Home / LGBTQ+ / ซ่อนกลิ่นรัก / อวลกลิ่นพุดตาน

Share

อวลกลิ่นพุดตาน

last update Last Updated: 2024-11-28 19:14:53

          ๖

          อวลกลิ่นพุดตาน

          “ แม่พุดตานนอนห้องนี้เถิด ประเดี๋ยวข้าจะให้บ่าวมันช่วยขนข้าวของมาไว้ให้เสียบนเรือน ”

          “ เจ้าค่ะท่านเจ้าคุณ ”

          “ ต่อจากนี้ข้าก็ขอฝากเรือนนี้ไว้ให้แม่พุดตานดูแลแทนข้าทีนะ ส่วนเรื่องเมื่อครู่ก็อย่าได้ถือสามันเลยอยู่ให้สบายใจเถิด ”

          “ เจ้าค่ะ... ”

          “ พักผ่อนเสียเถิดวันนี้ข้าต้องเข้าวัง มีกระไรก็เรียกบ่าวในเรือน หรือแม่รำพึงให้มาพูดคุยเป็นเพื่อนเสียก็ได้ ”

          “ ขอบพระคุณเจ้าค่ะ ”

          ท่านเจ้าคุณวรจิตรมองดูหญิงสาวที่ยืนหน้าเรียบเฉยอยู่ แววตาไม่สามารถซ่อนความรู้สึกภายในใจของเจ้าหล่อนได้เลย ก่อนที่ท่านเจ้าคุณจะเดินออกไปเรียกไอ้มาดให้ไปเตรียมตัวเข้าวัง แม่พุดตานมองตามหลังผัวหมาด ๆ ของตนเองด้วยแววตาเศร้าสร้อย

          “ อย่าร้องไห้ไปเลยเจ้าค่ะ เป็นเมียท่านเจ้าคุณวรจิตรอย่างไรเสียก็มีหน้ามีตานะเจ้าคะ ”

          แม่พุดตานใช้นิ้วเรียวปาดหยาดน้ำตาที่เอ่อคลอ หันกลับมามองบ่าวรับใช้ร่างท้วมที่ยืนมองอยู่ด้านหลังมาพักใหญ่

          “ ได้ผัวคราวพ่อนี่น่ะหรือป้าผัน สู้อยู่เป็นสาวเทื้อคาเรือนมิดีกว่าหรือจ๊ะ ”

          “ คุณพุดตานเจ้าขา...อย่างไรเสียท่านเจ้าคุณวรจิตรก็เป็นผู้มีคุณความดีความชอบ พ่ออยู่หัวจึงทูลขอคุณของบ่าวมาให้เป็นเมียแต่งของท่านเจ้าคุณวรจิตรผู้ซึ่งมีหน้ามีตา มีสมบัติพัสถานมากโขเลี้ยงดูคุณของบ่าวไปได้ทั้งชีวิตเลยนะเจ้าคะ ”

          “ นั่นสินะป้าผัน หากไม่ได้เป็นเมียท่านเจ้าคุณตอนนี้ ข้าคงไม่พ้นเป็นสาวเทื้อคาเรือนให้ชาวบ้านนินทากันสนุกปากว่าเป็นถึงลูกขุนน้ำขุนนางแต่ไม่มีผู้ใดอยากได้ไว้เป็นเมีย ”

          “ โถ...คุณของบ่าว อย่าคิดเช่นนั้นเลยนะเจ้าคะ ไม่เอา ๆ พักผ่อนเสียเถิดเจ้าค่ะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ”

          นังผินประคองตัวนายของมันให้มาเอนหลังที่ตั่งนอน หยิบพัดไม้ไผ่สานมาโบกให้นายของมันเย็นกายเย็นใจเสียหน่อยก็ยังดี

          สายลมยามอาทิตย์อัสดงพัดผ่านเรือนไม้หลังเล็กกลางสวนของท่านเจ้าคุณวรจิตร เงาตะคุ่มนั่งอยู่ในมุมมืด แม้สายลมเย็นจะพัดผ่านกายก็ไม่ได้ทำให้อารมณ์กรุ่นร้อนภายในนั้นลดลงได้เลย มือใหญ่กำแน่นจนเส้นเลือดขึ้นริ้วเขียวไปทั่วท่อนแขน

          “ คุณรักษ์ขอรับ.... ”

          เจ้ากลิ่นค่อย ๆ ก้าวขึ้นมาบนเรือนส่งเสียงเรียกนายของมันด้วยน้ำเสียงห่วงใย สายตาจับจ้องไปยังเงาตะคุ่ม ๆ ที่นั่งอยู่มุมห้อง

          “ คุณรักษ์ขอรับ...บ่าวขอเข้าไปนะขอรับ ”

          เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากผู้เป็นนาย เจ้ากลิ่นก็ก้าวเข้าไปหาพ่อรักษ์ แล้วนั่งลงข้าง ๆ นายของมัน

          “ ให้บ่าวจุดตะเกียงไหมขอรับ ”

          “ ขอข้าอยู่มืด ๆ แบบนี้เถิดพ่อกลิ่น ”

          “ แต่เริ่มมืดค่ำแล้วนะขอรับ จุดตะเกียงเสียหน่อยให้พอมองเห็นไม่ดีกว่าหรือขอรับ ”

          “ ข้าไม่อยากให้พ่อกลิ่นเห็นข้าตอนนี้ ”

          “ แต่บ่าวเป็นห่วงคุณรักษ์นะขอรับ ”

          “ ข้ารู้ว่าพ่อกลิ่นห่วงข้า แต่ข้าไม่อยากให้พ่อกลิ่นเห็นข้าตอนอ่อนแอเช่นนี้ ”

          เจ้ากลิ่นมองร่างใหญ่ที่นั่งอยู่ ถึงแม้จะมองเห็นเพียงลาง ๆ แต่มันก็รู้ว่าตอนนี้นายของมันรู้สึกเช่นไร

          “ อ่อนแอแล้วจะเป็นเช่นไรไปเล่าขอรับ หากมันทำให้คุณรักษ์เบาใจขึ้น จะอ่อนแอบ้างมิเห็นจะเป็นกระไรเลยขอรับ แต่หากคุณรักษ์ไม่อยากให้บ่าวเห็น บ่าวก็จะไม่จุดขอรับ ”

          “ ข้าขออยู่แบบนี้นะพ่อกลิ่น ส่วนพ่อกลิ่นอยู่ข้าง ๆ ข้าเช่นนี้ได้หรือไม่ ”

          “ ได้สิขอรับถึงคุณรักษ์ไม่บอก บ่าวก็จะอยู่ข้าง ๆ ไม่ไปไหนหรอกขอรับ ”

          “ ... ”

          จากแสงอัสดงลากผ่านจนหมู่ดาวเริ่มทอประกายแสงบนท้องฟ้าสีดำสนิท คนทั้งคู่นั่งอยู่ข้างกันในความมืด ความเงียบที่ปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณ เสียงจิ้งหรีดดังระงมไปทั่ว แสงไฟวับแวมจากตะเกียงที่ส่องแสงมาจากทางเรือนบ่าวตกกระทบมาที่เรือนเล็กที่มีเจ้ากลิ่นนั่งอยู่ข้างนายของมัน

          เสียงลมหายใจของคนทั้งคู่สอดประสานกันอยู่บนเรือนเล็ก หลังจากผ่านมาครู่ใหญ่พ่อรักษ์ก็ค่อย ๆ ยันตัวเองลุกขึ้นมาเพื่อเดินไปจุดตะเกียง แสงไฟสีส้มอ่อนตกกระทบมาที่ใบหน้านวลของเจ้ากลิ่น ดวงตาหลับพริ้มพร้อมริมฝีปากเผยอออกจนได้ยินเสียงกรนเบา ๆ

          พ่อรักษ์ค่อย ๆ เดินกลับเข้าไปนั่งข้างบ่าวคนสนิท มือหนาเอื้อมไปประคองหัวของเจ้ากลิ่นให้มาพิงที่ไหล่ของตนเอง เจ้ากลิ่นขยับตัวเล็กน้อยเมื่อโดนกวนการนอน พ่อรักษ์เอี้ยวหน้าหันมามองพร้อมรอยยิ้มน้อย ๆ ให้คนข้างตัวที่กำลังหลับอยู่

          “ โตถึงเพียงนี้แล้วหรือพ่อกลิ่น... ”

          “ ... ”

          “ หากข้าไม่มีพ่อกลิ่นเสียอีกคน ข้าจะโตมาได้ถึงขนาดนี้หรือไม่... ”

          พ่อรักษ์เกลี่ยแก้มนวลของเจ้ากลิ่นเล่นด้วยความเอ็นดู แต่เจ้ากลิ่นเมื่อโดนกวนก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา อาจเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว พอลืมตาขึ้นมาก็พบว่าใบหน้าของพ่อรักษ์อยู่ใกล้กับตนไม่ถึงคืบ ด้วยความตกใจเจ้ากลิ่นเลยรีบยกหัวตัวเองขึ้น ทำให้หัวกระแทกเข้ากับปลายคางของพ่อรักษ์อย่างแรง

          “ เจ็บมากไหมขอรับ บ่าวต้องขออภัยด้วยขอรับคุณรักษ์ ”

          เจ้ากลิ่นรีบเข้าไปดูคางของพ่อรักษ์ด้วยท่าทีเป็นห่วง แต่นั่นก็ทำให้พ่อรักษ์ได้มองหน้าของบ่าวตรงหน้าใกล้ ๆ อีกครั้ง รอยยิ้มจางส่งมาให้เจ้ากลิ่น ทำให้รู้สึกตัวจนต้องถอยออกมาจากรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจของเจ้ากลิ่นเต้นระรัว

          “ เป็นห่วงข้ามากเลยหรือพ่อกลิ่น ”

          “ กะ...ก็ห่วงสิขอรับ บ่าวซุ่มซ่ามทำให้คุณรักษ์เจ็บ เจ็บมากไหมขอรับ ”

          “ ไม่หรอกพ่อกลิ่น แค่พ่อกลิ่นเป็นห่วงข้าก็หายเจ็บหายปวดเสียแล้วล่ะ ”

          “ ... ”

          เจ้ากลิ่นรู้สึกร้อนผะผ่าวบนใบหน้าเมื่อเห็นสายตาที่ส่องประกายบางอย่างมาให้ตน จนต้องเสมองไปทางอื่นด้วยจังหวะหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ

          “ เอ่อ...คุณรักษ์หิวหรือยังขอรับ ตั้งแต่เย็นคุณรักษ์ยังไม่ได้กินกระไรเลยขอรับ ”

          “ ไม่หรอกพ่อกลิ่น วันนี้ข้าไม่หิว แล้วพ่อกลิ่นล่ะหิวหรือไม่ ได้กินกระไรบ้างหรือยัง ”

          “ ยังไม่ได้กินเลยขอรับ แต่ว่าเดี๋ยวบ่าวกลับไปกินที่เรือนได้ขอรับ แม่ปรุงคงเตรียมไว้ให้บ่าวแล้วขอรับ ”

          “ เช่นนั้นข้าไปกินที่เรือนพ่อกลิ่นด้วยเสียเลยแล้วกัน ”

          “ จะดีหรือขอรับ ”

          “ ดีสิพ่อกลิ่น ใช่ว่าข้าไม่เคยไปกินข้าวที่เรือนบ่าวเสียเมื่อไหร่ ”

          พ่อรักษ์ฉวยข้อมือขาวของบ่าวให้ลุกขึ้นและก้าวเดินลงจากเรือนไปยังเรือนบ่าวที่อยู่ห่างไปไม่ไกล ระหว่างทางเจ้ากลิ่นได้แต่มองดูข้อมือของตนเองที่ถูกมือหนาจับไว้หลวม ๆ ความรู้สึกอิ่มเอมใจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว และไม่ต่างจากบ่าวที่เดินตามสักเท่าใดนัก ความรู้สึกอุ่นวาบที่มือหนาได้สัมผัสกับท่อนแขนขาวของบ่าวอย่างเจ้ากลิ่น ช่างเป็นความรู้สึกที่เปี่ยมไปด้วยความสิเหน่หาแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับผู้ใดมาก่อน

          “ แม่รำพึงจ๊ะ ฉันขอดอกมะลิแบ่งมาให้หน่อยสิจ๊ะ ”

          “ ได้เจ้าค่ะคุณแม่ ”

          เสียงเจื้อยแจ้วของหญิงสาวที่อายุอานามห่างกันเพียงไม่กี่ปี แต่สรรพนามที่แม่รำพึงเรียกขานนั้นกลับทำให้คนที่ถูกเรียกเช่นนั้นทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

          “ แม่รำพึงไม่ต้องเรียกฉันแบบนั้นก็ได้นะจ๊ะ อีกอย่างฉันก็อายุมากกว่าแม่รำพึงไม่กี่ขวบปี ”

          “ แต่คุณแม่คือเมียเจ้าคุณพ่อ หากไม่เรียกเช่นนี้รำพึงเกรงว่าจะไม่สมควรนะเจ้าคะ ”

          “ จริงเจ้าค่ะคุณหญิง ตามศักดิ์แล้วคุณพุดตานก็คือแม่ของคุณรำพึงกับคุณรักษ์นะเจ้าคะ ”

          นังผินบ่าวข้างกายของคุณหญิงพุดตานกล่าวสมทบ ก่อนจะหยิบกระจาดดอกมะลิจากคุณรำพึงมาให้นายของตนเอง

