เมื่อเจเรมี่ถามคำถามเช่นนั้น มาเดลีนสามารถคาดเดาคำตอบได้อย่างไม่ต้องสงสัยพยาบาลที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ปฏิเสธ "คุณพูดเรื่องอะไร? โรคมะเร็งปอด? นอกเหนือจากสุขภาพจิตแล้ว ร่างกายของเขายังแข็งแรงมาก เขาจะเป็นมะเร็งปอดได้อย่างไร? คุณกำลังเข้าใจอะไรผิด”หลังจากจบประโยคที่เธอพูดอย่างนั้น มาเดลีนมีความรู้สึกว่าอุณหภูมิร่างกายของเธอลดลงอย่างวูบวาบก่อนที่เจเรมี่จะวางสาย พยาบาลพูดสวนขึ้นมาว่า "เมื่อกี้คุณบอกว่าเขาหายไปงั้นเหรอ? ก่อนหน้านี้เขาหายตัวไป แต่เขาบอกว่าหลานสาวบอกให้เขาซ่อนตัวเพราะเธอเล่นซ่อนหากับเขา”สิ่งที่เธอได้ยินเป็นฉากๆต่อมานั้น ทำให้มาเดลีนเข้าใจทุกอย่างปู่ของเธอไม่ได้ป่วยและเขาไม่ได้ถูกลักพาตัวหรืออะไรทั้งนั้น เมเรดิธเป็นคนวางแผนก่อเรื่องปั่นประสาทเธอทั้งหมดนี้!“แมดดี้ ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว เธอจงใจขอให้ปู่ของเธอซ่อนตัวเพื่อที่เธอจะได้จัดฉากให้ฉันลักพาตัวเขา” เมเรดิธได้เริ่มการโจมตีนี่ก่อนหลังจากที่ทุกอย่างเงียบมาสักพัก เธอเริ่มร้องไห้ฟูมฟาย “แมดดี้ ทำไมเธอทำอย่างนั้นล่ะ? ฉันมักจะเห็นเธอเป็นน้องสาวของฉัน ทำเรื่องแบบนี้มาใส่ร้ายฉันได้ยังไง? แม้ว่าเธอจะเกลียดฉัน แต
จอห์นและโรสตกใจมากเมื่อเห็นมาเดลีนอาเจียนออกมาเป็นเลือด แต่ในขณะเดียวกันพวกเขากลับมีความรู้สึกดีใจทั้งคู่ปิดประตูและไม่สนใจมาเดลีน พวกเขาไม่สนใจเธอเลย มันจะดีกว่าไหมถ้าเธอตายไปมาเดลีนนอนขดตัวอยู่ระหว่างพุ่มไม้โดยร่างของเธอถูกปกคลุมไปด้วยดินและน้ำฝน เธอกุมท้องที่แสนเจ็บปวดของเธอและมองดูขณะที่เจเรมี่อุ้มเมเรดิธเข้าไปในรถอย่างอ่อนโยนเขาสามารถมองเห็นเธอได้ผ่านกระจกหลัง แต่เขาไม่อยากมองมาทางเธอด้วยซ้ำในทางกลับกัน เมเรดิธกำลังจ้องมองเธอ หล่อนยิ้มอย่างมีชัยชนะอย่างไร้ร่องรอยเมื่อเห็นมาเดลีนเริ่มซีดเหมือนศพและปากของเธอถูกกลบไปด้วยเลือดมาเดลีนลดมือของเธอที่พยายามขอความช่วยเหลือลงอย่างสิ้นหวังขณะที่เธอดูรถที่กำลังขับออกไปน้ำตาของเธอไหลรวมกับน้ำฝนเป็นสายธารเดียวกันทำให้การมองเห็นของเธอพร่ามัวเขาดูเป็นกังวลเรื่องลูกของเมเรดิธมาก แต่เขากลับไม่สนใจเด็กในท้องของเธอ เขาอยากฆ่าเด็กในท้องของเธอด้วยซ้ำไปมาเดลีนหัวเราะเบาๆ เธอหัวเราะกับให้กับชีวิตที่น่าเศร้าของเธอดั่งเช่นนิยาย! ชีวิตของเธอกลายเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? บางทีมันอาจเริ่มต้นจากช่วงเวลาที่เธอตกหลุมรักผู้ชายที่เธอไม่ควรตกหลุ
มาเดลีนกลับไปที่บ้าน เธอต้องการออกจากที่นี่ทันทีหลังจากที่เก็บเสื้อผ้าเสร็จแล้ว สายตาของเธอกวาดไปทั่วห้องเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยถึงสิ่งของจำเป็น เมื่อสายตาเธอสะดุดเข้ากับเสื้อผ้าเด็กบนโซฟาเธอก็อดไม่ได้ที่จะจับมันขึ้นมาถือไว้ในมือทั้งที่รู้สึกไม่พอใจเมื่อเธอนึกย้อนไปว่าเจเรมี่เป็นคนที่ซื้อเสื้อผ้าเด็กเหล่านี้ให้กับเมเรดิธ เธอรู้สึกเจ็บปวดแปลบที่อกเธอสัมผัสท้องอ่อนๆของเธอที่พึ่งจะได้สามเดือน ราวกับน้ำตาหล่นออกมาที่มุมตาของเธอท้ายที่สุดแล้วมาเดลีน เช็ดน้ำตาของเธอออกอย่างรวดเร็วเธอเกลียดตัวเองที่ล้มเหลวกับการดำเนินชีวิตตามความคาดหวังลมๆแล้งๆ ผู้ชายคนนั้นโหดร้ายกับเธอมากแต่เธอก็ยังคงกังวลและโหยหาผู้ชายคนนี้คนที่ต่อให้เธอตายเธอก็ไม่มีทางได้รับความรักจากเขาอีก! มาเดลีนเก็บเสื้อผ้าเด็กหอบมันลงไปชั้นล่าง เรื่องไม่คาดฝันมักเกิดขึ้นกับเธอเสมอ เจเรมี่และเมเรดิธยืนอยู่ที่ประตูเมื่อเธอเห็นเมเรดิธจับมือถือแขนเจเรมี่อย่างใกล้ชิด หัวใจของมาเดลีนก็เริ่มเจ็บแปลบราวกับถูกแทงด้วยเข็มนับล้านแทงซ้ำแล้วซ้ำเล่า“แมดดี้ เธอจะไปไหน?” เมเรดิธถามขณะกระพริบตาอย่างไร้เดียงสา เธอมองไปถุงที่มาเดล
การเลือกซื้อชุดครั้งนี้ ไม่ว่าทารกในครรภ์ของเธอจะเป็นเพศใดก็ตามต้องสามารถสวมใส่สิ่งเหล่านี้ได้ทั้งสองแบบมาเดลีนจ่ายค่าเสื้อผ้า แต่แล้ว เธอโชคไม่ดีนักเมื่อเธอเห็นเมเรดิธอยู่ข้างหลัง เมื่อเธอหมุนตัวกลับไปที่ประตูทางเข้าดูเหมือนว่าเธออยู่คนเดียวรอยยิ้มที่น่ากลัวปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอ มาเดลีนอยากจะเดินผ่านเธอไป เธอไม่ต้องการเสียเวลากับสิ่งตรงหน้า แต่เมเรดิธกลับหยุดเธอไว้“แมดดี้ เธอเรื่องแย่มากๆอยู่นี่แล้วเธอยังมีอารมณ์ที่จะมาเดินเลือกซื้อสินค้าอีกหรือ? ตำรวจกำลังตามหาเธออยู่ไม่ใช่เหรอ?”มาเดลีนสับสนว่าหล่อนกำลังพูดถึงอะไร จากนั้น เมเรดิธพูดต่อว่า “เธอมันเป็นนักแสดงตัวอย่าง มันคงไม่เป็นไรหรอก ถ้าเธอไม่มีพรสวรรค์ในการรังสรรค์ผลงาน แต่ทำไมเธอถึงต้องคัดลอกงานของคนอื่น? บริษัท มิโนร่า กำลังฟ้องร้องเธอในข้อหาทำลายชื่อเสียงบรษัทของเขา นอกจากนี้ พวกเขายังฟ้องเธอในข้อหาละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาอีกด้วย หากเธอถูกตัดสินว่ามีความผิดนี้ เธอจะต้องถูกจำคุก”มาเดลีนรู้สึกงงงวยกับทุกอย่าง บริษัทที่เมเรดิธกล่าวถึงคือบริษัทที่มอบความไว้วางใจให้เธอออกแบบแหวนคู่รักยังไงก็ตาม การรังสรรค์ผลงานท
