Share

อ๋องพิการกับชายาผู้คลั่งไคล้การฆ่า
อ๋องพิการกับชายาผู้คลั่งไคล้การฆ่า
Penulis: กระต่ายน้อยของอลิซ

บทที่ 1

“น้องหญิง ข้ามาส่งเจ้าเดินทางแล้ว”

ฤดูหนาวเดือนสิบสอง พายุหิมะโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า

ภายในคุกที่มืดสลัวและหนาวเหน็บ ผู้หญิงผอมแห้งและสีหน้าซีดเซียวคนหนึ่งขดตัวเป็นก้อน อาภรณ์บนกายขาดรุ่งริ่ง ผิวหนังปริเนื้อปลิ้น คราบเลือดสีแดงเข้มแข็งตัวแล้ว

นางขดตัวเป็นก้อนราวกับตายแล้ว ในดวงตาที่บวมแดงและเหือดแห้งเหลือเพียงความเกลียดชังอันบริสุทธิ์

ผู้พูดคือซ่งหว่านฉิ่งลูกพี่ลูกน้องของนาง

นางสวมชุดเพ้าหงส์ที่ปราศจากมลทิน ใบหน้าที่มีความจริตจะก้านแต่เดิมก็ถูกมงกุฎหงส์อันหรูหราบั่นทอนลง และมีความเย่อหยิ่งเพิ่มขึ้นหลายส่วน

เสิ่นอวี้เงยหน้ามองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า

ผ่านไปครู่หนึ่ง จึงจะเอ่ยปากอย่างเคร่งขรึม “แรกเริ่มคุกเข่าต่อหน้าข้า อ้อนวอนให้ข้ารับเจ้าเข้าจวนโหว[footnoteRef:1] เจ้ามันก็เป็นแค่สุนัขไร้บ้าน” [1: โหว เป็นตำแหน่งขุนนางขั้นสูงของจีนโบราณ เทียบเท่าเจ้าพระยา]

ตระกูลเสิ่นเลี้ยงนางสิบสี่ปี นางรักษามดลูกเย็นของผู้หญิงคนนี้ด้วยมือจนหายขาด แต่ใครจะคาดคิดว่ากลับเลี้ยงออกมาเป็นคนเนรคุณเช่นนี้

“หากรู้แต่แรกว่าจะเป็นเช่นนี้ ต่อให้นำยาของข้าไปเลี้ยงสุนัข ก็ไม่ให้เจ้ากิน!”

สายตาเสิ่นอวี้ไปตกลงบนท้องที่นูนขึ้นเล็กน้อยของนาง ความเกลียดชังในดวงตาลึกยิ่งขึ้น

นางปฏิบัติต่อซ่งหว่านฉิ่งเหมือนพี่น้องสายเลือดเดียวกัน ซ่งหว่านฉิ่งกลับไปคบชู้สู่ชายกับองค์ชายสามที่นางเฝ้าคำนึกถึงทุกวัน และยังตั้งครรภ์ลูกของเขาอีกด้วย!

ปัจจุบัน ก็ทำให้ทั้งครอบครัวของนางต้องติดคุก!

เสิ่นอวี้เสียใจกับสิ่งที่ทำไป

“มันสายไปแล้ว น้องหญิงที่แสนดีของข้า”

ซ่งหว่านฉิ่งได้ยินแล้วหัวเราะอย่างเย็นชา “ฝ่าบาทสิ้นพระชนม์ องค์ชายสามขึ้นครองราชย์ ตระกูลเสิ่นกลายเป็นแพะรับบาปแล้ว เช้านี้ ผู้ชายทุกคนในตระกูลเสิ่นถูกลงทัณฑ์เลาะกระดูก เลือดย้อมหุบเขาตัดศีรษะกลายเป็นสีแดง เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก!”

“เจ้าว่าอะไรนะ?”

เสิ่นอวี้กระโจนไปที่ประตูฉับพลัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ

นางคบรักกับองค์ชายสามหยวนเฉินเจ็ดปี เพื่อแต่งงานกับเขา นางฉีกสัญญาหมั่นกับอ๋องหมิงหยางจ้านอวิ๋นเซียว กลายเป็นศัตรูกับพี่ชายใหญ่ ทำให้แม่ใหญ่โมโหจนกระอักเลือด อดทนอดกลั้นตั้งแต่อายุสิบห้าปีจนถึงยี่สิบสองปี

เกิดการเปลี่ยนแปลงฉับพลันครั้งใหญ่ เขาขึ้นครองราชย์แต่งงานกับซ่งหว่านฉิ่งไม่พอ คิดจะโยนความผิดฐานลอบปลงพระชนม์จักรพรรดิองค์ก่อนให้ตระกูลเสิ่นอีกหรือ?

ดวงตาเสิ่นอวี้แดงก่ำ เสียงแหบแห้ง “เพราะเหตุใด? เพราะเหตุใดต้องเป็นตระกูลเสิ่น?”

“เสด็จพ่อสิ้นพระชนม์เพราะถูกพิษ ปัญหาย่อมต้องมีคนรับผิดชอบเสมอ ตระกูลเสิ่นคือตัวเลือกที่ดีที่สุด อีกอย่างเจ้าก็เป็นคนปรุงยานั่นจริงๆ”

ตามมาด้วยเสียงที่เฉยเมยนี้ดังขึ้น หยวนเฉินเดินเข้ามา

เขาเดินมาหยุดอยู่ข้างกายซ่งหว่านฉิ่ง ก้มหน้ามองนาง ไม่มีความอบอุ่นในดวงตาแม้แต่น้อย “เห็นแก่ที่เจ้าช่วยข้ากำจัดอ๋องหมิงหยาง ข้าไว้ชีวิตผู้หญิงของตระกูลเสิ่น พี่หญิงใหญ่ น้องหญิง แม่ใหญ่ของเจ้า รวมทั้งหมดสามสิบหกชีวิต ส่งตัวไปเป็นนางคณิกา”

“แม้ไม่ได้มั่งมีด้วยทรัพย์สมบัติ แต่ก็ดีกว่าส่งไปหนาวตายที่เป่ยเจียง”

ร่างเสิ่นอวี้สั่นสะท้าน ไม่อยากเชื่อว่านี่ก็คือผู้ชายที่ตนหลงหัวปักหัวปำเจ็ดปีและมอบทุกอย่างให้ “หยวนเฉิน จิตใจของเจ้าถูกสุนัขกินไปแล้วใช่หรือไม่ ยาของข้า ไม่ใช่เพื่อให้เจ้าวางยาพิษพ่อของเจ้า!”

ยานั่น นางปรุงมาเพื่อให้เขาใช้ป้องกันตัว

ตอนนี้กลับกลายเป็นหลักฐานที่ทำร้ายทั้งครอบครัวนาง

เสิ่นอวี้ถามเขาอย่างโกรธแค้น “เสด็จแม่ของเจ้าถูกพิษ ข้าเป็นคนถอน! เจ้าถูกจ้านอวิ๋นเซียวขัด ข้าเป็นคนช่วยเจ้าทำให้เขาพิการขาสองข้าง! เจ้าถูกกล่าวหาว่าวางยาพิษฆ่ารัชทายาท ข้ารับโทษแทนเจ้า! เจ้าถูกขุนนางในราชสำนักกล่าวโทษ พ่อและพี่ชายของข้าพูดแทนเจ้า ปกป้องเจ้า! เจ้าถูกลอบสังหาร ข้าช่วยเจ้ารับดาบ! หากไม่ใช่เพราะข้า เจ้าถูกจ้านอวิ๋นเซียวส่งขึ้นบนแท่นตัดศีรษะนานแล้ว!”

เสิ่นอวี้ตะคอกเสียงแหบ ความไม่เต็มและเสียใจลุกโชนเหมือนไฟแห่งกรรม นางกล่าวเสียงหนักชัดเจน “หากรู้แต่แรกว่าเป็นเช่นนี้ ข้าควรจะแต่งงานกับจ้านอวิ๋นเซียว ปล่อยให้ชายโฉดหญิงชั่วอย่างพวกเจ้าไปตายเสีย!”

สีหน้าผู้ชายเปลี่ยนฉับพลัน เหมือนแมวที่ถูกเหยียบหาง

แต่ไม่นานเขาก็กลับมาเฉยเมยอีกครั้ง ถึงขั้นกัดฟันพูดด้วยความเกลียดชังเล็กน้อย “เจ้าพูดถูก”

“หากไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจ้านอวิ๋นเซียวจริงๆ …แต่เสิ่นอวี้ ทุกอย่างมันสายไปแล้ว จ้านอวิ๋นเซียวกลายเป็นคนพิการนานแล้ว และตอนนี้ก็กลายเป็นคนตาบอด…”

“ท้ายที่สุดข้าก็ชนะแล้ว!”

“เจ้าพูดอะไรนะ?”

