“เอาล่ะ เตรียมตัวตายได้แล้ว!” เขาเหนี่ยวไกปืนที่เล็งไปที่โจอี้"เดี๋ยวก่อน!" เสียงผู้หญิงที่ฟังดูเย็นชา แต่แข็งกระด้างดังขึ้นทุกคนหันไปมองอย่างพร้อมเพรียงกัน และเห็นคุณหญิงกาเบรียลเดินเข้ามาโดยมีใครบางคนคอยประคองเธออยู่ข้าง ๆซัมเมอร์ปรี่เข้ามาหาเธอทันที ก่อนจะพูดว่า "คุณย่ามาที่นี่ได้ยังไงคะ?"คุณย่าของเธอมีสุขภาพที่ไม่ค่อยดีนัก เธอจึงปล่อยให้คุณย่าได้พักผ่อนอยู่ที่บ้าน พวกเขาวางแผนที่จะพาเธอมาร่วมงานเลี้ยงฉลองเย็นนี้ และให้เธอกล่าวคำอวยพรต่อคู่บ่าวสาวเล็กน้อยคุณหญิงกาเบรียลตบมือของซัมเมอร์เบา ๆ และปลอบเธอว่า "อย่ากังวลไปเลย ซัมเมอร์ เมื่อมีคุณย่าอยู่เคียงข้าง จะไม่มีใครเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมรดกของหลานได้"ดวงตาของคัวโตรมืดมนลง ความรู้สึกเกลียดชังที่เขามีต่อคนเหล่านี้เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น“คัวโตร เธอไม่ควรมาที่นี่ วางปืนลงแล้วปล่อยเด็กไปซะ” คุณหญิงกาเบรียลพูดอย่างไม่เร่งรีบนักผู้คนที่อยู่ในงานต่างรู้สึกสับสน 'งานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบกลายเป็นละครโทรทัศน์ ที่ครอบครัวกาเบรียลต่อสู้แย่งชิงมรดกไปได้อย่างไร?'ชารอนมองไปที่ไซมอนซึ่งอยู่ในชุดทักซิโด้ และสังเกตเห็นว่าเขายังคงยืนอย
“คุณย่า...” ซัมเมอร์กอดหญิงชราที่ล้มลง เลือดอุ่น ๆ จากร่างของหญิงชราเปรอะเปื้อนมือของเธอทันที เธอร้องไห้และวิงวอนด้วยความหวาดกลัว “คุณย่า ไม่ อย่าทิ้งพวกเราไป ไม่...”คุณหญิงกาเบรียลหายใจรวยริน เธอจับมือซัมเมอร์ไว้แน่น ขณะที่เธอพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะเอ่ยคำพูดใด ๆ ออกมาในตอนนี้ เธอหายใจเข้าเป็นเฮือกสุดท้าย และมือของเธอก็ตกลงข้างกายของเธอ"คุณย่า!" ซัมเมอร์อุ้มคุณย่าของเธอเอาไว้ในอ้อมแขน และคร่ำครวญด้วยความโศกเศร้า ในตอนนี้ความโกรธแค้นอย่างมหาศาลเข้าครอบงำจิตใจของเธอ!เธอหยิบปืนออกมาแล้วชี้ไปที่คัวโตร ก่อนจะตะโกนด้วยความเกลียดชัง "ทำไมแกถึงโหดร้ายขนาดนี้? ถึงคุณย่าจะเป็นคนผิด แต่เธอก็เป็นคนที่เลี้ยงดูแกมา ไอ้คนสารเลว แกมันโหดร้ายและไร้ยางอาย แกจะต้องชดใช้ให้คุณย่าของฉันด้วยชีวิต!”ไม่มีใครกล้าเข้าไปขัดขวางการกระทำของคัวโตร เขาเงยหน้าขึ้นและหัวเราะเยาะ จากนั้นเขาก็ชี้ปืนไปที่โจอี้แล้วพูดว่า "มาดูกันว่าแกจะยิงฉันตาย ก่อนที่ฉันจะยิงเขาตายหรือเปล่า!"ปืนที่ซัมเมอร์ถืออยู่ในมือสั่นเทา 'โจอี้...'“คุณกาเบรียล ไม่ต้องห่วงผม ยิงเลย!” นี่เป็นครั้
ความเจ็บปวดแพร่กระจายจากไหล่ซ้ายของเธอไปจนถึงทั่วร่างกาย และเลือดยังคงไหลออกมาจากบาดแผลของเธออย่างต่อเนื่อง กลิ่นคาวเลือดทำให้ชารอนรู้สึกเวียนหัว และเธอกำลังสงสัยว่าชีวิตของเธอจะต้องจบลงในวันนี้หรือไม่เธอไม่รู้ว่าเธอรวบรวมความกล้าจากไหน เพื่อวิ่งออกไปรับกระสุนแทนเขาเมื่อเห็นใบหน้าที่ดูบึ้งตึงของชายคนนั้น และความตื่นตระหนกที่ไม่สามารถปกปิดได้ในดวงตาของเขา เธอก็ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว "คุณช่วยฉันมาหลายครั้งแล้ว ถึงเวลาแล้ว... ที่ฉันจะต้องช่วยคุณบ้าง ฉัน... ฉันไม่ติดหนี้คุณอีกต่อไปแล้วนะ"ไซมอนตะโกนเมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะหมดสติ “อย่าหลับนะ! ลืมตาขึ้นแล้วมองผม ใครบอกว่าคุณไม่ติดหนี้ผมแล้ว ชารอน ผมบอกคุณไปแล้วไงว่าคุณยังติดหนี้ผมอีกเยอะ คุณยังเป็นหนี้ผมอยู่ ชีวิตของคุณเป็นของผม ได้ยินไหม?”ชารอนอยากจะยิ้มอีกครั้ง แต่เธอก็รู้ว่าเธอไม่มีกำลังเหลือมากนัก ดังนั้นเธอจึงได้แต่กระซิบว่า "ใช่แล้วค่ะ ชีวิตฉันเป็นของคุณ... คุณเอามันไปได้เลย"แฟรงกี้โทรเรียกรถพยาบาลแล้ว ในเวลานี้ เขาทำได้เพียงอธิษฐานขอให้ชารอนเข้มแข็งและอดทนต่อไปยูจีนวิ่งเข้าไปตรงจุดที่ชารอนถูกยิง และเห็นชารอนกำลังอยู่ในอ้อมแขนข
ขณะที่พวกเขากำลังเดินทางไปโรงพยาบาล ไซมอนก็กอดหญิงสาวไว้ในอ้อมแขนของเขา ผู้ชายที่ปกติจะเป็นคนสงบนิ่งไม่สงบอีกต่อไปแล้ว เขาจับมือเธอแน่น และคุยกับเธอตลอดเวลา เพราะเกรงว่าเธอจะหลับตาลงชารอนรู้สึกเหนื่อยและอยากนอนพัก แต่ไซมอนกลับพูดกรอกหูเธอ เขาจะเรียกชื่อเธอทันทีที่เธอต้องการที่จะหลับตา'ทำไมฉันไม่เคยเห็นเขาพูดเก่งขนาดนี้มาก่อนเลย?'“คะ...คุณช่วยเงียบก่อนได้ไหม?” ในที่สุด เธอก็พูดได้สำเร็จเธอไม่รู้เลยว่าในขณะนี้ ไม่เพียงแต่ใบหน้าของเธอจะดูซีดเซียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงริมฝีปากของเธอด้วย เมื่อเห็นเธอเป็นเช่นนี้ ไซมอนก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดในใจของเขา“ไม่ มองผมสิ อย่าหลับตานะ!” ไซมอนออกคำสั่งอย่างเจ้ากี้เจ้าการ ก่อนจะกระตุ้นให้คนขับขับเร็วขึ้นชารอนหรี่ตามองเขาด้วยความมึนงง ศีรษะของเธอวางอยู่บนไหล่ของเขา และเมื่อมองเขาใกล้ ๆ เธอก็เห็นความตึงเครียดและความกลัวในดวงตาของชายคนนั้น'เขากลัวเหรอ?’ ความกลัวไม่น่าจะมีผลอะไรกับเขาอย่างไรก็ตาม เธอกลับสัมผัสได้ถึงความกลัวของเขาในตอนนี้ 'เขากลัวฉันจะตายอย่างนั้นเหรอ?เธอจับมือเขาโดยไม่รู้ตัว และพยายามที่จะขยับปากเพื่อพูดอะไรบางอย่าง แต่จิ
“โอ้ คุณยีนส์ คุณฟื้นแล้ว!” หมอที่ถูกไซมอนบังคับให้ไปตรวจดูอาการของชารอนรู้สึกยินดีทันทีเมื่อเห็นเธอลืมตาขึ้นมาไซมอนรีบหันไปมองทันทีที่เขาได้ยินเสียงตื่นเต้นของคุณหมอ แท้จริงแล้ว ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลได้ลืมตาขึ้นแล้ว เธอหมดสติมาสามวันสามคืน และเขาก็คอยอยู่เคียงข้างเธอตลอดเวลาขณะที่เธอยังคงตกอยู่ในสภาวะหมดสติ ความอดทนของเขาก็เริ่มลดลงอย่างช้า ๆ และเขาไม่สามารถทนรอได้อีกต่อไป จิตใจของเขาเริ่มสับสนจนหลงทาง 'เธอจะหมดสติแบบนี้ตลอดไปหรือไม่?'ความวิตกกังวลที่ฝังอยู่ในจิตใจของเขาทำให้เขาต้องโทรหาหมออีกครั้ง เพื่อขอให้ตรวจอาการของเธอซ้ำอีกแต่จู่ ๆ เธอก็ตื่นขึ้นมา และนั่นทำให้เขารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้นอีกครู่ใหญ่ด้วยอาการตกตะลึง และไม่ตอบสนองต่อสิ่งใดชารอนมองดูชายที่ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่นิดเดียว ทันทีที่เธอเห็นเขา เธอก็รู้สึกประหลาดใจ ชายคนนั้น คนที่เข้มงวดกับความเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่เสมอ กำลังสวมเสื้อเชิ้ตที่ดูยับยู่ยี่ และกระดุมบนเสื้อตัวนั้นก็ถูกปลดออกสองเม็ดเส้นเลือดในดวงตาของเขาโปน ราวกับว่าเขาไม่ได้หลับได้นอนมาเป็นเวลานานแสนนาน รอบ ๆ ปากของเ
ชารอนจ้องมองชายผู้ดุร้ายตรงหน้าเธอ ใบหน้าของเขาดูตึงเครียด และคิ้วของเขาก็ขมวดเป็นปม แม้แต่ริมฝีปากของเขาก็ยังเม้มจนกลายเป็นเส้นบาง ๆอย่างไรก็ตาม เธอมองเห็นความวิตกกังวลในดวงตาของชายคนนั้นได้อย่างชัดเจน และมันแฝงไปด้วยความรู้สึกหวาดกลัวที่ซ่อนอยู่ในนั้น...เธอนึกถึงเหตุการณ์ที่เธอถูกยิงก่อนจะหมดสติไป เขาพาเธอมาส่งโรงพยาบาล และเธอก็เห็นความหวาดหวั่นในดวงตาของเขาในตอนนั้นด้วยชายผู้ยิ่งใหญ่เช่นเขามักจะเป็นคนที่ชอบครอบงำผู้อื่น และเยือกเย็นอยู่เสมอ เขาไม่แม้แต่จะตื่นกลัวเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะถูกยิง อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขาอุ้มเธอขึ้นมาหลังจากที่เธอถูกยิง เขาก็แสดงความกลัวออกมาให้เห็นเธอเข้าใจดีว่าอารมณ์บางอย่างไม่สามารถปกปิดได้ และความรู้สึกหวาดกลัวของเขาในตอนนั้นก็เป็นอารมณืที่แท้จริงของเขา เขากลัวมากว่าเธอจะตายอันที่จริง เธอไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะมีความกล้าที่จะกระโดดรับกระสุนแบบนั้น แต่เมื่อเธอเห็นปืนชี้มาที่เขา เธอก็ไม่สามารถหยุดตัวเองไม่ให้วิ่งไปหาเขาได้เมื่อเธอหวนนึกถึงเหตุการณ์นั้นอีกครั้ง เธอก็รู้สึกทั้งสยดสยองและประหลาดใจในเวลาเดียว มันกลับกลายเป็นว่าเขาเป็นผู้เดียวที่
สุดท้ายแล้ว เขาก็ไม่เคยคิดจริงจังกับเธอเลยไซมอนขมวดคิ้ว และสีหน้าของเขาก็ดูมืดมน 'เธอจริงจังกับเรื่องนี้เกินไปหน่อยหรือเปล่า?'เขาไม่ได้บอกเธอ เพราะเขาคิดว่าเธอไม่จำเป็นต้องรู้ ตราบใดที่เขาสามารถช่วยซัมเมอร์ในเรื่องนี้ได้สำเร็จ เขาก็สามารถกลับไปอยู่กับเธอได้เขาไม่เคยคาดคิดว่าเธอจะติดตามเขาไปถึงงานแต่งงาน“คุณคิดว่าคุณจะหาเรื่องโกรธผม แล้วไปอยู่กับยูจีนได้อย่างนั้นเหรอ? งานแต่งงานของผมเป็นแค่เรื่องหลอกลวง แล้วเรื่องของคุณกับยูจีนล่ะ?” เขายังคงค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ชารอนไม่ได้มองเขาด้วยซ้ำ ปัญหาระหว่างพวกเขายังไม่ได้รับการแก้ไข แต่เขากลับยกเรื่องของยูจีนขึ้นมาพูดความโกรธที่สะสมอยู่ในใจเธอไม่ได้จางหายไป เธอหลบสายตาเขาแล้วพูดว่า "ฉัน..."“ประธานแซคคารี่ คุณหมายความว่าอย่างไร? ตอนนี้ชาร์เป็นแฟนของผม และทุกคนก็รู้เรื่องนี้ มันจะเป็นเรื่องหลอกลวงได้ยังไง?”ไม่มีใครรู้ว่ายูจีนมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาเดินตรงเข้าไปหาพวกเขาทันที จากนั้นเขาก็หันไปมองชารอนด้วยความกังวลเกี่ยวกับอาการของเธอเมื่อได้ยินเช่นนั้น ไซมอนก็หันไปมอง เขาจ้องมองชายที่กำลังเดินเข้าไปหาพวกเขาด้วยสีหน้าที่
หลังจากที่ซัมเมอร์เข้ามา เธอก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติกับบรรยากาศภายในห้อง โดยเฉพาะสีหน้าที่ดูน่ากลัวของไซมอนยูจีนดูค่อนข้างปกติ เขาโน้มตัวเข้าใกล้ชารอนมากขึ้น และพวกเขาก็ดูสนิทสนมกันซัมเมอร์เหลือบมองทั้งสามคน และมีท่าทีราวกับว่าเธอเข้าใจอะไรบางอย่างเธอหันไปมองไซมอนแล้วพูดว่า "ฉันเห็นว่าชารอนยังไม่ได้กินอะไรเลยหลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมา คุณน่าจะรู้ดีว่าเธอชอบกินอะไร ไปซื้อของกินให้เธอเถอะค่ะ ไม่งั้นเธอจะหิวนะ"ไซมอนวางแผนที่จะออกไปซื้อของกินอยู่แล้ว แต่หลังจากที่ยูจีนปรากฏตัว เขาก็ล้มเลิกความคิดนี้ทันที เนื่องจากเขาไม่ต้องการทิ้งทั้งสองคนไว้ตามลำพัง“ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง คุณรีบไปเถอะค่ะ” ซัมเมอร์สามารถเดาความคิดของเขาได้ไซมอนเหลือบมองยูจีนอย่างเย็นชา หลังจากที่ซัมเมอร์ปรากฏตัว เขาก็ดูมั่นใจมากขึ้น“รอให้ผมกลับมาก่อนนะ” เขาลุกขึ้นแล้วพูดกับซัมเมอร์ เขายังคงไม่ยอมปล่อยให้ยูจีนอยู่ที่นั่นกับชารอนตามลำพัง"ได้ค่ะ" ซัมเมอร์พยักหน้าชารอนมองดูปฏิสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองอย่างเงียบ ๆ จากนั้นเธอจึงหลับตาลงหลังจากที่ไซมอนเดินจากไปแล้ว ซัมเมอร์ก็พูดกับยูจีนทันทีว่า "ประธานย