“งั้นก็ได้”เหมียวชางพูดด้วยความเสียดายเล็กน้อย: “เมื่อไหร่ที่คนยืนหยัดต่อไปไม่ไหว ก็บอกกับผม ยังไงผมก็สามารถช่วยคุณหางานได้” “ไซต์งานก่อสร้างของผมไม่รังเกียจที่มีคนเยอะ”“ไม่จำเป็นครับ”น้ำเสียงของหลินเฟิงแฝงไปด้วยความเย็นชาอย่างเห็นได้ชัดดูท่าเหมียวชางคนนี้ไม่ได้เห็นเขาเป็นคนด้วยซ้ำสินะ! บอกว่าทำเพื่อหางานให้เขา แต่แท้จริงก็เพื่อหัวเราะเยาะเขาหลินเฟิงจึงไม่ได้ติดกับเขาอยู่แล้ว และก็ไม่มีทางติดกับคนประเภทนี้“เอาล่ะเอาล่ะ”เห็นหลินเฟิงนั่งลง หลี่ฮุ่ยหรานหยิบสัญญาชุดหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเอกสารที่อยู่ข้างๆ และดันไปให้หลินเฟิงที่บนโต๊ะจากนั้นพูดว่า:“หลินเฟิง ทางด้านตระกูลหลี่เมืองเจียงหนานจะสร้างวิลล่าหลังหนึ่งขึ้นมาใหม่ เพื่อให้คุณปู่หลี่ไห่หงได้ใช้ชีวิตในวัยเกษียณ นี่คือกองทุนโครงการที่ได้รับอนุมัติในครั้งนี้ และยังมีความต้องการประเภทต่างๆ”“คุณดูสักหน่อย มีสิ่งของอะไรขาดแคลนหรือเปล่า”หลินเฟิงหยิบสัญญามา ขณะที่ตรวจดูอย่างละเอียด หลี่เยว่หรูที่อยู่ข้างๆ ก็อดกลั้นความอดทนไม่ไหแล้ว:“หลี่ฮุ่ยหรานฉันถามหน่อย เธอจะเซ็นหรือไม่เซ็น?”“ทางเหมียงชางเป็นตัวช่วยที่ฉันพยายามอย่างม
หลี่เยว่หรูสีหน้าไม่พอใจ เห็นได้ชัดว่าตั้งแต่ที่หลินเฟิงมาถึง เรื่องราวก็เปลี่ยนไปซับซ้อนขึ้น ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องแค่การปั๊มตรา และเซ็นชื่อ“ฮุ่ยหราน งั้นพวกเธอก็ไปกันก่อนเถอะ ฉันไม่เคยมาเมืองจิง อยากจะเดินเที่ยวเล่นให้เต็มที่”จางกุ้ยหลานฝืนยิ้มออกมา“หือ?”หลินเฟิงมองอะไรบางอย่างออกมาจากสีหน้าของจางกุ้ยหลาน เธอเหมือนพยายามปิดบังอะไรไว้อยู่ดูท่าเธอมาเมืองจิงกับหลี่ฮุ่ยหรานเพราะมีเป้าหมายของตัวเองไม่น่าแปลกใจที่เมื่อครู่ตั้งแต่เริ่มต้นก็แสดงออกได้ว่าง่ายถึงขนาดนั้น ไม่ทำตัวเด่น นี่ไม่เหมือนกับนิสัยของเธอโดยสิ้นเชิง“อืม งั้นแม่ระวังความปลอดภัยของตัวเองด้วย”หลี่ฮุ่ยหรานพูดประโยคนี้จบ ก็ถือกระเป๋าเอกสาร เดินออกจากประตูโรงแรมไปพร้อมกับหลินเฟิง หลี่เยว่หรู และเหมียวชางขณะเดียวกับที่พวกเขาออกไปจากประตูโรงแรม จางกุ้ยหลานก็กดโทรหาเบอร์แปลกหน้าตามติดกันและเบอร์นี้กลับไม่ใช่เบอร์ท้องถิ่นประเทศมังกร แต่เป็นระยะไกลจากต่างประเทศ“ฉัน...ฉันมาถึงเมืองจิงแล้ว พวกแกอยู่ไหน ซินเอ่อร์ ซินเอ่อร์ล่ะ? เธอเป็นยังไงบ้าง?!”“คุณป้า ช่วยฉัน ช่วยฉันด้วย!”ในโทรศัพท์มีเสียงร้องโอดครวญของจางซินที
