Search
Library
Home / รักโบราณ / จารใจทุรยศ / Chapter 6. ลิขิตชีวิตตัวเอง

Chapter 6. ลิขิตชีวิตตัวเอง

2025-03-03 21:36:08

‘ผู้มีพระคุณรึ’ ไต้ซือซูเอ่ยซ้ำแล้วพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม ‘พบกันล้วนเกิดจากวาสนา บางทีเจ้ากับเขาอาจมีวาสนาต่อกัน บางทีอาจเป็นเจ้าที่ช่วยคนผู้นั้นได้’

 ‘ข้ารึ’ นางใช้นิ้วชี้ที่ใบหน้าตนเอง ‘อย่างข้าจะช่วยผู้ใดได้’

ไต้ซือซูพยักหน้าอีกครั้ง

‘ขอเพียงมีความตั้งใจจริง ย่อมทำได้แน่นอน’

ภายใต้การดูแลเลี้ยงดูของสกุลเกา เสิ่นฉางซีเติบโตขึ้นตามวัย ในหนึ่งปีไต้ซือซูจะแวะเวียนมาดู อาการบาดเจ็บของนางสักครั้ง นายท่านใหญ่ให้คนไปสืบข่าวจึงรู้ว่าบ้านของนางนั้นถูกไฟไหม้ ไม่มีสิ่งใดเหลือแล้ว นางรอดจากความตายมาครั้งหนึ่งแล้วนั้น จึงมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้ แม้มีใบหน้าที่มีรอยแผลเป็น ต้องเดินลากขาข้างขวาและยังไม่อาจให้กำเนิดบุตรได้ นางจึงพยายามเรียนรู้ทักษะหลายๆ ด้าน เพื่อที่วันหนึ่งนางออกจากสกุลเกาแล้วยังสามารถหาเลี้ยงตัวเองโดยไม่เป็นภาระแก่ผู้ใด

            สตรีที่ไม่สามารถมีบุตรได้นั้น ย่อมไม่มีใครต้องการ นางจึงคิดจะหาเลี้ยงชีพเพียงลำพัง

            ด้วยคิดเสมอมาว่าต้องอยู่คนเดียวให้ได้ จึงพยายามเรียนรู้เรื่องต่างๆ ให้มากที่สุด แม้เป็นเพียงเด็กหญิงตัวน้อย  แต่ยามอยู่ในครัวก็ใช้เก้าอี้มาต่อขาเพื่อยืนอยู่หน้าเตาได้  นางเรียนรู้การทำอาหารจากพ่อครัว ยามอยู่กับเกาฮูหยินก็ฝึกฝนงานเย็บปัก  เการุ่ยเฉียงมักเรียกนางไปฝึกคัดตัวอักษรพร้อมกัน นางทำตามไม่อิดออด ทั้งอ่านตำราท่องโคลงกลอน  นายท่านรองกวักมือเรียกนางไปสวนสมุนไพร นางคว้าตะกร้าวิ่งกะโผลกกะเผลกตามไป โดยไม่ต้องให้นายท่านเอ่ยปากเรียกซ้ำ มีเพียงการฝึกยุทธ์ที่นางไม่อาจทำได้ ด้วยสภาพร่างกายที่บาดเจ็บตั้งแต่ครั้งนั้น

            นางหวังเพียงใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ท่านพ่อ ท่านแม่ที่อยู่บนสวรรค์จะได้ไม่เป็นทุกข์ใจเพราะนาง

            “ฉางซี”

            “เจ้าคะ”

            เสียงแม่ครัวหนวนเรียกทำให้เด็กสาวตื่นจากภวังค์ นางช่วยงานร่วมชั่วยาม เห็นทีควรกลับได้แล้ว มิเช่นนั้นนายท่านรองจะรอนาน

            หรืออาจจะไม่ได้รอนางอยู่ก็เป็นได้

            “เจ้านี่น่าจะมาสมัครเป็นแม่ครัวในจวนนี้นะ”

