หลังจากแข่งรถเสร็จฉันก็ขับรถกลับคอนโดเพื่อวางแผนทำลาย ลลินทันที ฉันคิดว่าทุกคนคงสงสัยใช่ไหมล่ะคะว่าฉันคือใคร ฉันชื่อใบเตยค่ะ คู่ควงสมัยม.ปลายของพี่มาร์ท และใช่ทุกคนคิดไม่ผิดหรอก ฉันไม่ได้อยากเป็นแค่คู่ควงแต่ฉันอยากเป็นนายหญิงแห่งตระกูลพี่มาร์ทด้วย ฉันเคยเข้าหาเขาหลายครั้งแต่เขาก็ปฏิเสธมาโดยตลอดเพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะเขารู้สึกผิดที่เขาเคยไล่ยัยลินศัตรูของฉันให้ออกไปจากชีวิตเขาเมื่อครั้งนั้นยังไงล่ะ
ตอนแรกที่ยัยลินหายไปเขาก็ดูมีความสุขดี แต่พอผ่านไปได้ไม่ถึงอาทิตย์เขากลับพูดแต่ชื่อมัน ในขณะที่ตัวเขาอยู่กับฉัน จนในที่สุดก่อนเขาจะเรียนต่อมหาลัยเขาก็ได้มาขอยุติความสัมพันธ์กับฉัน ฉันยอมรับนะว่าโกรธเพราะฉันไม่ชอบให้ใครมาบอกเลิก และในวันนี้ฉันก็คิดว่าจะเอาเขากลับมาเป็นของฉันอีกครั้ง
แต่! แต่ยัยลินก็กลับมา มันกลับมาทำไม กลับมาเป็นมารขวางความสุขฉันทำไม ฉันเกลียดมัน
วันนี้แข่งรถอีกเหมือนกันมันชนะฉันแถมยังเยาะเย้ยฉันอีก หึ ฉันไม่ยอมจบแค่นี้แน่ ฉันจะเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของมันมาเป็นของฉัน ฉันจะแย่งทุกอย่างคืน ฉันมาเพื่อแย่ง และฉันจะไม่ยอมให้ลลินได้ดีไปกว่าฉันแน่นอน ฉันคิดด้วยแววตามุ่งมั่น หึ
อ้อ วันนี้แค่แวะมาแนะนำตัว แล้วพบกัน
ณ K ผับ
ตอนนี้ฉันกับเพื่อน ๆ ก็เข้ามาในผับของเพื่อนพี่มาร์ทแล้ว ฉันว่าวันนี้จะแดนซ์ซะหน่อย เพราะรู้สึกอารมณ์ไม่ค่อยดีอยากปลดปล่อย เพราะฉันเจอศัตรูคู่อริอย่างยัยเตยเน่าน่ะสิ แถมล่าสุดมันยังบอกเจตนาชัดเจนอีกว่ามันจะแย่งพี่มาร์ทไป ซึ่งตรงนี้แหละที่ทำให้ฉันโมโห ฮึ่ย
แต่เอาเถอะ ไม่ว่ายัยนั่นจะว่ายังไงจะมาไม้ไหน ฉันรับมือได้หมดแน่ ๆ หึ แล้วจะรอแล้วกันนะ
เฮ้อ แต่สิ่งที่ทำให้ฉันคิดหนักตอนนี้ก็คือเมื่อตอนอยู่ที่สนามแข่งฉันจุ๊บปากพี่มาร์ทไปนะสิ ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงทำอย่างนั้นแต่ฉันรำคาญเขานิ บ่นอยู่ได้เลยทำแบบนั้นลงไป และมันก็ได้ผลเขาเงียบทันทีเลยล่ะ
สักพักพวกที่เหลือก็เข้ามาแล้วก็ตกลงกันว่าจะมาเที่ยว นั่นทำให้ฉันมาอยู่ที่นี่ตอนนี้ และฉันกำลังมองว่าเขาอยู่ตรงไหนนะสิ อ้อ เจอแล้ววีไอพี
“รอนานไหมคะทุกคน” เสียงฉันพูดขึ้น
“ไม่นานครับ เพิ่งมาเหมือนกัน” อ้อน้องมาร์คัสตอบดิฉัน ส่วนคนตัวโตมองฉันนิ่ง ๆ รู้สึกไม่ปลอดภัยเลยแฮะ
“เอ่อ มานั่งกันดีกว่าครับ จะได้สนุกกัน” คราวนี้พี่คิมหันต์พูดบ้างฉันก็กำลังจะเดินไปนั่ง แต่
หมับ ฟุบบบ
เขากระชากข้อมือฉันให้นั่งลงบนตักแกร่งของเขา ฉันมองเขาอย่างไม่พอใจนัก
“นั่งนี่แหละจะไปไหน อยู่นิ่ง ๆ ดิวะ แล้วนี่อะไร ชุดอะไร ทำไมชอบใส่โป๊วะ” มันว่าฉัน
“ก็มาเที่ยวปะ อย่ามางี่เง่า รำคาญ”
ฉันจึงเลือกตอบร่างสูงไปแบบนั้น มันทำหน้าไม่พอใจแต่ก็ไม่พูดอะไร พวกเรานั่งทานกันไปเงียบ ๆ จนเริ่มเบื่อยัยปรางค์จึงชวนไปเต้น
“เบื่อแล้วว่ะ ไปเต้นกันไหม” ปรางค์พูดขึ้น
“อืม ก็ดีนะ ฉันอยากแดนซ์” ยัยมีน
“ดีค่ะ นาน ๆ ทีแพรวจะมา ไปนะเจ๊” แพรวพูดแล้วหันมาหาฉัน
“อืม ไปก็ไป เบื่อเหมือนกัน”
“ไม่ให้ไป”
“โว้ะเครียดก็ต้องแดนซ์ปะวะ ไปพวกมึงไปสนุกกัน” ว่าแล้วฉันก็ลุกขึ้นโดยไม่สนใจคนตัวโตเลย
ตอนนี้พวกฉันอยู่ด้านล่างของผับแล้วล่ะ พวกฉันเต้นกันอย่างไม่มีใครยอมใครเลย แต่ละคนนี่ปลดปล่อยสุด ๆ จนฉันรู้สึกว่ามีแต่คนสนใจแต่กลุ่มพวกเราทังนั้น แล้วก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกเรา แต่มันไม่ได้ทักฉันหรอก มันเข้าไปหายัยมีนแล้วทำความรู้จัก ฉันจะไม่อะไรเลยถ้าไอ้ผู้ชายที่เดินมาหาพวกฉันไม่ใช่คนที่ฉันเคยหมายหัวเอาไว้
อย่าถามละว่ามันทำอะไร ไอ้นี่มันเคยแอบยักยอกเงินบริษัทของป๊าฉันแล้วถูกจับได้ ซึ่งตอนแรกฉันไม่รู้หรอก แต่ฉันก็เพิ่งมารู้เมื่อไม่นานมานี้เอง และดูเหมือนมันจะไม่หยุด มันยังคงแอบยักยอกเรื่อย ๆ ฉันจึงกระซิบกับยัยมีนว่าให้ทำความรู้จักไปก่อนเพราะฉันจะเชือด ยัยมีนเมื่อได้รับคำสั่งก็คุยกับมันอย่างอ่อนหวานทันที มันไม่รู้จักพวกฉันหรอก แต่นั่นก็ดีแล้วล่ะ เพราะฉันสามารถทำอะไร ๆ ได้ง่ายขึ้น
ฮึ่ม
ตอนนี้ผมอยู่ในผับโซนวีไอพีครับ กำลังนั่งมองยัยตัวเล็กเต้นอยู่ด้านล่าง ผมโคตรจะโมโห ไม่ชอบเลยชอบขัดคำสั่งเนี่ย ผมก็บอกไปแล้วว่าไม่ให้ไปแต่เธอก็ไม่เชื่อ แล้วไอ้ชุดนั่นอีกผมก็บอกแล้วว่ามันโป๊แต่เธอกลับใส่มา เหมือนท้าทายผมอย่างนั้นแหละ แล้วยังไงใส่มาเธอก็เด่นไง สายตาพวกผู้ชายที่มองเธอนี่แทบจะกลืนกินแล้ว โว้ย ยิ่งมองยิ่งหงุดหงิด อย่าเผลอนะพ่อจะฟาดให้ แล้วนี่อะไรลงไปเต้น แต่มีผู้ชายเข้ามาทักทาย ถึงจะไม่เข้าหาเธอโดยตรงก็เถอะ แต่ผมก็หวงอยู่ดี
โว้ยยย หงุดหงิดโว้ย
“เฮ้ย ไอ้มาร์ท มึงไม่ลงไปตามคู่หมั้นมึงวะแม่ง เดี๋ยวก็โดนหมาคาบหรอก” เสียงไอ้ตินบอกผม ผมไม่ตอบออกมา แต่ผมหันหน้ากลับมามองมันนิ่ง ๆ
“เออ นั่นสิ แล้วนี่อะไรดูยัยมีนาสิ ฮึ่ม ระริกระรี้เชียวเห็นผู้ชายไม่ได้ไงวะหงุดหงิด” เสียงไอ้คิมครับ
“เออ นั่นสิ ดูยัยปรางค์นั่นก็อีกคน เต้นจนนมหกหมดแล้ว หงุดหงิดโว้ย” เสียงไอ้ตินพูดอย่างไม่สบอารมณ์
“นั่นสิครับ ผมเห็นด้วยเลย ดูแพรวสิเพิ่งจะเข้าปีหนึ่งแต่ออกลายแบบนี้มันน่านัก ฮึ่ย” เสียงไอ้มาร์คัสพูดบ้าง ผมก็มองตามพวกมันนะ ยิ่งมองก็ยิ่งหงุดหงิด ไม่ได้การละ สงสัยต้องไปตามซะหน่อย
“แล้วเกี่ยวอะไรกับพวกมึงวะ เพื่อนลินจะเต้นมันไปหนักส่วนไหนของพวกมึง หรือว่าพวกมึงชอบแก๊งนี้” ผมพูดแล้วมองมันนิ่ง ๆ ก่อนจะเดินลงมาชั้นล่างแล้วเข้าไปกระชากคนตัวเล็กให้กลับขึ้นข้างบน
“ไปกลับ ขึ้นข้างบน พอแล้ววันนี้ ไป”
ผมพูดพร้อมกอดคนตัวเล็กไว้ในอ้อมแขน
“ไม่ ลินยังสนุกอยู่เลย อย่ามาบังคับ” ดูเธอตอบผมสิครับ ทนไว้ไอ้มาร์ท
“เลือกเอาจะไปดี ๆ หรือจะให้อุ้ม” ผมขู่เธอ
เธอไม่ตอบแต่ยอมเดินตามผมมาเงียบ ๆ ตอนนี้ผมกับเธอนั่งอยู่ที่โต๊ะแล้ว แต่ไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไร พวกสามตัวที่เหลือมันก็ลงไปกระชากเพื่อนของยัยตัวเล็กกลับขึ้นมาข้างบน หึ ดูแล้วพวกเธอคงโวยวายน่าดูเลย
“นี่ไอ้บ้า ลากฉันมาทำไม ยังสนุกอยู่เลย” มีนาพูด
“โว้ย ไม่อยากเห็นเธอเต้นโว้ย รำคาญลูกตา” ไอ้คิมตอบ
“โอ๊ย หงุดหงิด จะลากขึ้นมาทำซากอะไร” ปรางค์ทิพย์ครับผม
“ไม่อยากเห็นนมที่เธอเต้นจนหกเว้ย” นี่ก็เสียงของมาร์ติน
“นี่แล้วพี่จะลากขึ้นมาทำไม นาน ๆ ทีจะได้มา” น้องแพรวครับ
“เพิ่งขึ้นปีหนึ่งอย่าเพิ่งซ่า ในฐานะที่เป็นพี่รหัสและเป็นพี่ว้ากพี่ขอสั่งให้เธอนั่ง” เสียงไอ้มาร์คัสพูดตอนนี้ไม่มีใครพูดอะไรทุกคนต่างนั่งมองเชิงกันเงียบ
ผมก็ไม่ได้อยากพูดอะไรมาก พูดแล้วมันขึ้น ดูเธอสิไม่สนใจผมเลย ขนาดให้นั่งตักแทนโต๊ะโซฟาเลยนะเนี่ยยังไม่สนใจผมเลย งอนว่ะพูดจริง
เหมือนเธอจะรู้ตัวนะ เธอปลายหางตามามองผมแวบนึงแล้วก็หันกลับไป ผมทนไม่ไหวก็เลยกอดเธอแน่นขึ้นพร้อมหอมซอกคอเธอแรง ๆ แต่จะว่าหอมคงไม่ถูก เพราะผมเผลอกัดจนขึ้นรอยแดงด้วย หึหึ
ตอนนี้ฉันกับพี่มาร์ทก็มาถึงที่ห้างพี่ตินแล้ว แต่ทำไมคนมองฉันกับพี่มาร์ทแปลก ๆ อะ ก่อนเราจะเข้าไปในห้าง“ลินครับ ลินเข้าไปก่อนเลยนะครับ พี่ลืมของพี่ขอกลับไปเอาของก่อน”“เดี๋ยวลินรอก็ได้ค่ะ” เขายิ้มแต่ส่ายหน้า“เข้าไปก่อนเลยครับ เดี๋ยวพี่ตามเข้าไปนะ” ถึงเขาจะพูดอย่างนั้นแต่หน้าเขาก็ยังคงเครียดอยู่ฉันจึงพยักหน้าเศร้า ๆ ก่อนที่จะเดินเข้าไปหลังจากที่เดินเข้ามาในห้างคนก็ยิ่งมองฉันและที่สำคัญทุกคนอมยิ้มให้ฉันจนฉันรู้สึกเก้อเขินไปหมด ฉันเดินไปตามทางเรื่อย ๆ จนเจอรูปตัวเองห้อยลงมามันเป็นรูปตอนที่ฉันอยู่ในช่วงอายุมอสี่มอห้าฉันจำได้ดีเพราะช่วงเวลานั้นทำให้ฉันต้องหนีไปอเมริกาฉันเดินมองรูปทีละรูปตามทาง ตามลูกศรไปเรื่อย ๆ รูปตอนเด็กค่อย ๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนเป็นรูปที่มาที่ประเทศไทยวันแรกในรอบสี่ปีในหลาย ๆ อิริยาบถฉันเริ่มตกใจ ฉันหยิบรูปนั้นมาดู“ลินครับ” ลายมือพี่มาร์ทหนิ ฉันเดินดูไปเรื่อย ๆ พลิกทีละรูปและแต่ละรูปจะมีข้อความเสมอ“พี่ขอโทษในทุกเรื่อง”“ขอโทษที่ทำให้ร้องไห้”“ขอโทษที่ทำให้เสียใจ”“ขอโทษที่เคยทำร้าย”“ทำร้ายคนที่พี่รักสุดหัวใจ” ฉันเดินอ่านจนมาถึงรูปนี้น้ำตาฉันก็ยิ่งคลอในหน่วยตา“ลินพอจะ
“อะอื้อ ฮื่ออ”“ตื่นได้แล้วครับสายแล้ว”“อื้อจะนอน อย่ามายุ่ง”“ถ้าไม่ตื่นพี่ปล้ำนะ”จุ๊บจุ๊บ“โอ๊ย ๆ ตื่นแล้ว ๆ ไม่ต้องมามองอย่างนั้นเลยนะ เมื่อคืนเล่นลินซะหนักเลยกว่าจะได้นอนก็ตีสี่เข้าไปแล้วไม่รู้เอาแรงมาจากไหนไม่เหนื่อยบ้างหรือไง”ฉันโวยคนตัวโตทันทีที่ตื่นขึ้นมาด้วยฝีมือของเขานั่นแหละ เอะอะปล้ำเอะอะปล้ำบ้าหรือเปล่า เมื่อคืนก็กว่าจะได้นอนเหนื่อยก็เหนื่อยเพลียก็เพลียแถมยังปลุกให้ลุกแต่เช้าอีก ฮือ อยากจะฆ่าพี่มันนัก“ลุกไปอาบน้ำเลยครับ ผู้ใหญ่มารอนานแล้วนะ ไม่น่ารักเลย”เดี๋ยวนะผู้ใหญ่เหรอหมายความว่าไงอะ“เมื่อกี้พี่มาร์ทว่าไงนะคะ ผู้ใหญ่มารอคือ ?” พี่มาร์ทยิ้ม“ไปอาบน้ำก่อนนะครับเดี๋ยวเสียฤกษ์” ฉันก็พยักหน้าอย่างงง ๆ ฤกษ์อะไรวะไม่เห็นรู้เรื่องเลยงงไปสิตุ้บ“โอ๊ย”ทันทีที่ลุกลงจากเตียงร่างของฉันก็หล่นตุ้บอยู่ข้างเตียง ฉันหันไปมองตัวต้นเหตุตาเขียวปั๊ด“หึหึ เจ็บเหรอครับมาพี่ช่วย”“ก็เพราะใครล่ะ บอกให้พอ ๆ ๆ เคยฟังปะ” ฉันมองเขาตาเขียวพร้อมกับบ่นไปด้วย“อ้าว พี่อาจจะผิดที่ไม่ฟังแต่พอพี่จะหยุดลินบอกเองนี่ครับอย่าหยุด อ๊ะ อื้อ เร็ว ๆ เร็วกว่านี้”เพี้ยะ“โอ๊ย ตีพี่ทำไมพี่พูดความจริงนะ ฮ่
“เฮ้ย!!!”O_O“ขะ เข้า เข้ามาได้ยังไง”ไม่ต้องตกใจครับ จะใครซะอีกล่ะนอกจากน้องลินยัยโหดของผมไงครับ ดูหน้าตาสิคืออะไร ตาจะโตไปไหน แล้วไอ้อาการอ้าปากค้างอีกนั่น อย่างกับว่าไม่เคยอยู่ด้วยกันยังไงยังงั้นอะ จะตกใจอะไรกันนักกันหนา“ถามว่าเข้ามาได้ยังไงคะพี่มาร์ท ออกไป ลินจะอาบน้ำ”“แหนะ ถามไม่ตอบ บอกให้ออกไปไง พี่มาร์ท ออกไปสิ”ผมยังยืนนิ่งอยู่ไม่ขยับไปไหน มองหน้ายัยตัวแสบนิ่ง ไม่มีทางยอมออกไปเด็ดขาดเอาสิ วันนี้มีเรื่องให้เคลียร์ เยอะแยะเต็มไปหมดเลย ยังไงก็ไม่ออกเด็ดขาด“ไป ออกไปค่ะ” ยัยตัวแสบเดินมาผลักผม เอามือดันหลังผมออกไป พอใกล้ถึงประตูหมับ“อ๊ะ พี่มาร์ท ทำอะไรคะ ปล่อยสิ เดี๋ยวพ่อกับแม่มาเห็น”“ไม่เห็นหรอกน่า อยู่ในห้องขนาดนี้ แถมยังล็อกประตูแล้วด้วย ใครจะมาเห็นครับ หื้ม”ฟอดผมพูดพร้อมหอมแก้มเธอไปด้วยแรง ๆ หนึ่งที“ไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ต้องออกไป”“ไม่ออก ยังไงก็ไม่ออก เพราะอะไรรู้ไหม เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันยาวเลย”ผมพูดจบก็พาเธอมานั่งที่โซฟาโดยให้เธอนั่งตักและกอดเอวเธอไว้ เธอขมวดคิ้วมุ่น“เรื่องอะไรคะ ก็เมื่อข้างล่างบอกไปหมดแล้วนี่คะ” ลินพูด“ก็ลิน กอดนายอะไรนะ ไอ้ตำรวจ FBI นั่นอ่ะ” ผม
โอ๊ย ให้ตายเถอะไม่เคยกดดันขนาดนี้มาก่อนเลย ทั้งคุณพ่อคุณแม่ ของฉัน ของพี่มาร์ท ป๊าแด๊ดและเพื่อน ๆ ของฉันมองมาที่ฉันทุกคนเลยอะงืออออ เอาไงดีวะ ฉันกดดัน เอาวะยิ้มสู้"ไม่ต้องมายิ้มเลยไอ้ตัวแสบ" คุณพ่อ"ใช่ไม่ต้องยิ้ม" คุณแม่"เล่ามา" ปรางค์"อย่าหมกนะ" มีนเอาไงดีวะหาตัวช่วย พี่มาร์ท พอหันไปเท่านั้นแหละ ฮือ ลินอยากร้องไห้ สายตาดุกว่าคนอื่นอีก"ไง จะเล่าได้หรือยังจะเงียบอีกนานไหมผู้ใหญ่เขารอ""โธ่แด๊ดดด""ไม่ต้องโธ่ เล่ามาให้หมดนะครับคุณลลิน""ป๊าอะชิ" แต่ก็เท่านั้นแหละสุดท้ายก็ต้องเล่าอยู่ดี"คือว่ายังไงดี โอ๊ยงง" ฉันเอง"ก็ไม่เอายังไงเล่ามาทีละเรื่อง เรื่องแรกเลยไปเป็นหัวหน้าองค์กรได้ยังไง" คุณพ่อพูด ฉันยิ้มก่อนจะบอกว่า"อ๋อ ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่ลินชอบการต่อสู้แล้วบังเอิ๊ญบังเอิญได้เข้าไปช่วยคนที่อ่อนแอทำให้คนที่ลินช่วยเนี่ยน่าจะเคารพลินมั้งคะ จากหนึ่งก็เป็นสองจากสองก็เป็นร้อยเป็นพันจนกลายมาเป็นองค์กรและมีผู้ร่วมขบวนการอย่างปีเตอร์ มะนาว น้องแพรว ยัยมีน และยัยปรางค์นี่แหละค่ะ อิอิ" ฉันพูดด้วยความสุข"ยังจะมาหัวเราะ โอ๊ยแม่จะเป็นลม" คุณแม่พูดพลางดมยาดมกับคุณป้าแม่ของพี่มาร์ทพร้อม ๆ กัน"
หลังจากที่พวกผมสั่งงานทางนั้นเสร็จแล้ว พวกผมก็รีบเดินทางกลับไปหาลลินทันทีพร้อมกับมิสเตอร์สมิธ แต่เราไม่ได้กลับกรุงเทพกันนะครับเพราะมิสเตอร์สมิธบอกว่าเสียเวลา ไปเจอตัวลินเลยดีกว่า พูดอย่างอารมณ์ดีพร้อมบอกทางคนขับรถของผมให้ไปที่โกดังร้างนอกเมืองแทน"อะไร มองหน้าฉันทำไม"มิสเตอร์สมิธพูดออกมาหลังจากที่เราขึ้นรถคันเดียวกันพวกผมทั้งหมดก็นั่งมองหน้าเขามาตลอดทาง"คือพวกผมสะ..”"ถึงแล้ว ไม่ต้องสงสัยหรอกรีบไปกันเถอะ" ผมยังพูดไม่ทันจบประโยคท่านก็พูดออกมาซะก่อนตอนนี้เราอยู่ที่โกดังล้างนอกเมืองเรารีบเดินเข้าไปอย่างระมัดระวังก่อนที่จะตกใจกับสภาพคนที่นอนเจ็บและตายเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด จากสภาพที่เห็นทำให้ผมยิ่งเป็นห่วงคนตัวเล็กมากยิ่งขึ้น เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง เธอจะเป็นอะไรไหม เธอจะเจ็บตัวหรือเปล่า แต่ที่ไวกว่าความคิดผมก็คงเป็นขาของผมนี่แหละมันวิ่งเข้าไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเพื่อน ๆ เลยด้วยซ้ำอ๊ากกกกกกกกกกกกกกแต่แล้วก็ต้องสะดุดลงเพราะได้ยินเสียงร้องโหยหวน ด้วยความกลัวจะเป็นยัยตัวเล็กอยู่ในอันตรายผมก็วิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ภาพที่ผมเห็นคือนายโทมัสนอนดิ้นอย่างทุรนทุราย สภาพร่างกายนี่ดูไม่ได้เลย รอ
“หึหึ ทำไมโกรธเหรอนังลิน แกมันนังงูพิษ ฉันน่าจะฆ่าแกตั้งนานแล้ว แต่ก็เอาเถอะยังไงวันนี้ฉันก็ต้องฆ่าแกให้ได้ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะแกทำธุรกิจของฉันต้องพังไง” มันพูดและมองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น“งั้นเหรอ งั้นก็เข้ามาสิ”อ๊ากกกกกกกฟิ้ว นายโทมัสพุ่งเข้ามาใส่ฉันแต่ฉันหลบได้ ฉันยังไม่ทันจะตั้งตัวนายโทมัสก็ซัดหน้าท้องของฉันเต็มแรงอุกจุกชะมัด ฉันมองมันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป มันตกใจนิด ๆ ก่อนจะยิ้มออกมา“หึ เป็นไงฉันบอกแกแล้วว่าวันนี้ฉันจะฆ่าแก ตายซะเถอะ” พูดจบมันก็หยิบมีดมาเพื่อที่จะแทงฉันที่ยังไม่ทันได้ทรงตัวดีนัก ฉันพลิกตัวหลบมีดของมันได้ทันก่อนที่จะปังไอ้บ้านี่มันรอบกัดมันหยิบปืนยิงมาที่ฉันแต่ฉันม้วนตัวหลบได้ซะก่อน หึ ลอบกัดแบบนี้จะมาโทษฉันไม่ได้แล้วนะ ฉันหยิบมีดบิ่นที่ให้ยัยมะนาวทำเป็นพิเศษออกมา“ได้เวลาลองของเล่นใหม่แล้วลลิน” ฉันมองมีดบิ่นด้วยดวงตาเป็นประกายพร้อมด้วยรอยยิ้มความชั่วร้ายปัง ปัง ปัง เสียงปืนของนายโทมัสยิงใส่ฉันไม่หยุดปัง ปังฟิ้ว ปัก ฉึกเสียงปืนกับมีดบิ่นของฉันสองเล่มดังขึ้นพร้อมกันแต่มันพลาดกระสุนปืนของมันไม่โดนฉันสักนิดเดียว แต่มีดของฉันปักลงบนมือที่จับปืนและต้นขาขวา