Share

บทที่ 5

แต่นี่ก็ครึ่งปีแล้ว

แต่เขากลับยังหาไม่พบคนผู้นั้นที่ตามหลอกหลอนในฝันเขาเลย

ถ้าข้ารู้แบบนี้ข้าก็ไม่ควรรีบร้อนจากไปในคืนนั้น อย่างน้อยก็น่าจะถามชื่อนาง

"ช่างเถอะ"

หลิงเฟิงซั่วปัดมือไปมาแล้วพูดว่า"คอยดูต่อไปแล้วกัน ส่วนเจียงหยุนลั่ว จับตาดูนางไว้อย่างใกล้ชิด อย่าปล่อยให้นางกระทำการอะไรโดยไร้ความยำเกรงในตำหนักอ๋อง!"

"ขอรับ!"

ม่อหยิงตอบรับ แต่ก็ฉุกนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และพูดอย่างรนๆ "อ้อ ท่านอ๋อง ผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าพระองค์เห็นมาว่าผู้ที่ลงมือทำอาหารในครัวไม่ใช่สาวใช้ข้างกายขององค์หญิง แต่เป็น...ตัวองค์หญิงเอง!"

"ไร้สาระ!"

หลังจากได้ยินเช่นนั้น หลิงเฟิงซั่วก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีและเดินไปที่สวนร้าง

เพียงเพราะนางทำอาหารได้งั้นรึ?

ตามแนวความคิดโง่ๆของนาง...

กลัวว่าจะเผาตำหนักอ๋องของเขาซะมากกว่า!

เขาต้องการดูว่าเจียงหยุนลั่วจะเล่นกลอุบายอะไรอยู่อีก!

......

ใน สวนร้าง——

เจียงหยุนลั่วได้เตรียมอาหารสองอย่างซุปหนึ่งอย่างไว้เรียบร้อย

หยานเอ๋อได้รับอนุญาตให้นั่งกินข้าวกับนางได้ ในเวลานี้นางงดงามมาก และใบหน้าของนางก็เต็มไปด้วยความปลื้มปิติ

“องค์หญิงเจ้าคะ ท่านยอดเยี่ยมมากเลยเจ้าค่ะ ข้าพระองค์ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าทรงสามารถ…”

"แปะ!"

เจียงหยุนลั่วใช้ตะเกียบแตะหน้าผากของนางอย่างตลกขบขัน

“เลิกประจบข้าสักทีเถอะ ข้ายังทำเป็นอีกเยอะ จากนี้เดี๋ยวเจ้าก็จะได้เห็นอีก กินข้าวกันก่อนเถอะ ลองชิมรสชาติเป็นอย่างไรบ้าง”

"เจ้าค่ะ! ฝีมือขององค์หญิงก็ไม่เป็นรองไปกว่าฝีมือพ่อครัวร้านอาหารแน่นอนเจ้าค่ะ!"

หยานเอ๋อพูดขณะเริ่มหยิบชามและตักซุปให้นาง

แต่ในตอนนี้——

"กริ๊ง——!"

เสียงเอี๊ยดอ๊าดดังมาจากประตูลานบ้านที่เก่าผุพัง

เจียงหยุนลั่วตื่นตัวทันที และหยานเอ๋อก็กำลังจะลุกขึ้นทันใด

“ไม่ต้องลุก นั่งนั่นแหละ”

เจียงหยุนลั่วจับไหล่ของหยานเอ๋อไว้ แล้วมองไปที่ประตูที่ปิดอยู่ด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร และรับรู้แล้วว่าผู้ที่มานั้นคือใคร

ฝีเท้าที่เบาและดูก้าวถี่เล็กน้อย

น่าจะเป็นผู้หญิง

ขณะกำลังคิด——

ประตูลานสวนก็ถูกผลักให้เปิดออก!

ร่างคนในชุดสีขาวปรากฏขึ้นที่หน้าประตูและเสียงอันอ่อนนุ่มก็ดังขึ้น——

“แค่กๆ…ฝุ่นที่นี่เยอะเกินไปแล้ว ไหนคือที่คนอาศัยอยู่ล่ะ?”

“คุณหนูหนิงซวงมาทำอะไรที่นี่กันเจ้าคะ!”นัยตาของหยานเอ๋อเต็มไปด้วยความระแวดระวัง

เรื่องเมื่อคืนวาน ตอนที่นางส่งอาหารวันนี้งก็ได้ยินมาประมาณหนึ่ง คุณหนูหนิงซวงอยากเป็นนางสนมเล็กของท่านอ๋องต่อหน้าต่อตาองค์หญิงเมื่อคืนวานนี้!

นางอาจหาญมาก!

หลินหนิงซวงไม่แยแส แต่มองไปที่เจียงหยุนลั่วด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ดวงตาของนางก็กวาดสายตาไปที่อาหารบนโต๊ะแวบหนึ่ง จากนั้นก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างมาก

เดิมทีคิดว่าถ้านายและคนรับใช้ทั้งสองคนลงมือทำอาหารด้วยตนเอง พวกนางจะทำให้ที่ลานนี้เละเทะและ และทำให้พี่ซั่วไม่พอใจอย่างแน่นอน!

คิดไม่ถึงว่าหญิงสาวผู้นี้หยานเอ๋อจะทำอาหารเก่งและสามารถปรุงอาหารอย่างมีทักษะเช่นนี้!

แม้แต่สาวใช้ที่อยู่ห่างไกลเข้ามาทักถามก็ยังได้กลิ่นหอมนี้!

แต่ทว่า......

วันนี้นางต้องให้พวกนางอดอยากหิวโหย!

ก็ดีให้พวกนางตระหนักว่าหากพวกนางต้องการอยู่อย่างสงบสุขในตำหนักแห่งนี้ต่อไป ก็ได้แต่ทำตามความต้องการของผู้อื่นแบบไม่หือไม่อือเท่านั้น!

“สาวน้อยที่อยู่ข้างกายองค์หญิงนั้นฝีมือไม่เลวและทำอาหารเก่งด้วย”

หลินหนิงซวงเพิกเฉยต่อการซักถามของหยานเอ๋อและนั่งลงที่โต๊ะ

“องค์หญิงอย่างข้าอนุญาตให้เจ้านั่งแล้วหรือ?”

เจียงหยุนลั่วกวาดสายตามองนางแวบหนึ่ง น้ำเสียงไม่เป็นมิตร

นางไม่ใช่เจ้าของร่าง ดังนั้นจึงพอจะเข้าใจได้ว่าหลินหนิงซวงเป็นคนเช่นไร ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดสุภาพด้วยซ้ำ

อีกฝ่ายไม่น่าใช่เพียงเพื่อมาทานอาหารแค่นั้นสินะ?

หลินหนิงซวงยิ้มเล็กน้อยและไม่สนใจมัน

“ในวันแรกหลังจากที่องค์หญิงแต่งเข้าตำหนักอ๋อง ท่าทางที่น่าเกรงขามมากเช่นนี้ ได้เอาชนะแม่นมซูที่ดูแลท่านอ๋องมาตั้งแต่เล็ก แต่รู้ผลที่ตามมาหรือไม่กัน”

ขณะที่นางพูดก็จงใจหยุดครู่หนึ่งด้วยนัยตาตาอันมุ่งร้ายและพูดต่ออย่างไม่แยแส"องค์หญิงคงเคยชินกับการเป็นคนทำตามอำเภอใจ แต่ที่แห่งนี้คือตำหนักท่านอ๋องซั่ว! พี่ซั่วขมวดคิ้วทุกครั้งที่พูดถึงองค์หญิงด้วยสีหน้าที่รังเกียจ เมื่อคืนวานข้าก็ปลอบพี่ซั่วในทุกวิถีทางเพื่อให้พี่ซั่วสงบลง... "

“พูดพอหรือยัง?”

จู่ๆ เจียงหยุนลั่วก็ขัดจังหวะอย่างทนไม่ได้ด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม

ผู้ชายอย่างหลิงเฟิงซั่วมีอะไรให้น่าโอ้อวดได้บ้าง?

ให้นางฟรีๆ นางก็ไม่ต้องการด้วยซ้ำ!

“ถ้าพูดพอแล้วก็ออกไปซะ อย่าทำให้เสียเวลาทานอาหารขององค์หญิงอย่างข้า”

นางเตือนด้วยการเหลือบมองหลินหนิงซวงครู่หนึ่ง

หากผู้หญิงคนนี้ยังไม่ออกไป นางก็คงไม่รังเกียจที่จะ"ให้ส่ง"นางออกไปเหมือนแม่นมซูสินะ!

"ท่าน! ข้าเตือนด้วยความปราถนาดีด้วย! ทำไมองค์หญิงถึงพูดคำหยาบคายโดยไม่มีเหตุผลกัน!"

หลินหนิงซวงไม่คาดคิดว่านางจะกล่าวออกมาด้วยคำหยาบคาย จู่ๆ ใบหน้าเล็กๆ ของนางก็เปลี่ยนเป็นซีดเขียว แต่มุมริมฝีปากกลับยกขึ้นชั่วแวบหนึ่ง

เจียงหยุนลั่วจะสามารถทนได้นานแค่ไหนกัน?

เมื่อคืนตบตัวเองทีหนึ่งแล้ว วันนี้ก็ตบแม่นมซูอีก...

หากยังไม่รู้จักเจียมตัวเอง ข้าก็ไม่เชื่อว่าพี่ซั่วจะยังทนนางได้!

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ นางก็ลุกขึ้นยืนทันใดและพูดด้วยความโกรธ"ในเมื่อองค์หญิงไม่ชอบฟัง หนิงซวงก็ไม่รบกวนแล้ว!"

หลังจากพูดจบ จู่ๆ นางก็ดูเหมือนจะไม่สามารถยืนมั่นได้ และร่างกายของนางก็เอนเอียงไปอย่างฉับพลัน!

"เพล้ง!!!"

เสียงจานแตกดังก้องไปทั่วห้อง!

โต๊ะเก่าๆ ที่เดิมทีก็ไม่มั่นคง หลินหนิงซวงผลักมันเบา ๆ ก็ทำให้อาหารบนโต๊ะที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ หกลงบนพื้น!

"คุณหนูหนิงซวง! ท่าน!"

หยานเอ๋อมองไปที่อาหารกองบนพื้น ได้แต่กัดฟันกรอด

หลินหนิงซวงผู้นี้มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหาอย่างชัดๆ !

"อ๊ะ......"

หลินหนิงซวงแสร้งทำเป็นตกใจ และมองดูที่พื้นด้วยความเสียดาย

"ข้าสะเพร่าไม่ระวังเองแต่ข้างบนสุดนี่ก็ดูไม่สกปรก ถ้าองค์หญิงไม่รังเกียจล่ะก็ หยิบมันขึ้นมา...ก็ยังทานได้นะเจ้าคะ"

ขณะที่นางพูด นางก็ยกเท้าขึ้นและเตะผักกาดเขียวชิ้นหนึ่งที่อยู่ข้างเท้าของนางไปทางเจียงหยุนลั่ว และยกมุมริมฝีปากขึ้นอย่างเยาะเย้ย

"สะเพร่ารึ?"

สีหน้าของเจียงหยุนลั่วเฉียบคม และท่าทางของนางก็เต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก

“เจ้าสะเพร่าจริงๆหรือนี่คือความตั้งใจของเจ้ากันแน่ล่ะ?”

การเคลื่อนไหวของหลินหนิงซวงเล็กๆ น้อยๆ นั่น ในสายตาของนางก็ไม่ต่างจากกล้องสโลว์โมชั่น!

แต่นางมาเล่นตลกอะไรก็ช่างนี่มันสิ้นเปลืองอาหารเสียเปล่าจริงๆ!

เจียงหยุนลั่วสูดหายใจเข้าลึกๆ และจู่ๆ ภาพเด็กหญิงวัยเด็กควานหาอาหารข้างถังขยะก็แวบขึ้นมาในหัวของนาง

นั่นคือตัวข้าเองในวัยหกขวบ

“องค์หญิงหมายความว่าอย่างไรหรือว่ายังคิดว่าข้าจงใจทำเรื่องนี้หรือ?”

หลินหนิงซวงแสร้งทำเป็นประหลาดใจ แต่แววตาของนางกลับเต็มไปด้วยความยั่วโทสะ

เจียงหยุนลั่วนิ่งเงียบ ดวงตาของนางราวกับดวงดาวที่เย็นชาหรี่ลงเล็กน้อย และปลายนิ้วของนางก็ขยับเพียงเล็กน้อยจนแทบมองไม่เห็น

วินาที ต่อมา——

"แปะ!"

"กรี๊ด!!!"

เสียงตบที่คมชัดและเสียงกรีดร้องของหลินหนิงซวงก็ดังขึ้นพร้อมกัน!

ไม่มีใครเห็นได้ชัดเจนว่าเจียงหยุนลั่วลงมือตอนไหน

เมื่อหยานเอ๋อกลับมามีสติสัมปชัญญะ ก็เห็นว่าหลินหนิงซวงฟุบอยู่บนพื้นแล้ว ชุดสีขาวของนางเต็มไปด้วยฝุ่นเขรอะ และทั้งใบหน้าของนางก็จมอยู่ในซุปที่หกลงบนพื้น!

“เจ้าไม่ถามหรือว่าข้าหมายถึงอะไร? ตอนนี้น่ะ เข้าใจแล้วสินะ?”

เจียงหยุนลั่วมองหลินหนิงซวงตั้งแต่หัวจรดเท้า และอดไม่ได้ที่จะบริหารนิ้วสักหน่อย

นางต้องการที่จะอยู่อย่างสงบไม่รังควานใคร แต่หลินหนิงซวงคือคนรนหาที่ตายเอง!

คนที่ไม่เคยประสบความทุกข์ยากก็ไม่มีทางเข้าใจถึงคุณค่าของอาหาร...

เปลวไฟในใจของนางที่ยังไม่มอดดับลงนั้น จู่ๆ เจียงหยุนลั่วก็นั่งยองๆ และจิกผมของหลินหนิงซวงบังคับให้นางเงยหน้าขึ้น!

"อ๊า!!! เจียงหยุนลั่วเจ้าบ้าไปแล้วรึ!!!"

หลินหนิงซวงกรีดร้องใบหน้าเดิมที่ขาวสะอาดของนางในตอนนี้บวมและเปื้อนไปด้วยซุปผัก ทั้งยังมีผักสีเขียวสองเส้นห้อยอยู่บนผมของนาง ดูสกปรกยิ่งกว่าขอทานบนท้องถนนเสียอีก!

“เจ้าไม่ได้พูดเองหรอกหรือว่าด้านบนนั่นยังทานได้?”

เจียงหยุนลั่วกัดฟันกรอด และกดหัวของนางลงอย่างแรง!

"คุณหนูหนิงซวงมาที่นี่เพื่อเป็นแขกพิเศษในบ้านที่เรียบง่ายแห่งนี้ ดังนั้นอาหารเหล่านี้ก็นำมาเพื่อต้อนรับนางอย่างดีเลยล่ะ!"

"เจียงหยุน...อุ...ปล่อย... "

หลินหนิงซวงพยายามดิ้นขัดขืนไม่หยุด น้ำซุปก็กระเด็นใส่แก้มของนาง

หยานเอ๋อถอยหลังไปสองก้าวด้วยความรังเกียจ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดหว่านล้อมอย่างรนๆ"องค์หญิง พอแล้วเจ้าค่ะ!อย่าทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ดีกว่าเจ้าค่ะ! หากท่านอ๋องรู้เรื่องนี้เข้า... "

“เจ้าคิดว่าปล่อยนางไปหลิงเฟิงซั่วก็จะไม่มีทางรู้รึ?”

เจียงหยุนลั่วตอบกลับอย่างเย็นชา

ทันทีที่คำพูดจบ——

"เจียงหยุนลั่ว! เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?"

จู่ๆ เสียงทุ่มต่ำที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นที่ข้างหูทันที!

เจียงหยุนลั่วเพียงรู้สึกว่าข้อมือของนางชาก่อนที่จะถูกผลักออกด้วยพละกำลังที่แข็งแกร่ง จากนั้นนางก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากทันที!

"องค์หญิง!!!"

หยานเอ๋อรีบก้าวเข้ามาพยุงขึ้นด้วยความกังวลและร้อนใจ

เจียงหยุนลั่วเช็ดเลือดมุมปากของนางอย่างไม่ใส่ใจ ยืนขึ้นมั่นและมองสบตาตรงๆ ไปที่ดวงตาที่โกรธเกรี้ยวของชายผู้นั้นโดยไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย

เหอะ!

หลิงเฟิงซั่ว

มาตามที่คาดไว้เลย!

Kaugnay na kabanata

Pinakabagong kabanata

DMCA.com Protection Status