“หึหึ ฉันบอกกับเธอแล้วสินะ?”หลี่เยว่หรูกอดอกหัวเราะอย่างลำพองใจและพูดว่า:“บริษัทรับเหมาของเหมียวชางไม่ต้องมาดูด้วยซ้ำ ที่บริษัทของเขาได้มาตรฐาน เอาล่ะ พวกเราดูเสร็จแล้วก็ออกไปเที่ยวเถอะ”“กว่าจะได้มาเมืองจิงสักครั้ง ฉันไม่อยากเสียเวลาอยู่เพียงแค่งานที่น่าเบื่อหรอกนะ”ขณะพูด เธอก็โอบคอของเหมียวชางเอาไว้ไม่เสแสร้งแล้ว“อืม ในเมื่อเป็นแบบนี้...”หลี่ฮุ่ยหรานเพิ่งหยิบสัญญาออกมาจากในกระเป๋าเอกสาร ก็จะปั๊มตราและเซ็นชื่อ จู่ๆ หลินเฟิงกลับยื่นมือออกไป และจับมือของหลี่ฮุ่ยหรานที่จะหยิบสัญญาออกมา“หือ?”หลี่ฮุ่ยหรานเงยหน้าขึ้น และมองไปทางหลินเฟิงด้วยความสงสัย“หลินเฟิงนายจะทำอะไรอีก?!”หลี่เยว่หรูมองหลินเฟิงที่ยื่นมือออกมา และระเบิดโมโห เท้าเอวด่าทอหลินเฟิง:“นายตั้งใจมาหาเรื่องบาดหมางกับพวกเราใช่ไหม? ถ้าหากนายตั้งใจมาเสียเวลาของพวกเรา งั้นก็รีบหายไปจากสายตาของพวกเราซะ!”“คุณหลิน”เหมียวชางเดินเข้ามา สีหน้ายิ้มเย็นชาพูดว่า: “ที่นี่คือบริษัทของผม คนเหล่านี้เป็นพนักงานของผม พวกเราก็มีหนังสือรับรองธุรกิจที่ถูกกฎหมายและเป็นไปตามข้อกำหนดและได้รับการอนุมัติตามมาตรฐาน”“ตอนนี้คุณยังมา
“หลี่เยว่หรู ฉันจำได้ว่าก่อนออกมา คุณปู่เคยพูดเอาไว้ เรื่องนี้ให้ฉันมีอำนาจการตัดสินใจ”“เธอลืมไปแล้วใช่ไหม?”“ฉัน..ฉัน...”หรี่เยว่หรูเม้มปาก ล้วงโทรศัพท์ออกมา และร้องไห้โฮพูดว่า: “ฉันจะโทรหาแม่ของฉัน พวกแกรวมตัวกันรังแกฉัน...”“เธอ...”หลี่ฮุ่ยหรานสูดหายใจเข้าลึกๆ และล็อกกระเป๋าเอกสาร จ้องมองเหมียวชางอย่างเย็นชา:“เถ้าแก่เหมียว ในเมื่อสถานการณ์ที่คุณบอกมาไม่เป็นความจริง งั้นก็อย่าโทษฉันนะคะ การร่วมของฉันกับบริษัทของคุณก็พอแค่นี้แล้วกันค่ะ”“เอ๊ะ อย่า ประธานหลี่ เอ๊ย ประธานหลี่...”เหมียวชางตกตะลึงอย่างมาก รีบขยับเข้าไปใกล้และพูดไพเราะ ขอร้องอ้อนวอน: “ประธานหลี่ นี่เป็นโอกาสเดียวของผมนะครับ ผมสารภาพ ผมสารภาพ!”“บริษัทแห่งนี้ไม่ใช่ของผม เป็นของเพื่อนผม”“เอาแบบนี้แล้วกัน ผมแนะนำคุณให้กับเพื่อนผม ท่างด้านเพื่อนผมต้องการเงินเจ็ดพันห้าร้อยล้านก็สามารถจัดการได้แล้ว ส่วนอื่นพวกเราแบ่งกันคนละครึ่งเป็นยังไง? เอ๊ะ คิดว่ายังไงล่ะครับ!”ได้ยินเหมียวชางขอร้องอย่างน่าไม่อายแบบนี้ หลี่ฮุ่ยหรานไม่มีความคิดที่อยากจะอยู่ต่อที่นี่แม้แต่นิดเดียว เธอหันหลังเดินจากไปโดยตรง“ประธานหลี่!”ในตอน
เหมียวชางเป็นเพื่อนในเน็ตที่หลี่เยว่หรูรู้จักเธอเคยเห็นรูปภาพของเหมียวชางบนอินเทอร์เน็ต คนหน้าตาหล่อพอใช้ได้ ได้ยินว่าเขาบริหารบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งอยู่ที่เมืองจิง จึงคิดถึงการทอดสะพานระหว่างกลางขึ้นมาได้แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีผลลัพธ์แบบนี้“เธอ?”เหมียวชางเหลือบมองหลี่เยว่หรูด้วยความดูถูก และฉีกยิ้มพูดว่า:“เธอไม่ส่องกระจกดูบ้าง ดูว่าเธอหน้าตาสภาพแบบนั้น เหมือนกับแม่หมูตัวใหญ่ต้นตำรับตัวหนึ่ง”“ถ้าฉันไม่ได้ทำเพราะเงิน จะชอบเธอได้งั้นเหรอ?”ได้ยินคำพูดฉีกหน้าแบบนี้ของเหมียวชาง หลี่เยว่หรูเหมือนกับโดนฟ้าผ่าแสกหน้า“ดังนั้นแล้วความรักออนไลน์ต้องระมัดระวังไง”หลินเฟิงเผชิญหน้ากับพวกอันธพาลที่ล้อมเข้ามา ก็ไม่ได้เป็ฯกังวล เหมือนกับสบายใจเฉิบ ถึงขั้นยังมีอารมณ์ล้อเล่นอีก“หลินเฟิง พวกเราควรทำอย่างไร?”หลี่ฮุ่ยหรานพูดอย่างร้อนรน“วางใจเถอะ ในเมื่อวันนี้มีผมอยู่ที่นี่ ใครก็ไม่สามารถแตะต้องคุณได้”ฟังหลินเฟิงพูดจาใหญ่โต เหมียวชางก็นั่งลงทันทีเขาโยนประแจที่อยู่ในมือไปทางหลินเฟิง และตะคอกด้วยความโมโห: “พรรคพวก ลุยเข้าไปทั้งหมด!”“กระทืบผู้ชายคนนั้นให้ฉันอย่างหนัก กระทืบจนกว่าจะตาย
คนจำนวนสิบกว่าคน ถูกผู้ชายคนนี้กระทืบจนนอนหมอบลงอย่างง่ายดายขนาดนี้ อีกทั้งดูท่าทางผ่อนคลายของเขา แม้แต่เหงื่อก็ยังไม่มีนี่บ่งบอกถึงอะไร?ผู้ชายคนนี้เป็นไปได้อย่างมากกว่าจะเป็นนักบู๊!วันนี้เขาเจอกับเรื่องยากเข้าแล้ว!“เมื่อกี้ฉันได้ยินนายพูดว่า อยากจะเล่นผู้หญิงของฉันสินะ?”หลินเฟิงนั่งยองลง ดึงผมของเหมียวชาง ถามด้วยสีหน้านิ่งเฉย“หลินเฟิง!”หลี่ฮุ่ยหรานที่อยู่ไกลออกไปมีใบหน้าจนปัญญาวุ่นวายอยู่นานเขาได้ยินแค่ประโยคนี้งั้นเหรอ?“เป็นยังไง? ตอนนี้ยังอยากเล่นไหม?”หลินเฟิงหัวเราะเยาะ และเผยรอยยิ้ม “เป็นมิตร” ออกมานี่ทำให้เหมียวชางตกใจจนขี้หดตดหาย ส่ายหน้าเหมือนกับกลองเขย่า เกือบจะทำให้มันสมองของตัวเองเขย่าจนสมดุลแล้ว“ผู้หญิงของฉัน ตัวเองยังทำใจเล่นไม่ได้”หลินเฟิงถอนหายใจ จากนั้นสายตาเปลี่ยนไปดุดัน:“นายช่างกล้าพูดจริงๆ นะ!”“ไม่กล้าแล้ว ผมไม่กล้าแล้วจริงๆ! ท่านนักบู๊ ปล่อยผมไปเถอะ! ปล่อยผมไปเถอะนะ!”เหมียวชางหน้าตาโศกเศร้า เขาซวยเกินไปแล้วจริงๆนักบู๊น้อยขนาดนั้น ทำไมเขาถึงได้เจอกับคนเก่งขนาดนี้กันนะ อีกอย่างยังเป็นคนที่มาจากสถานที่เล็กๆ ที่ห่างไกลความเจริญซวยจริง
หลี่เยว่หรูเสียใจความเสียใจของเธอไม่ใช่เพราะเหมียวชางอยากจะหลอกเงินเธอแต่เพราะเหมียวชางยอมที่จะไปเกาะหลี่ฮุ่ยหราน ก็ไม่ยอมแตะต้องเธอ ผู้หญิงที่พาตัวเองไปส่งถึงที่“ความแตกต่างของฉันกับหลี่ฮุ่ยหรานเยอะขนาดนี้จริงๆเหรอ?”หลี่เยว่หรูซื้อความมึนเมาอยู่ตรงเคาน์เตอรืของร้านเหล้าเล็กๆหลินเฟิงกลับนั่งอยู่ตรงโต๊ะกับหลี่ฮุ่ยหราน รอใครบางคนอยู่หลังจากเวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง“สหายหลิน”คุณชายรองตระกูลจี นั่นคือจีอวิ๋นเจี๋ยที่ถอดความอ่อนแอที่เสแสร้งออกมาก่อนหน้านี้ทิ้งไป เขามาพบกับหลินเฟิงด้วยท่าทางกระปรี้กระเปร่าเขาเพิ่งนั่งลง ก็เห็นหลี่ฮุ่ยหรานที่อยู่ข้างกายหลินเฟิง และลังเลเล็กน้อย จากนั้นถามว่า:“ท่านนี้คือ...”“ท่านนี้คือหลี่ฮุ่ยหรานอดีตภรรยาของผม ครั้งนี้ที่เรียกคุณมา ก็เพราะเรื่องของเธอ”หลินเฟิงยิ้มพูดแนะนำ“อดีตภรรยา?”จีอวิ๋นเจี๋ยอึ้งเล็กน้อย จากนั้นก้ลุกขึ้นยืนจับมือกับหลี่ฮุ่ยหรานเป็นมารยาท และพูดชื่นชม:“คุณหลี่ฮุ่ยหรานสวยงามเพริศพริ้งอย่างถึงที่สุด เมื่อครู่เข้าประตูมาผมเกือบสงสัยว่าเป็นดาราดังบางท่านมาซะอีก”เมื่อพูดคำหยอกล้อเหล่านี้จบ เขาก็กวาดตามองหลินเฟิง
“อุปกรณ์ก่อสร้างและค่าใช้จ่ายต่างๆ ระหว่างการดำเนินการ พวกเราตระกูลจีจะจ่ายให้ก่อน หลังจากพวกคุณตรวจรับแล้ว ค่อยจ่ายเงินให้พวกผมภ่ายในครั้งเดียวก็พอครับ”“ทำงานก่อน ค่อยรับเงิน”“เป็นบริษัทก่อสร้างเทวดาอะไรกันเนี่ย?”หลี่ฮุ่ยหรานไม่กล้าที่จะเชื่อนิดหน่อยแล้ว เธอไม่อยากจะเชื่อว่าบนโลกนี้มีบริษัทก่อสร้างที่น่าเชื่อถือขนาดนี้จริงๆหรือว่าเขาไม่กลัวว่าพวกเธอจะค้างชำระรายการใช้จ่ายงั้นเหรอ?เหมือนกับมองความสงสัยของหลี่ฮุ่ยหรานออก จีอวิ๋นเจี๋ยยิ้มบางและพูดว่า:“คุณหลี่ฮุ่ยหราน คุณอาจจะสงสัย แต่ผมจะบอกคุณว่า ผมเชื่อในคุณสมบัติของสหายหลิน”“การค้าขายที่สหายหลินแนะนำไม่มีทางผิดพลาด ยิ่งกว่านั้นคุณคืออดีตภรรยาของสหายหลิน”“จากมิตรภาพของผมกับสหายหลิน อย่าว่าแต่เงินแค่ห้าพันล้านบาท”“ห้าหมื่นล้านบาทก็ยังไม่เป็นไรครับ”หลี่ฮุ่ยหรานอ้าปากเป็นรูปตัวโอ เธอรับรู้อย่างลึกซึ้งเป็นครั้งแรก หน้าตาของหลินเฟิงมีประโยชน์ที่น่าเชื่อถือถึงขนาดนี้ด้วย“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันต้องขอบคุณคุณที่ตรงนี้ก่อนนะคะ”หลี่ฮุ่ยหรานโค้งตัวเคารพไปทางจีอวิ๋นเจี๋ยด้วยความซาบซึ้ง จีอวิ๋นเจี๋ยรีบห้ามปรามไว้ และยิ้มพู
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