บทที่7

บทที่ 10

ความกังวลเกี่ยวกับอดีตและอนาคต

บ่อยครั้งที่คุณมักจะกังวลเกี่ยวกับอดีตของคุณใช่ไหมคุณมักจะห่วงเรื่องอนาคตของคุณเสมอใช่หรือไหม

ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับคุณก่อนอื่นจะต้องหยุดมันเมื่อใดที่คุณกำลังคิดถึงอดีตหรืออนาคตทั้งความคิดที่ดีและไม่ดีก็ตามมันจะอยู่ในตัวคุณตลอดเวลาถ้าคุณยังไม่หยุดสิ่งเหล่านี้เวลาในปัจจุบันของคุณจะถูกทำลายลงไปถ้าเวลาปัจจุบันของคุณหายไปคุณจะไปไม่ถึงเป้าหมายได้เลย

ถ้าไม่หยุดความคิดเหล่านี้ไว้ในไม่ช้าความคิดเหล่านี้จะกลายเป็นนิสัยของคุณและเมื่อมันกลายเป็นนิสัยแล้วมันจะเป็นเรื่องยากที่จะหยุดมัน

หากคุณต้องการประสบความสำเร็จคุณต้องหันเหความสนใจจากความคิดในอดีตและอนาคตโดยทันที

คุณจะทำเช่นนี้ได้อย่างไร

ก็ด้วยการจดจ่ออยู่กับเป้าหมายในปัจจุบันยังไงเล่ายิ่งเวลาคุณอยู่กับปัจจุบันมากกว่านั้นคุณจะอยู่ห่างจากความคิดของอดีตและในอนาคต

หากคุณมีอนาคตที่เฝ้ารอมานานแสนนานจงทำตัวเองให้ยุ่งอยู่กับปัจจุบันไม่ใช่นั่งโดดเดี่ยวเพียงลำพังให้พูดคุยกับผู้คนรอบข้างคุณบ้างออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆไปดูหนังกับเพื่อนๆ บ้าง

ผมจะพูดง่ายๆก็คือทำตัวให้ยุ่งอยู่ตลอดเวลา

เมื่อคุณเรียนรู้ที่จะอยู่กับปัจจุบันแล้วโอกาสที่จะไปถึงจุดหมายก็จะเพิ่มมากยิ่งขึ้น

เดี๋ยวรอก่อน

คุณอาจคิดว่าการคิดมันผิดด้วยหรือ

"ไม่หรอกนะ"

มันไม่ได้ผิดที่จะคิดเลยแต่มันผิดที่คิดมากจนเกินไปจนกระทั่งกังวลเกี่ยวกับอดีตและอนาคตจนเกินเหตุ

ถ้าหากคุณคิดไม่ได้ว่าจะตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตอย่างไร

หากคุณจะคิดเกี่ยวกับอดีตคุณจะต้องค้นพบเส้นทางที่ถูกต้องสำหรับอนาคตเท่านั้นซึ่งจำเป็นต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีตความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในอดีตไม่ควรเกิดขึ้นซ้ำอีก

หากคุณไม่คิดถึงอนาคตอย่างเบ็ดเสร็จคุณจะยังคงล้มเหลวต่อไปถ้าอยากประสบความสำเร็จมันจำเป็นที่สุดที่ต้องคิดเกี่ยวกับ

อนาคตอนาคตของคุณจะเป็นอย่างไรคุณต้องตัดสินใจอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จในอนาคตได้ - ความคิดดังกล่าวจะต้องเข้ามาในหัวคุณ

ดังนั้นให้เข้าใจสิ่งหนึ่งว่ามีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ควรจะคิดเกี่ยวกับอดีตและในอนาคตเพื่อช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายของคุณได้ก็คืออยู่ให้ห่างเสียจากความคิดที่ไร้ประโยชน์

บทที่ 11

การตระหนักรู้ในตัวเอง

คุณเชื่อในตัวคุณเองหรือไม่

ถ้าคุณคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ประสบความสำเร็จอยู่เสมอ – คุณก็จะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จอยู่เสมอ

หากคุณคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ล้มเหลวอยู่เสมอ – คุณก็จะล้มเหลวอยู่ร่ำไป

แต่ทำไมมันถึงเกิดขึ้นน่ะเหรอ

มีเหตุและผลอย่างหนึ่งอยู่เบื้องหลังมันเสมอ

คิดว่าคุณตัดสินใจให้ตัวเองเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จแล้วดวงจิตของคุณจะถือว่าคุณเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จหลังจากนี้สมองของคุณจะทำให้ทุกความพยายามเพื่อให้คุณประสบความสำเร็จเสมอเพราะความพยายามของดวงจิตคุณจะประสบความสำเร็จอยู่ร่ำไป

สมมติว่าตอนนี้คุณคิดว่าตัวเองเป็นคนล้มเหลวแล้วดวงจิตของคุณก็จะถือว่าคุณเป็นคนล้มเหลวหลังจากนี้สมองของคุณจะไม่พยายามที่จะประสบความสำเร็จเพราะในเรื่องความพยายามแห่งดวงจิตคุณจะล้มเหลวอยู่ร่ำไปเช่นกัน

นี่คือเรื่องจริงลองสัมผัสประสบการณ์นี้สักครั้งในชีวิตส่วนตัวของคุณให้ผมยกตัวอย่างให้คุณสักเรื่อง–

ตอนที่คุณเป็นนักศึกษามีนักศึกษาบางพวกที่อยู่ในชั้นเรียนของคุณจะฉลาดกว่าระดับชั้นปีที่ต่ำกว่าอยู่แล้วและเช่นเดียวกันมีนักศึกษาเหล่านั้นก็จะฉลาดในระดับชั้นที่สูงกว่าเช่นกันและในทางกลับกันนักศึกษาบางคนไม่ฉลาดไปกว่านักศึกษาที่ระดับชั้นต่ำกว่าและเช่นเดียวกันนักศึกษาพวกเดียวกันก็ไม่ฉลาดในระดับชั้นที่สูงกว่าเช่นกัน

ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือ

นักศึกษาที่ฉลาดจะถือว่าตัวพวกเขาเป็นคนฉลาดและจะทำคะแนนในการสอบได้ดีเสมอความเชื่อในการเป็นคนที่ฉลาดของเขาทำให้เขาคนที่ประสบความสำเร็จเสมอ

อีกด้านหนึ่งนักศึกษาที่ยอมรับว่าตัวเองไม่ฉลาดจึงไม่เคยได้รับคะแนนดีในการสอบเลยความเชื่อของเขาไม่เคยปล่อยให้เขาประสบความสำเร็จ

ตอนนี้คุณรู้อย่างชัดเจนแล้วว่าการตระหนักรู้ของคุณมีความสำคัญเพียงใดในชีวิตดังนั้นทันทีที่คุณขจัดความเข้าใจผิดและตั้งสมมติฐานที่ถูกต้องแล้ว

มันจะทรงพลังอยู่ในความเชื่อของคุณที่สามารถทำให้คุณประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวได้