึ้นและชี้ไปที่จมูกของลู เฉินซี และดุว่า “ถ้าแกไม่ใช่ไอ้ขี้ขลาดที่ไปเที่ยวเตร่ที่กรุงเทพ พอเมาแล้วขับหลังจากที่ดื่มไปไม่ใช่เหรอ ชินจินเลยส่งแกเข้าคุก มันสมควรแล้ว!”คำพูดของลู ติงแบง เห็นได้ชัดว่าเข้าข้างลู ชินจินแววตาเป็นประ