Search
Library
Home / LGBTQ+ / ซ่อนกลิ่นรัก / สบดวงเนตร

สบดวงเนตร

2024-11-27 23:24:48

          ๕

          สบดวงเนตร

          สามสี่วันมานี้พ่อรักษ์อยู่ติดเรือนอย่างที่ไม่เคยมีผู้ใดเห็นมาก่อน  นั่นก็เป็นเพราะต้องคอยเทียวไปเทียวมาระหว่างเรือนใหญ่กับเรือนบ่าวเพื่อคอยดูไม่ให้เจ้ากลิ่นลุกขึ้นมาทำงานตอนที่ร่างกายยังไม่หายดี ในขณะที่เจ้าคุณวรจิตรเองช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้กลับเรือน หรือหากกลับก็กลับมาเพียงเปลี่ยนผ้าผ่อนเท่านั้น ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่าเพลานี้ท่านเจ้าคุณวรจิตรต้องคอยวางแผนให้ทางท่านเจ้าเมืองกำราบเมืองประเทศราชที่มีข่าวแว่วมาว่ากำลังคิดกระด้างกระเดื่อง

          “ จะไปดูพี่กลิ่นที่เรือนหรือเจ้าคะคุณพี่ ”

          แม่รำพึงเอ่ยถามพี่ชายที่กำลังลงจากเรือน พ่อรักษ์หันมามองน้องสาวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ รำพึงชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นพี่ชายมองมาด้วยความไม่พอใจ

          “ ไม่ใช่เรื่องของเอ็ง... ”

          พ่อรักษ์เอ่ยกับน้องอย่างไม่ไยดี แม่รำพึงดวงตาร้อนผ่าวเพราะความน้อยใจที่ตั้งแต่โตมาพี่ชายไม่เคยพูดจาดี ๆ ด้วยเลยสักครั้ง

          “ น้องแค่เห็นว่าหากคุณพี่ไปหาพี่กลิ่น น้องจะฝากข้าวต้มมัดที่น้องทำไปให้พี่กลิ่น แต่หากคุณพี่ไม่สะดวกน้องจะเอาไปให้พี่กลิ่นคราหลังก็ได้ค่ะ ”

          “ เช่นนั้นเอ็งก็เอามา ไม่ต้องไปเองให้ยุ่งยากวุ่นวายเสียเปล่า ๆ ”

          “ เช่นนั้นน้องฝากด้วยนะเจ้าคะ ”

          รำพึงส่งข้าวต้มมัดให้สองคู่ส่งยิ้มดีใจให้พี่ชายที่กำลังรับขนมจากมือของตนเอง รำพึงรู้สึกว่าหากเป็นเรื่องใดที่เกี่ยวกับเจ้ากลิ่นพี่ชายของเธอจะยินยอมเสมอ นั่นจึงทำให้รำพึงรู้สึกปลื้มปิติที่เรื่องของเจ้ากลิ่นนั้นทำให้ตนได้มีเหตุผลที่ได้สนทนากับพี่ชายบ้างแม้เพียงนิดก็ยังดี

          “ กลิ่นพี่บอกเอ็งว่าไม่ต้องทำมิใช่รึ ”

          “ พี่จอมนี่หละก็ ฉันบอกว่าฉันทำไหวเหตุใดต้องคอยห้ามฉันด้วยอีกคนหละพี่ ”

          เจ้ากลิ่นหน้านิ่วไม่ยอมฟังที่ไอ้จอมห้าม สองมือกลับยกกระบุงเดินไปยังท่าน้ำเพื่อตักน้ำมาเติมลงตุ่มบนเรือนใหญ่ให้เต็ม

          “ แต่เนื้อตัวเอ็งยังไม่หายดี พักเสียอีกสักวันมิดีกว่ารึ ”

          “ พี่จอม...ฉันนอนพักมาก็สี่ซ้าห้าวันแล้ว นอนอยู่เฉย ๆ มิได้ทำกระไรฉันก็เบื่อซี มาจับนู่นนี่ฉันจะได้ไม่ขี้เกียจไปเสียก่อน ”

          “ แต่ว่า.... ”

          “ ไม่แต่แล้วพี่จอม อย่างไรเสียฉันก็จะทำ แค่คุณรักษ์ห้ามฉันคนเดียวก็มากพอแล้ว นี่พี่ยังคิดที่จะห้ามให้ฉันทำในสิ่งที่อยากทำอีกหรือพี่จอม ”

          ไอ้จอมคิ้วกระตุกเมื่อได้ยินชื่อของพ่อรักษ์จากเจ้ากลิ่นที่กำลังถือกระบุงเดินดุ่ม ๆ ไปที่ท่าน้ำ เนื้อตัวที่ยังคงมีรอยเขียวช้ำ บาดแผลยังคงไม่แห้งดีนัก ในใจได้แต่นึกถึงวันที่เจ้ากลิ่นโดนทำร้ายแล้วก็ยิ่งโมโห หากวันที่เจ้ากลิ่นมาถามหาคุณรักษ์มันไม่รู้สึกตงิดในใจจนต้องตามเจ้ากลิ่นไปที่ตลาดวังหว้า วันนั้นเจ้ากลิ่นมันคงได้นอนจมกองดินอยู่กงนั้นทั้งคืน โดยที่คนต้นเหตุคงมิรู้เสียด้วยซ้ำว่าได้สร้างปัญหาไว้ให้กับคนอื่นมากเพียงใด

          แต่ถึงแม้วันที่ไอ้จอมตามไปเจอเจ้ากลิ่นนอนอยู่บนพื้นดิน สติสตังแทบจะไม่มี เนื้อตัวมีร่องรอยบอบช้ำเต็มไปหมด แต่เจ้ากลิ่นไม่เคยคิดถึงตัวเองเลยแม้แต่น้อย เอาแต่เอ่ยว่าอย่าทำร้ายคุณรักษ์อยู่อย่างนั้นจนหมดสติ ไอ้จอมจึงคับแค้นใจนักที่คนมีอันจะกินอย่างคุณรักษ์ไม่เคยรู้เลยว่าชนชั้นล่างอย่างพวกมันนั้นต้องรองมือรองตีนให้เสียเท่าไหร่แล้ว

          “ มาพี่ช่วย... ”

          “ จะมาแย่งฉันทำไมเล่าพี่จอม พี่ก็ไปเอากระบุงอันใหม่มาซี ”

          “ ในเมื่อพี่ไม่ห้ามเอ็งแล้ว ก็ให้พี่ช่วยเอ็งนี่แหละ เอ็งตัวกระเปี๊ยกเดียวหิ้วน้ำกระบุงเดียวก็แทบไม่ไหวแล้ว ”

          “ เห็นฉันตัวเล็กพี่จอมเลยจะดูแคลนฉันรึ ไม่รู้หรือฉันนี่แข็งแรงมากเลยนะพี่จอม ”

          “ อย่างนั้นรึ ไอ้เปี๊ยก ฮ่า ๆ ๆ ”

          ไอ้จอมหัวเราะเสียงดัง ส่งสายตาหยอกล้อไปให้เจ้ากลิ่น ก่อนจะยกกระบุงที่ใส่น้ำจนเต็มสองกระบุงเดินไปทางเรือนใหญ่ เจ้ากลิ่นได้แต่ยกกระบุงใส่น้ำที่เหลืออีกกระบุงเดียวตามไปด้วยความกระท่อนกระแท่น

          “ ดูจะมีความสุขเหลือเกินนะพ่อกลิ่น ”

          “ คุณรักษ์ ”

          เจ้ากลิ่นมองไปยังคุณรักษ์ที่เพิ่งเดินลงมาจากเรือน ในมือมีข้าวต้มมัดที่แม่รำพึงฝากมาให้เจ้ากลิ่น ใบหน้าคุณรักษ์ดูไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าใดนัก ตาจ้องเขม็งไปยังไอ้จอมที่หยุดยืนรอเจ้ากลิ่นไม่ยอมเอาน้ำในกระบุงไปเติมเสียที ก่อนที่จะหันกลับมามองเจ้ากลิ่นที่ยืนอยู่ตรงหน้า สายตาสำรวจร่องรอยบนตัวอย่างโจ่งแจ้ง จนทำให้คนถูกมองรู้สึกกระอักกระอ่วน

          “ ข้าบอกว่าให้พ่อกลิ่นพักจนกว่าจะหายมิใช่รึ ”

          “ บ่าวหายแล้วขอรับคุณรักษ์ ”

          “ เนื้อตัวยังเขียวช้ำเช่นนี่ พ่อกลิ่นเรียกว่าหายรึ ”

          พ่อรักษ์ก้าวอาด ๆ เข้าไปจับท่อนแขนของเจ้ากลิ่นไว้ ไม่รู้ตัวเองเลยว่าแรงอารมณ์ทำให้ท่อนแขนของเจ้ากลิ่นขึ้นรอยแดง เจ้ากลิ่นหน้าเสียเพราะตั้งแต่โตมาพ่อรักษ์ไม่เคยทำกระไรรุนแรงกับมันแบบนี้มาก่อน

          “ คุณรักษ์ปล่อยแขนไอ้กลิ่นมันเถิดขอรับ ”

          “ ไม่ใช่เรื่องของมึงอย่าสอดไอ้จอม ”

          พ่อรักษ์หันไปจ้องไอ้จอมตาแข็ง ท่อนแขนแกร่งของไอ้จอมบีบแน่นไปที่แขนของพ่อรักษ์อย่างไม่เกรงกลัว

          “ พี่จอมปล่อยแขนคุณรักษ์เสีย ประเดี๋ยวก็โดนลงหวายหรอกพี่ ”

          “ พี่ไม่ปล่อยจนกว่าคุณรักษ์จะปล่อยแขนของเอ็ง ”

          “ พี่จอม...ฉันขอนะพี่ ”

          ไอ้จอมปล่อยมือพ่อรักษ์ตามที่เจ้ากลิ่นขอร้อง แต่ถึงแม้จะปล่อยมือแล้ว สายตาของมันก็ไม่ได้ห่างไปจากคนทั้งคู่

          “ มึงมีงานกระไรก็ไปทำไอ้จอม ส่วนพ่อกลิ่นตามข้าไปที่สวน ”

          “ แต่บ่าวยังเติมน้ำไม่เต็มตุ่มเลยขอรับ ”

          “ ทิ้งกระบุงไว้ให้พี่จอมของพ่อเสียสิ แรงมันมีมากโขเติมน้ำให้เต็มตุ่มคนเดียวมันคงทำได้กระมัง ”

          “ แต่ยังเหลืออีกหลายตุ่มเลยนะขอรับคุณรักษ์ ”

          พ่อรักษ์ไม่เอ่ยอะไรต่อ ขายาวก้าวนำเจ้ากลิ่นไปที่สวนไม่สนใจท่าทีที่ดูเป็นกังวลว่าไอ้จอมจะตักน้ำใส่ตุ่มให้เต็มคนเดียวได้เช่นไร ไอ้จอมได้แต่พยักหน้าให้เจ้ากลิ่นไม่ต้องกังวล เจ้ากลิ่นจึงจำต้องยอมเดินตามพ่อรักษ์ไปที่สวนหลังเรือนใหญ่

          สวนหลังเรือนใหญ่ที่กินเนื้อที่เกือบกึ่งหนึ่งของที่ดินของเจ้าคุณวรจิตรที่ตกทอดมาจากครอบครัวข้ารับใช้พ่ออยู่หัวมาหลายยุคหลายสมัย  พื้นที่ถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วนชัดเจน ส่วนด้านหน้าคือเรือนใหญ่เรือนเดี่ยวที่ยังมีพื้นที่ต่อเติมเพื่อกลายเป็นเรือนขยายได้เมื่อถึงวัยที่พ่อรักษ์ได้ตกแต่งแม่นายเข้าเรือน ต่อจากเรือนใหญ่ก็เป็นสวนที่ปลูกผลหมากรากไม้ไว้กินไว้แจกจ่ายชาวบ้าน รวมไปถึงเล้าไก่ชนของพ่อรักษ์ก็อยู่ในอาณาบริเวณนี้เช่นกัน

          เขตสวนหลังเรือนใหญ่นี้ บ่าวไพร่ในบ้านต่างรู้ดีว่าเป็นที่ที่พ่อรักษ์จะมาเมื่อมีเรื่องกังวลใจ หรือคราที่มีปัญหากับท่านเจ้าคุณวรจิตร เป็นเหตุให้ไม่นานมานี้พ่อรักษ์จึงได้ให้บ่าวผู้ชายสร้างเรือนหลังเล็ก ๆ ไว้สำหรับหนีหน้าจากครอบครัว

          “ คุณรักษ์ให้บ่าวตามมามีกระไรจะให้บ่าวทำหรือขอรับ ”

          “ นี่...แม่รำพึงฝากให้ข้าเอามาให้พ่อกลิ่น ”

          พ่อรักษ์ยื่นข้าวต้มมัดที่น้องสาวฝากมาให้เจ้ากลิ่น มือขาวยื่นไปรับมาด้วยรอยยิ้ม รอยปื้นแดง ๆ ที่ท่อนแขนดึงสายตาคมให้มองดูด้วยความเป็นห่วง

          “ เจ็บหรือไม่พ่อกลิ่น ”

          “ ไม่ขอรับ เนื้อตัวบ่าวก็เป็นเยี่ยงนี้แหละขอรับ โดนกระไรนิดหน่อยก็แดงแล้ว แต่ไม่ได้เจ็บไม่ได้ปวดกระไรขอรับคุณรักษ์มิต้องห่วงขอรับ ”

          “ ข้าขอโทษ...พ่อกลิ่น ”

          น้ำเสียงอ่อนโยนของพ่อรักษ์ส่งผลให้เจ้ากลิ่นเบิกตาโต ก่อนที่พ่อรักษ์จะเอื้อมไปยกแขนของเจ้ากลิ่นขึ้นมาเป่าด้วยความทะนุถนอม แต่การกระทำของพ่อรักษ์นั้นทำให้เจ้ากลิ่นใจเต้นไม่เป็นส่ำ

          “ บะ...บ่าวไม่ได้เป็นกระไรขอรับคุณรักษ์ ”

          “ นี่ถ้าแม่ข้ายังอยู่ข้าคงโดนเอ็ดไปแล้วที่ทำเนื้อตัวเจ้าแดงเยี่ยงนี้ ”

          เจ้ากลิ่นมองนายของมันที่กำลังพ่นลมหายใจอุ่น ๆ ลงบนท่อนแขน ความรู้สึกปั่นป่วนกำลังก่อเกิดอยู่ภายใน

          “ คุณหญิงท่านไม่เอ็ดคุณรักษ์เพราะบ่าวหรอกขอรับ คุณหญิงท่านรักคุณรักษ์ยิ่งกว่ากระไร ”

          “ พ่อกลิ่นไม่รู้กระไร แต่ไหนแต่ไรมาคุณแม่รักและเอ็นดูพ่อมากยิ่งกว่าข้าที่เป็นลูกแท้ ๆ เสียอีก ”

          “ คุณรักษ์ก็พูดเข้าขอรับ ไม่มีทางที่คุณหญิงท่านจะรักบ่าวมากกว่าคุณรักษ์เป็นแน่ บ่าวมั่นใจขอรับ ”

          “ หึ ๆ...ข้าก็มั่นใจเหมือนกันว่าคุณแม่ต้องรักพ่อกลิ่นมากแน่ ๆ เหมือนอย่างที่ข้าเองก็รักพ่อกลิ่นเช่นกัน ”

          วินาทีที่พ่อรักษ์เอ่ยเสร็จ ดวงตาคมสีนิลก็เงยหน้าขึ้นมามองไปยังดวงตาดำที่สั่นไหวน้อย ๆ ของเจ้ากลิ่น พ่อรักษ์มองสบตากับบ่าวคนสนิท ดวงตาสุกใสของคนใกล้ตัวที่เติบใหญ่มาด้วยกันที่มองมานั้นยิ่งพิศก็ยิ่งดูน่าค้นหา หัวใจของคนร่างใหญ่เริ่มรู้สึกหวิวไหว

          “ ข้าเพิ่งรู้ว่าดวงตาพ่อกลิ่นงดงามถึงเพียงนี้เลยหรือ ”

          “ คุณรักษ์... ”

          นิ้วหยาบของพ่อรักษ์เอื้อมมาเกลี่ยบนเปลือกตาของเจ้ากลิ่นอย่างแผ่วเบา ดวงตาสุกใสของบ่าวร่างบางค่อย ๆ หลับพริ้มรับกับสัมผัสจากพ่อรักษ์ เจ้ากลิ่นหัวใจเต้นรัวเมื่อปลายนิ้วที่สัมผัสนั้นให้ความรู้สึกหวามไหว

          “ พ่อกลิ่น...ลืมตามองมาที่ข้า ”

          พ่อรักษ์สั่งด้วยน้ำเสียงเบาหวิว เจ้ากลิ่นเปิดเปลือกตาขึ้นมาช้า ๆ นัยน์ตาเยิ้มเป็นเงาส่งตรงไปยังนายของมัน

          “ ต่อจากนี้...พ่อกลิ่นต้องมองแต่ข้าผู้เดียวเท่านั้น...เข้าใจหรือไม่พ่อกลิ่น ”

          “ ขะ...ขอรับ ”

          “ ทีนี้ก็กินข้าวต้มมัดเสียทีเถิดพ่อกลิ่น ประเดี๋ยวเย็นจะหมดอร่อยไปเสีย ”

          พ่อรักษ์ผละออกมานั่งพิงระเบียงชานเรือน ปล่อยให้พ่อกลิ่นแกะข้าวต้มมัดกินอยู่เงียบ ๆ พ่อรักษ์ลอบยิ้มให้กับท่าทีงุ่มง่ามทำกระไรไม่ถูกของเจ้ากลิ่นเมื่อเห็นว่าพ่อรักษ์กำลังมองมันอยู่

          “ คุณรักษ์เจ้าขา ”

          เสียงเรียกที่ดูเหนื่อยหอบของนังจวงบ่าวบนเรือนใหญ่ตะโกนเรียกอยู่หน้าเรือนเล็กในสวน

          “ เอ็งเรียกข้ามีกระไร ”

          “ คุณท่านเรียกหาคุณรักษ์ให้ไปพบที่เรือนใหญ่เจ้าค่ะ เอ็งด้วยไอ้กลิ่น ”

          ประโยคสุดท้ายนังจวงหันไปบอกเจ้ากลิ่นที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ กับพ่อรักษ์บนเรือน ก่อนที่มันจะมองไปยังพ่อรักษ์อย่างกังวล

          บนเรือนใหญ่มีบ่าวไพร่อยู่พร้อมหน้า สีหน้าทุกคนดูแช่มชื่น รอยยิ้มระบายอยู่บนใบหน้าจนคนที่มาทีหลังอย่างเจ้ากลิ่นกับพ่อรักษ์ก็อดสงสัยมิได้

          เจ้ากลิ่นนั่งลงตรงข้างไอ้จอมที่มันหวงที่ไว้ให้ ก่อนที่จะมองไปยังกลางเรือนก็เห็นท่านเจ้าคุณวรจิตรนั่งอยู่บนตั่งไม้สักเคลือบเงา เจ้าของเรือนนั่งคู่กับผู้หญิงหน้าตาสะสวย อายุอานามน่าจะพอ ๆ กับพ่อรักษ์เห็นจะได้ พ่อรักษ์เดินเข้าไปนั่งลงตรงข้ามน้องสาวของตนเอง ครู่หนึ่งพ่อรักษ์มองไปยังคนที่นั่งข้างบิดาของตนเองด้วยความสงสัย

          “ มากันครบแล้วใช่มั้ยนังจวง ”

          “ เจ้าค่ะคุณท่าน ”

          “ นี่ แม่พุดตาน ต่อจากนี้แม่พุดตานจะมาเป็นคุณหญิงของเรือนนี้ ในฐานะเมียของข้า

          บ่าวไพร่ในเรือนต่างยิ้มร่า เมื่อเรือนแห่งนี้จะได้มีคุณหญิงคนใหม่เสียที นับตั้งแต่คุณหญิงกลอยตายไป เรือนหลังนี้ก็แทบจะไม่มีชีวิตชีวาเสียเลย ดีที่ยังมีคุณหนูรำพึงที่ยังพอให้เรือนมีคนดูแลบ้าง

          “ คุณพ่อคงเสียสติไปแล้วกระมังขอรับ ดูก็รู้ว่าเมียใหม่ของคุณพ่ออายุคราวลูกเช่นนี้ ”

          “ ไอ้รักษ์!! ”

          เสียงเดือดดาลของท่านเจ้าคุณแผดกังวานไปทั่วเรือน ดวงตาแข็งกร้าวจ้องมองบุตรชายด้วยโทสะที่ร้อนละอุ แต่พ่อรักษ์ก็ไม่ได้ยี่หระต่อเหตุตรงหน้าไม่ พ่อรักษ์มองไปยังแม่พุดตานด้วยสายตารับไม่ได้ เมื่อเห็นผู้หญิงที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับตนจะมานั่งทับที่ที่แม่ของตนเคยอยู่

          “ ไม่มีใครมาแทนคุณแม่บนเรือนนี้ได้หรอกขอรับ ยิ่งเป็นผู้หญิงรุ่นลูกเยี่ยงนี้ข้ายิ่งไม่ยินดีที่จะยอมรับขอรับ ”

          “ กูไม่ได้มาขอให้มึงยินยอม เรือนนี้มันเรือนกู นี่ก็แม่พุดตานเมียกู แล้วก็จะเป็นแม่ของมึงกับแม่รำพึงนับแต่วันนี้ รู้ไว้เสียไอ้รักษ์ ”

          หยดน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาคมของพ่อรักษ์ มือกำแน่นจนเส้นเลือดโปนเต็มหลังมือ พ่อรักษ์ลุกขึ้นก่อนจะหันหน้าไปมองพ่อกับเมียใหม่ด้วยสายตาชิงชัง แล้วจึงเดินลงจากเรือนไปด้วยอารมณ์ครุกรุ่น

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP