Share

บทที่ 16 ถูกผีเข้าสิง

“เธอดูเอาเอง!”

ฮั่วเยี่ยนฉือโยนโทรศัพท์ให้เธอ

เฉียวสือเนี่ยนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา บนหน้าจอฉายวิดิโอจากกล้องวงจรปิด

สถานที่ดูเหมือนจะเป็นโรงรถ มีผู้ชายสองคนสวมหมวกและหน้ากากอนามัย ด้อม ๆ มอง ๆ อย่างน่าสงสัยอยู่ที่มุมตึก

ไม่นาน ป๋ายอีอีที่สวมชุดสูทก็มาถึงลานจอดรถ

หลังกดล็อครถ ผู้ชายสองคนนั้นก็พุ่งเข้าหาเธออย่างรวดเร็ว

คนหนึ่งปิดปาก อีกคนหนึ่งเปิดประตู ลากป๋ายอีอีเข้าไปในรถ และขับออกไปอย่างรวดเร็ว!

“คุณป๋ายถูกพาไปที่ไหน ตอนนี้หาเจอหรือยังคะ?”

เฉียวสือเนี่ยนใบหน้าดูจริงจัง ฮั่วเยี่ยนฉือจึงอดกลั้นไว้ และเอ่ย “หลังจากพวกเขาจับป๋ายอีอีขึ้นรถ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ในห้องกล้องวงจรปิด ก็พบว่ามีความผิดปกติ จึงสกัดกั้นเอาไว้ได้ทัน”

เฉียวสือเนี่ยนหัวเราะเยาะ “น่าสนใจจริง ๆ ชายสองคนไปจับตัวเธออย่างนั้น แต่กลับเลือกสถานที่ที่มีกล้องวงจรปิด เพื่อรอให้คนพบเห็น”

“เฉียวสือเนี่ยน ท่าทางแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?”

ฮั่วเยี่ยนฉือโมโหจัด “ช่วงที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยช่วยป๋ายอีอีออกมาจากรถ มีเทปปิดที่ปากของเธอ แขนทั้งสองข้างก็ถูกมัดไว้ หากไม่พบทันเวลา อาจเกิดเรื่องไม่คาดฝันตามมาก็ได้!”

ขณะที่เอ่ย ฮั่วเยี่ยนฉือก็โยนรูปภาพหลายใบออกมา

“ชายสองคนที่ก่อคดีรับสารภาพ บอกว่ามีผู้หญิงให้เงินก้อนหนึ่งพร้อมรูปภาพ สั่งให้พวกเขาทำ”

“ระหว่างทางที่คุณไปบ้านคุณตา คนขับรถได้แวะที่ปั๊มน้ำมัน และคุณเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ ผู้ชายสองคนนี้ก็ปรากฏตัวอยู่ที่นั่นด้วย จะเป็นเรื่องบังเอิญขนาดนั้นเลยเหรอ?”

ในรูปภาพมีคนสองคนที่สวมหมวก และรูปร่างคล้ายกับผู้ชายในกล้องวงจรปิด ปรากฎอยู่ในร้านสะดวกซื้อที่เดียวกันกับเธอจริง ๆ

เพราะเฉียวสือเนี่ยนไม่ได้รับประทานอาหารเช้า จึงเข้าไปซื้ออะไรมารองท้อง และไม่ได้สังเกตเลยว่ามีใครอยู่รอบตัวบ้าง

และยิ่งไม่รู้ด้วยว่า ป๋ายอีอีจะใช้แผนทำร้ายตัวเองนี้ ใส่ร้ายเธอ

“ไม่นับเรื่องตอนเช้าที่เธอทำให้ป๋ายอีอีอับอาย ตอนกลางวันยังวางแผนให้คนไปจับตัวเธออีก ไม่คิดว่าควรจะมีคำอธิบายหน่อยเหรอ?” ฮั่วเยี่ยนสือถามอย่างเยือกเย็น

เฉียวสือเนี่ยนคิดว่ามันไร้สาระมาก “ฉันดูดวงได้หรือมีความสามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าเหรอ? ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่ามีผู้ชายสองคนอยู่ที่นั่น แล้วให้พวกเขาจัดการป๋ายอีอี?”

“สองคนนั้นเป็นคนจรจัด เพื่อเงินแล้วสามารถทำได้ทุกอย่าง เธอจึงเกิดความคิดขึ้นมาในทันที มีปัญหาอะไรไหม?”

ตรรกะนี้ เฉียวสือเนี่ยนยอมเลยจริงๆ!

“งั้นคุณก็แจ้งความสิ และให้ตำรวจเขาจัดการ!”

“เธอรู้อยู่แล้วว่าป๋ายอีอีจะไม่ซักไซ้หาความรับผิดชอบ และปล่อยตัวไป ดังนั้นถึงได้บอกให้แจ้งตำรวจอย่างใจเย็นแบบนี้ใช่ไหมล่ะ?”

ใบหน้าหล่อเหลาของฮั่วเยี่ยนฉือเยื่อกเย็นและถมึงทึง “เฉียวสือเนี่ยน ปกติเธอจะเอาแต่ใจ หรือก่อเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ฉันทนได้หมด แต่ครั้งนี้เธอกล้าหัดที่จะลักพาตัว ไม่ว่าป๋ายอีอีจะซักไซ้หรือไม่ เธอก็ต้องไปขอโทษเขา!”

“ถ้าฉันไม่ไปล่ะ?” เฉียวสือเนี่ยนถาม

“ฉันก็แค่นำเรื่องทั้งหมดนี้ส่งให้คุณตา และให้ผู้อาวุโสท่านเป็นคนจัดการ”

“คุณมันเลว!” เฉียวสือเนี่ยนโมโห

ใบหน้าหล่อเหลาของฮั่วเยี่ยนฉือขรึมลงกว่าเดิม “งั้นเธอจะไปหรือว่าไม่ไป?”

“ไปก็ไป” เฉียวสือเนี่ยนยอมแพ้แล้ว

เธอไม่อาจปล่อยให้คุณตาเห็นสิ่งเหล่านี้ และเป็นกังวลแทนเธอได้

แถมเธอก็อยากจะเจอป๋ายอีอีสักครั้ง ดูสิว่าเธอมีเจตนาอะไรกันแน่

จากการนำทางของฮั่วเยี่ยนฉือ คนขับรถก็ขับมาถึงที่พักของป๋ายอีอี

อะพาร์ตเมนต์ในย่านหรูแห่งหนึ่ง ได้ยินมาว่านี่เป็นที่พักที่ ‘ฮั่ว กรุ๊ป’ จัดให้สำหรับผู้บริหารระดับสูง

เฉียวสือเนี่ยนเอ่ย “บอกฉันมาว่าชั้นไหน ห้องไหน ฉันเข้าไปเองก็ได้”

เมื่อเผชิญกับสายตาที่สงสัยของฮั่วเยี่ยนฉือ เฉียวสือเนี่ยนก็เอ่ยด้วยความโกรธ “ทำไม ฉันมาถึงที่นี่แล้ว คุณยังกลัวว่าฉันจะหนี และคิดจะจับตามองฉันไม่เลิกงั้นเหรอ?”

ฮั่วเยี่ยนฉือเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “แค่ขอโทษเท่านั้น เธออย่าเล่นลูกไม้อื่นอย่างเด็ดขาด”

เฉียวสือเนี่ยนส่งเสียงเย็นในลำคอ “ในเมื่อคุณไม่เชื่อฉันขนาดนั้น งั้นก็เปิดสายสนทนาเอาไว้ตลอดสิ!”

ฮั่วเยี่ยนฉือเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ แต่เฉียวสือเนี่ยนกำลังหัวเราะอยู่ในใจ

ที่เธออยากจะขึ้นไปคนเดียว ก็เพื่อให้ป๋ายอีอีคลายความระแวง เธอจะได้ใช้โอกาสนี้หลอกถาม

หรือไม่ก็กระตุ้นให้ป๋ายอีอีเผยความจริงออกมา

เดิมทีเธออยากจะอัดเสียงไว้ แต่ตอนนี้ฮั่วเยี่ยนฉือเห็นด้วยที่จะเปิดการโทรด้วยเสียง ยิ่งตัดความยุ่งยากออกไปอีก

เพื่อให้การขึ้นไปดูเป็นเรื่องเป็นราว เฉียวสือเนี่ยนจึงไปซื้อผลไม้จากร้านที่อยู่ชั้นล่างสักเล็กน้อย

เมื่อขึ้นไปและหาห้องของป๋ายอีอีเจอแล้ว เฉียวสือเนี่ยนก็พบว่าประตูไม่ได้ปิดแน่น

“ฉันยุ่งมาก ถ้าไม่มีธุระ ก็ไม่ต้องมาหาฉันที่นี่!” เสียงที่จริงจังมากกว่าปกติของป๋ายอีอีดังออกมา

เมื่อมองเข้าไปดู ภายในห้องก็มีผู้หญิงที่ด้านหลังดูแข็งแกร่งเล็กน้อยยืนอยู่ ในมือของเธอถือกล่องที่ไม่ระบุชื่อเหล่านั้นไว้ เหมือนอยากจะส่งให้ป๋ายอีอี

“สิ่งของพวกนั้นฉันไม่ต้องการ คุณเอากลับไปเถอะ” ป๋ายอีอีปฏิเสธอย่างสุภาพ

“อีอี ฉันก็จนปัญญาแล้วเหมือนกัน เธอช่วยป้าหน่อยเถอะ?”

ในตอนที่เฉียวสือเนี่ยนตั้งใจจะเคาะประตูและพูดว่า “ขอโทษนะ” ผู้หญิงคนนั้นก็เอ่ยปาก

เมื่อได้ยินเสียงนั้น หัวใจของเฉียวสือเนี่ยนกระตุกวูบ มือที่จะเคาะประตูก็หยุดค้าง

การส่งเสียง ทำให้ป๋ายอีอีและผู้หญิงคนนั้นหันมามองที่เธอ

เมื่อผู้หญิงหน้ากลมคนนั้น ปรากฏออกมาอยู่ตรงหน้าอย่างสมบูรณ์แล้ว ตัวของเฉียวสือเนี่ยนก็กลายเป็นแข็งทื่อ

เธอหายใจถี่ หนังศีรษะเริ่มชาเล็กน้อย ความหนาวเย็นที่กัดไปถึงกระดูกก็กำลังแพร่กระจายไปตามแขนขาของเธอ

“คุณผู้หญิงฮั่ว ทำไมคุณถึง...ว้าย!”

คำที่แปลกใจของป๋ายอีอียังพูดไม่จบ เฉียวสือเนี่ยนก็พุ่งเข้าไป หยิบผลไม้ที่อยู่ในมือเขวี้ยงใส่ศีรษะของเธออย่างแรง!

ในระหว่างที่ป๋ายอีอีกำลังกรีดร้องอยู่นั้น เฉียวสือเนี่ยนก็บีบคอของเธอไว้แน่นด้วยสายตาที่แดงก่ำ!

“อึก! สือเนี่ยน...”

ป๋ายอีอีถูกบีบคอจนแก้มแดง แขนขาต่อสู้อย่างสุดชีวิต แต่เฉียวสือเนี่ยนดูเหมือนจะเข้าสู่ภวังค์ความบ้าคลั่ง บีบเธอจนแน่นไม่ยอมปล่อย!

“เฉียวสือเนี่ยน เธอบ้าไปแล้ว กำลังทำอะไรน่ะ!”

ในตอนที่ป๋ายอีอีกำลังเหลือกตาจนเห็นตาขาวอยู่นั้น ก็มีมือใหญ่แยกเฉียวสือเนี่ยน และใช้แรงผลักเธอออกไป

เฉียวสือเนี่ยนถอยไปทางด้านหลัง และล้มลงไปกับพื้น

เธอไม่ได้รีบลุกขึ้น ไม่สนด้วยว่าคนที่เข้ามาจะเป็นใครด้วยเหมือนกัน

แต่กลับสั่นไปทั้งตัว และหัวเราะเสียงดังคล้ายกับถูกผีเข้าสิงขึ้นมา...
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Kung Yupanon
ไรท์จงเกลียดจงชังนอ.ของเรื่องอย่างเห็นได้ชัด เราเกลียดไรท์เหมือนกันค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status