ถ้าหากให้เด็กผู้หญิงคนนี้ดื่มเข้าไป ไม่เพียงไม่ได้รักษาอาการป่วย แถมยังทำให้อาการหนักยิ่งกว่าเดิม ถึงขั้นที่เกิดผลที่ตามมาอย่างไม่แน่ชัด“ไม่ได้ ยาพวกนี้ให้เด็กดื่มไม่ได้ ดื่มแล้วไม่เพียงไม่รักษาอาการ แถมยังอาการหนักยิ่งกว่าเดิม!”หลินเฟิงกำใบรายการยาโยนทิ้งไปในถังขยะ“หือ?”เห็นหลินเฟิงเป็นแบบนี แม่ของเด็กนิ่งอึ้งทันที“พรวด...”ไกลออกไป เลี่ยวจงที่เตรียมจะเข้ามาก็หลุดขำออกมา“คุณปู่ นี่ก็คือหมอเทวดาที่คุณปู่เชิญมาเหรอ? คุณเลอะเลือนไปแล้วเหรอ?”เลี่ยวจงชี้ไปทางเด็กผู้หญิงที่ร้องไห้จนเสียงแหบแห้งอยู่ในอ้อมแขนของสตรีคนนั้น จากนั้นส่ายหน้ายิ้มพูด:“เด็กผู้หญิงคนนี้ทั้งๆ ที่เป็นโรคหนาว ชีพจรลอยและเต่งตึง แถมควบคู่กับอาการไอ คุณปู่ดูมือเล็กๆ ของเธอ ลูบคอของตัวเองไม่หยุด”“น่าจะไม่สบายคอหอย ทุกอย่างนี้เห็นได้ชัดเจนว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นโรคหวัดจากลมหนาว อีกทั้งเป็นโรคหวัดลมหนาวชนิดรุนแรง”เลี่ยวจงหยุดชะงักเล็กน้อยแล้วยิ้มพูด:“แต่คนคนนั้นกลับพูดว่าเป็นโรคหวัดร้อน คุณปู่ หรือว่านี่ก็คือหมดเทวดาที่คุณเชิญมา? อย่าล้อเล่นเลย?”“นี่...”หมอเทวดาเลี่ยวก็คิดว่าหลานชายของตัวเองพูดถูก
“มา แน่จริงนายก็บอกชื่อของนายออกมา ให้ฉันได้ฟังหน่อยว่าเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ท่านไหน หรือว่าเป็นนักเรียนที่มาจากมหาวิทยาลัยดังที่ไหนกัน?”ได้ยินคำพูดเค้นถามของจ้าวเฟิงแบบนี้ หลินเฟิงสูดหายใจเข้าลึกๆ และพูดอย่างนิ่งเฉยต่อหน้าทุกคน:“ในสายตาของคุณ มีเกียรติ ช่วยคนเยอะ หมอที่เงินเดือนสูงก็คือหมอที่ดีงั้นเหรอ?”ได้ยินหลินเฟิงถามแบบนี้ จ้าวเฟิงคนนั้นใช้สายตาที่มองคนโง่เหลือบมองหลินเฟิง และหัวเราะเยาะ:“หรือว่าไม่ใช่งั้นเหรอ?”“ไม่ใช่”หลินเฟิงพยักหน้าด้วยความแน่วแน่:“แพทย์ที่ว่านั้น ก็คือดูแลประชาชน ช่วยคนเหมือนกับดับไฟ ระบุสาเหตุของโรคให้ผู้ป่วยได้อย่างแม่นยำ ช่วยผู้ป่วยจากความเจ็บปวดด้วยวิธีที่เล็กที่สุดและรวมรัดให้สั้นที่สุด”“ส่วนคุณ”หลินเฟิงหยิบใบรายการยาที่เขาฉีกทิ้งออกมาจากในถังขยะ และขว้างไปทางจ้าวเฟิง พูดเย็นชาว่า:“คุณไม่ใช่หมอ คุณเป็นแค่นักธุรกิจเท่านั้น!”“ยกตัวอย่างตามที่คุณพูดเมื่อครู่นี้ เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นไข้หวัดจากความหนาว!”หลินเฟิงพูดเสียงเคร่งขรึม: “ใช้เพียงแค่เมลดปอกะเจาะสามสลึง ขิงแห้งห้าสลึง หญ้าเมล็ดดำหนึ่งสลึง ดื่นน้ำอุ่นเข้าไปก็พอแล้ว”“แต่ทว่าคุณกล
“คุณอาคนนี้พูดว่า...”“ไม่ต้องสนใจเขา เขาเป็นคนบ้า”แม่ของเด็กอุ้มลูกสาวขึ้นมา จากนั้นจากไปโดยไม่สนใจอย่างอื่น“...”เห็นภาพนี้ หลินเฟิงส่ายหน้าอย่างจนปัญญาส่วนจ้าวเฟิงกลับเผยรอยยิ้มลำพองใจที่แอบซ่อนเอาไว้“งั้นเชิญทางนี้เถอะ คุณคนบ้า อย่าบีบบังคับให้พวกผมต้องใช้กำลัง”รปภ. เป็นเหมือนหอคอยเหล็ก ยืนอยู่รอบตัวหลินเฟิง ดักล้อมหลินเฟิงไว้แน่นหนา“จงเอ่อร์ ฉันต้องการคำอธิบาย”หมอเทวดาเลี่ยวเหลือบมองเลี่ยวจงที่อยู่ข้างๆ ด้วยสายตานิ่งเฉยไม่ต้องพูดก่อนว่าการวินิจฉัยเมื่อครู่ของหลินเฟิงนั้นเป็นอย่างไร เรื่องวัตถุดิบยาที่หลินเฟิงพูดถึง ไม่ผิดไปแม้แต่นิดจ้าวเฟิงคนนี้ใช้วัตถุดิบยาที่ราคาแพงกว่าจริงๆดูท่าจ้าวเฟิงคนนี้อยู่ในศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยว มีช่องทางกำไรของตัวเองอยู่เรื่องนี้ เลี่ยวจงก็ตั้งตัวรับมือไม่ทันเขาก็คิดไม่ถึง“วางใจเถอะครับคุณปู่ ผมจะไปทำการตรวจสอบ”เลี่ยวจงกัดริมฝีปาก ในเมื่อจ้าวเฟิงคนนี้เป็นคนที่เขาเชิญมา เขาทำแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นการหักหน้าเลี่ยวจง“เอาล่ะ ปล่อยคุณหลินเฟิงซะ”หมอเทวดาเลี่ยวเดินไปด้านข้างรปภ. และขมวดคิ้วพูด“เอ๊ะ? หมอเทวดาเลี่ยว?”“
“ขาดความมั่นใจหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวกับคุณ”หลินเฟิงขี้เกียจจะสนใจจ้าวเฟิงหมอคนนี้ด้วยซ้ำ พูดว่าเขาเป็นหมอ เขามีเพียงแค่ความรู้ แต่มีความเย่อหยิ่ง คิดถึงแต่เงิน ไม่มีจรรยาบรรณแพทย์ของแพทย์แผนโบราณของประเทศมังกรด้วยซ้ำ“นายยังเสแสร้งขึ้นมาแล้วใช่ไหม?”จ้าวเฟิงเห็นท่าทางกำเริบเสิบสานของหลินเฟิงแบบนี้ สีหน้าก็เคร่งขรึมในทันที“เอ้ยเอ้ยเอ้ย หมอจ้าวเฟิง อย่าอย่าอย่า ไม่จำเป็นครับไม่จำเป็น…”เห็นสถานการณ์เบนไปทางความตึงเครียด เลี่ยวจงจึงรีบพูดเกลี้ยกล่อมที่นี่คือศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวของพวกเขาถ้าหากที่นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็อาจจะเกิดผลกระทบที่ไม่ดีต่อชื่อเสียงของตระกูลเลี่ยวของพวกเขา“วันนี้ถ้าหากไม่ใช่เพราะคุณเลี่ยวจง ฉันจะต้องสั่งสอนนายอย่างแน่นอน เห็นตัวเองเป็นคนสำคัญหรือยังไง? แม้แต่ใบรับรองคุณวุฒิทางการแพทย์ก็ยังไม่มี นายอวดดีอะไรกัน?”นิ้วมือของจ้าวเฟิงแทบจะทิ่มตาของหลินเฟิงอยู่แล้ว แต่หลินเฟิงก็ยังยืนหน้านิ่งเฉยอยู่แบบนี้ดวงตามองไปทางประตู เหมือนกับกำลังรออะไรอยู่“ช่างเถอะช่างเถอะ”เห็นหลินเฟิงเป็นแบบนี้ หมอเทวดาเลี่ยวถอนหายใจ พูดอย่างสุภาพ: “งั้นคุณหลิน ผมไปรอคุณที่เ
