เมื่อมองดูเวนดี้ที่เดินหนีไป ดวงตาของแจสเปอร์ก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ช่วงเวลาที่น่าอัศจรรย์ที่สุดระหว่างชายและหญิง คือช่วงเวลาที่ไม่ชัดเจนและคลุมเครือ แจสเปอร์ถือว่าเวนดี้เป็นคนรักของเขาอยู่แล้ว และเวนดี้ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ไม่มีทางที่ความสัมพันธ์นี้จะพบกับชะตากรรมเหมือนกับในชีวิตก่อนหน้าของเขา เวนดี้ไม่ได้ปรากฏตัวอีกครั้งต่อหน้าแจสเปอร์ จนกระทั่งอาหารค่ำ แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังไม่กล้ามองหน้าเขา มันเป็นความเขินอายที่คล้ายกับดอกบัวที่พลิ้วไสวในสายลมเย็น ที่ทำให้เวนดี้ดูมีเสน่ห์เป็นพิเศษ ขณะที่ทั้งสองพูดคุยและหัวเราะกันที่โต๊ะอาหารค่ำ คนรับใช้ก็ขัดจังหวะพวกเขาด้วยแขกที่มาเยี่ยม ข้อความเพิ่งมาถึงในเวลาประตูวิลล่าก็ถูกผลักเปิดพอดี และคู่สามีภรรยาที่ส่งเสียงดังก็เดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นของวิลล่า “เธอกลับมาแล้วเหรอ เวนดี้?” ผู้หญิงที่แต่งตัวดีและสวมเครื่องประดับเยอะแยะไปหมดถามด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นเวนดี้อยู่ในห้องอาหาร เวนดี้ตอบอย่างสุภาพว่า “ฉันเพิ่งกลับมาวันนี้เองค่ะ ลุงแซ็ค ป้าลูน่า คุณมาหาพ่อเหรอคะ?” เมื่อได้ยินดังนั้น ลูน่าและแซ็คก็มองหน้ากันก่อนจะถามในท
”ดะ ดอว์สัน คุณกลับมาแล้ว” ความไม่สบายใจผุดขึ้นในหัวใจของลูน่าและแซ็คเมื่อเห็นดอว์สัน ท้ายที่สุดแล้ว ที่ทั้งคู่สุขสบายดีมาถึงทุกวันนี้ ก็เป็นเพราะดอว์สันทั้งนั้น “ทำไมฉันถึงจะไม่กลับมาล่ะ เธอมาที่นี่เพื่อมาหาฉันไม่ใช่เหรอ” ดอว์สันพูดอย่างโกรธเคือง เขาเข้าใจดีว่าคนนอกต้องการสร้างปัญหาให้เขาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวในตอนนี้ เพราะมีปัญหาเล็ก ๆ เกิดขึ้นกับกลุ่ม ยังคิดว่าเป็นครอบครัวของเขาเอง แซ็คและลูน่า จะเป็นคนแรกที่มาเคาะประตูบ้านเพื่อเงิน ไม่มีทางที่ดอว์สันจะไม่โกรธ การกระทำของพวกเขาทำให้หัวใจของเขาเย็นชา การแสดงออกของลูน่าเปลี่ยนไประหว่างความมืดมนและสดใสขณะที่เธอกัดกรามของเธอ “เราแค่ต้องการค้ำจุนครอบครัวของเรา ดอว์สัน คุณช่วยจ่ายเครดิตก่อนได้ไหม...” ดอว์สันโยนเช็คมาตรงหน้าของลูน่า ขัดจังหวะเธอ “นี่ 1,130,000! แล้วออกไปซะ!” ลูน่าหยิบเช็คขึ้นมากับเงินในมือ เธอพบว่าไม่จำเป็นต้องระงับสิ่งที่เธอต้องการจะพูด เธอขมวดคิ้วด้วยความโมโห “นี่คุณคิดผิดแล้ว ดอว์สัน ไม่ว่าจะคิดยังไง เราก็ยังเป็นพี่ชายและพี่สะใภ้ของคุณ สีหน้าสมเพชนั่นมันอะไรกัน? “เราขายสินค้าให้เธอและเ
“ความรักของพ่อมันเป็นแบบนั้น มีความหนักแน่นและยิ่งใหญ่!” แจสเปอร์ปลอบเวนดี้โดยพูดว่า “ทุกอย่างจะดีขึ้นหลังจากนี้” “พรุ่งนี้เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย...ใช่ไหม?” เวนดี้จ้องแจสเปอร์ด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว แจสเปอร์พยักหน้า “พรุ่งนี้จะกำหนดว่าเราจะชนะหรือแพ้ ไม่ว่าชีวิตหรือความตายรอเราอยู่” “อย่างไรก็ตาม เราจะชนะ ใช่ไหม?” เวนดี้ถามอย่างจริงจัง แจสเปอร์ยิ้ม “ใช่” เวนดี้โล่งใจอย่างมากกับคำตอบนั้นและยิ้มออกมา “มาเถอะ ฉันจะพาคุณไปที่ห้องของคุณ” เช้าวันรุ่งขึ้นหลังอาหารเช้า ดอว์สันเคลียร์ตารางงานสำหรับวันนั้นและนั่งข้างเวนดี้ข้างหลังแจสเปอร์ “การโอนทรัพย์สินของพวกเขาหยุดชะงัก เนื่องจากเราหาข้อมูลได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการต่อสู้แย่งชิงหุ้นมา หากเราแพ้ที่นี่ มันก็จะจบลงสำหรับชูเลอร์กรุ๊ป แต่ถ้าเราจัดการเพื่อเอาชนะได้ จากนี้ไปก็จะราบรื่น” ดอว์สันตบไหล่แจสเปอร์และทำให้เขามั่นใจ “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป” เมื่อเห็นว่ายังมีเวลาอีกสิบนาทีก่อนที่ตลาดจะเปิด แจสเปอร์ก็พยักหน้า สายตาของเขานิ่งสงบ ในเวลาเดียวกันในคฤหาสน์ เซย์เดนกำลังค
“ปลางับเหยื่อแล้ว ตอนนี้ได้เวลากระตุกเบ็ด เซย์เดนจะได้เจอความสูญเสียครั้งใหญ่ในครั้งนี้” แจสเปอร์พูดอย่างเฉยเมยขณะจ้องไปที่หน้าจอ ข้าง ๆ เขา เวนดี้จ้องไปที่ลักษณะท่าทางด้านข้างของแจสเปอร์อย่างหลงใหล ว่ากันว่าชายคนหนึ่งดูดีที่สุดเมื่อจดจ่อในการทำงาน ในขณะนั้นในสายตาของเวนดี้ แจสเปอร์ช่างเปล่งประกาย... ในเวลาเพียงสองวัน หุ้นในบัญชีของแจสเปอร์เอง รวมทั้งบัญชีย่อยของดอว์สันและเวนดี้ก็มีจำนวนมากมายมหาศาล ควบคู่ไปกับวิธีที่เขาทำให้เซย์เดนติดกับดักเมื่อวานนี้และดึงราคาหุ้นถึงขีดจำกัดอีกครั้งในตอนนี้ กับดักของแจสเปอร์ก็ถูกวางเอาไว้แล้ว ทั้งหมดที่เขาเหลือให้ทำคือ สร้างภาพลวงตาให้เซย์เดนว่าเขามาที่นี่เพื่อต่อสู้จนตาย เขาต้องการหุ้นทั้งหมดของอสังหาริมทรัพย์มังกรสวรรค์ หากเป็นกรณีนี้ เขาจะกลายเป็นตัวแทนจำหน่ายหุ้นของอสังหาริมทรัพย์มังกรสวรรค์และเซย์เดนจะสูญเสียอำนาจเด็ดขาดทั้งหมด นั่นคือเหตุผลที่เซย์เดนไม่สามารถยอมแพ้ได้ มันกลับกลายเป็นเหมือนที่แจสเปอร์คาดไว้ เซย์เดนทุ่มสุดตัวเพียงเพื่อจะหมุนเวียนหุ้นก่อนที่แจสเปอร์จะทำได้ แจสเปอร์ก็เปิดเผยเขี้ยวที่ร้ายกาจของเขา ใ
ในขณะที่แจสเปอร์ได้เอาเงินทั้งหมดของเซย์เดนไป โดยที่แจสเปอร์ไม่ได้ดูแลตลาด หุ้นของอสังหาริมทรัพย์มังกรสวรรค์ก็พังทลาย มันเป็นการดิ่งลง ลืมเรื่องนักลงทุนรายย่อยไปได้เลย แต่แม้แต่เหล่าองค์กรทั้งหลายเองก็ยังตกตะลึง ไม่มีใครรู้ว่าอสังหาริมทรัพย์มังกรสวรรค์ไปล่วงเกินเหล่านักลงทุนแบบไหน จนทำให้พวกเขาพังตลาดแบบนี้ “คุณได้เงินมาเท่าไหร่?” เวนดี้เอนตัวลง เส้นผมบางส่วนลูบไล้ไปที่ปลายจมูกของแจสเปอร์ และนำกลิ่นหอมอันละเอียดอ่อนของหญิงสาวมาด้วย เวนดี้ไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น เพราะเธอสนใจแค่เบื้องหลังการทำงานของแจสเปอร์เท่านั้น “เมื่อหักค่าใช้จ่ายทางธุรการแล้ว ก็รวมเป็นเงิน 4,578,888,542.85 ดอลลาร์” “ผมเริ่มต้นด้วยเงินทุนสามพันล้านและจบลงด้วยเงินประมาณ 4,570,000,000 ในบัญชีของผม พูดได้อย่างสบายใจเลยว่า เซย์เดนแห้งกรอบแน่นอน” แจสเปอร์ส่งเงิน 600 ล้านไปที่บัญชีของดอว์สัน ก่อนที่จะโอนเงินที่เหลือกลับเข้าบัญชีของเขาเอง เมื่อนับรายรับของเขาในรอบนี้ เขามีรายได้เกือบ 900 ล้านหลังจากไม่รวม 600 ล้านที่เป็นของดอว์สัน “คุณพระช่วย!” ถึงแม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอดูแจสเปอร์ทำเงิน แต่
เสียงตะคอกของซิลวาทำให้เหงื่อไหลท่วมหน้าผากของเซย์เดน “คนที่มีความสามารถขนาดนี้ มันจะต้องเก่งมากแน่ ๆ พ่อ ผมจะหามันให้เจอ!” เซย์เดนตอบอย่างมุ่งมั่น ซิลวาเย้ยหยัน “ครอบครัวเราต้องสูญเสียเงินไปพันล้านดอลลาร์ ด้วยเหตุนี้ต่อให้แกไม่พูดถึง เราก็ไม่มีทางที่จะให้อภัยมันได้ ช่วงนี้ก็อย่าทำอะไรให้มันโฉ่งฉ่างนัก ไปอยู่ต่างจังหวัดแล้วพักผ่อนซะ” “ดอว์สันไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ง่ายเลย ครอบครัวเราจะต้องเตรียมรับมือกับการแก้แค้นของเขา แกเข้าใจสิ่งที่ฉันพยายามจะบอกแกไหม” เซย์เดนปฏิเสธที่จะเชื่อในสิ่งที่ซิลวาพูดเป็นนัย ๆ “บางทีเขาอาจจะไม่ได้คิดที่จะโจมตีผมก็ได้นะ” “แกคิดว่าดอว์สันสามารถสร้างชื่อให้กับตัวเองท่ามกลางผู้คนที่โดดเด่นมากมายขนาดนั้น และได้ตำแหน่งเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในจังหวัดมานานขนาดนี้ได้ยังไงล่ะ? ฉันจะบอกแกให้นะ ทุกสิ่งที่แกรู้เกี่ยวกับดอว์สัน ชูเลอร์ แกจะรู้ เท่าที่ผู้ชายคนนั้นอยากให้แกรู้เท่านั้น” เขาไม่พูดต่อให้เปลืองน้ำลายอีก ซิลวาตัดสายของเซย์เดน สีหน้าของเซย์เดนดูน่ากลัวและชั่วร้าย หากแผนของเขาสำเร็จ ในตอนนนั้น ชูเลอร์กรุ๊ปจะตกเป็นจองเขาอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้...