เสิ่นอวี้รู้สึกเพียงในส่วนลึกของหัวใจเหมือนถูกคนเอามามีดแทง เจ็บจนยากจะหายใจ

นางจำได้ ผู้ชายคนนั้นมีดวงตาหงส์ที่สวยงามคู่หนึ่ง ขนตายาวมาก ม่านตาคู่นั้นราวกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว เวลามองนางกลับเหมือนน้ำทะเลที่เงียบสงบแต่ไหลลึก มักจะมีความรู้สึกลึกซึ้งกระหายจะพูดแต่ก็ไม่พูด และไม่มีวันได้รับการตอบกลับแฝงอยู่

แม้แต่นางในอดีตที่ไม่ชอบ ก็รู้สึกว่าสวยงามที่สุด

แต่ตอนนี้กลับ…

หยวนเฉินสะบัดแขนเสื้อเดินจากไปแล้ว

เสิ่นอวี้มองแผ่นหลังของเขาบนพื้นอย่างเหม่อลอย ในหัวกลับเป็นร่างเงาของจ้านอวิ๋นเซียวที่ไม่สามารถปัดทิ้ง

เป็นเพราะนางตามืดใจบอด จึงพลาดพลั้งช่วยองค์ชายสามเล่นงานจ้านอวิ๋นเซียว ทั้งที่มีสัญญาหมั้นหมายดีๆ กับเขาก็ไม่เอา

หากไม่ใช่เพราะเมื่อเจ็ดปีก่อน นางอาศัยความรักที่จ้านอวิ๋นเซียวมีต่อตนเองนัดเขาออกมา ทำให้เขาตกหลุมพรางของหยวนเฉินจนขาพิการสองข้าง หยวนเฉินจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างไร!

ตอนนั้นนางไม่รู้สึกผิดต่อเหตุการณ์นี้แม้แต่น้อย ในหัวคิดแต่จะไปขอความดีความชอบกับหยวนเฉิน อยากเป็นชายาองค์ชายสามทั้งใจ

กระทั่งครึ่งเดือนก่อนนี่เอง ครั้งสุดท้ายตอนที่จ้านอวิ๋นเซียวคลานมาส่งจดหมายให้นาง บอกให้นางรีบไป นางก็ปฏิเสธเขาอย่างเด็ดขาด บอกว่าเขาไม่จำเป็นต้องยุ่งเรื่องของตนเอง บอกว่าอีกไม่นานนางก็จะแต่งงานกับองค์ชายสามแล้ว ให้เขาไปตายเสีย

เมื่อนึกถึงเรื่องราวเหล่านี้อีกครั้ง เสิ่นอวี้เสียใจจนอยากตาย

ซ่งหว่านฉิ่งมองดูท่าทางที่เจ็บปวดเจียนตายของนางแล้วรู้สึกอารมณ์ดี อดไม่ได้ที่จะกล่าว “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเขาตาบอดได้อย่างไร? ก็เพราะวันที่เจ้าถูกจับ ข้ากับฝ่าบาทก็ปรึกษากัน จะทำอย่างไรจึงจะสามารถกำจัดเขาได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้ ฝ่าบาทจึงพูดว่าจะปล่อยเจ้าหนีไปให้ไกลก็ได้ แต่เขาต้องแทงตาทั้งคู่ของตนเองให้บอด”

หัวใจของเสิ่นอวี้กำลังมีเลือดหยด!

ซ่งหว่านฉิ่งหัวเราะจนน้ำตาแทบไหลออกมาแล้ว นางกล่าวอย่างเกินจริง “พวกเราก็แค่พูดเล่น เขากลับทำตามจริงๆ ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆ น่าขำสิ้นดี!”

ทันใดนั้นเสียงของนางก็หยุดลง เริ่มใช้มือตีเท้าเตะนาง พลางตะคอกเสียงดัง “เจ้ามีสิทธิ์อะไร!”

“เจ้ามันก็แค่นางแพศยา เหตุใดเขาต้องปกป้องและยอมเสียสละเพื่อเจ้าเช่นนี้! ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้า เป็นเพราะเจ้าตอนนี้เขาถึงได้กลายเป็นเช่นนี้!”

ในระหว่างพริบตานั้น เสิ่นอวี้ตะลึงงัน ที่แท้คนที่ซ่งหว่านฉิ่งชอบก็คือจ้านอวิ๋นเซียวเช่นกัน!

มีเสียงที่แหบแห้งสายหนึ่งดังขึ้นนอกประตูกะทันหัน

“เสิ่นอวี้!”

พลันหัวใจเสิ่นอวี้สั่นสะท้าน หันไปมองตามเสียง

ระหว่างประตูเหล็กกั้นหนึ่งบาน ก็มองเห็นจ้าวอวิ๋นเซียวกำลังลากขาที่พิการคู่หนึ่ง คลานมาทางนางอย่างทุลักทุเล

หัวใจของเสิ่นอวี้ราวกับถูกกระแทกอย่างแรง ชายผู้องอาจกล้าหาญที่เคยสยบทั่วหล้า และเป็นโอรสคนโปรดของสวรรค์ อยู่ใต้คนเดียวอยู่เหนือคนนับหมื่น ตอนนี้กลับถูกนางทำร้ายจนน่าสังเวชเช่นนี้

ผ้าไหมสีขาวที่ปิดตาของเขาชุ่มไปด้วยเลือด และบนพื้นก็มีรอยเลือดที่ลากยาว ทหารยามที่อยู่นอกประตูใช้ไม้กระบองทุบตีเขา ใช้เท้าถีบศีรษะเขา เหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเขาลงใต้ฝ่าเท้า

เขากลับไม่หยุด เอาแต่ตะโกนมาทางซ่งหว่านฉิ่งด้วยเสียงแหบแห้ง “ซ่งหว่านฉิ่ง มีอะไรก็มาลงที่ข้า ปล่อยนางไปเดี๋ยวนี้!”

ซ่งหว่านฉิ่งหวนคืนสติ ความไม่สามารถอดกลั้นชั่วพริบตาในส่วนลึกของดวงตากลายเป็นความอิจฉาและเกลียดชังทันที

“ตีเขาให้ตาย!”

ไม่ทันสิ้นเสียง ทหารยามกลุ่มหนึ่งกระโจนเข้ามาหาเขา

ภายใต้กระบองที่อาบไปด้วยเลือด เขากลายเป็นมนุษย์เลือด กลับยังคงพยายามเข้าใกล้นาง “เสิ่นอวี้…”

เสิ่นอวี้รู้สึกว่าหัวใจตนเองแตกสลายแล้ว แนวป้องกันทางจิตใจพังทลายอย่างสมบูรณ์ กล่าวอ้อนวอนทั้งน้ำตา “ซ่งหว่านฉิ่ง อย่านะ ขอร้องอย่าตีเขาเลย ขอร้อง!”

“อวี้เออร์!”

ชายที่อยู่ข้างหน้าตะลึงงัน เสียงกำลังสั่น

ราวกับคิดไม่ถึงว่าเสิ่นอวี้จะขอความเมตตาแทนเขา ดวงตาที่บอดไปแล้วหันไปทางนาง ทหารยามถีบไปที่ใบหน้าของเขา!

“อย่านะ!”

เสิ่นอวี้พังทลาย กระแทกคุกเหล็กอย่างบ้าคลั่ง

กระบองสุดท้ายของทหารยามตีลงบนศีรษะของเขา เขาล้มลงทั้งใบหน้าอาบไปด้วยเลือด กล่าวเสียงแหบไปทางทิศทางของนาง “อวี้เอ๋อร์ อย่าร้องไห้…”

พูดจบก็ฝืนไม่ไหวอีกแล้ว ล้มกระแทกพื้นอย่างแรง!

“อ่าๆๆ!” เสิ่นอวี้เจ็บปวดทะลุไปถึงหัวใจ พุ่งไปข้างหน้าโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น “ซ่งหว่านฉิ่งข้าจะฆ่าเจ้า”

ประตูเหล็กหนาถูกชนจนเปิดออก

“คุ้มกัน!”

ตามมาด้วยเสียงตะคอก ประกายดาบแลบผ่าน!

เสิ่นอวี้รู้สึกว่าศีรษะของตนเองหลุดออกจากร่างกาย ลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ

มองจ้านอวิ๋นเซียวจากมุมนี้ ร่างกายของเขาสูงเช่นนั้น ไหล่กว้างและแข็งแรงเช่นนั้น และมีความรู้สึกปลอดภัย…ผู้ชายที่มั่นคงซื่อตรงไม่ยกยอประจบสอพลอใครเช่นนี้ กลับถูกนางทำร้ายจนกลายเป็นสภาพเช่นนี้!

นางอยากเกิดใหม่มากเพียงใด

หากเกิดใหม่อีกครั้ง นางจะไม่ทำผิดต่อความรักของเขาแน่นอน จะให้พวกคนที่วางแผนทำร้ายนาง วางแผนทำร้ายญาติมิตรสหายของนาง เลือดชดใช้ด้วยเลือด!

Bab terkait

Bab terbaru

DMCA.com Protection Status