จ้าวเฟิงปฏิเสธความคิดที่ตัวเองมองผิดไป เขาไม่มีทางมองผิดแน่นอน เด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นโรคหวัดจากความหนาวชัดๆ“ได้!”พูดถึงแค่ตรงนี้ จ้าวเฟิงก็ไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้วเขาพยักหน้าไปทางหลินเฟิงด้วยความเยาะหยัน ถือว่าเป็นการตอบรับเงื่อนไขของหลินเฟิงแล้วแต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะประหม่าหรืออะไรเขาเดินเร่งฝีเท้ากลับไปที่ห้องตรวจของตัวเอง......“เรื่องที่จ้าวเฟิงตั้งใจใช้วัตถุดิบราคาสูง ที่คุณหลินเฟิงชี้แนะออกมา ผมมองออกแล้ว จุดนี้คุณพูดได้ไม่ผิด”“พวกเราจะจัดการอย่างเข้มงวด”เลี่ยวจงพูดออกมา จากนั้นหยุดชะงักและพูดต่อว่า: “แต่คุณหลินเฟิง ทำไมคุณถึงยืนหยัดว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นไข้ร้อนล่ะครับ?”“ในเมื่อแม้แต่คุณปู่ของผมก็ยังมองไม่ออกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นไข้ร้อน”“คุณปู่ดูไม่ออกอยู่แล้ว”หลินเฟิงยังคงมองประตูอยู่ และพูดอย่างเฉยเมย:“ร่างกายนี้เป็นธาตุเย็น กลับมีควมร้อนในปอดมากเกินไป และเด็กผู้หญิงคนนั้นเกิดมาพร้อมกับโครงร่างเยาว์วัย ชี่กับม้ามตัดกัน จึงทำให้ภายนอกแสดงออกมาว่าเป็นโรคเย็น”“โครงร่างเยาว์วัย?”เลี่ยวจงครุ่นคิดอยู่นาน ก็คิดไม่ออกว่าโครงร่างเยาว์วัยคืออะไร?เขาหัวเราะหึหึ
“ไสหัวไป!”หลินเฟิงไม่มีความเกรงใจ ตบจ้าวเฟิงที่คุ้มคลั่งจนกระเด็นออกไปเลี่ยวจงเห็นจ้าวเฟิงที่ส่วนสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรกระเด็นออกไปห้าหกเมตร สุดท้ายกระแทกกับโต๊ะของห้องตรวจของตัวเองจนพังยับเยิน“เป็นไปไม่ได้...”จ้าวเฟิงที่ล้มอยู่บนพื้นยังพูดคำว่าเป็นไปไม่ได้ซ้ำ ๆ“คุณผู้ชายท่านนี้ ขอร้องคุณช่วยลูกสาวของฉันด้วยนะคะ...”หญิงวัยกลางคนยังคงอ้อนวอนหลินเฟิงไม่หยุด หลินเฟิงกลับพูดปลอบใจ: “วางใจเถอะครับ มีผมอยู่ ไม่เป็นไรครับ”พูดจบ หลินเฟิงก็นำเข็มเงินที่อยู่ในมือแทงไปตรงจุดฝังเข็มบริเวณท้องของเด็กผู้หญิงทีละเข็ม และก็ล้วงเอายาเม็ดสีเขียวออกมาจากในกระเป๋า ป้อนให้เด็กผู้หญิงกิน“คุณหลิน ยาเมื่อครู่นี้คือ...”เลี่ยวจงรู้สึกว่ายาที่หลินเฟิงนำออกมานั้นคุ้นตาอย่างมาก“ยาอมตะเลือดราชันย์ก็เท่านั้นเอง”หลินเฟิงไม่ได้เงยหน้า ตอบกลับแบบนี้ประโยคหนึ่งแต่ทว่าก็เป็นเพราะชื่อนี้ ทำให้เลี่ยวจงแข็งทื่ออยู่ที่เดิมทันที คนทั้งคนงุนงงไปหมด“คุณหลิน คุณพูดอะไรนะครับ?!”“คุณ...ยาอมตะเลือดราชันย์? จริงเหรอครับ? เป็นยาอมตะเลือดราชันย์จริงเหรอครับ?! เอาให้...ให้เด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งทานเข้
ยิ่งไม่ต้องพูดว่าคลานไปขอความเมตตาเลยส่วนทางด้านหลินเฟิงหลังจากที่หลินเฟิงปล่อยพลังชี่แท้ผ่านนิ้วมือไปตรงที่แผงอกกับท้องน้อยของเด็กผู้หญิง กระตุ้นอวัยวะภายใน เด็กผู้หญิงกลับอ้วกออกมาเป็นเลือดสีแดงสดเมื่ออ้วกเป็นเลือดออกมาแบบนี้ ทำให้แม่ของเด็กผู้หญิงตกใจจนหน้าซีด“วางใจได้ ไม่เป็นไรหรอก” หลินเฟิงพูดปลอบใจเธอจากนั้น สุดท้ายเด็กผู้หญิงก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา“โอ๊ย เด็กบ้าคนนี้ ทำให้แม่ตกใจแทบตาย!”เห็นลูกสาวฟื้นขึ้นมา หญิงวัยกลางคนก็ดีใจจนร้องห่มร้องไห้ โอบกอดลูกสาวของเธอไว้จนแน่นจากนั้นพยักนห้าของคุณหลินเฟิงไม่หยุด“ขอบคุณค่ะคุณผู้ชายท่านนี้ ถ้าหากคุณไม่ลงมือช่วย เกรงว่าลูกสาวของฉันก็จะต้องถูกหมอกำมะลอคนนี้ทำให้เสียชีวิตแล้ว ค่ารักษาพยาบาลของคุณเท่าไหร่คะ ฉันจ่ายให้คุณ”เลี่ยวจงที่อยู่ข้างๆ มองดูหญิงวัยกลางคนล้วงกระเป๋างเงินของตัวเอง สีหน้าก็กระตุกเล็กน้อยยาอมตะเลือดราชันย์หนึ่งเม็ด ราคาสูงอุปสงค์น้อยถ้าหากลองฝืนคำนวณดู ราคาห้าสิบล้านบาทอีกทั้งนี่ยังพูดในราคาที่น้อยในตอนที่จงเลี่ยวอารมณ์สับสน กลับเห็นหลินเฟิงยิ้มบาง ส่ายหน้าพูด: “ค่ารักษาของผมราคาแพงนะครับ”“คุณพูดมา.
ไม่นานนัก หลินเฟิงก็มาถึงเรือนด้านหลัง ผลักประตูเข้าไปในอาคารหลังเล็กที่งดงามเรียบง่ายสไตล์โบราณ เห็นผู้ป่วยตระกูลร่ำรวยคนที่ว่านั้นแล้วเมื่อไม่มองก็ไม่รู้ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนคุ้นเคยของหลินเฟิง“คุณหลิน ไม่เจอกันมานมากจริงๆ”คนที่นั่งจิบชาด้วยใบหน้าสบายอกสบายใจอยู่ตรงที่นั่ง นั่นก็คือบริวารของตระกูลซือหม่าตอนนั้นที่ตระกูลหลี่เมืองเจียงหนาน บริวารโจวที่ไปหาเรื่องหลินเฟิงถึงที่พร้อมกับซือหม่าเหวินเห็นเพียงแค่บริวารโจวลูบคล้ำหนวดของตัวเอง จากนั้นยิ้มตาหยีมองหลินเฟิง:“คิดไม่ถึงว่าคุณหลินจะเดินทางไกลมาที่เมืองจิง ไม่ทราบว่า เป้าหมายที่คุณมาเมืองจิงคืออะไร?”ตอนนี้เห็นท่าทางของบริวารโจว แตกต่างอย่างกับคนละคน“เรื่องส่วนตัวก็เท่านั้นเองหลินเฟิงส่ายหน้า จากนั้นมองไปทางหมอเทวดาเลี่ยวด้วยสีหน้านิ่งเฉย ถามขึ้นเรียบๆ: “หรือว่านี่ก็คือผู้ป่วยที่หมอเทวดาเลี่ยวพูดถึง ก็คือเขา?”“ถูกต้องครับ”หมอเทวดาเลี่ยวเห็นทั้งสองคนรู้จักกัน จึงลูบเคราแล้วยิ้มพูด:“นี่ก็คือพรหมลิขิตสินะ”“......”บริวารโจวคนี้คือคนของตระกูลซือหม่า ส่วนหลินเฟิงก็ไม่ได้มีความรู้สึกที่ดีอะไรต่อคนของตระกูลซือหม่า
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