นั่นอธิบายได้ว่าทำไมถึงแม้จะอยู่ในตัวจังหวัด แต่โชว์รูมของเบนท์ลีย์ก็แทบจะไม่มีคน การมาถึงของแจสเปอร์และเวนดี้ได้รับความสนใจจากพนักงานขายสองสามคน แต่พวกเขาตัดสินใจปล่อยพวกเขาไว้ตามลำพัง เมื่อรู้ว่าทั้งสองเป็นเพียงวัยรุ่น ท้ายที่สุดแล้ว แค่เชฟโรเลตธรรมดาก็แทบจะไม่มีใครสามารถซื้อได้ นับประสาอะไรกับเบนท์ลีย์ที่มีราคาสูงกว่าล้านดอลลาร์ แจสเปอร์ไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะเขาเห็นเบนท์ลีย์ มัลซานที่เขาโหยหามาเป็นเวลานาน ในขณะที่เขาเดินผ่านประตู สิ่งหนึ่งที่ดีกว่าของแบรนด์อย่างเบนท์ลีย์และโรลส์รอยซ์คือการออกแบบที่คลาสสิกของพวกเขา นั่นคือเหตุผลที่เบนท์ลีย์ไม่ได้ดูแตกต่างจากเมื่อ 20 ปีก่อนมากนัก ตั้งแต่ไฟหน้าทรงกระบอกสุดคลาสสิกที่ไร้กาลเวลา ไปจนถึงกระจังหน้าไอดีอันทรงพลัง ไปจนถึงโลโก้ Bentley และสองปีกที่แสดงถึงเกียรติยศและความมั่งคั่ง นี่คือการออกแบบแบรนด์อันเป็นสัญลักษณ์ที่ผู้ชายทุกคนจะไม่มีวันลืม “คุณสองคนสนใจที่จะซื้อมัลซานคันนี้ไหมคะ ดิฉันสามารถแนะนำให้คุณเพิ่มเติมเกี่ยวกับพวกนี้ได้นะคะ” เสียงที่ขี้อายดังขึ้นจากข้าง ๆ แจสเปอร์หันหน้าไปและเห็นว่าเป็นเด็กผู้หญิงในชุดเครื
ถัดจากพวกเขา เวนดี้ขมวดคิ้วกับทัศนคติและการเลือกใช้คำพูดของพนักงานขาย "บริการของคุณไม่ย่ำแย่ไปหน่อยเหรอ? คุณจะทำงานขายด้วยทัศนคติแบบนี้ได้ยังไง?” “โอ้ว” พนักงานขายมองหน้าเวนดี้และเย้ยหยัน “คุณไม่รู้เหรอว่าคุณอยู่ที่ไหน นี่คือโชว์รูมของเบนท์ลีย์! รถทุกคันที่นี่มีราคาเป็นล้านเหรียญ!” “ต้องยอมรับว่าคุณมีรสนิยมที่ดีนะ ตั้งแต่คุณเดินเข้ามาคุณมุ่งไปที่มัลซาน ดูจากสารรูปของคุณแล้ว คุณไม่น่ามีปัญญาซื้อได้ไม่ว่าจะมองยังไง แล้วทำไมเราต้องสุภาพกับคุณด้วย?” “รู้ได้ไงว่าเราไม่มีปัญญาซื้อ?” เวนดี้หงุดหงิด พนักงานขายหัวเราะคิกคัก เธอพูดเล่น ๆ ว่า “ฉันจะกลืนผ้าเช็ดตัวผืนนี้ซะ ถ้าคุณมีปัญญาซื้อ ดีไหมล่ะ?” จากนั้น พนักงานขายก็โบกมือไล่พวกเขาอย่างฉุนเฉียว “พอแล้ว คุณได้เห็นมันแล้ว ดังนั้นอย่ายืนอยู่ให้รำคาญลูกหูลูกตาเลย ถามจริงเถอะ พวกคุณกล้าเข้ามาในนี้ด้วยสารรูปแบบนี้ได้ยังไง?” เมื่อเธอพูดจบแจสเปอร์ก็ยื่นบัตรเครดิตธนาคารให้ซีน่า “เขียนสัญญาและรูดบัตรนี้ครับ ผมจะจ่ายเต็มจำนวน” แจสเปอร์ชี้ไปที่รถเบนท์ลีย์ มัลซาน “ผมเอามัลซานคันนี้ครับ” ด้วยเหตุนี้ แจสเปอร์จึงมองไปที่พนักงานขายที