ในที่สุดมาเดลีนก็ไม่สามารถหลีกหนีความจริงได้เธอถูกนำตัวเข้าห้องขัง เวลาล่วงเลยผ่านไปสองวันและแล้วเธอก็ได้พบกับเจเรมี่มันเป็นห้องประชุมเดียวกับครั้งที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เธอเองก็ดูสะบักสะบอมยิ่งกว่าครั้งก่อน และเช่นเดียวกันชายคนนั้นดูโกรธมากกว่าครั้งก่อนเขาเหมือนปีศาจจากนรก อุ้งมือขนาดใหญ่คว้าคอเสื้อของมาเดลีน ในขณะที่ เขาเริ่มเดินเข้ามาสายตาที่เย็นชาของเขาแทบจะทะลุทะลวงเธอเหมือนดาบน้ำแข็ง“มาเดลีน ผมเคยเตือนอะไรเธอไปบ้าง? การใช้ชีวิตเงียบๆมันยากขนาดนี้เลยเหรอ? เธอกำลังมองหาความตายอยู่หรือไง?”“เจเรมี่ ฉันไม่ได้ผลักเธอ เมเรดิธเป็นคนจงใจปล่อยมือฉันหลังจากจับฉัน! คุณสามารถดูภาพจากกล้องวงจรปิดได้ถ้าเธอไม่เชื่อฉัน! ต้องมีกล้องรักษาความปลอดภัยในร้านนั้น! เจเรมี่ คุณจะรู้ความจริงหลังจากที่คุณเห็น!” มาเดลีนขอโอกาสสุดท้ายในชีวิต เธอยังคงเน้นย้ำคำพูดของเธอ“ความจริงก็คือเธอผลักแมร์! มันชัดเจนในการแสดงภาพวันนั้นจากการบันทึกของกล้อง!”เป็นไปได้ยังไง?มาเดลีนตะลึง สภาพจิตใจของเธอว่างเปล่าเจเรมี่แสดงภาพให้เธอดู มาเดลีนคิดไม่ถึงจริงๆว่าภาพจากมุมนี้ทำให้ดูเหมือนว่าเธอเป็นคนที่ผลักเมเรดิธออกไ
หลังจากที่เธอไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลได้ มาเดลีนถูกบังคับให้ยอมรับหายนะที่น่าไร้สาระนี้สามปีงั้นหรือเธอหัวเราะอย่างขมขื่นยังไม่รู้ว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ได้จนถึงวันที่ลูกของเธอเกิดหรือไม่มาเดลีนไม่ได้บอกเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ เธอไม่ลืมว่าเธอถูกทำร้ายอย่างไรเมื่อเธอบอกพวกเขาอย่างไรก็ตาม ฝันร้ายของเธอคงอยู่กับเธอที่นี่ ในคืนนั้น มาเดลีนถูกแก๊งนักโทษหัวโล้นทุบตีอย่างโหดร้ายเธอไม่มีแม้เรี่ยวแรงที่จะต่อสู้กลับ นอกจากนั้น เธอยังถูกทรมานด้วยเนื้อร้ายที่คอยลุกลามเธอเป็นระยะๆ มาเดลีนเริ่มตัวสั่นด้วยความเจ็บปวดเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขดตัวเป็นลูกบอลเพื่อป้องกันไม่ให้การกระทำเลวร้ายนั้นส่งผลต่อท้องของเธอสถานการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว โชคยังเป็นของเธอ พวกเขาไม่สามารถสร้างความกระทบกระเทือนแก่ลูกน้อยเธอได้มาเดลีนแจ้งเกี่ยวกับเรื่องนี้สองสามครั้ง แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทุกคืนผ่านไปอย่างสิ้นหวัง มาเดลีนกัดฟันด้วยความเจ็บปวด เธออยู่รอดได้ด้วยกำลังใจและการตั้งมั่นคิดถึงชีวิตที่กำลังจะเกิดมาเธอต้องมีชีวิตรอดอยู่ในการเลี้ยงดูลูกในท้องของเธอ‘เจเรมี่ คุณใจดำกับฉันม
คำถามของเจ้าหน้าที่ทำให้หัวใจของมาเดลีนหยุดนิ่ง มันยังตอกย้ำทำให้เธอนึกขึ้นได้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ได้ถูกวางแผนไว้แล้วตั้งแต่ต้น และทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับมันทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะเธอตกหลุมรักผู้ชายที่เธอไม่คู่ควรมาเดลีนคว้าแท่งเหล็กเย็นๆด้วยความสิ้นหวังและคุกเข่าลงบนพื้น‘เจเรมี่ วิทแมน ถ้าหากมีทางไหนที่สามารถย้อนกลับไปได้อีกครั้ง ฉันคงเลือกไม่ขอพบเจอคุณ..’มาเดลีนไม่คาดหวังว่าจะมีชีวิตอยู่จนถึงวันที่เธอออกจากคุกบางทียาที่แดเนียลขอให้คนของเขาส่งไปมีผลกระทบที่น่าอัศจรรย์กับเนื้องอก หรือบางทีอาจเป็นความตั้งใจอย่างแรงกล้าของเธอที่อยากเห็นลูกที่ถูกลักพาตัวไปหลังจากที่พวกเขาบีบบังคับให้เธอคลอดลูกอย่างแรง ในเวลาสั้นๆ เธอเปลี่ยนความคิดเพื่อมีชีวิตอยู่อย่างน่าอัศจรรย์แสงแดดจัดกว่าทุกวัน ในวันที่เธอได้อิสระของเธอกลับมาอีกครั้ง ช่วงเวลาในคุกของเธอจบลงเเล้ว อย่างไรก็ตาม มันไม่สามารถกำจัดความยุ่งเหยิงและความเจ็บปวดที่อยู่ในใจเธอมาตลอดสามปีได้ความทรมานนับพันวันนั้นถูกตอกลึกลงไปทั่วร่างกายของเธอและมันจะไม่จางหายไปในเร็ววันมาเดลีนเฝ้าดูขณะที่แดเนียลและเอวาวิ่งเข้ามาหาเธอ เมื
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากรุ่งอรุณแห่งชีวิตใหม่ของเธอได้มาเยือนเธอไม่ลืมที่จะจัดแจงซื้อผลไม้เตรียมพร้อมด้วยขนมโปรดของคุณปู่ก่อนไปเยี่ยมท่านที่โรงพยาบาล นานแค่ไหนกันนะที่เธอไม่ได้พบเจอท่านเธอตรงไปที่ห้องที่ปู่ของเธอพักอยู่แต่เธอสังเกตเห็นว่าปู่ของเธอไม่อยู่ที่นี่มาเดลีนไปที่แผนกต้อนรับเพื่อถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อพยาบาลเห็นว่าเธอเป็นสมาชิกในครอบครัวของเลน ซามูเอล พยาบาลก็มองเธอด้วยสีหน้าแปลกๆ น้ำเสียงของเธอก็ไม่เป็นมิตรเช่นกัน “นี้ เธอเป็นหลานสาวของคุณซามูเอลใช่ไหม? เธอควรทำหน้าที่ในฐานะหลานของเขาไม่ใช่หรอ? เขาตายไปแล้วตั้งสามปี ทำไมเธอยังมาที่นี่อีก? ไปที่ห้องจัดงานศพ ขี้เถ้าของเขาอยู่ที่นั่น”ซ่วบ! ผลไม้ในมือของมาเดลีนตกลงที่พื้นเธอเบิกตากว้างและตกอยู่กับความงุนงง ความเจ็บปวดเริ่มแทรกซึมไปทั่วร่างกายของเธอเธอคิดว่าหัวใจของเธอตายไปแล้ว เธอคิดว่ามันชามากจนไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ความเจ็บปวดที่หายใจไม่ออกนี้ทำเธอหายใจอย่างติดขัดปู่ของเธอเสียชีวิตแล้วเขาตายไปตั้งสามปีแล้ว!เธอไม่แม้แต่จะได้เห็นเขาเป็นครั้งสุดท้าย!มาเดลีนไปที่ห้องจัดงานศพและเอาขี้เถ้าของปู่ขอ