            “ข้าหรือ?” นางชี้นิ้วที่หน้าตัวเอง แล้วก็ยิ้มออกมา

            “เจ้าอายุยังน้อย ฝึกฝนเอาดีด้านนี้ย่อมเป็นแม่ครัวใหญ่ได้แน่ อย่าเอาแต่หาของป่าหรือสมุนไพรมาขายเลย”

            นางส่ายหน้าไปมาพร้อมรอยยิ้ม นางจะออกจากสกุลเกาได้อย่างไร ทุกคนดีต่อนางมาก แม้นางไม่มีเบี้ยรายเดือนเช่นผู้อื่น แต่ทุกครั้งที่ทำงานก็มีคนยื่นก้อนเงินให้นางเสมอ นายท่านรองพานางขึ้นเขาเข้าป่าเรียนรู้การหาของป่าและสมุนไพร อนุญาตให้นางนำออกมาขายได้ด้วยตนเอง นับว่าเป็นการสอนให้นางใช้ชีวิตอีกรูปแบบหนึ่ง การที่นางแอบมาเป็นลูกมือแม่ครัวจวนสกุลสวินเช่นนี้ไม่มีผู้ใดรู้ นางเกรงว่าทุกคนเข้าใจผิดคิดว่าเงินทองขาดมือ หรือถูกผู้อื่นรังแกจนอยู่ในสกุลเกาไม่ได้ จนต้องมาทำงานเช่นนี้

นางเพียงแค่อยากรู้สึก ‘ใกล้ชิด’ ผู้มีพระคุณของนางก็เท่านั้น

            แย่จริง! นางอายุแค่สิบห้า เพิ่งพ้นวันปักปิ่นมาแค่ครึ่งเดือน เหตุใดเอาแต่หมกมุ่นคิดถึงแต่เรื่องบุรุษผู้นั้นนะ

            เสิ่นฉางซีปลดผ้ากันเปื้อน ล้างไม้ล้างมือจนสะอาด นางเอ่ยลาคนในครัวอีกเล็กน้อยแล้วเดินออกทางประตูหลังของจวน เสียงดนตรีที่แผ่วดังลอยมาตามลมทำให้นางชะงักแล้วเอี้ยวตัวหันไปมองเล็กน้อย  นางกระชับผ้าคลุมศีรษะอีกครั้งคล้ายย้ำถึงความอัปลักษณ์ของตนเองก่อนยิ้มเศร้าออกมา ได้ใกล้ชิดแค่นี้ก็พอแล้ว อย่าให้หญิงอัปลักษณ์อย่างนางเป็นที่ระคายสายตาผู้อื่นเลย

            เด็กสาวระบายลมหายใจ หมุนตัวเดินออกมาแล้วค่อยๆ เร่งเท้าเดินเร็วขึ้นเพราะเกรงว่าคนที่มาด้วยจะรอนาน นางเดินลัดเลาะไปตามเส้นทางสายรอง จนมาถึงโรงหมอหวังข่าย เด็กสาวยิ้มให้คนที่เฝ้าหน้าประตูแล้วก้าวเข้าไปด้านในอย่างคุ้นเคย พลันเห็นบุรุษสองคนนั่งประจันหน้ากันอยู่โดยมีกระดานหมากล้อมวางอยู่ตรงกลาง เสิ่นฉางซีลอบยิ้มอย่างโล่งอกแล้วค่อยๆ นั่งลงไม่รบกวนคนทั้งสอง

            “แพ้ก็ยอมรับว่าแพ้เถิด ท่านเกาเทียนฉี”

            “ได้อย่างไรกัน ข้ายัง...” จะบอกว่าไม่แพ้ก็พูดได้ไม่เต็มปาก จึงได้แต่กล้ำกลืนคำพูดของตัวเองเสีย

