ด้านฟรานติโน่ก็ไม่เป็นอันทำงานทำการ เมื่อในหัวของเขามีแต่ภาพขาขาวๆของเด็กนั่นลอยเข้ามาในหัวตลอดเวลา จนเขาทำงานไม่รู้เรื่อง จนต้องเรียกเมทีให้เข้ามาหาเขาเป็นการด่วน เพื่อถามถึงเรื่องของเด็กสาวที่เขาให้ไปติดต่อมา
“เมทีเมื่อไหร่นายจะติดต่อเด็กนั่นมาให้ฉันห้ะ ฉันให้นายไปจัดการตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่ใช่เหรอไง” ฟรานติโน่เอ่ยถามออกไปด้วยเสียงไม่พอใจ เพราะเขาไม่ต้องการจะรอแล้ว ตอนนี้ในใจของเขามันอยากจะปลดปล่อยเต็มทนแล้ว
“อะไรกันครับคุณฟราน ใจเยสๆ อ่อพูดผิดไป ใจเย็นๆหน่อยสิครับ น้องเขาไม่ได้ขายตัวเป็นอาชีพหลักนะครับ จะให้ผมไปถามซื้อเป็นผักเป็นปลาได้ยังไงล่ะ” เมทีเอ่ยบอกไปก็ยิ้มขำๆอย่างอดไม่ได้ นี่น่ะเหรอคนที่บอกว่าจะไม่สนใจเด็กสาวเอาะๆ นี่ขนาดผ่านมาแค่วันเดียวก็รีบถามหาซะแล้ว แบบนี้เขาต้องรีบไปจัดการให้เจ้านายของเขาแล้วจริงๆสินะ นึกว่าจะพูดเล่นๆซะอีก
“นายก็ไปถามสิ มัวแต่ยิ้มอยู่ตรงนี้แล้วฉันจะได้กินเด็กนั่นเมื่อไหร่ห้ะ” ฟรานติโน่ตอบไปด้วยเสียงที่เริ่มจะโมโห เมื่อเจอเมทียืนทำหน้ากวนประสาทของเขาอยู่
“ผมเชคตารางเรียนของน้องเขามาแล้วครับ วันนี้น้องเขามีเรียนตอนบ่าย เพราะฉะนั้นผมจะลองไปถามน้องเขาให้คุณฟรานตอนบ่ายๆนะครับ อย่าใจร้อนไปหน่อยเลยครับ ยังไงคุณฟรานก็ต้องได้เยสเอ้ย ได้เด็กคนนั้นมานอนถวายตัวบนเตียงแน่นอนครับ” เมทีพูดไปก็แกล้งพูดผิดพูดถูกอย่างแกล้งๆฟรานติโน่ ไม่รู้จะใจร้อนอะไรนักหนา ถึงได้เร่งเขาเอาๆ
“เป็นแบบนั้นก็ดี แต่ฉันคงอดทนจนถึงตอนเย็นไม่ได้ นายโทรไปหาติน่าหรือจูลี่ก็ได้ เอาใครก็ได้ที่พร้อมจะมารองรับอารมณ์ของฉันตอนนี้ได้” ฟรานติโน่เอ่ยพูดออกไป เพราะเขาทนเก็บความต้องการมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว วันนี้เขาต้องได้ปลดปล่อยมัน เพราะเด็กนั่นคนเดี๋ยวถึงทำให้เขาต้องเป็นแบนี้ คอยดูเถอะได้ตัวเธอมาเมื่อไหร่จะกินทั้งตัวไม่ให้เหลือซากเลย
“งั้นเอาคุณจูลี่นะครับ เธอคงจะรองรับอารมณ์ของคุณตอนนี้ได้พอสมควร จะให้นัดเธอไปที่ไหนดีครับ” เมทีเอ่ยถามออกไปด้วยเสียงปกติ เพราะเขาชินกับการหาผู้หญิงสวยเอกซ์เซ็กส์จัดให้กับฟรานติโน่
“คอนโดฉัน โทรตามติน่าด้วยอีกคน บอกให้สองคนนั้นไปรอที่นั่นแล้วเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่ฉันจะไปถึง” ฟรานติโน่เอ่ยบอกไป เพราะเขามีคอนโดสำหรับไว้เล่นสวาทกับสาวๆของเขาโดยเฉพาะ และวันนี้เขาก็จะจัดการสองสาวพร้อมๆกัน
“ได้เลยครับ วันนี้ควบสองเลยนะครับ สงสัยจะต้องการแบบจัดหนักสินะครับ หึๆ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ถ้าคุณฟรานพร้อมจะออกไปก็เจอกันหน้าห้องก็แล้วกันนะครับ” เมทีเอ่ยบอกไปก็เดินกลับออกไปจากห้อง ก่อนจะรีบโทรตามนางแบบสาวให้ไปรอฟรานติโน่ที่คอนโด เพราะจูลี่และติน่าเป็นสองสาวที่ฟรานติโน่ชอบเรียกใช้บ่อย เนื่องจากพวกเธอมีความต้องการทางเพศสูงพอๆกับฟรานติโน่ เขาล่ะนึกไม่ออกจริงๆว่าจะมีผู้หญิงคนไหนมาหยุดความหื่นของฟรานติโน่
“เพราะเธอคนเดียวที่ทำให้ฉันต้องทรมานแบบนี้ อย่าให้ฉันได้แอ้มเธอนะยัยเด็กบ้า ฉันจะเอาให้คลานลงเตียงไม่ได้เลย” ฟรานติโน่พูดออกไปอย่างหัวเสีย ก่อนจะรีบอ่านเอกสารแล้วรีบเซ็นต์อนุมัติงานต่างๆที่ประชุมไว้เมื่อวาน เพราะวันนี้เขาจะต้องไปสนุกกับสาวๆของเขาให้สำราญซะก่อน ถึงจะกลับมาทำงานได้อย่างปกติสุข
ด้านแฟรงก์น้องชายของฟรานติโน่ก็เบื่อกับงานที่ทีรวัตรสอน จึงแอบหนีมาพักผ่อนด้วยการมาเดินเล่นที่ห้าง ก่อนจะเจอกับปาลมี คู่หมั้นคนสวยของพี่ชายเขาเข้า
“ไงครับน้องปาล์ม ไม่เจอกันนานเลยนะ ตัวเตี้ยเหมือนเดิมเลยนะ” แฟรงก์เอ่ยแซวออกไปอย่างแกล้งๆ เพราะเขาก็รู้จักและสนิทสนมกับปาลมีไม่ต่างจากพี่ชาย
“กลับมาก็ปากหมาเลยนะคะพี่แฟรงก์ แล้วนี่พี่ฟรานไม่มาด้วยเหรอคะ” ปาลมีตอบกลับไปอย่างไม่ยอม ก่อนจะเอ่ยถามถึงคู่หมั้นของเธอ ที่เธอหมั้นกันไว้เมื่อสองปีก่อน
“ถามหาแต่พี่ฟราน แบบนี้พี่ก็น้อยใจนะ” แฟรงก์เอ่ยพูดไปก็ยิ้มใส่ร่างบางตรงหน้าด้วยสายตากรุ้มกริ่ม เขายอมรับว่าเขาหลงรักคู่หมั้นของพี่ชายตัวเอง แต่จะให้ทำยังไงได้ ในเมื่อปาลมีเลือกที่จะหมั้นกับพี่ชายของเขา ไม่ใช่เขา เขาก็ต้องยอมรับมัน
“ก็ช่างสิคะ ใครสนใจกัน ไปก่อนนะคะ พอดีปาล์มนัดเพื่อนไว้ ไม่อยากจะคุยกับว่าที่น้องสามีน่ะค่ะ” ปาลมีเอ่ยบอกไปก็จะเดินหนีแฟรงก์ เพราะเธอไม่อยากจะเห็นหน้ากวนๆของเขา ไม่รู้ทำไมถึงชอบจิกกัดเธอได้ตลอด นี่ถ้าเขาไม่ใช่น้องชายของพี่ฟรานล่ะก็ เธอจะด่าให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย
“ระวังจากน้องสามี จะกลายเป็นผัวเข้าสักวันละกัน” แฟรงก์พูดทิ้งท้ายไปก็เดินออกไปทันที ปล่อยให้ปาลมียืนงงกับสิ่งที่เขาพูดอยู่ตรงนั้น คอยดูเถอะตราบใดที่เธอยังไม่แต่งกับพี่ชายของเขา เขาก์ยังมีสิทธิ์ที่จะได้เธอเหมือนกัน และเท่าที่เขารู้มาพี่ชายของเขาไม่เคยแตะต้องเธอเลยด้วยซ้ำ
“ไอ้พี่แฟรงก์” ปาลมีได้แต่กัดฟันพูดด่าออกไป ก่อนจะกัดเก็บไว้เมื่อชายหนุ่มเล่นเดินเผ่นหนีออกไปนู้นแล้ว คิดว่าเธอจะยอมให้เขาง่ายๆหรือไง ไม่มีทางหรอก ยังไงเธอก็จะเป็นจะสาวของพี่ฟรานเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น