          “ แม่กูมีแค่คนเดียวเท่านั้น บ่าวอย่างมึงอย่ามาแส่ให้ใครก็ไม่รู้มาเป็นแม่ของกู ”

          เสียงตวาดดังลั่นของพ่อรักษ์ทำให้หญิงสาวและบ่าวที่อยู่รอบ ๆ สะดุ้งตัวโยน นังผินบ่าวที่มาใหม่และเป็นผู้พูดก้มหน้าด้วยความกลัวจนเนื้อตัวสั่น

          “ คุณพี่... ”

          “ คุณรักษ์...อิชั้นต้องขออภัยแทนป้าผินด้วยเจ้าค่ะ ”

          “ บอกคนของคุณหญิงว่าอย่าได้คิดให้ใครมาแทนแม่ของข้า ไม่มีใครมีสิทธิ์มาแทนแม่ของข้าได้ อย่าให้ข้าได้ยินมันผู้ใดพูดให้ได้ยินถึงหูของข้าอีก ”

          พ่อรักษ์มองไปยังแม่พุดตานด้วยแววตาก้าวร้าว ส่วนแม่รำพึงที่มีส่วนสร้างความขุ่นข้องหมองใจให้กับพี่ชายของตนเองก็ได้แค่นั่งหน้าซีดเผือดอยู่เงียบ ๆ

          “ คุณรักษ์จะรับข้าวเช้าหรือไม่เจ้าคะ ”

          คุณหญิงพุดตานทำใจดีสู้เสือ โพล่งถามออกไปเมื่อเห็นพ่อรักษ์กำลังเดินออกไป สายตาขวางตวัดมองด้วยความโมโห

          “ ไม่ใช่เรื่องของคุณหญิงจะดูแลใครก็ดูแลไป แต่ไม่ต้องคิดจะมาข้องแวะกับข้า ”

          “ แต่ท่านเจ้าคุณมอบหมายให้อิชั้นดูแลทุกคนบนเรือนนี้ นั่นก็หมายถึงให้อิชั้นดูแลคุณรักษ์ด้วยเจ้าค่ะ ”

          พุดตานมองไปยังเสือดุหนุ่มที่ยืนหน้าขึ้นสีด้วยความโกรธ ถึงแม้ในใจจะกลัวชายหนุ่มกระทำอันใดรุนแรงเมื่อเห็นตนยังยุ่มย่ามทั้ง ๆ ที่ยื่นคำขาดไปแล้ว แต่ในเมื่อเจ้าตัวเองก็มีศักดิ์ศรีเป็นถึงเมียพระราชทาน เป็นรองก็แค่เจ้าของเรือนอย่างท่านเจ้าคุณ อีกอย่างพ่อรักษ์เองก็อ่อนกว่าตนถึงสองปี อย่างไรเสียก็ต้องมีความยำเกรงแก่ตนเองบ้าง

          “ ข้าบอกไปแล้วว่าอย่ามาวุ่นวายกับข้า ”

          “ ... ”

          “ คุณพี่เจ้าคะ... ”

          แม่พุดตานผงะไปด้วยความตกใจ เมื่อพ่อรักษ์ก้าวอาด ๆ เข้าไปประชิดตัว แม่รำพึงได้แต่เรียกพี่ชายตนเองหวังเพียงแค่พี่ของตนนั้นไม่กระทำอันใดร้ายแรงไปกว่านี้

          “ หากคิดว่าจะทำให้ข้าพึงใจที่ได้คุณหญิงเป็นแม่นั้น ขอให้คิดใหม่เสีย นับแต่นี้ต่างคนต่างอยู่อย่าได้มาข้องแวะกันให้ข้ารำคาญใจ เข้าใจรึไม่...คุณหญิง

          “ ... ”

          “ แล้วก็สำรับข้าวที่ตระเตรียมไว้ให้ข้า ข้าเองก็ไม่อยากให้มันเสียเปล่า ไหน ๆ คุณหญิงก็เสียเวลาตระเตรียมไว้แล้ว ข้ารบกวนคุณหญิงให้บ่าวเอาไปโรยให้หมูหมากาไก่ในสวนกินเสียก็แล้วกัน ”

          รอยยิ้มยียวนส่งตรงไปให้คนตรงหน้า ใบหน้านวลของคุณหญิงขึ้นสีแดงระเรื่อ ยืนแข็งทื่ออยู่อย่างนั้น จนกระทั่งพ่อรักษ์เดินลงจากเรือนไป

          “ ไม่เป็นไรนะเจ้าคะคุณแม่ ”

          “ ม...ไม่เป็นไรจ้ะ ฉันไม่เป็นไร ”

          “ ป้าผินจ๊ะ พาคุณแม่ไปพักเถิดจ้ะ ”

          “ เจ้าค่ะคุณรำพึง ไปเจ้าค่ะคุณหญิง ”

          นังผินประคองนายของมันเดินเข้าไปพักในห้อง แม่รำพึงมองตามพุดตานไปด้วยความห่วงใย ลำพังตัวเองนั้นเคยชินเสียแล้วสำหรับการกระทำของพี่ชาย แต่กับแม่พุดตานนั้นคงต้องใช้เวลาในการที่จะเข้าใจพี่ชายของตนได้

          “ ป้าจวงไม่ได้จัดสำรับให้คุณรักษ์หรือขอรับ ”

          ไอ้จอมมองหน้าพ่อรักษ์ที่กำลังนั่งกินข้าวร่วมสำรับเดียวกันกับมัน แม่ปรุงและเจ้ากลิ่น สีหน้าไอ้จอมไม่สบอารมณ์เท่าใดนักที่เห็นพ่อรักษ์เคี้ยวข้าวตุ้ย ๆ อยู่ตรงหน้า

          “ ข้าอยากมากินข้าวฝีมือแม่ปรุง เอ็งมายุ่งกระไรกับข้าไอ้จอม ข้ามาฝากท้องกับแม่ปรุงเสียตั้งแต่เด็ก แม่ปรุงยังไม่เคยว่ากระไรเลย ”

          “ หากป้าปรุงบ่นคิดว่าจะไม่โดนหวายลงหลังหรือขอรับ ”

          “ ใครจะกล้ามาลงหวายแม่ปรุง บอกข้าได้เลยนะแม่ปรุงข้าจะจัดการมันเสียให้เข็ด ”

          ประโยคสุดท้ายพ่อรักษ์หันไปเอ่ยกับนังปรุงที่กำลังคดข้าวใส่จานให้พ่อรักษ์ด้วยรอยยิ้ม

          “ กินเถิดเจ้าค่ะ ไอ้จอมเอ็งก็กินเข้าไปถามจู้จี้ไปได้ อิชั้นบอกแล้วว่าจะจัดสำรับแยกให้คุณรักษ์ จะได้ไม่ต้องมานั่งกินร่วมกับพวกบ่าว คุณรักษ์ก็มิยอม ”

          “ กินรวมกันนี่แหละแม่ปรุง เจริญอาหารดี ใช่ไหมพ่อกลิ่น ”

          “ เห็นจะมีก็แต่คุณรักษ์นี่แหละขอรับที่กินแค่น้ำพริกผักต้มก็อร่อย ”

          “ มันไม่ได้อร่อยเพียงกับข้าวฝีมือแม่ปรุงหรอกนะพ่อกลิ่น แต่มันเป็นเพราะข้าได้กินกับใครด้วยต่างหากเล่า มันจึงอร่อย ”

          สายตาเป็นประกายของพ่อรักษ์ที่ถูกส่งไปยังเจ้ากลิ่นนั้น สร้างความไม่พอใจให้กับไอ้จอม แต่ก็ทำกระไรมากไม่ได้ แต่ไม่ใช่แค่ไอ้จอมเท่านั้นที่เห็นสายตาของพ่อรักษ์ แม่ปรุงเองก็เห็นสายตานั้นเช่นกัน นั่นจึงก่อให้เกิดความกระอักกระอ่วนใจให้กับแม่ปรุงยิ่งนัก ได้แต่คิดว่าเจ้าตัวน่าจะต้องเตือนบุตรชายของตนไว้เสียจะดีกว่า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ซ่อนกลิ่นรัก   สุดท้ายเราอาจจะได้พบกัน (ตอนพิเศษสุดท้าย)

    ตอนที่ ๓สุดท้ายเราอาจจะได้พบกัน...เคยเป็นมั้ยที่ตื่นขึ้นมาแล้วชีวิตเหมือนมีอะไรหายไปบางอย่าง...ตั้งแต่ที่ผมฝันประหลาดครั้งนั้น ทุกเช้าที่ตื่นมาก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แม้จะมีความสุขอยู่กับพ่อแม่แต่ก็เป็นความสุขที่มันไม่เต็มอิ่ม ผมได้แต่เฝ้าถามกับตัวเองว่าเพราะอะไร แต่มันก็ไม่เคยมีคำตอบ“ ตื่นแล้วเหรอลูก ”“ ครับแม่ พ่อล่ะครับ ”“ ออกไปบริษัทแล้วล่ะ แม่ให้ทานข้าวก่อนพ่อก็ไม่ยอม บอกว่าต้องรีบเข้าไปเคลียงานด่วน แต่กรณ์ต้องกินนะแม่ทำไว้แล้ว ”“ ครับแม่ วันนี้ผมไม่ได้รีบไปไหนครับ ”“ ดีเลยงั้นก็มาทานข้าวสิ แม่ก็กำลังจะทานพอดีจะได้มีเพื่อนกินข้าว ”“ ครับ ”ทุกเช้ามันก็ดำเนินไปเหมือนอย่างเช่นทุกวัน อีกไม่เท่าไหร่ผมก็ใกล้ที่จะเรียนจบแล้ว กะว่าจะขอพ่อกับแม่พักผ่อนหลังจากที่เรียนมาอย่างหนักซักปีหนึ่งก่อน ค่อยเข้าไปเรียนรู้งานที่บริษัท“ แล้ววันนี้กรณ์จะออกไปไหนหรือเปล่าลูก ”“ ผมนัดพี่ทัพไว้ครับ ว่าจะออกไปหาอะไรกินกันตอนกลางวันครับ ”“ งั้นเหรอ ถ้างั้นแม่ฝากบอกพี่เราหน่อยสิว่ากลับมาค้างที่บ้านบ้าง นอนอยู่แต่ที่คอนโดไม่รู้ว่าแอบซ่อนสาว ๆ ไว้หรือเปล่า ”“ อย่างพี่ทัพเนี่ยเหรอจะซ่อนสาว ผมเห็นเ

  • ซ่อนกลิ่นรัก   เฝ้ามองจวบจนวาระสุดท้าย (ตอนพิเศษ ๒)

    ตอนที่ ๒เฝ้ามองจวบจนวาระสุดท้าย“ ช่วยแจ้งคุณรักษ์บุตรของท่านเจ้าคุณวรจิตรทีได้หรือไม่ขอรับว่าเย็นนี้ให้รีบกลับเรือนทีขอรับ ”เสียงบ่าวในเรือนของพ่อรักษ์เอ่ยบอกกับนายทวารที่เฝ้าอยู่หน้าประตู น้ำเสียงของมันดูร้อนรนและมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก ใจของมันอยากจะเข้าไปในอาณาบริเวณที่พ่อรักษ์ทำงานอยู่เสีย เพื่อแจ้งให้นายของมันได้รู้ในทันที แต่ขี้ข้าอย่างมันไม่สามารถเข้าไปในด้านในได้ เลยได้แต่เพียงฝากแจ้งข่าวคราวไว้ให้แต่เพียงเท่านั้น หวังก็เพียงว่านายของมันจะได้รับทราบความนี้แต่โดยเร็ว" มีกระไรหรือรำพึง มีคนแจ้งพี่ว่ามีบ่าวให้พี่รีบกลับมาที่เรือน "" คุณพี่รักษ์เจ้าคะ พี่นวลเจ้าค่ะ ฮึก ๆ ฮืออออ.... "" เป็นกระไร แม่นวลเป็นกระไรหรือ "" น้องก็มิรู้เจ้าค่ะ อยู่ดี ๆ วันนี้คุณพี่นวลก็ถ่ายและสำรอกทั้งวันเจ้าค่ะ น้องให้บ่าวไปตามหมอยามา กำลังตรวจดูเจ้าค่ะคุณพี่ ฮืออออ... "" อย่าร้องแม่รำพึง หมอยามาแล้วพี่นวลเจ้ามิเป็นกระไรมากดอก "พ่อรักษ์นั้นพูดให้กำลังใจน้องสาวของตนเอง นับตั้งแต่คราที่เจ้ากลิ่นตายจากไป พ่อรักษ์ก็จมอยู่กับความเศร้าสร้อย จะมีก็แต่สองหญิงสาวที่เป็นเสมือนเพื่อนที่คอยดูแลกันเป็นหลักเพร

  • ซ่อนกลิ่นรัก   แกงสายบัว (ตอนพิเศษ ๑)

    ..มอบไว้แด่ความรักในชาตินี้ของพ่อรักษ์และเจ้ากลิ่น..ตอนที่ ๑แกงสายบัวงานศพของเจ้ากลิ่นผ่านมาแรมเดือนแล้ว แต่บรรยากาศในเรือนกลับยังคงอบอวลไปด้วยความเงียบงัน บนเรือนใหญ่นั้นมีเพียงแม่รำพึงกับแม่นวลลออที่อยู่กับบ่าวเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ไม่เห็นร่างสูงของชายหนุ่มหนึ่งเดียวของเจ้าของเรือนนี้แม้แต่น้อยแต่นั่นก็มิแปลกกระไร เพราะร่างสูงในตอนนี้อาศัยอยู่แต่เพียงที่เรือนเล็กหลังสวน เก็บตัวเงียบอยู่เพียงคนเดียวในเรือน หน้าคร้ามหนวดเคราขึ้นเขียวครึ้ม ใต้ดวงตาสีนิลดำคล้ำปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนดูทรุดโทรมไปโขแม้ว่าพ่อรักษ์ยังคงทำงานอยู่ตามปกติ แต่พอมีเวลาว่างอย่างเช่นวันนี้ก็จะขลุกตัวอยู่แต่ที่เรือนเล็กไม่ออกไปไหน“ คุณรักษ์เจ้าคะ...คุณนวลให้บ่าวนำสำรับมาให้เจ้าค่ะ ”ร่างสูงหลุดออกจากภวังค์หลังจากที่ปล่อยให้ตนเองจมอยู่กับอดีตที่ไม่สามารถหวนคืนกลับมาได้อยู่ครู่ใหญ่“ วางไว้เสียกงนั้นแหละ ประเดี๋ยวข้าออกไปกิน ”“ เจ้าค่ะ... ”พ่อรักษ์วางหนังสือในมือที่เปิดค้างเอาไว้โดยไม่ได้อ่านเลยแม้แต่นิดลง ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปยังสำรับข้าวที่วางไว้ มองไปยังของคาวหวานที่จัดเอาไว้ ก่อนดวงตาจะจับจ้องไปยังแกงสายบัว

  • ซ่อนกลิ่นรัก   สิ่งแรก สิ่งเดียว และสิ่งสุดท้ายที่จะรัก (ตอนจบ)

    ๓๖สิ่งแรก สิ่งเดียว และสิ่งสุดท้ายที่จะรัก“ พี่รักษ์ขอรับ... ”“ ว่าอย่างไรพ่อกลิ่น ”“ ยังไม่มีผู้ใดพบพี่จอมอีกหรือขอรับ ”พ่อรักษ์ส่ายหน้าแทนคำตอบให้กับเจ้ากลิ่น เจ้ากลิ่นเองก็ได้แต่มีสีหน้ากังวล ผ่านมาหลายเดือนแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบเจอคนที่ตามหา“ หากไอ้จอมยังอยู่มันคงไม่อยากกลับมาเสียแล้วกระมัง มันคงละอายใจในสิ่งที่ทำลงไปจนมาสู้หน้าพ่อกลิ่นไม่ไหว แม้ว่าสิ่งที่มันทำจะทำเพื่อปกป้องพ่อกลิ่นก็เถอะ ”“ น้องเป็นห่วงพี่จอมขอรับ... ”“ พี่รู้...แต่หากพี่ชายของพ่อจอมยังอยู่ดี หรือหากร้ายกว่านั้นเราก็ต้องพบเจอแล้ว แต่นี่กลับไม่พบแม้แต่เงา นั่นก็แสดงว่าพี่ชายของพ่อกลิ่นไม่อยากให้ใครพบเจอ ”“ ... ”“ ชีวิตต้องดำเนินต่อไปนะพ่อกลิ่น แม้ว่าพี่มิใช่คนดีเด่กระไรนัก แต่นับจากนี้พี่สัญญาว่าจะปกป้องพ่อกลิ่น และคนในเรือนนี้อย่างเต็มพละกำลังที่พี่มี และพอที่จะทำได้แทนไอ้จอมเอง พ่อกลิ่นเชื่อพี่ได้หรือไม่ ”“ ...ขอรับพี่รักษ์ ต่อจากนี้น้องจะเชื่อพี่รักษ์ขอรับ ”“ เช่นนั้นเรากลับเรือนกันดีหรือไม่ พี่ว่าแม่นวลกับแม่รำพึงรอเรากินข้าวเย็นกันนานแล้วล่ะ ”พ่อรักษ์เอ่ยบอกก่อนที่จะกุมมือขาวของเจ้ากลิ่นให้

