“ถ้าหากเขากล้าไม่เคารพคุณอีก ผมจะหักขาของเขาด้วยตัวเอง”ทั้งสองคนพูดเกลี้ยกล่อมหลินเฟิงคนละประโยคเขาก็รู้ดีเป็นอย่างมาก วันนี้ทั้งสองคนนี้มาเพื่อขอความเมตตาแทนซ่งเฉียนเฉิงพิจารณาถึงเส้นสายของจางเต๋อหลินกับซ่งเฉียนคุนที่เมืองเจียงโจวหลินเฟิงจึงเลือกที่จะไว้หน้าพวกเขา“ในเมื่อคุณกับหมอเทวดาจางมาด้วยตัวเอง ผมจะไม่ให้เกียรติได้อย่างไรล่ะ?”ได้ยินคำพูดนี้ของหลินเฟิงทั้งสองคนก็ถอนหายใจยาว ๆดูท่าหลินเฟิงคิดให้อภัยซ่งเฉียนเฉิงแล้วจากนั้นเห็นหลินเฟิงล้วงเอายาเม็ดหนึ่งออกมาให้ซ่งเฉียนคุน“นี่คือยาอมตะเลือกราชันย์ พอกเอาไว้บนบาดแผลของน้องชายคุณ ไม่เกินครึ่งเดือนก็จะหายดี”“ซี้ด…”ซ่งเฉียนคุนสูดหายใจเข้าอย่างแรง คิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงจะนำยาอมตะเลือดราชันย์ออกมาคราวนี้ได้ผลประโยชน์มากจริง ๆ“ขอบคุณคุณหลินมาก ๆ ขอบคุณนะครับ”หมอเทวดาจางลูบเคราเบา ๆ จากนั้นพยักหน้าด้วยความพึงพอใจไม่เสียแรงที่เป็นวัยรุ่นที่ตัวเองชื่นชมในตอนที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันจู่ ๆ หลินเฟิงก็ได้รับสายจากเบอร์ที่ไม่รู้จักเขากดปุ่มรับสายทันทีอีกฝ่ายของโทรศัพท์ มีเสียงหัวเราะอิ่มอกอิ่มใจของเว่ยป้าวดังขึ้น: “
หลินเฟิงเดินลงมาจากรถ และมองดูกลุ่มลูกสมุนที่อยู่โดยรอบคนกลุ่มนี้ล้อมรอบหลินเฟิงเอาไว้แต่กลับไม่มีใครกล้าเข้าไปเลยในเมื่อฉากที่หลินเฟิงแสดงความเก่งกาจในครั้งที่แล้วพวกเขาได้เห็นอย่างชัดเจนแล้วเว่ยป้าวมองดูสายตาดุเดือดของหลินเฟิง ก็รู้สึกว่าแผ่นหลังมีความเย็นเยือกแพร่กระจายออกมา“หลี่ฮุ่ยหรานอยู่ที่ไหน?” หลินเฟิงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงโมโห“หลี่ฮุ่ยหรานอยู่ตรงนี้” ซ่งเฉียนเฉิงที่อยู่ชั้นสองใช้มือเพียงข้างเดียวที่มีอยู่จับคอของหลี่ฮุ่ยหรานแล้วเดินออกมาหลินเฟิงเงยหน้ามองไป คิดไม่ถึงว่าจะเห็นซ่งเฉียนเฉิงอีกแล้วหลี่ฮุ่ยหรานตะโกนอย่างสุดกำลัง: “หลินเฟิง คุณรีบไป พวกเขาตั้งใจหลอกคุณมา”เธอรู้ว่าหลินเฟิงสมรรถภาพทางร่างกายไม่เลว จัดการอันธพาลไม่กี่คนง่ายดายเป็นอย่างมากแต่ที่นี่คนเยอะแยะขนาดนี้ และในมือของพวกเขาก็ยังถือดาบเอาไว้อยู่ หลินเฟิงตัวคนเดียวจะแตกต่างอะไรกับการส่งมอบชีวิต?ในสายตาของหลินเฟิง คนกลุ่มนี้ก็แค่พวกไร้ประโยชน์ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ซ่งเฉียนเฉิงแล้วพูดขึ้น: “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ ปล่อยเธอไปซะ แล้วพวกเราค่อย ๆ คุยกัน”“ฮ่าฮ่าฮ่า...”ซ่งเฉียนเฉิงหัวเราะออก
หลินเฟิงหรี่ตาลงแล้วถีบไปที่ตัวของเว่ยป้าวเสียงดัง “ตู้ม” เว่ยป้าวกระเด็นออกไปโดยตรงครึ่งหนึ่งของร่างกายก็ฝังลงไปบนผนังคนทั้งคนกระอักเลือดออกมา เป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่สามารถรู้ได้พวกลูกน้องก็ตกตะลึงจนหน้าถอดสี อยากจะเข้าไปแต่ก็ไม่กล้าซ่งเฉียนเฉิงเห็นแบบนี้ ก็รีบชักมีดกริชออกมาและจ่อไปที่คอของหลี่ฮุ่ยหราน: “แกแม่งยังกล้าลงมือทำร้ายคนอีก?”“รีบเอาสารจำเป็นกับเลือดมาให้ฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าเธอเดี๋ยวนี้”หลินเฟิงเคยได้รับความเหยียดหยามแบบนี้ที่ไหนกัน แต่เพื่อช่วยหลี่ฮุ่ยหรานเขาก็เลือกที่จะประนีประนอมจากนั้นก็หยิบมีดกริชที่อยู่บนพื้นขึ้นมาหลี่ฮุ่ยหรานร้องไห้แล้วตะโกนขึ้น: “หลินเฟิง ฉันขอร้องคุณล่ะ อย่าทำแบบนี้ ไม่เอาแบบนี้”“ต่อให้คุณทำตามที่พวกเขาบอก พวกเขาก็ไม่มีทางปล่อยพวกเราไป…”หลินเฟิงถลึงตาใส่เธอแล้วพูดขึ้น: “ใครใช้ให้คุณโง่ขนาดนี้ แถมยังถูกหลอกอีก”“ขอโทษ ขอโทษ ฉันทำผิดต่อคุณ…”หลี่ฮุ่ยหรานถูกคำพูดทิ่มแทงจนเจ็บปวด จากนั้นก็พูดขอโทษหลินเฟิงติดต่อกันหลายครั้งถ้าหากตัวเองไม่ถูกจับ หลินเฟิงก็คงไม่ถูกบีบบังคับจนเป็นแบบนี้“ตอนนี้พูดขอโทษมีประโยชน์ไหม? ครั้งห
หลี่ฮุ่ยหรานหลบอยู่ที่ด้านหลังของหลินเฟิง ในตอนนี้เธอรู้สึกถึงความปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนนั่นเป็นสิ่งที่แม่ของตัวเอง และหวางเส้าหลงก็ไม่สามารถให้ได้ในตอนนี้ซ่งเฉียนเฉิงกระวนกระวายและชี้หน้าหลินเฟิง: “ตอนนี้เขามีแค่แขนข้างเดียว ทุกคนลุยเข้าไปพร้อมกัน จัดการมันให้ฉันซะ”“ใครฆ่ามัน ฉันจะให้ยี่สิบห้าล้านบาท”หลินเฟิงยิ้มเยาะ: “ฉันอยู่ในสายของนาย มีค่าแค่นี้เองเหรอ?”ความเป็นจริงค่าหัวของหลินเฟิงที่ต่างประเทศ มูลค่าเจ็ดหมื่นล้านบาทเต็ม ๆตามคำที่ว่าเงินรางวัลเยอะก็จะต้องมีผู้กล้า หลินเฟิงที่มือเปล่าพวกเขาก็ไม่สามารถเอาชนะได้ตอนนี้เหลือแค่มือข้างเดียวยังจะสู้ไม่ได้อีกเหรอ“ฆ่า…”ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมาเสียงดังหลังจากเสียงคำรามดังขึ้น คนเหล่านั้นก็พุ่งเข้าไปเหมือนกับคลุ้มคลั่งหลินเฟิงขยับหัวไหล่ ก็เห็นแขนข้างที่หักของเขาต่อกลับเข้าไปหลินเฟิงที่ฟื้นฟูกำลังในการสู้รบก็เหมือนกับเสือดุที่ลงมาจากภูเขา บุกมาอย่างแรงไม่อาจต้านทานไว้ได้การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วมาก คนธรรมดาพวกนี้มองดูยังยากที่จะจับโฟกัสได้หลินเฟิงพุ่งไปทางซ่งเฉียนเฉิงคนที่ขวางอยู่ข้างหน้าเขาทั้งหมด ถูกต่
ได้ยินคำพูดนี้ของหลินเฟิง วันนี้น้องชายของเขาจะต้องตายอย่างแน่นอนเขามองดูน้องชายของตัวเองแล้วพูดขึ้น: “นายลงมือเองเถอะ อย่าบีบบังคับให้ฉันต้องลงมือ”ซ่งเฉียนเฉิงตกตะลึงตาค้าง หัวใจของเขาก็จมไปสู่ก้นบึ้งเขารู้ว่าพี่ใหญ่ของตัวเองทอดทิ้งเขาไปแล้ว“ผม…”ซ่งเฉียนเฉิงร้องไห้อย่างไร้เสียง คิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะตกมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ในที่สุดตอนนี้เขาก็รู้แล้ว ไม่ว่าที่พึ่งพาของตัวเองยิ่งใหญ่แค่ไหน หากหาเรื่องคนที่ไม่ควรหาเรื่อง จุดจบก็มีแต่จะตายวันนี้ตัวเองไม่ตาย ทั้งสำนักเทียนเตาก็จะได้รับความเดือดร้อนไปด้วย“พี่ใหญ่ ขอโทษครับ”ซ่งเฉียนเฉิงใช้แขนที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียว ตบลงไปที่หน้าอกของตัวเองหัวใจแตกสลายในทันที และปากก็กระอักเลือดจนตายไปมองดูซ่งเฉียนเฉิงตายไปแล้ว หลินเฟิงเดินออกไปจากตรอกเงียบ ๆซ่งเฉียนคุนทอดถอนใจ จากนั้นก็เรียกคนมาเก็บศพให้น้องชายของตัวเองถึงแม้ทั้งสองคนไม่ใช่พี่น้องแท้ ๆ แต่ต่างก็เป็นคนตระกูลซ่ง หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดความเศร้าโศกเสียใจเมื่อเดินออกมาจากตรอก ซ่งเฉียนคุนอารมณ์หดหู่เล็กน้อย: “คุณหลิน เรื่องในวันนี้ต้องขอโทษจริง ๆ นะครับ”“ผมก็
หลี่ฮุ่ยหรานถามขึ้นด้วยความสงสัย: “หมอเทวดาจาง คุณกับหลินเฟิงรู้จักกันตั้งนานแล้วเหรอคะ?”“แน่นอนครับ วิชาแพทย์ของสหายน้อยหลินฝีมือเลิศล้ำที่สุด ผมก็เลื่อมใสเป็นอย่างมาก” จางเต๋อหลินพูดด้วยรอยยิ้มหลี่ฮุ่ยหรานได้ยินคำพูดนี้กลับมีสีหน้างุนงงดวงตาคู่หนึ่งมองไปทางหลินเฟิงด้วยความสงสัย…วิชาแพทย์ของเขาฝีมือเลิศล้ำที่สุด? ถึงกับทำให้จางเต๋หลินรู้สึกเลื่อมใส?เธออยู่ด้วยกันกับเขาสามปีทำไมถึงไม่รู้เรื่องนี้?“หมอเทวดาจางไม่ได้กำลังล้อเล่นใช่ไหมคะ?”จางเต๋อหลินลูบเคราเบา ๆ แล้วยิ้มพูด: “หึหึ ผมไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องนี้มาล้อเล่นหรอกครับ”“ครั้งที่แล้วคุณปู่ตระกูลหม่าป่วยหนัก ก็เป็นสหายน้อยหลินที่ช่วยออกหน้ารักษา”“อะไรนะคะ?” หลี่ฮุ่ยหรานตกตะลึงอย่างมากในหัวสมองนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทันทีตัวเองไปส่งยาให้คุณปู่ตระกูลหม่า เกือบจะทำให้เขาเสียชีวิต หม่าเยี่ยนยังจับเธอเอาไว้ด้วยแต่ไม่นานนักก็ปล่อยเธอกลับไปหรือว่าในนี้คนที่ช่วยเธอไว้ก็คือหลินเฟิงเหรอ?เห็นท่าทางจริงจังของจางเต๋อหลิน เหมือนกับว่าไม่ได้พูดล้อเล่นกับเธอมิน่าล่ะตอนนั้นจางเต๋อหลินถามเธอว่าทำไมถึงหย่
หลินเฟิงพูดด้วยความประหลาดใจ: “คุณไม่พักอีกสักหน่อยเหรอ?”“ไม่จำเป็นแล้ว ฉันไม่ได้บาดเจ็บอะไร” หลี่ฮุ่ยหรานส่ายหน้า และเดินออกไปจากห้องผู้ป่วยถังหว่านเหลือบตามองเธอแล้วพูดขึ้น: “ฉันไปส่งคุณหลี่หน่อย”หลินเฟิงได้ยิน ก็รีบจับข้อมือของถังหว่านเอาไว้ให้พวกเธอสองคนอยู่ด้วยกันตามลำพัง อาจจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ได้ถังหว่านยิ้มอย่างอ่อนโยนให้หลินเฟิงและพูดขึ้น: “วางใจเถอะ ฉันแค่ไปส่งคุณหลี่จริง ๆ”หลี่ฮุ่ยหรานกับถังหว่านเดินขนาบกันอยู่ตรงทางเดินของสำนักไป๋เกาถังหว่านเอ่ยปากพูดขึ้นก่อน: “คุณหลี่ฉันได้ยินว่าวันนี้หลินเฟิงเป็นเพราะช่วยเหลือคุณ ถึงได้ทำให้เกิดเรื่องราววุ่นวายใหญ่โตแบบนี้”หลี่ฮุ่ยหรานก็พยักหน้าอย่างไม่หลีกเลี่ยง: “ใช่ค่ะ เป็นแบบนั้นนั่นแหละค่ะ“ถังหว่านพูดต่อ: “คุณหลี่ ทุกคนต่างเป็นผู้ใหญ่แล้ว ฉันหวังว่าคุณจะสามารถเข้าใจได้ว่า เรื่องบางเรื่องควรจะรับผิดชอบเอง ไม่ใช่มัวแต่ให้คนอื่นตามเก็บกวาดให้ตลอดไป”หลี่ฮุ่ยหรานได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าก็ไม่พอใจเล็กน้อยในเมื่อเรื่องในวันนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเธอจริง ๆ คนที่ซ่งเฉียนเฉิงต้องการจัดการก็คือหลินเฟิงหลี่ฮุ่ยหรานถือว่าเป็นผู้
ถังหว่านครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น: “รอไปก่อน แน่นอนว่าต้องวางตลาดพร้อมกับตระกูลเซี่ยง”“พร้อมกันกับตระกูลเซี่ยง?”หลินเฟิงแปลกใจเล็กน้อย“ถูกต้อง ฉันอยากจะให้ตระกูลเซี่ยงเสียหน้า เหยียบย่ำพวกเขาลงกับพื้น” ถังหว่านมีความมั่นใจอย่างมากพูดให้ถูกต้องยิ่งกว่าก็คือเธอมีความมั่นใจต่อยาประสานพลังอย่างเต็มที่ถังหว่านครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น: “แต่มีอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องเตรียมตัวอย่างดี”“เรื่องอะไร?” หลินเฟิงถามขึ้นด้วยความสนใจ“เรื่องพรีเซ็นเตอร์”“คุณวางแผนจะเลือกใคร?”ในตอนนี้ถังหว่านนั่งลงข้างกายหลินเฟิงแล้วหัวเราะคิกคักขึ้นมา: “ครั้งที่แล้วคุณช่วยดาราที่ชื่ออิ่นนั่วเจียไว้ไม่ใช่เหรอ?”“ฉันวางแผนอยากจะเชิญเธอออกหน้า ในเมื่ออิ่นนั่วเจียก็ถือว่าเป็นดาราที่โด่งดังมาก”หลินเฟิงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย มีกระแสการโฆษณาของดาราพรีเซ็นเตอร์ ก็จะดีมากขึ้นจริง ๆ“งั้นทำไมคุณไม่ไปติดต่อเธอ?”ถังหว่านพูดขึ้น: “ฉันคิดจะให้คุณออกหน้า อย่างไรคุณก็ถือว่าเป็นผู้มีพระคุณต่อเธอไม่ใช่เหรอ? เรื่องเล็กแค่นี้เธอต้องช่วยเหลือแน่นอน”“อีกอย่างฉันยุ่งมาก เรื่องเล็กแค่นี้จะให้ฉันออกหน้าเองเหรอ
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