ด้านแฟรงก์และพลอยลดาก็นั่งแอบอยู่ที่ห้องของแฟรงก์ เพราะว่าห้องนอนของแฟรงก์มันมีระเบียงมองไปที่สระว่ายน้ำแบบชัดเจน และพวกเขาก็เชื่อมสายไฟต่างๆให้มาอยู่ในห้องของแฟรงก์ เพื่อสะดวกต่อการเซอร์ไพร์สครั้งนี้ ส่วนคนที่แฟรงก์ให้มันจัดการ เขาก็ให้กลับตั้งแต่ครึ่งช่วโมงก่อนหน้านี้ไปหมดแล้วด้านฟรานติโน่ก็พาพิชชาภาเดินออกมาแล้วคอยพยุงเธอมาจนถึงสระว่ายน้ำที่ถูกตกแต่งไปด้วยลูกโป่งพร้อมมีแสงสีหลากสีสวยงามอยู่รอบๆ ก่อนจะส่งสัญญาณบอกกับน้องชายที่อยู่กับพลอยลดาให้ทำตามแผน ด้วยการปิดไฟที่สระว่ายน้ำทั้งหมดเพื่อเขาจะเปิดตาของพิชชาภา“พี่ฟรานจะทำอะไรคะ เมื่อไหร่จะถึงสักที” พิชชาภาที่ถูกปิดตาเอ่ยถามออกไปอย่างตื่นเต้นว่าฟรานติโน่กำลังจะทำอะไรเธอถึงพาเธอปิดตาแล้วเดินมานานขนาดนี้“เดี๋ยวก่อนนะคนดี ยืนตรงนี้แปปนึงนะครับ” ฟรานติโน่พูดเสียงเพราะก็ยิ้มมุมปากก่อนจะมองไปรอบๆที่ไฟทั้งหมดถูกปิดแล้วจนมันมืด เขาก็เอามือเอื้อมไปปลดผ้าปิดตาของพิชชาภาออกมา“ลืมตาได้แล้วคนดี” ฟรานติโน่บอกไป พิชชาภาก็ค่อยลืมตามาก็เห็นฟรานติโน่ยืนยิ้มใส่เธออยู่“มีอะไรกันคะ ทำไมต้องปิดตาพิชด้วย” พิชชาภาเอ่ยถามอย่างสงสัย ก่อนจะเห็นว่ามันมืดมาก
พอเช้าของอีกวันฟรานติโน่และแฟรงก์ก็พาพิชชาภาเดินทางไปส่งพลอยลดาที่บ้านของอลิซ่าผู้ดูแลพลอยลดาที่นี่โดยรถสปอตคันหรู เพื่อเข้าไปพูดคุยเกี่ยวกับการย้ายที่อยู่ของพลอยลดาให้มาอยู่ในความดูแลของฟรานติโน่ แต่ก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น กว่าฟรานติโน่และแฟรงก์จะเคลียร์ปัญหากับอดัมและอลิซ่าเสร็จก็นานเป็นชั่วโมง จากนั้นก็ช่วยกันขนของใช้ส่วนตัวของพลอยลดาออกมาบางส่วน แล้วก็กลับมาที่บ้านของฟรานติโน่“ช่วงที่พี่ยังอยู่ที่นี่พลอยก็พักห้องนั้นไปก่อนนะ เดี๋ยวถ้าพี่กับพิชกลับไทยไป พลอยก็ค่อยย้ายมาอยู่ห้องนี้ก็แล้วกันนะ ส่วนเรื่องที่พักเดี๋ยวพี่จะให้ไอ้แฟรงก์มันจัดการให้ ไม่ต้องห่วงนะ พิชพาน้องเอาของไปเก็บที่ห้องก่อนเถอะ” ฟรานติโน่บอกทั้งสองสาวไปด้วยรอยยิ้มเอ็นดู เพราะวันนี้เด็กสาวเจอแต่เรื่องไม่ดี เขาจึงพยายามพูดดีกับเธอให้เหมือนพี่ชายคนหนึ่งควรจะทำ“ไปกันเถอะยัยพลอย มาพี่ช่วยถือ” พิชชาภาเอ่ยพูดไปเสียงอ่อน ก็ช่วยน้องสาวที่ใบหน้าเศร้าเดินเข้าไปที่ห้องของน้องสาว พอแฟรงก์เห็นสองสาวเดินเข้าไปให้ห้องแล้ว เขาก็เอ่ยถามพี่ชายทันที“อ่าวเฮีย ทำไมเฮียไม่ไปจัดการเองอ่ะ ผมก็มีงานต้องทำนะครับ ไม่ได้มีเวลาไปทำอะไรให้ใคร โ