  • ซ่อนกลิ่นรัก   กลับสู่เรือน

    ๓๕กลับสู่เรือนผ่านมาหลายเพลาแล้วแต่ร่างบางที่นอนนิ่งบนเบาะนุ่มก็ยังไม่แม้แต่จะครางให้ได้ยิน พ่อรักษ์เองก็ได้แต่นั่งเฝ้าอยู่เยี่ยงนี้มาหลายเพลาแล้ว มือหนากอบกุมมือขาวซีดของเจ้ากลิ่นไว้ด้วยความทะนุถนอม“ รีบตื่นมาเถิดหนาพ่อกลิ่นของพี่...นอนนานเกินไปแล้วนะ ”น้ำเสียงเจือปนไปด้วยความเป็นห่วง ดวงตาทอดมองไปยังร่างบางไม่วางตา“ กินข้าวเสียหน่อยเถิดเจ้าค่ะคุณพี่ ”“ วางไว้ก่อนเถิด...พี่ยังไม่หิว ”“ กินกระไรบ้างเถิดเจ้าค่ะ หากคุณพี่เป็นกระไรขึ้นมาอีกคนจะยิ่งแย่นะเจ้าคะ ”“ ... ”เมื่อเห็นแววตาอ้อนวอนของน้องสาว ร่างหนาจึงขยับตัวเข้ามาหาสำรับข้าวที่วางไว้“ คุณพ่อเป็นอย่างไรบ้าง ”“ ก็สามวันดีสี่วันไข้น่ะเจ้าค่ะ คุณพี่ไปดูคุณพ่อบ้างสิเจ้าคะ คุณพ่อมองหาแต่คุณพี่ ”“ หมอยามาดูทุกวันอยู่ใช่ไหม ”“ เจ้าค่ะ...คุณพี่เจ้าคะ น้องขอร้องนะเจ้าคะ ”“ ไว้พี่จะไปก็แล้วกัน... ”“ ขอบคุณนะเจ้าคะ... ”“ แล้วนี่ได้ข่าวไอ้จอมบ้างหรือไม่ ”พ่อรักษ์เอ่ยถามเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตั้งแต่บอกมันเรื่องของคุณพุดตานไป ก็ไม่ได้ข่าวคราวกระไรอีกเลย“ น้องให้คนไปสอบถามจากหมู่บ้านใกล้ ๆ รวมถึงที่เรือนของคุณพุดตานแล้วเจ้าค่ะ แต่ม

  • ซ่อนกลิ่นรัก   ร่ำลา

    ๓๔ร่ำลาฉับ!!!“ อ๊ากกกกกกก ”เลือดสีแดงกระเซ็นไปทั่วพร้อมกับเสียงร้องของคนที่โดนคมดาบตัดฉับไปที่ข้อมือจนขาด“ ไอ้เดรัจฉาน!!!! ”ไอ้จอมถีบไอ้เชิดกระเด็นออกไปจากตัวของเจ้ากลิ่น เสียงร้องอันเจ็บปวดของมันไม่ได้ทำให้ไอ้จอมนั้นเห็นใจเลยแม้แต่น้อย ลุงมั่นที่วิ่งตามมาถึงทีหลังก็รีบเข้าไปดูเจ้ากลิ่นทันที“ กลิ่นเอ้ย กลิ่นเป็นกระไรลูก... ”“ ลุงมั่น ข้าฝากดูไอ้กลิ่นให้ข้าหน่อย ”“ เอ็งไม่ต้องกังวล เดี๋ยวลุงพาเจ้ากลิ่นไปโรงหมอเอง แต่เอ็งอย่าทำกระไรวู่วามไปเสียล่ะไอ้จอม ”ไอ้จอมไม่ได้ตอบกลับ มันได้แต่ย่างสามขุมไปทางไอ้เชิดที่กำลังลุกขึ้นมาด้วยสีหน้าเจ็บปวด มืออีกข้างที่เหลือกอบกุมแขนที่เหลือแต่ข้อมือของตนเอง เลือดไหลออกมาเป็นทาง มันถอยหลังเมื่อเห็นว่าตัวเองนั้นเสียเปรียบ แต่ไอ้จอมไม่ยอมให้มันหนีไปไหนได้ มันวิ่งไปถีบเข้าที่ยอดอกของไอ้เชิดจนมันล้มลงไปอีกครั้งไอ้จอมขึ้นคร่อมไปบนตัวของไอ้เชิดก่อนที่จะสาวหมัดรัวใส่ไอ้เชิดด้วยความเดือดดาล หากเป็นเพลาปกติแล้วไอ้เชิดไม่น่าจะโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียวเยี่ยงนี้ แต่นี่เป็นเพราะมันมีร่างกายไม่สมบูรณ์อีกต่อไปทำให้มันตอบโต้กระไรไอ้จอมแทบไม่ได้เลย“ มึงบอกกูมา มึ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status