ฮั่วเยี่ยนฉือคนลามกไม่คิดเลยว่าในสถานที่ที่มีผู้คนมากมายขนาดนี้ อวัยวะบางส่วนของเขาจะเกิดการเปลี่ยนแปลง!และมันกำลังดุนดันอยู่ที่เอวของเธอ ทำให้ใบหน้าของเฉียวสือเนี่ยนแดงแจ๋อย่างควบคุมไม่ได้ทั้งสองกอดกันเป็นก้อนอยู่อย่างนั้น ในสระน้ำด้านล่างมีคนไม่น้อยที่กำลังมองพวกเขาอยู่ บางคนถึงขั้นที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป เธออายจนไม่รู้จะเอาหน้าไว้ที่ไหนแล้วเฉียวสือเนี่ยนไม่กล้าจะขยับตัวไปไหนเพราะกลัวว่าฮั่วเยี่ยนฉือจะแสดงพฤติกรรมของสัตว์ป่าออกมาผู้ชายหน้าด้าน!เกิดอารมณ์โดยไม่สนว่าจะอยู่ที่ไหนได้ยังไง!เฉียวสือเนี่ยนถลึงตาใส่ฮั่วเยี่ยนฉืออย่างโมโหเมื่อเห็นท่าทีโมโหของเฉียวสือเนี่ยนแล้ว สองแขนของฮั่วเยี่ยนฉือก็ออกแรงอุ้มเธอจนตัวลอย มือหนึ่งรองสะโพก ส่วนอีกมือก็กำลังโอบเอว เขาอุ้มเธอเดินไปยังสระน้ำที่อยู่ใกล้ ๆ ในขณะที่กำลังเดินไป ร่างกายของทั้งสองแนบชิดกันมาก กำลังของฮั่วเยี่ยนฉือไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด แต่ยังมั่นคงมากกว่าเดิมเฉียวสือเนี่ยนสัมผัสได้ว่าตัวเองเขินอายจนหน้าแดงไปถึงหู เธอกลัวว่าคนจะดูออกจึงมุดหน้าซุกเข้าไปที่หน้าอกของฮั่วเยี่ยนฉือวันนี้เธอไม่ควรมาที่นี่หรือต่อให้มาแ
“นี่ไม่ใช่กลุ่มพนักงานของฮั่วกรุ๊ปเหรอ ทำไมเธอถึงอยู่ในนั้นล่ะ?”เฉียวสือเนี่ยนจ้องฟู่เถียนเถียนฟู่เถียนเถียนดึงโทรศัพท์กลับมา ก่อนจะเลื่อนคอมเมนต์อย่างเพลิดเพลิน “ไม่ใช่กลุ่มทำงาน มันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ที่พวกเขาสร้างขึ้นลวก ๆ ลู่เฉินหนานดึงฉันเข้าไป”เฉียวสือเนี่ยนโมโหฟู่เถียนเถียน “เส้นสายของเธอนี่พัฒนาได้ไม่เลวเลยนะ สามารถเป็นพรรคเป็นพวกกับลู่เฉินหนาน และยังสามารถเข้ากลุ่มภายในของฮั่วกรุ๊ปเร็วขนาดนี้ด้วย?” ฟู่เถียนเถียน “ฉันก็แค่เข้ากลุ่มเพื่อเม้ามอย วางใจเถอะ ไม่มีใครรู้ความสัมพันธ์ของฉันกับเธอ เพราะฉะนั้นคนในกลุ่มล้วนพูดแต่ความจริง”เฉียวสือเนี่ยน “...”ภายในห้องนอน ในขณะที่ป๋ายอีอีกำลังพลิกอ่านเอกสารอยู่ก็ถูกเสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ดังขึ้นติด ๆ กันรบกวนแผลบนศีรษะของเธอยังคงไม่หายดี ไม่สามารถถูกน้ำได้ อบไอน้ำก็ยิ่งไม่ได้ เพราะฉะนั้นเธอจึงไม่ได้ลงไปสนุกกับพวกเขาด้วยและเลือกที่จะนั่งศึกษาโปรเจกต์ให้หยวนหงจื้อเมื่อได้ยินกลุ่มในไลน์กำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน ป๋ายอีอีจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่ามีข่าวใหญ่อะไรหลังจากที่เปิดดูแล้ว เธอก็เห็นภาพของฮั่วเยี่ยนฉือและเฉียวสือเนี่ยน รอยยิ้
เฉียวสือเนี่ยนก้มหน้าลงก่อนจะพบว่าบริเวณข้างเอวของฮั่วเยี่ยนฉือมีรอยช้ำสีม่วงอยู่ตอนที่เขาอุ้มเธอออกจากบาร์ คงจะชนกับมุมโต๊ะเข้าก่อนหน้านี้ ตอนที่ได้ยินลู่เฉินหนานเล่า เฉียวสือเนี่ยนกลับไม่ได้รู้สึกอะไรแต่พอตอนนี้ได้เห็นรอยฟกช้ำสีม่วงที่เอวของฮั่วเยี่ยนฉือ มันเห็นชัดมากเมื่ออยู่บนผิวขาว ๆ ของเขา สามารถจินตนาการออกเลยว่าเขาชนมุมโต๊ะแรงแค่ไหน“ถ้าเธอรู้สึกอยากขอโทษละก็ คืนนี้ช่วยทายาให้ฉันไหม?” เฉียวสือเนี่ยนพูดอย่างมีความหมายแฝงใครจะรู้ว่าเฉียวสือเนี่ยนที่เพิ่งจะแสดงความรู้สึกสงสารเขาจับใจผ่านทางสีหน้า ในตอนนี้กลับกลอกตาใส่เขา “ฝันไปเถอะ”“…”โซนอาหารของที่นี่เป็นแบบบุฟเฟต์ เฉียวสือเนี่ยนไม่ได้ขัดฮั่วเยี่ยนฉือและปล่อยให้เขาถือจาน ช่วยเธอเลือกอาหารการแสดง ‘ความรัก’ ของทั้งสองทำให้มีคนสนใจเป็นอย่างมากเชื่อว่าหลังจากวันนี้ไป ทุกคนจะต้องรู้ว่าประธานฮั่วและภรรยาเป็น ‘คู่สามีภรรยาที่มีความรักแน่นแฟ้น’ อย่างแน่นอนรอจนกระทั่งเฉียวสือเนี่ยนและฮั่วเยี่ยนฉือหยิบอาหารมานั่งที่โต๊ะ ฟู่เถียนเถียนและลู่เฉินหนานก็หยิบทะเลเผาจานใหญ่กลับมา“ฉันหิวจะตายแล้ว แช่น้ำทำให้รู้สึกหิวง่าย!”ฟู
“ฉันไปต่อแถวหยิบอาหารมาอย่างยากลำบาก เธอมีสิทธิ์อะไรมาเอาเปรียบกันแบบนี้!”ฟู่เถียนเถียนกำลังจะเดินไปหยิบอาหารคืนมาเฉียวสือเนี่ยนห้ามเธอเอาไว้ “ไม่เอาน่า อย่าทำเรื่องเด็ก ๆ แบบนี้สิ”“เด็กอะไรกัน เธอจะกินแล้วทำไมไม่ไปเอาเอง มีสิทธิ์อะไรให้เธอมาชุบมือเปิบแบบนี้?”เฉียวสือเนี่ยนหัวเราะกับคำพูดของฟู่เถียนเถียน ชุบมือเปิบ คำนี้ใช้ได้ดีจริง ๆ ในชาติที่แล้ว ป๋ายอีอีไม่เคยเผชิญหน้ากับเธอตรง ๆ อีกฝ่ายเพียงใช้ความรู้สึกของฮั่วเยี่ยนฉือ เพื่อกำจัดเธอออกไปง่าย ๆ และกลายเป็นคุณผู้หญิงฮั่วถือว่าเป็นการชุบมือเปิบก็ได้“คุณฟู่ชอบอาหารที่หยิบมาเมื่อกี้เหรอ ผมจะไปเอาให้เอง!” ลู่เฉินหนานขออาสาในตอนนี้ฟู่เถียนเถียนได้ยอมแพ้เรื่องที่จะไปแย่งอาหารกลับมาแล้ว“รบกวนด้วยค่ะ”“ไม่รบกวนหรอกครับ ยังไงซะก็ไม่ได้เปลืองแรงอะไรสักหน่อย”หลังจากที่ลู่เฉินหนานเดินออกไป ฟู่เถียนเถียนจึงพูดขึ้น “เฉียวสือเนี่ยน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงไม่ชอบใจเวลาที่มีป๋ายอีอีเพราะเธอน่ารำคาญจริง ๆ ”“นี่เป็นครั้งแรกที่เจอ เธอก็ไม่ชอบขนาดนี้แล้วเหรอ?” เฉียวสือเนี่ยนถามติดตลกฟู่เถียนเถียน “ที่สำคัญคือเธอร้ายกาจเกินไป สา
เมื่อมองตามทางที่ฟู่เถียนเถียนชี้ออกไป เฮียวสือเนี่ยนก็เห็นฮั่วเยี่ยนฉือร่างสูงโปร่งที่สวมชุดลำลองสบาย ๆ ดูโดดเด่น และเมื่อยืนอยู่คู่กับหมอเวินที่ดูสุขุม ทำให้พวกเขาดูคล้ายกับภาพวาด ทั้งสวยงามและสะดุดตา“สามีของฉันหล่อมาก” ฟู่เถียนเถียนพูดขึ้นเฉียวสือเนี่ยนสะกิดเธอ “น้ำลายหกหมดแล้ว”“ช่างเถอะ สายตาของฮั่วเยี่ยนฉือก็ไม่ได้ดีไปกว่าฉันเท่าไรหรอก”เฉียวสือเนี่ยนหลอกตามองเธอทั้งสองดึงดูดสายตาของชายหนุ่มที่อยู่ด้านหน้าจนพวกเขาหันหน้ามามอง“ที่รักรู้จักกับประธานฮั่วด้วยเหรอ?” ฟู่เถียนเถียนเดินไปคล้องแขนหมอเวินหมอเวินพูดเสียงใส “ก่อนหน้านี้เคยเจอกัน”ชื่อเสียงของหมอเวินในสายงานของเขาโด่งดังเป็นอย่างมาก มีคนในสังคมไม่น้อยที่อยากเข้ามาทำความรู้จักเขาอีกอย่างเขายังได้เป็นตัวแทนเข้าร่วมพิธีการมอบรางวัลที่จัดขึ้นจากทางการบ่อย ๆ หากจะรู้จักกับฮั่วเยี่ยนฉือ ที่มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรฟู่เถียนเถียนแนะนำตัวเฉียวสือเนี่ยน “ถึงแม้คุณจะเคยเจอกัน แต่ก็ยังไม่เคยแนะนำตัวกันอย่างเป็นทางการเลย นี่เพื่อนของฉันชื่อเฉียวสือเนี่ยน เธอเป็นภรรยาของประธานฮั่ว“หมอเวินหันมาโ
“ทำไมไม่มองทาง?” ฮั่วเยี่ยนฉือไม่พอใจเมื่อครู่เธอเกือบจะโดนรถชนแล้วเฉียวสือเนี่ยนตกใจและกลับมามีสติอีกครั้งเธอทำอะไรงั้นเหรอ ทำไมจู่ ๆ ฮั่วเยี่ยนฉือถึงโกรธขนาดนี้แถมยังพูดจาเป็นห่วงเป็นใยแบบนั้นดูแล้วเธอคงจะถูกฟู่เถียนเถียนล้างสมองมาแน่ ๆ ที่คิดว่าฮั่วเยี่ยนฉือทำดีต่อเธอ เพราะไม่อยากหย่า จนทำให้เธอมีความหวังขึ้นมาน่ากลัวจริง ๆ เฉียวสือเนี่ยนไม่ได้สนใจที่ฮั่วเยี่ยนฉือตำหนิตัวเอง เธอก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ “ไม่ต้องไปร้านค้าหรอก แค่ตามหาร้านขายขนมเปี๊ยะกรอบก็พอ”ทีแรกฮั่วเยี่ยนฉือคิดว่าเฉียวสือเนี่ยนจะโมโหและพูดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขา หรือไม่ต้องยุ่งกับเธออะไรเทือกนี้ แต่ดูแล้วเธอราวกับไม่ได้โมโหเลยสักนิด เธอมีเหตุผลขึ้นมาไม่น้อยฮั่วเยี่ยนฉือพอใจต่อการกระทำของเฉียวสือเนี่ยนมาก ไม่โวยวาย มีเรื่องอะไรก็พูดตรง ๆ ไม่มีท่าทีประชดประชันจนทำให้พูดคุยกันไม่ได้ทั้งสองขึ้นมาบนรถอีกครั้ง ฮั่วเยี่ยนฉือนำถุงยาวางไว้บนคอนโซลรถจากนั้นทั้งสองก็เปิดแผนที่นำทางเพื่อไปยังร้านขายขนมเปี๊ยะกรอบร้านนี้ดูแล้วขายดีเป็นอย่างมาก มีผู้คนมากมายกำลังต่อแถวอยู่เฉียวส
ป๋ายซื่ออวี้ยังไม่ทันจะพูดจบ จู่ ๆ เขาก็เห็นว่าฮั่วเยี่ยนฉือกำลังคุยโทรศัพท์และเดินออกมาจากทางออกฉุกเฉินเขารีบพูดขึ้นทันที “เยี่ยนฉือ อีอีถูกทำร้ายขนาดนี้ คุณต้องทวงความยุติธรรมให้เธอ!”ฮั่วเยี่ยนฮือเหลือบมองเฉียวสือเนี่ยนเฉียวสือเนี่ยนเองก็มองหน้าเขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ด้วยเช่นกันเมื่อได้ยินจากปากของผู้เป็นพ่อของป๋ายอีอี เฉียวสือเนี่ยนก็พอจะเดาออกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นตอนที่อยู่ในหมู่บ้าน ป๋ายอีอีกินยาที่ฮั่วเยี่ยนฉือซื้อมา จนเกิดความผิดปกติขึ้นในร่างกายของเธอป๋ายอีอีต้องมาล้างท้องที่โรงพยาบาล และพ่อของป๋ายอีอีก็คิดว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของเธอที่แท้ฮั่วเยี่ยนฉือรีบออกมาก็เพราะป๋ายอีอีเข้าโรงพยาบาลนี่เองและที่เรียกเธอมาที่นี่ก็เพราะป๋ายอีอี“พ่อคะ เรื่องนี้อาจเป็นการเข้าใจผิดกันก็ได้ พ่ออย่าทำให้เยี่ยนฉือต้องลำบากใจเลยค่ะ” ป๋ายอีอีพูดด้วยท่าทางอ่อนแรง“อีอี ลูกอย่าคิดถึงคนอื่นมากนักสิ!”ป๋ายซื่ออวี้พูดอย่างปวดใจ “ลูกบอกมาสิ ว่าก่อนหน้านี้เฉียวสือเนี่ยนคนนี้ได้ทำร้ายลูกกี่ครั้ง ลูกต้องเจ็บตัวกี่ครั้งแล้ว? ถ้าไม่ได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้นจากปากของป้าของลูก พ่อก็คงไม่รู้ว่าลูกเจ
เฉียวสือเนี่ยนได้แต่ยิ้ม ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา“ควรเมินเขาไปซะ เมียตัวเองได้รับบาดเจ็บแท้ ๆ แต่ไม่อยู่เป็นเพื่อน กลับไปอยู่กับคนอื่น!”คุณหมอทายาให้เฉียวสือเนี่ยน ก่อนจะใช้ผ้ากอซพันมือเธอเอาไว้“ระวังอย่าให้โดนน้ำนะคะ และทายาอย่างสม่ำเสมอ ไม่อย่างนั้นจะเป็นแผลเป็นที่ไม่สวย”“ขอบคุณค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว”ในตอนที่เฉียวสือเนี่ยนกำลังจ่ายค่ารักษาอยู่นั้น จู่ ๆ เธอก็เห็นว่ามีสายวิดีโอคอลโทรเข้ามา เธอยังคงกดตัดสายตามเดิม ก่อนจะบล็อกไลน์ของฮั่วเยี่ยนฉือไปก่อนหน้านี้เธอทำใจที่จะบล็อกเขาไม่ได้แน่ ๆ แค่คิดก็ยากที่จะยอมรับแต่ตอนนี้อยากบล็อกก็บล็อกเรื่องบางเรื่องเธอแค่คิดว่ามันยาก แต่ความจริงมันเป็นเพียงเรื่องที่จัดการได้ภายในสองวินาทีเมื่อเดินออกจากคลินิกแล้ว เฉียวสือเนี่ยนก็เรียกรถกลับไปยังวิลล่าหลงเถิงเพื่อไม่ให้ฮั่วเยี่ยนฉือไปรบกวนฟู่เถียนเถียน เมื่อขึ้นรถ เธอจึงส่งข้อความไปหาฟู่เถียนเถียน[เถียนเถียน ฉันปวดไหล่แต่ไม่ได้พกยามา เธอมีความสุขบนโลกที่มีแต่เธอและหมอเวินตามสบาย ฉันขอกลับก่อน]เมื่อส่งข้อความเสร็จ เฉียวสือเนี่ยนก็ปิดเครื่องไปรถบนท้องถนนในตอนดึกค่อนข้างน้อย คนขับจึงใช้คว