หลังจากนั้นทั้งสองก็หลับพักผ่อนจนเกือบเย็น ตื่นมาอีกทีก็เกือบจะหกโมงเย็นกว่าทั้งสองจะออกมาหาแฟรงก์และพลอยลดาที่ในบ้านหลังนี้ด้วย“อ่าวยัยพลอยทำไมมานั่งคนเดียว แล้วพี่แฟรงก์ล่ะ” พิชชาภาเดินออกมาจากห้องแล้วเดินไปที่ห้องโถงกลางบ้านก็เจอน้องสาวกำลังนั่งทำหน้ายักษ์อยู่ จึงเอ่ยถามออกไป“ไม่รู้สิคะ ป่านนี้คงนอนอืดตายแล้วมั้งคะ” พลอยลดาเอ่ยบอกไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เพราะยิ่งเธอนึกถึงตอนที่เขามาแอบมองเธอเล่นน้ำ แล้วเขาก็เล่นกับเจ้านั่นของเขา ยิ่งนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนบ่ายเธอก็อดโมโหไม่ได้“ยัยพลอย พี่แฟรงก์เขาแก่กว่าเราตั้งกี่ปี เคารพเขาบ้างสิเราน่ะ อีกอย่างต่อไปเราต้องอยู่กับพี่แฟรงก์ที่นี่ เพราะฉะนั้นเราต้องทำตัวดีๆกับพี่เขา เข้าใจไหม” พิชชาภาเอ่ยดุน้องสาวไปอย่างเตือนๆ เพราะยังไงแฟรงก์ก็อายุมากกว่าน้องสาวของเธอ“เคารพคนแบบนั้นไปทำไมล่ะคะ พี่พิชรู้ไหมว่าอีตานั่นมัน” พลอยลดาที่โมโหอยุ่พูดออกไปอย่างลืมตัว ก่อนจะหยุดพูดไปเพราะกลัวว่าพี่สาวจะเป็นห่วงมากกว่าเดิม“ทำไม พี่แฟรงก์ทำอะไรเรา บอกพี่มานะ” พิชชาภาเริ่มทำหน้าเครียดแบบจริงจัง พร้อมกับจ้องมองน้องสาวอย่างจับผิด“เปล่าค่ะ เขาก็แค่ชอบพูดกวนพลอย
ด้านฟรานติโน่ที่เขามารอพิชชาภาในห้องก็กระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเขาคิดแผนอะไรดีๆออกแล้ว ว่าเขาควรจะเอาเวลาที่อยู่ที่นี่ทำอะไรดี แต่ก่อนที่เขาจะโทรหาเมที เขาจึงแอบส่งข้อความให้น้องชายช่วยดูแลน้องสาวของพิชชาภาระหว่างที่พวกเขาจะพักผ่อน จากนั้นเขาก็เดินไปล็อคประตูห้องแล้วเลือกที่จะโทรหาเมทีทันที“ว่าไงครับคุณแฟรงก์ มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ” เมทีรับสายแล้วกรอกเสียงพูดไปอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะคิดในใจว่าเจ้านายของเขาคงจะมีงานด่วนให้เขาทำแน่ๆถึงโทรมาเร็วขนาดนี้ ทั้งที่พึ่งจะกำลังถึงอเมริกา“มีแน่ๆ ฉันจะเซอร์ไพร์สขอเมียฉันแต่งงานที่นี่” ฟรานติโน่เอ่ยบอกออกไปก็คิดไปพร้อมกับรอยยิ้มที่ฉายออกมาอย่างอดไม่ได้ว่าพิชชาภาจะมีความสุขขนาดไหนถ้าเขาทำอะไรมุ้งมิ้งแบบนี้ให้เธอ“อะไรนะครับ นี่คุณฟรานจะขอคุณพิชแต่งงานที่นั่นเหรอครับ แต่คุณฟรานกับคุณพิชแต่งงานกันแล้วนิครับจะขอแต่งงานกันไปทำไมล่ะครับ ยังไงก็จดทะเบียนกันแล้วนิครับ” เมทีเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะทั้งสองก็จดทะเบียนสมรสกันไปแล้ว ทำไมต้องมาทำเซอร์ไพร์สอะไรอีก“ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแกถึงไม่มีเมียจนถึงอายุปูนนี้ ไม่มีความโรแมนติกเลยนะแกเนี่ย ถึงฉันกับพิชจะจดท