            “นี่ๆ ท่านเกาเทียนฉี ข้าอยากให้นังหนู อ่อ ไม่สิ เจ้าไม่ใช่นังหนูแล้วนี่” ท่านหมอหวังข่ายชำเลืองตามองเด็กสาวที่นั่งอยู่ใกล้ๆ แล้วส่งยิ้มเอ็นดูให้นาง “ฉางซีเป็นสาวแล้วนี่นะ”

            “ท่านหมอหวังอย่าล้อข้าเล่นเลยเจ้าค่ะ” เสิ่นฉางซีหัวเราะเบาๆ แล้วรินน้ำชาให้ทั้งสองท่าน

            “เจ้ามาศึกษาการรักษาคนกับข้าดีกว่าไปอยู่สวนสมุนไพรชายป่าโน้น” คนเป็นหมออดส่ายหน้าด้วยความเสียดายไม่ได้ เด็กคนนี้มีแววดี แม้เป็นสตรีแต่หากฝึกฝนให้ดี วันข้างหน้าย่อมมีหนทางก้าวหน้าเป็นแน่

            “ไม่ได้” เกาเทียนฉีรีบแย้งทันควัน “หากนางมาอยู่กับหมออย่างเจ้า แล้วใครจะช่วยดูแลสวนสมุนไพรของข้า นางมือเย็น เพาะปลูกสิ่งใดก็งอกงามได้ดี” 

            “เจ้านี่ช่างเห็นแก่ตัวนัก ให้เด็กสาวบอบบางไปทำงานในไร่ในสวนได้รึ!”

            “แล้วเจ้าเล่า นางเป็นหญิงจะให้ไปเป็นหมอถูกเนื้อต้องตัวบุรุษได้อย่างไรกัน”

            ทั้งสองต่างแยกเขี้ยวยิงฟันใส่กัน เสิ่นฉางซีมิได้เห็นเหตุการณ์เช่นนี้เป็นครั้งแรก แต่นางอดหัวเราะกับท่าทางเหมือนเด็กน้อยของบุรุษทั้งสองมิได้  ดีจริง เป็นหญิงอัปลักษณ์ที่มีคนต้องการตัวเช่นนี้

            “นายท่านรอง ถ้าไม่รีบเดินทางกลับ เห็นทีว่าจะกลับเข้าสำนักคุ้มภัยมืดค่ำนะเจ้าคะ”

            “อ๊ะ! ข้านี่ก็แย่จริง มาส่งสมุนไพรให้เจ้าหมอหัวรั้นนี่ทีไร อยู่เล่นหมากล้อมลืมเวลากันทุกที” เกาเทียนฉีอาศัยเหตุผลนี้แสร้งทำเป็นไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในหมากล้อมกระดานนี้

“เช่นนั้นข้าขอลาท่านแล้ว”

            “ประเดี๋ยวก่อน” คนเป็นหมอลุกเดินตามแต่ไม่ทัน “นางไม่ใช่เด็กแล้ว อย่าจับมือนางเช่นนั้นสิ”

            หมอหวังข่ายเห็นเกาเทียนฉีคว้าข้อมือเด็กสาวได้รีบจ้ำพรวดๆ ออกมา เขาได้แต่ตะโกนไล่หลังด้วยความโมโหเจ้าคนไม่ยอมรับความพ่ายแพ้แล้วยังพาตัวเด็กสาวไปหน้าตาเฉย เกาเทียนฉีจูงมือเสิ่นฉางซีมาถึงรถม้าที่จอดไว้ด้านหลังโรงหมอของหวังข่าย แท้จริงทั้งสองเป็นสหายรักกันแต่มักพูดจาเหมือนคนทะเลาะกันตลอดเวลา ปีนี้เกาเทียนฉีอายุยี่สิบหกแล้ว เขาเคยแต่งภรรยาแต่นางป่วยตายหลังจากแต่งงานกันได้เพียงปีเศษ หลังจากนั้นเขาไม่เคยมีสตรีเคียงข้าง วันๆ คล้ายคนบ้าเอาแต่คลุกอยู่กับสวนสมุนไพร

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP