ไม่มีอะไรสะเทือนใจเท่าฉากเรืออัปปางใน 'Tomb Raider (2013)' บทเปิดที่ตอกย้ำว่าเรื่องนี้จะไม่ใช่แค่การไต่
ปิรามิดแล้วกลับบ้านอีกต่อไป
การเล่าเรื่องแบบรีบูตทำให้การเป็นตัวละครของลาร่ามีน้ำหนักขึ้นมากกว่าแค่ภาพลักษณ์นัก
ผจญภัย, ฉันได้เห็นการเปลี่ยนแปลงจากคนธรรมดาไปเป็นคนที่ต้องยอมแลกความบริสุทธิ์เพื่อต่อสู้และอยู่รอดในโลกที่โหดร้าย เส้นเรื่องบนเกาะ Yamatai ที่ผสมความลึกลับของวัฒนธรรมดั้งเดิมกับความโหดร้ายของธรรมชาติทำให้ผมรู้สึกเชื่อมโยงกับเธอจริงๆ — การตกจากเรือ การสูญเสียเพื่อนร่วมทาง การตัดสินใจครั้งสำคัญทุกอย่างถูกถ่ายทอดผ่านการเล่นที่กระชับและฉากคัตซีนที่สร้างบรรยากาศได้ดี
พลังของโครงเรื่องนี้อยู่ที่การพัฒนาตัวละครและจังหวะการให้รางวัลผู้เล่น ไม่ได้พยายามอัดเนื้อหาให้เยอะจน
พร่ำเพรื่อ แต่เลือกโฟกัสที่จุดเปลี่ยนสำคัญ ทำให้ทุกการค้นพบ ไม่ว่าจะเป็นสมบัติ คนที่รอด หรือข้อมูลในบันทึกเก่าๆ มีความหมาย แล้วก็ยังมีฉากที่ทำให้หัวใจเต้นแรงจริงๆ ซึ่งสำหรับฉันแล้วมันคือตัวอย่างของการเล่าเรื่องเกมยุคใหม่ที่ทำให้ตัวละครมีมิติเกินกว่าจะเป็นเพียงสัญลักษณ์ของนักผจญภัย