พอคิดแบบนี้ ร่างกายของเขาก็สั่นเทาราวกับผีเข้า “ป๋อ....ประธานป๋อ” ป๋อจิงโจวกวาดสายตามองดูเขาอย่างนิ่งเงียบ และสายตาได้มาตกที่เรือนร่างของเสิ่นหว่านฉืออีกครั้งเธอไม่ได้มองเขา ก่อนจะควักโทรศัพท์กำลังจะโทรแจ้งตำรวจทว่าโทรศัพท์ของเสิ่นหว่านฉือยังไม่ทันจะได้กดโทรออกไปก็ถูกผู้จัดการฉกยึดเอาไปเสียก่อน “
เสิ่นหว่านฉือโดนป๋อจิงโจวบีบจนรู้สึกเจ็บจึงอยากหันหัวหลบ แต่เธอสู้แรงมือของผู้ชายได้ที่ไหนกัน?เห็นว่าเธอเงียบไป ป๋อจิงโจวก็เลยขยับเข้ามาชิด แววตากำลังความโกรธอย่างเดือดพล่าน แต่ถูกเขาข่มเอาไว้ หากดูแค่สีหน้าไม่อาจรู้สึกถึงไฟโกรธที่กำลังเดือนพล่านในใจเขาแม้กระทั่ง เสียงของเขาอ่อนโอนกว่าปกติมากเขาเ
ในอากาศคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหล้าป๋อจิงโจวก้มมองรอยเลอะบนเสื้อเชิต ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าเมื่อครู่เสิ่นหว่านฉือพูดว่าอะไร เธอพูดว่า: “ป๋อจิงโจว ฉันอยากอ้วก”“เสิ่นหว่านฉือ!” เขากัดฟันพูดสามคำนี้จนฟันแทบแตกนิ่งค้างไปนานสิบกว่าวินาที……ไม่รู้ว่าป๋อจิงโจวขี้เกียจเอาเรื่องกับคนขี้เมา หรือว่าทนต่อปากต่อ
ป๋อจิงโจววางสายวิดีโออินเตอร์คอม เปิดประตูรับเอาเสื้อผ้าจากผู้จัดการแล้วโยนให้เสิ่นหว่านฉือเธอหิ้วถุงเสื้อผ้าเดินไปที่ห้องน้ำ แต่เสียงของป๋อจิงโจวก็แว่วผ่านประตูเข้ามาอีกครั้ง: “อีกสักพักคุณแม่ต้องทำการตรวจร่างกายโดยละเอียดที่โรงพยาบาล คุณไปกับผมนะ”“ฉันต้องไปทำงาน” เธอก็เป็นห่วงสถานการณ์ของเจียงหย
ประโยคเดียว เพียงพอที่จะทำให้สีหน้าของเจี่ยนเวยหนิงเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก เวลานี้ความภาคภูมิใจอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นเมื่อครู่ได้หายไปแล้ว เหลือไว้เพียงความเคอะเขินนิ่งงันที่แสดงออกอยู่บนหน้าเธอเข้าใจความหมายที่สื่อแล้ว เสิ่นหว่านฉือเป็นภรรยาของป๋อจิงโจวและเป็นครอบครัวของเขา ไม่จำเป็นต้อง
งานเลี้ยงต้อนรับในวันนี้ไม่ใช่งานเลี้ยงทางธุรกิจที่เป็นทางการ เนี่ยอวี้เฉิงไม่ได้สวมเสื้อสูท เขาสวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงสูทสีดำ ประกอบกับใบหน้าอันลุ่มลึกดูมีสง่าราศี ยิ่งมองยิ่งสุภาพงดงามเขามองเห็นป๋อจิงโจว ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า: “คุณมาสายมากเลยนะ ผมยังคิดว่าคุณจะไม่มาซะแล้ว”พูดจบเขาก็เหลือบม
ไม่นาน เสียงซุบซิบนินทาด้านนอกก็หยุดลง เสิ่นหว่านฉือไม่เข้าใจเดินออกมากลับเห็นป๋อจิงโจวยืนสูบบุหรี่อยู่หน้าอ่างล้างมือ ตัวเธอตะลึงนิ่งไปเลย ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงถามขึ้นว่า: “ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?”สีหน้าผู้ชายจริงจังและเย็นชา สายตาจับจ้องมาที่เธอ ยิ้มมุมปากเบาๆ แถมเยาะเย้ยถากถางเธอ: “เห็นผมถึงกลับผิด
เขาก้มมองผู้หญิงตรงหน้า เห็นขอบตาเธอแดง และที่เธอร้องไห้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะน้อยเนื้อต่ำใจหรือเป็นเพราะถูกเขารังแกเขาปล่อยเสิ่นหว่านฉือ “ผู้ชายที่ไม่ช่วยเหลือเธอในตอนที่เธอสิ้นหวังและยังปฏิเสธเธอ เธอต้องหน้าด้านหน้าทนขนาดไหนถึงไม่ลืมเขาเลยได้ถึงสามปี?”สายตาดูถูกคู่นั่น มันแสดงออกมาจนชัดเจนเสิ่นหว่า