นั่นไง คุณชายสุดหล่อเริ่มเข้าเรื่องแล้ว หญิงสาวเชิดหน้า ฉีกยิ้ม “แน่นอนค่ะ ฉันรักษาสัญญานี้มาตลอด ไม่เคยแต่งงาน ไม่เคยมีคนรัก ก็เพราะพ่อสั่งสอนเสมอว่าต้องรักษาตัวไว้แต่งงานกับคุณ”
พูดออกไปก็แทบจะอาเจียนเสียเอง หากไม่จำเป็นหล่อนคงไม่มีทางมาตื๊อขอแต่งงานกับผู้ชายที่เขาไม่ไยดีแบบนี้หรอก แต่นี่หล่อนมีทางเลือกที่ไหนกัน
ธาราเขตอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงโทนเดิม “ฉันไม่เคยคิดว่าจะมีผู้หญิงที่คิดแบบเธอในโลก...”
“งั้นก็คิดได้แล้วค่ะ เพราะผู้หญิงคนนั้นกำลังยืนอยู่ตรงหน้าคุณนี่ไงคะ”
พลอยไพลินพูดเสียงห้วน จ้องหน้าผู้ชายตรงหน้าด้วยความไม่พอใจนัก ถึงแม้เขาจะหน้าตาดีแค่ไหน แต่ก็คงติดนิสัยดูถูกคนจนมาจากยายสองคนนั้นแน่นอน
“ฉันเห็นแล้ว... และก็รู้สึกเป็นเกียรติมากที่เธอรอคอยการแต่งงานของเราแบบนี้”
เป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้ามาที่พลอยไพลินเห็นรอยยิ้มระบายบนใบหน้าสะอาดของธาราเขต รอยยิ้มของเขาทำให้โลกของหล่อนระเบิดตูมเป็นสีชมพู จ้องมองอย่างลืมตัว แต่เสียงกระแอมของเขาก็ทำให้หล่อนได้สติ รีบละสายตาจากใบหน้าคมสันนั้นอย่างรวดเร็ว เสมองพื้นโต๊ะไม้แทน
เสียงหัวเราะเบา ๆ ของเขาดังมาเข้าหู “และเมื่อพบหน้าฉันแล้ว ก็คงไม่มีอะไรมาห้ามความตั้งใจของเธอได้อีกใช่หรือเปล่า”
สมองค่อย ๆ แปลความหมาย และเมื่อเข้าใจแจ่มแจ้งกับคำพูดหลงตัวเองนั้น หญิงสาวรีบเงยหน้าจ้องมองพ่อคนตัวโตที่ยิ้มเยาะมุมปากอย่างขุ่นเคือง
แต่...
แม้จะเป็นยิ้มเยาะ หรือยิ้มหวาน รัศมีความหล่อขั้นเทพก็ไม่ได้ลดระดับลงเลย แถมยังเพิ่มขีดความสามารถทำให้หัวใจหล่อนเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้แทบจะกระเด้งออกมากองกับพื้นอยู่แล้ว
พลอยไพลินคิดอย่างเพลียหัวใจ...
สู้กับแม่สองคนนั้นยังมองเห็นชัยชนะได้ชัดเจนกว่า สู้กับพ่อคนที่หล่อแต่เย็นชาอย่างธาราเขตเสียอีก
“คุณจะคิดยังไงก็ได้... แต่ฉันไม่มีวันล้มเลิกความตั้งใจนี้อย่างแน่นอน เราจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด” หญิงสาวเชิดหน้า ยืดไหล่ โต้กลับ
“ฉันก็คิดว่าอย่างนั้น ดูเธอกระตือรือร้นมากกว่าเดิมเสียอีก” เขาพูดอย่างดูถูกไม่ปิดบัง ขณะจ้องมองมาสายตากระด้าง
“นี่คุณ! อย่ามาดูถูกฉันนะ” แหวเสียงแหลมด้วยความลืมตัว
ธาราเขตหรี่ตาแคบจ้องเขม็ง ขณะที่ร่างกายเกินว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรของเขาจะลุกขึ้นยืนตระหง่าน และเดินอ้อมโต๊ะไม้โบราณออกมาเผชิญหน้ากับหล่อนชนิดที่เรียกได้ว่าหายใจรดกันทีเดียว
พลอยไพลินรีบกระวีกระวาดลุกขึ้นยืน เพื่อให้ตัวเองไม่ดูกระจ้อยร่อยนักในสายตาของผู้ชายตรงหน้า แต่มันช่วยอะไรได้ที่ไหนกันล่ะ เพราะไม่ว่าจะยืนหรือจะนั่ง หล่อนก็เตี้ยกว่าเขาชนิดที่เรียกกว่าฟ้ากับก้นเหวเลยก็ว่าได้
แม้... ก็ตอนนี้ศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีดำสนิทของหล่อนนั้นยังไม่ถึงปลายคางเขาดีเลย
นี่หล่อนเป็นคนแคระ หรือว่าพ่อเทพบุตรตรงหน้าเป็นเปรตกันนะ
“ถ้าคิดว่านิสัยแบบเด็กปากตลาดแบบนี้จะมาเป็นเจ้าสาวของฉันได้ เธอคิดผิดนะแพรวนภา เพราะคนอย่างฉันไม่ใช่เลือกเฉพาะคู่นอนเท่านั้น แต่ภรรยาก็เลือกเหมือนกัน แถมยังเลือกมากอีกต่างหาก...” เขาใกล้เข้ามาทุกขณะ
หญิงสาวตัวแข็งทื่อ ขยับเท้าไม่ได้เลย คล้ายถูกคาถานะจังงัง ได้แต่เงยหน้าสบตากับดวงตาคมกล้าสีนิลเนื้อดีเป็นประกายด้วยความวิงเวียน
ยิ่งเห็นใกล้ ๆ ยิ่งได้กลิ่นใกล้ ๆ หัวใจของหล่อนก็เอียงกระเท่เร่แทบคว่ำ
ร่างกายของหล่อนร้อนวูบวาบขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ ทรวงอกคัดเครียดหนักอึ้ง ขณะที่ปลายถันสีสวยเม็ดเล็กของตนชูชันไสวอยู่ภายใต้บราเซียอย่างน่าละอาย
“และถึงจะเป็นคำสัญญาของคุณพ่อที่ฉันต้องรักษาเกียรติให้ท่านก็ตาม แต่หากเธอมีคุณสมบัติที่ฉันต้องการไม่ครบถ้วน...” เขาแสยะยิ้ม ก้มต่ำลงมาหา ขณะที่สายตาคมอิ่งอ้อยอยู่ที่กลีบปากอิ่มสีสดของหล่อนอย่างลืมตัว
“ฉันก็มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ...”
หญิงสาวแสนจะชิงชังน้ำเสียงไร้ความรู้สึกที่แอบแฝงความกระด้างเย็นชาของธาราเขตนัก อยากจะซัดสักตุ๊บสองตุ๊บด้วยหมัดมวยที่หล่อนฝึกปรือมาอย่างดี แต่ก็ไม่สามารถทำได้...
เพราะอะไรนะเหรอ ก็เพราะว่าตอนนี้จะหายใจก็ยังลำบากเลย จะเอาอะไรไปสู้รบกับคนตัวโตที่ก้มต่ำมาหาอยู่ตรงหน้า
“ละ... แล้วคุณต้องการให้ฉันมีคุณสมบัติอะไรบ้างล่ะ...” น้ำเสียงตะกุกตะกัก และก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อคนตัวโตเล่นหัวเราะชิดแก้มนวลของหล่อน
พลอยไพลินผลักไส พยายามจะถอยหนีอีก แต่บั้นท้ายของหล่อน ก็ชนเข้ากับขอบโต๊ะไม้โบราณซะก่อน ทางหนีหมดไป แต่ข้าศึกยังประชิดตัวไม่หยุด
“นี่ถอยไปนะ จะเข้ามาใกล้ทำไมนักหนา...” รีบแหวกลับด้วยความอาย
ธาราเขตไหวไหล่กว้างภายใต้เสื้อเชิ้ตพอดีตัว สีขาวแขนสั้นสะอาดตาเบา ๆ จนแผงอกที่น่าจะอุดมไปด้วยมัดกล้ามงาม ๆ กระเพื่อมน้อย ๆ ทุกอากัปกิริยาของเขาช่างน่ามอง จนหล่อนต้องลอบกลืนน้ำลายเป็นระยะ
“นี่ก็คือคุณสมบัติข้อที่หนึ่งสำหรับการเป็นเจ้าสาวของฉัน...” เขาพูดเสียงนุ่ม
หญิงสาวเบิกตากว้าง “นี่นะคุณสมบัติ...”