ฉินซูหันกลับไปมองอย่างไม่พอใจ หลินเมิ่งฟานนี่ ทำไมถึงได้หน้าด้านหน้าทนขนาดนี้นะ? ฉู่หลินเฉินพูดดำน้ำเสียงที่เข้มงวด "ขึ้นรถ!" เธอจำต้องยอมขึ้นไปนั่งบนรถหลังจากนั้น ฉู่หลินเฉินก็เหลือบมองหลินเมิ่งฟานอีกครั้ง แค่มองครั้งเดียว ก็ทำให้อีกฝ่ายหยุดฝีเท้าและถอยกลับอย่างเกรงใจ ไม่กล้าบุ่มบ่ามอีกดวงตาของฉู่หลินเฉินแสดงออกถึงความเหยียมหยาม เขาออกคำสั่ง "ออกรถ!"เมื่อรถแล่นออกไปไกล ฉู่หยุนซีและหวังอี้หลินที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ในมุมมืดด้วยความตื่นเต้น จึงเดินออกมา"มีละครสนุก ๆ ดู ฉันต้องไปดูสักหน่อยแล้ว พี่ชายฉันจะจัดการกับยายของปลอมนั่นยังไงนะ!"ฉู่หยุนซีพูดอย่างมีความสุข"หยุนซี ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ต้องไปแล้วไหม พี่ชายของเธอเคยบอกว่า ช่วงนี้อย่าเพิ่งออกมาเจอหน้าเขา"หวังอี้หลินพูดขึ้น สายตามองไปยังหลินเมิ่งฟานที่ยังไม่ได้ออกจากภัตตาคาร"ถ้าอย่างนั้นฉันไปก่อนนะ เธอรอที่นี่ไปก่อน ฉันจะให้ผู้ช่วยมารับเธอ"ฉู่หยุนซีไม่รอให้เธอตอบ เธอรีบขับรถตามออกไป เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ หวังอี้หลินยกยิ้มที่มุมปากของเธอเบา ๆ เธอเดินตรงไปยังหลินเมิ่งฟานเธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "นี่คงไม่ใช่คุ
แล้วอีกอย่าง ที่อยู่ของภัตตาคารนี้คุณก็เป็นคนให้ฉันมา ถ้าฉันอยากจะนัดเจอใครจริง ๆ ฉันจะทำให้ตระกูลฉู่เสียหน้าทำไม และก็คงจะไม่เลือกช่วงเวลานี้ ในสถาที่นี่หรอกนะ?"ฉู่หลินเฉินยังคงนิ่งเฉย เขาเพียงแค่หัวเราะเย้ย "นั่นมันคือเรื่องที่เธอฉลาดและกล้าทำไม่ใช่หรือไง?"ฉินซูเงียบ ใบหน้าหม่นลง "มันคืออคติที่คุณมีต่อฉัน"เขาไม่ฟังคำพูดนั้น เหลือบมองไปที่เธอ "เรื่องคืนเงิน ก็เป็นเรื่องที่เธอเพิ่งแต่งขึ้นมาสินะ""ไม่ใช่! หลินเมิ่งฟานเอาเงินคืนฉันแล้ว เงินก้อนนี้ฉันตั้งใจเอามาคืนคุณ""ไหนเงินล่ะ""เขาเอาใส่ไว้ในบัตรธนาคารและได้ให้บัตรฉันมาแล้ว"พูดเสร็จ ฉินซูก็เอามือจับที่กระเป๋า"บัตรล่ะ?"สีหน้าของฉินซูเปลี่ยนไปทันที นัยตาเย็นชาของฉู่หลินเฉินหรี่ลงเล็กน้อย ราวกับเขาเดาอะไรบางอย่างได้จากการกระทำของเธอเขาตะโกนเสียงเย็น "หยุดรถ!"คนขับรถเหยียบเบรกกระทันหันร่างของฉินซูกระแทกเข้ากับเบาะที่นั่ง เธอพยายามจับเอาไว้ ได้ยินเขาพูดขึ้นอย่างเดือดดาล "ไสหัวไป!"เธอถูกไล่ลงจากรถอย่างไร้ความปราณี เธอมองดูความไร้น้ำใจพลางเดินไปที่หลังรถ ฉินซูแสยะยิ้มอย่างอดไม่ได้ผู้ชายคนนั้นอารมณ์แบบไหนกัน
เมื่อเห็นเหล่าชายฉกรรจ์ที่หน้าตาดูไม่ใช่คนดีแล้ว ฉินซูก็ใจเสียขึ้นมานี่เธอกำลัง....กับพวกอันธพาลงั้นเหรอ?ยังมีอะไรที่ซวยกว่านี้อีกไหม!เธอก้าวถอยหลังเบา ๆ จ้องมองไปที่คนสองสามคนอย่างป้องกันตัว "พวกนายคิดจะทำอะไร?""ลูกพี่ของเราเบื่อมาก กำลังอยากได้สาวสวยไปดื่มเหล้าเป็นเพื่อน"ชายผมเกรียนที่เป็นหัวโจกหัวเราะพลางเดินเข้าใกล้ฉินซูมากขึ้น "ไปกันเถอะ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเองนะ""ขอโทษด้วยค่ะ พอดีฉันมีเรื่องต้องทำ" ฉินซูกล่าวด้วยใบหน้าเย็นชา อยากจะหนีไปจากพวกเขา"เหรอ? ถ้าวันนี้ไม่ไปดื่มกับพวกเรา ก็ไม่ต้องไปไหนแล้ว" ชายหัวโจกผมเกรียนพูดขึ้นด้วยเสียงหนักแน่น พร้อมถือวิสาสะคว้าข้อมือของฉินซูเธอขมวดคิ้ว "ทำตัวเป็นอันธพาลเหรอ? ถ้าไม่ปล่อยมือ ฉันจะเรียกตำรวจ!"พูดจบเธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาให้เห็น ชายหัวเกรียนปล่อยเธอ แต่ก็ไม่ยอมให้เธอเดินไปไหน แถมยังพูดอย่างกวน ๆ ว่า "ตำรวจเหรอ? เธอแจ้งเลย"ฉินซูกัดฟัน ทำท่าทางเหมือนกำลังจะกดโทรออก"ลูกพี่ครับ ผู้หญิงคนนี้กำลังหลอกพวกเรา โทรศัพท์ของเธอมันปิดเครื่องอยู่!"ฉินซู :“......”อีกด้านหนึ่งหลังจากที่ไล่ฉินซูลงจากรถแล้ว ฉู่หลินเฉินก็ยังไ
เมื่อสักครู่ที่มีการต่อสู้กัน น่าจะไปกระทบเข้าที่กล้ามเนื้อ ทำให้ปากแผลเปิดออกมาเมื่อคิดถึงจุดนี้ เขามองไปที่ฉินซูด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย "เธอไม่ใช่พวกที่ขัดขืนเก่งหรือยังไง? เมื่อกี้ทำไมยืนแข็งทื่อเป็นไม้แบบนั้น?""ตอนแรกฉันจะแจ้งตำรวจ แต่โทรศัพท์แบตหมด เครื่องดับไปเสียก่อน"ฉินซูยื่นมือออกไป เธอพูดขึ้นอีกว่า "ฉันไม่มีแรงจะสู้ ถ้าเกิดขัดขืนขึ้นมา คนที่จะถูกทำร้ายก็คือฉัน สู้ทำเป็นอ่อนแอแล้วหาโอกาสหนีมาดีกว่า"ขณะที่พูด น้ำเสียงเธอเปลี่ยน แสดงความจริงใจ "เมื่อกี้นี้ขอบคุณนายมากจริง ๆ ถ้านายมาไม่ทันเวลา ฉันก็ไม่รู้จะหนีออกมาได้ยังไง"ฉู่หลินเฉินพ่นลมหายใจเบา ๆ"ทำไมนายถึงกลับมาล่ะ?" เธอถามเมื่อนึกถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของเขา เธอก็เดาขึ้นว่า "นายเห็นข้อความที่ฉันส่งไปแล้ว?"สีหน้าของฉู่หลินเฉินดูไม่เป็นธรรมชาติเล็กน้อย เขายื่นบัตรธนาคารให้ตรงหน้าเธอ "ฉันหยิบขึ้นมาจากใต้เบาะ"เมื่อเห็นบัตรแล้ว ฉินซูพูดกึ่งกระซิบ "ที่แท้ก็หล่นอยู่ที่ใต้เบาะนี่เอง!"น่าจะเป็นเพราะไม่ได้ระวังตอนขึ้นรถ บัตรเลยหล่นลงไปยังดีที่บัตรใบนี้ไม่ได้หายไป!เธอไม่ได้รับมันกลับมา พร้อมกับพูดขึ้นว่า "ในนี้
กลางคืนใกล้เข้ามา แสงจันทร์ส่องสกาวอยู่นอกหน้าต่างทันทีที่ฉินซูนึกถึงเรื่องที่ถูกฉู่หลินเฉินไล่ลงจากรถเมื่อตอนเย็น แถมยังโชคไม่ดีพบเจอเรื่องราวเหล่านั้น ภายในใจก็รู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมาฉู่หลินเฉินเป็นคนที่คาดเดาไม่ได้ แค่เพียงหนึ่งประโยคของเขา ก็สามารถส่งเธอเข้าคุกได้ตลอดเวลา ตัวของเขาอยู่ที่นั่น ตนเองก็ไม่มีหนทางต่อต้าน อีกทั้งตอนนี้คุณย่ายังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลของฉู่ซื่อ ถึงเธอจะมีหนทางก็ต้องรอให้คุณย่าหายป่วยก่อนแต่ฉินซูไม่ใช่คนที่นั่งรอความตายเธอหยิบโทรศัพท์มือถือที่เพิ่งจะชาร์จแบตเต็มแล้วขึ้นมาโทรออก“อาจารย์สวี่ โครงการวิจัยนั้นที่อาจารย์บอกเมื่อคราวก่อน ตอนนี้ยังต้องการคนอยู่ไหม? ฉันอยากลองดู”…เรื่องที่ฉินซูพบปะส่วนตัวกับหลินเมิ่งฟาน ถูกฉู่หยุนซีนำไปฟ้องผู้ใหญ่ของตระกูลฉู่โดยเธอที่พูดบิดเบือนเกินความจริง“ยังดีที่หนูไปเห็นก่อน ถ้าคนอื่นเห็น ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลเราคงโดนเธอทำลายจนหมดสิ้น!”ฉู่หยุนซีเห็นคุณท่านตระกูลฉู่ขมวดคิ้ว ท่าทางเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง จึงเบะปากพูด “คุณย่า อย่าหลงกลเพราะเรื่องที่ฉินซูช่วยคุณย่าหรือรูปลักษณ์ท่าทางของเธอ เธอคือผู้หญิงเจ้าแผ
หากเปรียบเทียบกัน การอยู่ที่บ้านพักตากอากาศทำให้รู้สึกอิสระมากกว่าฉินซูพูดออกมาช้า ๆ “คุณหญิงฉู่ คุณอยากให้ฉันอยู่ที่นี่ แต่คุณชายฉู่อยากให้ฉันอยู่กับเขาที่นั่น”หลังจากนิ่งไปชั่วครู่ ปรากฏท่าทางที่ลำบากใจ “ฉันควรฟังใครดี?”หลิ่วเหวยลู่ขมวดคิ้วโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอมองสายตาของฉินซูให้ลึกมากยิ่งขึ้นฉู่หยุนซีเห็นเช่นนัั้น รีบแย่งพูด “แน่นอนว่าต้อง...”“ฟังฉัน!”เสียงต่ำดังขึ้นขัดจังหวะเธอ ทันทีที่ฉู่หลินเฉินมาถึง เขาก็มองไปที่ฉู่หยุนซีอย่างเย็นชา“พี่?!” ฉู่หยุนซีประหลาดใจ พูดอธิบาย “คุณแม่ทำแบบนี้ก็เพื่อช่วยพี่จับตามองผู้หญิงคนนี้ไม่ให้เธอสร้างเรื่องวุ่นวายขึ้นมาอีก”แม้ว่าเธอจะพูดแบบนั้น แต่ภายในใจกลับคิดอีกอย่าง เพียงแค่ให้ฉินซูอยู่ที่บ้านตระกูลฉู่ เธอจะมอบ “ภาพลักษณ์ที่ดี” ให้ฉินซูทุกวันอย่างแน่นอน“ใช่เหรอ?” ฉู่หลินเฉินถอนหายใจเบา ๆ ถามกลับ “คนที่สร้างเรื่องวุ่นวายคือเธอไม่ใช่เหรอ?”ฉู่หยุนซีชะงัก “พี่ พี่หมายความว่าไง?”“การแสดงดี ๆ เมื่อคืนดูพอหรือยัง?”สีหน้าของฉู่หยุนซีค่อย ๆ เปลี่ยนไป หลังถูกเขาเปิดโปงเรื่องราวที่แทงใจดำ “เมื่อคืนฉัน...”ภายใต้สายตาที่เฉียบคมของฉู
รักแรกของฉู่หลินเฉิน!ฉินซูตกใจเธอเพิ่งจะทำผิดพลาดจากการไปเจอแฟนเก่าของเธอก่อนหน้านี้ แต่นี่ฉู่หลินเฉินกลับกำลังจะพาเธอไปเจอแฟนเก่าของเขาอีก…เธอพยายามควบคุมให้ตัวเองใจเย็นลง แล้วถาม “แล้วฉันควรทำตัวยังไง?”ฉู่หลินเฉินเหลือบมองเธอ “คิดถึงฐานะของเธอ”ฉินซูเข้าใจคือการให้เธอกับเขาแสดงเป็นสองสามีภรรยาที่รักกันมากแต่เธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ชายหนุ่มที่มีลักษณะหน้าตาและฐานะแบบฉู่หลินเฉิน น่าจะเป็นเป้าหมายที่หญิงสาวต่างพากันแย่งชิง แล้วทำไมเธอถึงเลิกกับเขา?เมื่อถึงร้านกาแฟ ฉู่หลินเฉินกำชับเธอหนึ่งประโยค “ทำตามที่เห็นสมควร” จากนั้นนำลงจากรถไปก่อน และเดินเข้าร้านไปฉินซูใช้โอกาสนี้สืบถามเว่ยเหอเกี่ยวกับเรื่องราวแฟนเก่าของฉู่หลินเฉิน เพราะเขาคงรู้ตื้นลึกหนาบางดี“แฟนเก่าคนนั้นของคุณชายฉู่ชื่อว่าหูซินเยว่”เมื่อเว่ยเหอพูดถึงเรื่องนี้ ก็ปรากฏสีหน้าที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก“ในสมัยที่คุณชายอยู่ต่างประเทศ เพื่อไม่ให้เป็นการเปิดเผยต่อสาธารณะ เขาจึงจงใจปิดปังตัวตนจริง ๆ แล้วแกล้งเป็นคนธรรมดา แรกเริ่มเดิมทีหูซินเยว่กับคุณชายฉู่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ดังนั้นคุณชายฉู่จึงวางแผนว่าหลังจ
รูม่านตาของหูซินเยว่หดตัว หันไปขอความช่วยเหลือจากฉู่หลินเฉิน “หลินเฉิน นายต้องเชื่อฉันนะ”ฉู่หลินเฉินเหลือมองเธออย่างไม่แยแส “ขอโทษด้วย ฉันเต็มใจที่จะเชื่อคำพูดของภรรยาฉัน”เขาพูดพร้อมกับดึงฉินซูให้นั่งลงข้าง ๆการสัมผัสอย่างใกล้ชิดกะทันหัน ทำให้สีหน้าของฉินซูเปลี่ยนไปแวบหนึ่ง โชคดีที่เธอกลับมาทำตัวเป็นปกติได้เร็ว จึงฉวยโอกาสพิงไปที่ไหล่ของฉู่หลินเฉินแล้วพูดอย่างออดอ้อน “หลังจากนี้อย่าไปเจอกับคนที่ไม่ได้เรื่องแบบนี้อีก”“ตกลง” ฉู่หลินเฉินมองเธออย่างรักใคร่และเอ็นดู เหลือบตาขึ้นแล้วพูดอย่างเยือกเย็น “ได้ยินหรือยัง? ทำไมเธอยังไม่หายไปอีก?”หูซินเยว่ทั้งโกรธทั้งตกใจ แต่ไม่กล้าที่จะระเบิดมันออกมาเธอกัดริมฝีปาก และพูดด้วยความเจ็บปวด “หลินเฉิน นายทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง!”ฉู่หลินเฉินไม่แม้แต่จะหันมองเธอทันทีที่หูซินเยว่ออกไป ฉินซูออกมาจากอ้อมกอดของฉู่หลินเฉินอย่างรู้ตัว พูดกระซิบว่า “ทำแบบนี้ต่อผู้หญิงที่เคยรัก คุณชายฉู่ไม่เสียดายเหรอ?”“เธอไม่คู่ควร” ฉู่หลินเฉินพูดอย่างเฉยเมยเธอพูดว่าเก็บรักษาความบริสุทธิ์เพื่อเขามาตลอดสองปี แต่ในความจริงกลับไม่ใช่อย่างนั้น ไปคลับบาร์ในทุก ๆ วัน