หัวเราะอยู่ดี ๆ น้ำตาของเฉียวสือเนี่ยนก็ไหลออกมาฉากที่ถูกทุบตี ดุด่า และถูกทรมานในตอนที่ป่วยทางจิตเมื่อชาติก่อน วาบผ่านอยู่ตรงหน้าอย่างไม่ขาดสายพยาบาลรับจ้างที่ดูแลเธอดูเหมือนจะแข็งแกร่ง จนสามารถดึงผมและลากเธออกไปได้แล้วก็ยังสามารถคว่ำโจ๊กเพียงชามเดียวของเธอด้วยฝ่ามือเดียวแถมตอนที่เธอปฏิเสธจะกินยา ก็บีบปากของเธออย่างรุนแรง บังคับยัดยาเข้าไปในลำคอของเธอ...เฉียวสือเนี่ยนคิดมาตลอดว่าโรงพยาบาลจิตเวชตั้งใจให้พยาบาลรับจ้างทรมานเธอ เพื่อเอาใจฮั่วเยี่ยนฉือแต่เธอคิดไม่ถึงเลยว่า ผู้หญิงที่ราวกับปีศาจในชาติก่อนคนนั้น กลับกลายเป็นญาติของป๋ายอีอี!ดังนั้น เมื่อชาติก่อนตอนที่เธออยู่โรงพยาบาลจิตเวชอย่างน่าเวทนาเช่นนั้น จึงล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือของป๋ายอีอีเมื่อนึกถึงตัวเองได้รับการกระทำที่โหดร้าย และทุกข์ทรมานจากมะเร็งกระเพาะอาหารเหล่านั้น เฉียวสือเนี่ยน แทบอยากจะบีบคอป๋ายอีอีให้ตายในทันทีทำไมเธอถึงได้โหดเหี้ยมแบบนี้!เห็นได้ชัดว่าฮั่วเยี่ยนฉือรักเธอขนาดนั้นแล้วเห็นได้ชัดว่าเพื่อเธอแล้ว ฮั่วเยี่ยนฉือถึงกับส่งเธอเข้าโรงพยาบาลจิตเวชทำไมป๋ายอีอีถึงยังไม่ยอมปล่อยเธอไป และต้องใช้วิธีการ
เมื่อฮั่วเยี่ยนฉือเดินมาถึงชั้นล่าง ก็ไม่เห็นเฉียวสือเนี่ยนแล้ว“ท่านประธาน คุณผู้หญิงนั่งรถกลับไปแล้วครับ” คนขับรถแจ้งให้ทราบอย่างระมัดระวังฮั่วเยี่ยนฉือเม้มริมฝีปากล่าง จากนั้นก็ให้คนขับรถกลับไปที่วิลลาหลงเถิงเมื่อเห็นรองเท้าของเฉียวสือเนี่ยนอยู่ที่ประตู เขาก็เดินขึ้นชั้นสองไปห้องของเฉียวสือเนี่ยนปิดสนิท และภายในก็ไม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวใด ๆฮั่วเยี่ยนฉือหยุดลง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เคาะประตูวันถัดไป เมื่อฮั่วเยี่ยนฉือออกกำลังกายเสร็จ ก็เดินลงมาชั้นล่าง และป้าหวังก็ได้เตรียมมื้อเช้าไว้พร้อมแล้วเมื่อเขานั่งลงที่โต๊ะอาหาร ก็เหลือบมองไปที่ชั้นสอง “ไปเรียกเธอตื่นมารับประทานอาหารเช้าสิ”ป้าหวังตอบกลับตามระเบียบ “คุณผู้ชาย คุณผู้หญิงออกไปแล้วค่ะ”ออกไปแล้วเหรอ?เมื่อวานเขาตั้งใจจะให้เวลาเฉียวสือเนี่ยนใจเย็นลง และคิดจะรอจนถึงเช้าค่อยถามเธอว่าเป็นอย่างไรบ้างสุดท้ายตอนเช้าตรู่แบบนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะออกไปแล้ว?“เธอไปไหน?”ป้าหวังส่ายหน้า “ดิฉันก็ไม่ทราบค่ะ คุณผู้หญิงไม่ได้บอกไว้”“แม้แต่อาหารเช้าคุณผู้หญิงก็ไม่ได้รับประทาน ดูเหมือนจะมีเรื่องสำคัญต้องไปทำนะคะ” ป้าหวังเอ
โม่ซิวหย่วนจงใจทำตัวลีลา “ถ้าไม่มีเหตุผลที่เหมาะสม เกรงว่าคุณคงไม่มีทางโน้มน้าวผมได้”ผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยเจอกันเพียงครั้งเดียว จู่ ๆ ก็มาหาเพื่อขอร่วมงานกับเขา แถมผู้หญิงคนนี้ยังเป็นภรรยาของคู่ต่อสู้อีก เป็นใครก็ไม่มีทางเชื่อเฉียวสือเนี่ยนเข้าใจเป็นอย่างดี เธอหัวเราะ “ถ้าฉันจะบอกว่า พวกเรามีเป้าหมายเดียวกันล่ะคะ”“โอ้? เป้าหมายของเธอก็คือการโค่นล้มฮั่วเยี่ยนฉือเหมือนกันเหรอ?” โม่ซิวหย่วนเริ่มสนใจอีกครั้ง“กิจการอื่นของฮั่วเยี่ยนฉือฉันไม่กล้ารับประกัน แต่ธนาคารเพื่อการลงทุนป๋อโจว ฉันจะต้องทำลายมันไม่ให้เหลือซากให้ได้!”ธนาคารเพื่อการลงทุนป๋อโจวที่รับผิดชอบโดยป๋ายอีอีการเผชิญเคราะห์ร้ายที่โรงพยาบาลจิตเวชในชาติก่อนทำให้เฉียวสือเนี่ยนรู้ดีว่า ถ้าเธอไม่สู้กับป๋ายอีอี ป๋ายอีอีก็คงไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เธอก็จะคิดบัญชีกับเธอให้เต็มที่ และเอาคืนสิ่งที่ตัวเองประสบทั้งหมดในชาติก่อน!“ฉันได้ยินมาว่าคุณผู้หญิงฮั่วรักประธานฮั่วเท่าชีวิต ตามจีบอย่างยากลำบากอยู่หลายปี ถึงจะได้แต่งงาน ทำไมจู่ ๆ ถึงอยากจะจัดการเขา และกลายเป็นศัตรูกันล่ะ?” โม่ซิวหย่วนถามรอยยิ้มบนใบหน้าของเ
เฉียวสือเนี่ยนเปิดอีเมล ในนั้นยังมีการตอบกลับจากบริษัทที่เธอส่งเรซูเม่ไปก่อนหน้านี้ช่วงที่อยู่มหาวิทยาลัย เธอสอบจนได้รับใบรับรองคุณวุฒิวิชาชีพทางการเงินและการลงทุนที่มีคุณภาพสูงที่สุด ดังนั้นบริษัทด้านการลงทุนต่างก็สนใจในตัวเธอมากมีสองบริษัทที่เชิญเธอไปสัมภาษณ์ และอันที่จริงยังมีอีกสองบริษัทที่ยื่นข้อเสนอทำงานให้เธอ เพียงแต่เธอไม่มีประสบการณ์ เงินเดือนจึงต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนคนอื่น ๆ เฉียวสือเนี่ยนส่งจดหมายขอบคุณสั้น ๆ ไปให้บริษัทเหล่านั้นก่อนหน้านี้เธออยากทำงานเพื่อรื้อฟื้นความเป็นมืออาชีพของตัวเอง แต่ตอนนี้เธอตัดสินใจจะร่วมงานกับโม่ซิวหย่วนแล้ว จึงไปบริษัทอื่นไม่ได้เมื่อตอบกลับอีเมลเสร็จ เฉียวสือเนี่ยนก็เปิดดูข้อมูลของหมิงเหมาหมิงเหมาเป็นโรงงานสุราขาวที่พัฒนาได้อย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีแบนเนอร์เป็นสโลแกนคือ ประวัติอันยาวนานและมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ จึงทำให้มันมีชื่อเสียงอย่างมากเฉียวสือเนี่ยนจำได้ว่าชาติก่อน หลังจากหมิงเหมาออกสู่ตลาดแหล่งเงินทุนในรอบพีอี มูลค่าการตลาดก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ธนาคารเพื่อการลงทุนป๋อโจวข
ฮั่วเยี่ยนฉือยังคงคิดว่า ที่เธอพูดเรื่องหย่าขึ้นมาก็เพราะโกรธเรื่องวันนั้นเฉียวสือเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกไป แม้ว่ามันจะไม่จำเป็นก็ตาม“ในเมื่อคุณรู้ว่าวันนั้นเป็นวันครบรอบห้าปีที่พวกเรารู้จักกัน ทั้งยังรู้อยู่แก่ใจว่าฉันให้ความสำคัญมากแค่ไหน แล้วทำไมคุณยังไปทานข้าวกับป๋ายอีอีอีก?”ฮั่วเยี่ยนฉือมีสีหน้าเย็นชา “สำหรับฉัน มันไม่ต่างอะไรกับวันธรรมดา”นั่นสินะ แถมเขาก็ไม่ได้รักเธอด้วย จะรู้จักมักจี่กันมากี่ปีล้วนไม่มีความจำเป็นให้ระลึกถึงทั้งหมดนี้มีแค่เธอที่คาดหวังไปฝ่ายเดียว“เมื่อก่อนฉันไปเอาความมั่นใจมาจากไหนนะ ถึงได้คิดว่าจะมีสักวันที่คุณหันมาสนใจฉัน”เฉียวสือเนี่ยนแค่นหัวเราะกับตัวเองฮั่วเยี่ยนฉือได้ยินไม่ชัด ลูกตาดำขลับจึงเหลือบมองไปที่เธอสีหน้าของเฉียวสือเนี่ยนกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง “ฉันไม่ได้จะหาเรื่องอะไรมาทะเลาะกับคุณ แต่เรื่องหย่าน่ะ ฉันจริงจัง”ยังจะพูดเรื่องหย่าขึ้นมาอีก!ฮั่วเยี่ยนฉือใบหน้าเขียวคล้ำ “เฉียวสือเนี่ยน เรื่องแต่งงานนี่ เธอคิดว่าอยากจะแต่งก็แต่ง อยากจะหย่าก็หย่าอย่างนั้นหรือไง?”เฉียวสือเนี่ยนรู้สึกตลกเหลือเกิน “ทำไมล่ะ หรือว่าคุณไม่ได้อยากจะ
เมื่อก่อนเฉียวสือเนี่ยนก็เคยมาช้อปปิ้งของบ้าง แต่ไม่เคยซื้อของขาดสติแบบนี้คงไม่ได้มีอะไรมากระทบกระเทือนจิตใจหรอกใช่ไหม?เฉียวสือเนี่ยนแย้มยิ้มพร้อมเอ่ยถามกลับ “เธอเห็นฉันเหมือนคนมีเรื่องอะไรไหมล่ะ?”ฟู่เถียนเถียนพยักหน้า “เหมือนสุด ๆ ”“......” เฉียวสือเนี่ยนตบบ่าฟูเถียนเถียน “วางใจได้ ฉันบายดี ฉันรู้ดีน่า ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่”ไม่ง่ายเลยกว่าจะมาถึงบริเวณเสื้อผ้าผู้ชาย ทว่าเฉียวสือเนี่ยนกลับมีของเต็มไม้เต็มมือไปหมดฟู่เถียนเถียนเลือกเนคไทด้วยความจริงจัง “เนี่ยนเนี่ยน เธออยากเลือกของให้ฮั่วเยี่ยนฉือบ้างไหม?”เฉียวสือเนี่ยนกล่าวปฏิเสธ “ไม่ล่ะ เขาไม่สมควรได้”ฟู่เถียนเถียน “......” ยังจะมาพูดว่าไม่มีอะไรอีก“คุณทำชุดเลอะได้อย่างไร ตอนเช่าก็คุยกันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่เหรอว่า ห้ามทำเลอะน่ะครับ!”ขณะนี้ เสียงต่อว่าจู่ ๆ ก็ดังลั่นมาจากทางร้านชุดพิธีการสำหรับคุณผู้ชายฝั่งตรงข้ามเฉียวสือเนี่ยนหันไปมอง ปรากฏว่ามีผู้ชายหน้าตาหล่อเหลา ตัวสูงเพรียว ท่าทางดูอ่อนเยาว์คนหนึ่งกำลังกล่าวขอโทษขอโพยพนักงานประจำร้านอยู่“ขอโทษจริง ๆ ครับ พอดีว่าเกิดอุบัติเหตุที่งานเล็กน้อย คุณลองดูว่าพอจะส่
อยู่ ๆ โจวเทียนเฉิงก็นึกเสียใจขึ้นมาเมื่อคืนบอสอยู่ทำงานจนถึงเช้า แถมวันนี้ก็ยังหน้าบึ้งทั้งวัน ชัดเจนเลยว่าอารมณ์ไม่ดีถ้าพูดเรื่องเฉียวสือเนี่ยนขึ้นมาอีก มันจะกลายเป็นความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรกหรือเปล่าหนอ?“มีเรื่องอะไรก็รีบเข้ามาพูด!” ฮั่วเยี่ยนฉือหงุดหงิดเต็มประดาโจวเทียนเฉิงจึงทำได้เพียงเดินมาตรงหน้าบอส แล้วค่อย ๆ เปิดบรรดาข้อความให้ดูอย่างระมัดระวังฮั่วเยี่ยนฉือปราดตามองหน้าจอโทรศัพท์แวบหนึ่งในนั้นล้วนมีแต่ข้อความค่าใช้จ่ายจากห้างทั้งนั้นที่ก้อนใหญ่หน่อยก็เป็นห้าสิบล้านขึ้นไป ก้อนเล็กหน่อยก็ประมาณห้าหมื่นถึงห้าแสน ค่าใช้จ่ายพวกนี้ล้วนมาจากพวกร้านเครื่องประดับกับร้านเสื้อผ้า หมวก รองเท้า ที่พวกผู้หญิงชมชอบกัน“ติ๊ง” เสียงข้อความเข้าดังขึ้นมาพอดิบพอดี‘ร้านเสื้อผ้าคุณสุภาพบุรุษ XX ขอขอบพระคุณท่านที่ได้ใช้บริการ ใบเสร็จของท่านในครั้งนี้ราคา 1.44 ล้านบาท หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะกลับมาใช้บริการใหม่ในครั้งหน้า’โจวเทียนเฉิงอาจจะตาฝาดไปเอง เพราะพออ่านข้อความนี้แล้ว ดูเหมือนว่าคิ้วของบอสจะคลายตัวลงมานิดหน่อย?แม้ว่าเสื้อผ้าราคาระดับนี้จะไม่เคยมีอยู่ในตู้เสื้อผ
ขณะที่เฉียวสือเนี่ยนกำลังสู้รบกับล้อรถอยู่นั้น เสียงของฮั่วเยี่ยนฉือก็ดังอยู่ข้างหูทันทีที่เงยหน้า เขาก็เดินมาถึงข้างรถแล้วแม้ว่าเฉียวสือเนี่ยนจะรู้สึกเสียหน้าอยู่บ้าง แต่เธอไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดที่จะมาไม่พอใจเพราะเรื่องแบบนี้เธอเบะปากเล็กน้อย ก่อนที่จะปลดเข็มขัดนิรภัย แล้วออกมาจากที่นั่งคนขับฮั่วเยี่ยนฉือขึ้นไปนั่งแทนที่ หมุนพวงมาลัยด้วยท่าทีสุขุม จากนั้นก็เหยียบคันเร่งถอยรถ และล้อรถด้านขวาก็ขึ้นมาจากหลุมได้จริง ๆ !ไม่นานนัก ฮั่วเยี่ยนฉือก็ลงมาจากที่นั่งคนขับอย่างคล่องแคล่ว “ไปขับต่อสิ”เฉียวสือเนี่ยนเบะปากอีกครั้ง แล้วขึ้นไปนั่งบนที่นั่งคนขับเพิ่งจะคาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จ คิดไม่ถึงเลยว่า ฮั่วเยี่ยนฉือก็ขึ้นมานั่งที่นั่งข้างคนขับด้วย!“คุณขึ้นมานั่งทำไม?” เฉียวสือเนี่ยนขมวดคิ้วลูกตาดำขลับของฮั่วเยี่ยนฉือปรายตามองเธอแวบหนึ่ง เขาไม่ตอบ ทว่าถามกลับ “ทำไมถึงทำผมทรงนี้ล่ะ?”เฉียวสือเนี่ยนมองผมม้วนเป็นลอนยาวประบ่าที่ตัวเองเพิ่งไปทำมาผ่านกระจกมองหลัง “นี่มันผมของฉัน จะทำทรงไหนก็เรื่องของฉัน เกี่ยวอะไรกับคุณด้วยไม่ทราบ!”ใบหน้าหล่อเหลาของฮั่วเยี่ยนฉือเขียวคล้ำขึ้นมาเล็กน้อย“ค