หลังจากนั้นทั้งสี่คนก็นั่งรถเดินทางไปยังบ้านของฟรานติโน่ที่อยู่ในเมืองฮอลลีวูดซึ่งมันเป็นเมืองที่อยู่ในลอสแองเจลิสอีกที แต่ก็ถือว่าเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงอยู่เหมือนกัน นั่งรถมาครึ่งชั่วโมงก็ถึงบ้านที่อยู่ริมทะเล“นี่บ้านเหรอคะเนี่ย ใหญ่เวอร์วังไปอีก” พลอยลดาลงจากรถคันหรูก็มองบ้านของพี่เขยอย่างอึ้งๆ เพราะมันเรียกว่าบ้านไม่ได้ มันต้องเรียกว่าคฤหาสน์แล้ว ยิ่งอยู่ติดทะเลแบบนี้พี่เขยเธอคงจะรวยน่าดู เพราะคนที่นี่ถ้าไม่รวยจริงอยู่ติดทะเลแบบนี้ไม่ได้แน่“นี่บ้านของพี่ฟรานจริงๆเหรอคะ” พิชชาถาเองก็อึ้งไม่ต่างจากน้องสาว เพราะบ้านของเขาที่ไทยก็ใหญ่มากแล้ว แต่พอเจอที่นี่ไปบ้านที่ไทยดูธรรมดาไปเลย“ พี่กับไอ้แฟรงก์พึ่งซื้อได้ไม่นานเท่าไหร่ มันสวยดีพี่ก็เลยซื้อเก็บไว้เผื่อมาทำงานที่นี่จะได้มีบ้านนอนสบายๆ ” ฟรานติโน่เอ่ยบอกไปก็จูงมือของพิชชาภาเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ริมทะเล เขาเลือกซื้อที่นี่ไว้เพราะทำงานที่อเมริกาแต่ละครั้งก็หลายเดือน ซื้อบ้านไว้น่าจะสะดวกกว่า“จะไม่เข้าบ้านเหรอ มัวแต่ยืนยิ้มอยู่ได้ ไม่ร้อนไง” แฟรงก์พูดไปก็มองหน้าของเด็กสาวอย่างกวนๆ ก่อนจะเดินตามฟรานติโน่และพิชชาภาเข้าไปในบ้าน“หืม ไอ้บ้
ด้านพิชชาภาก็เดินทางมาถึงอเมริกาก็เกือบสิบโมงเช้า พอได้เห็นเมืองที่น้องสาวอยู่ก็รู้สึกดีใจที่น้องสาวได้มาเรียนที่นี่ นั่นก็คือเมืองลอสแองเจลิสที่อยู่ในรัฐแคลิฟอเนียซึ่งอยู่ในแทบทะเลถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่มากๆเมืองหนึ่งในอเมริกา“ไงเราตื่นเต้นละสิ ตาลุกวาวเลยนะ” แฟรงก์เอ่ยพูดกับพิชาภาอย่างแซวๆ เมื่อเธอยิ้มหน้าบานแถมยังทำท่าตื่นเต้นจนออกนอกหน้า ซึ่งต่างจากเขาและพี่ชายที่มาที่นี่บ่อยแล้วเพราะมีธุรกิจอยุ่ที่นี่เป็นส่วนใหญ่“เมืองนี้สวยมากเลยอ่ะพี่แฟรงก์ ตอนเครื่องลงพิชมองดูวิวแล้วนะ เริสมาก เดี๋ยวต้องไปอ้อนพี่ฟรานให้พาเที่ยวหน่อยแล้วล่ะค่ะ” พิชชาภาพูดบอกไปก็ยิ้มหน้าบานก่อนจะหันไปหาฟรานติโน่ที่ยืนส่ายหัวใส่เธออยู่ข้างๆแฟรงก์“นี่มาหาน้องสาวไม่ใช่เหรอเรา ยังไม่ทันไรก็จะให้พี่พาเที่ยวเหรอ เคลียร์เรื่องน้องสาวเราให้จบก่อนเถอะ” ฟรานติโน่เอ่ยพูดบอกไปพร้อมกับเก็กท่าหล่อใส่พิชชาภาจนพิชชาภามองเขาอย่างเบะปากแบบหมั่นไส้“เคลียร์แน่ค่ะ นี่ก็บอกว่าถ้าส่งงานอาจารย์แล้วจะมารอรับที่สนามบิน ทำไมยังไม่มาก็ไม่รู้” พิชชาภาพูดบอกไปก็แลสายตามองหาน้องสาว เพราะน้องสาวของเธอบอกจะมารอรับ เพราะไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว